สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน - ตอนที่ 1619 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1459
ความเร็วรถยังกะเต่าคลาน ติงยียีไม่รู้เลยว่าเขาจะไปที่ไหน ยังอีกตั้งหลายวิกว่าจะไฟแดง เขาก็ไม่ยอมไป ยอมที่จะลดความเร็ว รอไฟแดง
รถคันรอบๆขับรถสปอร์ตผ่านมา อายุ20กว่าปี เด็กวัยรุ่นหัวสีมองมาที่ทั้งสองในรถ “ขับมาเซราติซะป่าว ขับช้าขนาดนี้จะไปเจ๋งอะไรวะ กากเอ้ย! ”
เย่เนียนโม่ไม่โกรธแม้แต่น้อย คิ้วก็ไม่ขมวด รอยยิ้มยังอยู่บนหนาของเขาเหมือนเดิม เขาเปลี่ยนไปเป็นคนอ่อนโยนในทันใด
ทนกระทั่งถึงห้องตรวจ เธอถึงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ตรวจดูให้หน่อยครับว่าเธอท้องรึป่าว”เย่เหนียนโมเสียงนุ่มนวล ติงยียียังเห็นด้วยว่ามุมปากของเขายังมีสาลี่ติดอยู่เลย
“คุณคิดว่าฉันท้องหรอ?”เธอถาม จากนั้นก็ตกใจ ประจำเดือนเดือนนี้ยังไม่มาจริงด้วย ช่วงนี้ท้องใส่ปั่นป่วน แถมยังแย่งของกินเล่นกับแพนด้า อารมณ์ก็หงุดหงิดง่าย
เย่เหนียนโม่มองเธอที่เหมือนจะนึกอะไรออก เขาก้มลงเล็กน้อย แสงแดดจากนอกหน้าต่างส่องมาที่เขา ทำให้เงาของเขาทอดยาว คลุมติงยียี เขามองไปที่เธอ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ต่อไปนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ต้องบอกผม”
ในระหว่างรอก็กังวลมาก ถึงแม้ว่าเย่เหนียนโม่จะไม่แสดงอาการอะไร แต่แววตาที่เฝ้ารอคอยความหวังนั้นหลอกใครไม่ได้ เขาถึงขนาดหยิบบุหรี่ขึ้นมา
“คุณคะ ที่นี่สูบบุหรี่ไม่ได้นะคะ ”พยาบาลท่านนึงผ่านมาเตือนด้วยความหวังดี
เย่เหนียนโม่เก็บไฟแช็คลง สีหน้าเคร่งขรึม “ขอโทษครับ”
ประตูลิฟต์ดังขึ้น หลังของเย่เหนียนโม่ตั้งตรงขึ้นกว่าเดิม เขาเข้าไปในห้องตรวจหลังจากที่พยาบาลเรียก หมอมองตาทั้งสองคน แล้วก็ดูชาร์ตตรวจ
“กระเพาะอักเสบ ไม่หนักมาก ให้น้ำเกลือสักพัก็หายแล้ว”
ติงยียีหันไปมองหน้าของเย่เหนียนโม่ทันที เห็นสีหน้าของเขาที่ผิดหวังลงทันที เธอละสายตาออกไป ศีรษะของเธอแตะด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน
มือของเธอถูกจับขึ้นมาอย่างนุ่มนวล เสียงของเย่เหนียนโม่นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม “โชคดีที่วันนี้ได้มาตรวจ ไม่งั้นก็ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นกระเพาะอักเสบ”
ในห้องให้น้ำเกลือ มีเด็กคนนึงร้องเพราะจะถูกเจาะเลือด คนข้างๆก็เริ่มมอง เด็กโบกแขนไปมา แล้วก็มาจับแขนเสื้อของเย่เหยียนโม่
“ขอโทษนะคะคุณ ลูกหยุดได้แล้ว ปล่อยแขนเสื้อคุณลุงเดี๋ยวนี้”คุณแม่วัยกลางคนที่อุ้มเด็กอยู่นั้นยิ้มพลางเอามือเด็กออก
เย่เหนียนโม่เอาแขนไปวางที่ฝั่งเด็ก ให้เขาจับได้ง่าย “ไม่เป็นไรครับ ให้เขาจับไว้ก็ได้”
ในห้องให้น้ำเกลือเงียบลงหลังจากเสียงขอบคุณของคุณแม่คนนั้น “คุณผิดหวังมากสินะ”ติงยียีถามเบาๆขึ้นมา
“ใช่น่ะสิ ผิดหวังมาก”น้ำเสียงของเย่เหนียนโม่เฉยชา ติงยียีได้ยินแล้วก็ปวดใจ เธอขยับแขนข้างที่ให้น้ำเกลือ จากนั้นก็โดนจับไว้
เย่เหนียนโม่ขมวดคิ้ว “อย่าขยับ”
เขาจับมือเธอมาวางลงบนฝ่ามือของตัวเองไม่ให้เธอขยับตัวไปมา ติงยียีพึมพำเสียงเบา “ในบ้านคุณก็มีลูกชายอยู่แล้วหนิ คุณไม่ต้องผิดหวีงหรอก เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนก็มีแล้ว”
“ติงยียี”เย่เหนียนโม่พูดตัดบทเธอ “ต้องให้ผมพูดให้ชัดกว่านี้หรอ ผมอยากได้ลูกที่เป็นของผมกับคุณ เด็กที่เป็นของเราสองคน เข้าใจไหม?”
