สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 9
“บ่าวไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะเจ้าคะ บ่าวแค่อยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และอีกหนึ่งสิ่งที่บ่าวอยากจะเห็นก็คือ…” เสียงเจื้อยแจ้วของสาวใช้ดังอยู่ด้านหลังแล้วก็เงียบไป จื่อถงนึกสงสัยจึงพยายามตั้งสติแล้วหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า อยากจะรู้ว่านางเป็นอะไรถึงได้เงียบไป แต่พอได้เห็นหน้ากันและกันก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ พยายามไม่หัวเราะออกมา
“เจ้าจะพูดอะไรต่อ”
“คือ…บ่าวอยากเห็นนายท่านยิ้มเจ้าค่ะ ไม่ใช่ยิ้มแบบสะใจอย่างวันนั้น แต่เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขเจ้าค่ะ” นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง จนจื่อถงนึกประหลาดใจ เพราะเหตุใดนางถึงได้พูดจาฉอเลาะลวงหัวใจผู้อื่นเก่งนัก จนคนที่หัวใจเย็นชาอย่างเขาใจสั่นแปลก ๆ
“เจ้าอยากจะเห็นไปทำไมกัน”
“เพราะมันคือความสุขของบ่าวอย่างใดเล่าเจ้าคะ นายท่านออกจะสง่างามเช่นนี้ หากได้ยิ้มบ่อย ๆ รับรองว่าสาวน้อยสาวใหญ่ คงจะหลงเสน่ห์นายท่านกันเป็นพรวนแน่เจ้าค่ะ ไหนลองยิ้มให้บ่าวเห็นเป็นบุญตาสักครั้งได้ไหมเจ้าคะ”
“แน่นอน ใคร ๆ ก็หมายปองอยากจะเป็นฮูหยินของข้ากันทั้งนั้น ถึงเจ้าไม่เอ่ยยอข้า มันก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว” แม้ว่าจะรู้สึกดีใจที่โดนสาวใช้เอ่ยปากชม แต่ท่านแม่ทัพยังคงตีสีหน้าเย็นชาเหมือนเช่นเคย แต่ดูท่าแล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เป็นแน่ เขาอยากรู้ว่าเหตุใดนางถึงได้อยากเห็นรอยยิ้มตนมากขนาดนี้
“แล้วทำไมนายท่านไม่ยอมมีฮูหยินสักทีเจ้าคะ หรือยังไม่มีสตรีนางใดถูกใจนายท่าน” คนพูดจ้องหน้าท่านแม่ทัพตาแป๋ว ร่องรอยของหมึกสีดำที่ถูกเขียนลงบนแก้ม ทำให้หยางจื่อถงเกือบจะหลุดขำออกมา แต่ยังดีที่กลอกลูกตาหนีไปทางอื่นเสียก่อน
“มันเรื่องของข้า ทำไมจะต้องบอกเจ้าด้วยเล่า มาพูดเรื่องของเจ้าดีกว่า ทำไมถึงอยากเห็นข้ายิ้มนัก หรือว่า…เจ้ากำลังแอบชอบข้าอยู่” คนพูดทำหน้าเคร่งขรึมขณะเอ่ย สายตาคมจับจ้องดวงหน้าสวยของสาวน้อยราวกับพยายามจับผิด และหาสิ่งที่นางซ่อนเร้นเอาไว้ในดวงตาสวยคู่นั้น
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ บ่าวแค่อยากได้ของรางวัลจากคุณหนูซินอวี่ คุณหนูบอกว่าหากทำให้นายท่านยิ้มได้ คุณหนูจะให้รางวัลบ่าว” กล่าวจบนางก็ยกมือขึ้นทาบริมฝีปากน้อย ๆ ไว้
“นี่เจ้าอยากได้มันถึงขนาดกับมาขอร้องให้ข้ายิ้มงั้นหรือ”
“เอ่อ…เจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวแค่อยากได้ของรางวัลจากคุณหนูเท่านั้น มิได้มีเจตนาอื่นใดเลยนะเจ้าคะ นายท่านก็รู้ดีว่าฐานะทางบ้านบ่าวไม่ได้ร่ำรวย หากได้ของรางวัลจากคุณหนู บ่าวจะเก็บเอาไว้ให้ท่านพ่อกับท่านแม่และน้องชายเจ้าค่ะ” เหม่ยหวาก้มหน้าอันเศร้าสร้อยมองที่ปลายเท้าตนเอง เมื่อพ้นระยะสายตาท่านแม่ทัพแล้วก็ฉายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา นางเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับผู้อื่นเสมอ หากนางจะกล่าวเท็จกับคุณหนูก็ย่อมได้แต่นางไม่ทำ ถึงอย่างไรก็จะทำให้นายท่านยิ้มให้จงได้
หยางจื่อถงได้ฟังคำพูดของสาวใช้ก็เริ่มจะสงสารขึ้นมาบ้าง เขาเคยออกไปทำศึกนับครั้งไม่ถ้วน มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนและใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านผู้ยากไร้ จึงรู้ดีว่าความจนนั้นมันน่ากลัวมากแค่ไหน ถึงจะไม่ชอบขี้หน้าเหม่ยหวาสักเท่าไหร่ แต่ก็เห็นแก่อีกสามชีวิตที่อยู่เบื้องหลังนางก็แล้วกัน
“เอาล่ะ ๆ ถ้าอยากเห็นข้ายิ้ม ข้าก็จะยิ้มให้เจ้าดูเป็นขวัญตา”
“จริง ๆ นะเจ้าคะ เย้ ๆ บ่าวดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ” ด้วยความดีใจทำให้นางเผลอตัวโผเข้าสวมกอดนายท่านอย่างลืมตัว ทำให้ท่านแม่ทัพผู้แสนจะเย็นชาถึงกับยืนตัวเกร็งราวกับท่อนไม้เสียอย่างนั้น กลอกลูกตาไปมา ทำหน้าไม่ถูก ครั้นจะผลักร่างบอบบางให้ถอยห่าง มือก็หนักอึ้งไม่ยอมขยับเขยื้อน เมื่อโดนสตรีสัมผัสกายเช่นนี้มีหรือที่ชายชาตรีอย่างท่านแม่ทัพหยางจะอดทนอดกลั้นไว้ได้ พญามังกรที่ขดตัวซ่อนในร่มผ้าเนื้อดีมันเริ่มขยับตัวเสียแล้วน่ะสิ
“จะ…เจ้าออกห่างจากตัวข้าเดี๋ยวนี้”
“เอ่อ…บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ บ่าวดีใจมากจนเกินไป นายท่านอย่าได้ถือสาบ่าวเลยนะเจ้าคะ แล้วไหนเจ้าคะที่นายท่านว่าจะยิ้มให้บ่าวดู” เมื่อรู้ตัวนางก็รีบผละตัวออกมายืนจ้องหน้าทวงคำสัญญาที่ให้ไว้ แต่เมื่อเห็นนายท่านยืนโค้งตัวก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “นายท่านเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ ทำไมยืนตัวงออย่างนั้น”
“ปะ…เปล่า ข้าแค่กำลังยืดเส้นยืดสาย เจ้าจะไปไหนก็ไป ข้าไม่มีอะไรให้ทำแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นก็ยิ้มก่อนสิเจ้าคะ”
“เจ้านี่นะ เฮ้อ” จื่อถงถอนหายใจอย่างนึกรำคาญ ก่อนจะยกยิ้มเพียงชั่วครู่ให้นางแล้วเอ่ย “พอใจหรือยัง”
“ยิ้มนานกว่านี้ไม่ได้หรือเจ้าคะ บ่าวจะได้ไปบอกคุณหนูได้เต็มปาก”
“ได้คืบจะเอาศอก แค่นี้ก็เป็นบุญของเจ้านักหนาแล้ว เอาไว้หากซินอวี่ถาม ข้าจะบอกว่ายิ้มให้เจ้าแล้ว ตกลงไหม”
“ก็ได้เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นบ่าวขอตัวไปทวงของรางวัลกับคุณหนูก่อนนะเจ้าคะ” นางกล่าวด้วยรอยยิ้มอันใสซื่อแล้วรีบวิ่งออกไป แต่นึกอะไรได้ก็ชะงักฝีเท้าแล้วกลับเข้ามาใหม่
“นายท่านเจ้าคะ”
หยางจื่อถงที่กำลังจะเดินเข้าไปจัดการให้พญามังกรสงบลง ก็ต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ รีบเอามือมากุมที่กลางกายไว้
“มีอะไรอีก!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงดุ
“มีอะไรบางอย่างติดที่แก้มนายท่านเจ้าค่ะ” ว่าแล้วนางก็รีบวิ่งแจ้นออกไปทันที นางหัวเราะชอบใจขณะเดินตรงไปทวงของรางวัลจากคุณหนูซินอวี่
หยางจื่อถงรีบส่องใบหน้าลงไปในสระน้ำ ภาพสะท้อนทำให้เห็นรอยหมึกสีดำซึ่งถูกวาดเป็นลวดลายต่าง ๆ บนแก้ม เบิกตาด้วยความตกใจ หันขวับมองตามหลังสาวใช้ตัวดีด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น เขาหลงกลนางอีกแล้วหรือนี่ ทั้งที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นฝ่ายชนะแท้ ๆ
“มันน่าโมโหนัก! ข้าหลงกลเจ้าหรือนี่แม่สาวใช้ตัวดี คอยดูเถอะข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้” ความเกรี้ยวกราดเข้ามาแทนที่อารมณ์เปลี่ยวเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น บัดนี้เขาต้องรีบไปล้างหน้าออกก่อนที่จะมีใครมาเห็น หากเป็นเช่นนั้นคงจะอับอายขายขี้หน้าเป็นแน่