ติงยียีมองเขาแบบอึ้งๆ จากนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา เย่เหนียนโม่ก็เขินเบนหน้าหนี แต่ยังจับมือเธอไม่ปล่อย
คืนนี้ ฝู้เฟิงหยีไม่ได้นอนตั้งแต่หัวค่ำสี่ทุ่ม เธอเห็นติงยียีกับเย่เหนียนโม่กลับมา สีหน้าก็ดูตื่นเต้น
“ยียี เธอกระเพาะอักเสบอยู่ ไปพักผ่อนก่อนเถอะ”เย่เหนียนโม่รู้ว่าคุณย่าอยากจะถามอะไร แต่ก็ไม่อยากให้ติงยียีอึกอัดใจ เขาจึงชิงพูดก่อน
ติงยียีพยักหน้า เดินไปทางบันได ได้เจอกับอ้าวเสว่ที่หัวมุมพอดี เธอหยุดลง “เธอวางใจเถอะ ฉันไม่ได้ท้อง”
อ้าวเสว่เหลือบมองไปที่ท้องของเธอ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไป เธอเดินช้ามาก ต้องรออีกนานเลยถึงจะถอนหายใจได้
ที่ห้องรับแขก ฝู้เฟิงหยีคุ้ยเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีก “เธอจะคบอะไรกับใครข้างนอกย่าไม่สนใจ แต่ว่าอ้าวเสว่คลอดลูกออกมาแล้วเธอก็จะต้องให้เกรียติเธอ นี่ก็ถือเป็นการรักษาชื่อเสียงของตระกูลเหมือนกัน”
“คุณย่า ถ้าผมให้เกรียติเธอแล้วจะมีอีกคนที่จะต้องเสียใจ ”เย่เหนียนโม่ปฏิเสธแบบไม่ลังเล “ผมจะให้เงินทองกับเธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่ถ้าจะให้ผมทำลายอีกคนนึงผมไม่ทำ”
ฝู้เฟิงหยีรู้ว่าไม่มีทางจะเกลี้ยกล่อมเย่เหนียนโม่ได้ ทำได้แค่พูดขู่ “ตระกูลเย่ไม่เคยทำเรื่องทรยศหักหลัง ไม่งั้นฉันก็ไม่มีหน้าไปเจอปู่ของแกเหมือนกัน ถ้าเธอจะเอาอย่างนี้จริงๆ งั้นก็ให้หุ้นเธอ 10เปอร์เซ็นต์ ”
เย่เหนียนโม่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย เขารีบตอบทันควัน “อำนาจในบริษัทส่วนนึงเป็นของโจ๋ซวน ถ้าเธออยากได้ ผมก็ให้ได้”
หลังจากที่กินข้าวกับเหยนหมิงเย้าไม่กี่วัน อ้าวเสว่ก็ได้รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ตอบรับอย่างรวดเร็วแบบนั้น ในสวนดอกไม้ เธอสบัดมือเขาออกอย่างแรง มองไปรอบๆอย่างกระวนกระวายใจ “คุณบ้าหรอ มาจับฉันทำไม ถ้าคนอื่นเห็นเข้าจะทำยังไง?”
เหยนหมิงเย้าพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เห็นแล้วผมก็พาคุณออกไปได้อย่างเฉิดฉแยน่ะสิ”
“คุณไม่ต้องคิดเลย ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า ฉันก็จะไปกระโดดตึก กระโดดไปพร้อมลูกนี่แหละ”อ้าวเสว่กัดฟันพูดทีละประโยค
“ถ้าคุณตายไป ก็ยังไม่ยอมคบกับผมหรอ?”เหยนหมิงเย้าขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด อ้าเสว่เบนหน้าหนีไม่ตอบอะไร ไม่ไกลมากนัก เย่ป๋อยืนอยู่ข้างๆ “คุณเหยนครับ คุณชายเว้นนัดเวลาให้คุณแล้ว ตอนนี้คุณขึ้นไปได้แล้วครับ”
“พวกเราแค่พูดคุยกันนิดหน่อยแหละ คุณเหยนรีบไปเถอะค่ะ”อ้าวเสว่เลิ่กลักกลัวว่าเย่ป๋อจะเห็นอะไรจากการพูดคุยของเธอกัยเหยนหมิงเย้า
เหยนหมิงเย้าเห็นท่าทีกระสับกระสันของเธอ ถึงแม้ว่าจะปวดใจไม่น้อยแต่ก็อยากจะทำอะไรสักอย่าง วันนั้นที่ดรงแรม เขารู้ชัดแล้วว่าเย่เหนียนโม่ไม่ได้ชอบเธอสักนิด แค่คิดว่าเธอเป็นเครื่องผลิตลูกเท่านั้น เขาไม่ยอมให้เธอทำกับตัวเองอย่างนี้หรอก
“อ้าวเสว่ ต่อไปผมก็จะมาหาเหนียนโม่เรื่องงานอีก คุยกันครั้งหน้านะครับ ”เหยนหมิงเย้าพูดอย่างมีเลศนัย แล้วก็เดินออกไป อ้าวเสว่มองเขาจากไปอย่างกระสับกระส่าย ขาอ่อนลงยวบเกือบจะยืนไว้ไม่ไหว ผู้ชายคนนี้มาแล้วจริงๆ เขาอยากจะทำลายชีวิตเธอ!
อยู่ๆก็มีเสียงสุนัขร้องมาในกลางสวน อ้าวเสว่ได้ยินก็ตกใจ เธอเงยหน้าขึ้น เสียงที่ได้ยินน่าจะมาจากห้องของติงยียี เธอพูดสาปแช่งเบาๆ “อิสัตว์ น่าจะตายๆไปซะ”
เธอแบกท้องที่หนักขึ้นเรื่อยๆทุกวันเข้ามาที่ห้องรับแขก เมื่อเข้ามาก็ได้กลิ่นกลิ่นนึง “นี่กลิ่นอะไรน่ะ?”
“ยาเบื่อหนูค่ะ พ่อบ้านบอกว่าก่อนตรุษจีนจะต้องกำจัดหนูก่อนรอบสุดท้าย”เดิมต้าต้าจะมาโปรยยาแล้วก็ไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอเข้ากับคนที่ไม่อยากจะเจอ
“พวกแกที่คิดร้ายกับฉันนี่แหละที่ต้องกินยาเบื่อหนู!”อ้าวเสว่ความดกรธทั้งหมดไปไว้ที่เธอ ต้าต้าก้มหน้าไม่ได้พูดอะไร เธอยังไม่ปล่อยหล่อนไป ยังเดินเข้าไปใกล้อีก “ยังไงห้ะ ตอนนี้ไม่พูดอะไรเพราะจะเอาคำพูดพวกนี้ไปพูดกับซางหัวใช่ไหม พวกแกอยู่ที่ชั้นใต้ดินต้องพูดด่าฉันกันแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ!”
“ฉันป่าวนะคะ !”ต้าต้าถอยหลังไปกี่ก้าว พ่อบ้านหวางรีบเดินมาจากระเบียง อ้าวเสว่ถึงหยุดพูด ต้าต้าก้มคำนับเธอแล้วก็เดินออกไป
“คุณอ้าวเสว่ครับ คุณนายท่านอยากจะเชิญคุณไปซื้อของใช้เด็กหลังคลอด ”พ่อบ้านพูดน้ำเสียงปกติ ถ้าเมื่อกี้เขาไม่เข้ามา ไม่รู้ว่าต้าต้าจะโดนด่าว่าร้ายถึงขนาดไหน ผู้หญิงคนนี้นิสัยเหมือนกันกับผู้หญิงที่ชื่อหวั่นถิงในตระกูลเย่เมื่อก่อนไม่มีผิด ดูเหมือนจะอ่อนโยนไร้พิษภัย แต่จริงๆแล้วจิตใจมีแต่ความเคียดแค้น
พูดถึง อ้าวเสว่ก็หน้าตาคล้ายกับคุณหวั่นถิงอยู่เหมือนกันนะ?เขาตกใจ ตั้งใจเงยหน้ามองคนตรงหน้าให้ชัด ใจเต้นตึกตัก ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน
“แฮ่ก แฮ่ก”ซางหัวหายใจแรงวิ่งเข้ามาในซอย รองเท้าหลุดไปแล้วข้างนึง ขาข้างที่วิ่งบนพื้นเย็นเยือกไร้ความรู้สึกไปตั้งนานแล้ว
เธอวิ่งพลางมองข้างหลัง กลัวว่าจะถูกคนกลุ่มนั้นวิ่งตาม เสียงมอเตอร์ไซด์ข้างหลังดังขึ้น เธออยากจะหนี แต่กลับพบว่าตัวเองหมดทางหนีแล้ว รถมอเตอร์ไซต์สามคันมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ
ผู้ชายที่แต่งตัวเถื่อนๆลงมาจากรถ “เป็นหนี้ก็ต้องชดใช้เป็นธรรมดา เธอหนีอะไร ไม่มีเงินฉันก็แค่เอาเธอไปขายที่เวียดนามก็แค่นั้น”
ซางหัวพูดอย่างหวาดกลัว “ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าพวกแกหลอกฉันนั่นแหละ”เธอเห็นเขาเลิกคิ้วขึ้นก็รีบพูดเสียงอ่อนลง “แล้วก็นะ ดอกเบี้ยของพวกนายโหดไปแล้ว สัปดาห์ที่แล้วยังสามหมื่นอยู่เลย วันนี้เป็นแสนกว่าไปแล้ว ฉันหาเงินจ่ายไม่ไหวหรอก”
“จ่ายไม่ไหวก็ใช้ร่างกายจ่าย!”ผู้ชายหัวโจกพูดเสียงแข็ง “ให้เวลาเธออีกสัปดาห์นึง ถ้าเธอหาเงินคืนไม่ได้ก็รอฉันจับเธอไปขายที่เวียดนามได้เลย ไม่แน่อาจจะมีผู้ชายจีนคนอื่นซื้อเธอกลับมาก็ได้!”
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น คร่ำครวญในชีวิตที่แสนรันทดของตัวเอง เธอรู้ว่าถ้าหาเงินไม่ได้ก่อนสัปดาห์หน้าเธอต้องจอเห่แน่ เธอไม่อยากถูกเอาตัวไปขาย
เหมือนจะมีคนเดินมาข้างถนน เธอรีบปาดน้ำตา ปีนขึ้นมาอย่างสะบักสะบอม เดินขากะเผลกออกไปข้างนอก
ข้างนอกคือศูนย์การค้านานาชาติ ผู้ชายที่เธอรักที่สุดก็คือคนที่มีอิทธิพลที่สุดที่นี่ เขาสามารถจ่ายเงินเป็นล้านๆได้อย่างสบาย ถ้าเธออยู่กับเขา ก็จะได้ใส่ชุดสวยๆ ได้อยู่ในแวดวงสังคมไฮโซ ใช้ชีวิตที่ไม่ต้องทำงาน มีความสุขไปชั่วชีวิต
เธอมองไปที่ประตูของศูนย์การค้าที่สวยงามอลังการ ยังคงวาดฝันว่าถ้าวันไหนได้พบกับเย่เหนียนโม่ ถ้ามีเวลาสักนิด เย่เหนียนโม่จะต้องเห็นความดีของเธออย่างแน่นอน จากนั้นก็จะทุ่มเทให้เธออย่างหมดหัวใจ
ความฝันสวยงามเสมอ เธอมองดูที่ประตูอย่างไม่ละสายตา จนกระทั่งมองเห็นรถคันที่คุ้นเคยเข้ามาจอด คนขับรถเดินลงมาทางด้านนึงของรถ เปิดประตูให้คนที่อยูในรถ
มีผู้หญิงสองคนลงมาจากรถ จากนั้นก็มีพี่เลี้ยงอีกสองคนลงมาจากรถอีกคัน ในมือของพี่เลี้ยงถือเสื้อคลุมขนมิงค์สวยงาม ยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวทั้งสอง