สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 6
นั่งนานจนผล็อยหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่ารู้สึกตัวก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปดูที่โต๊ะ ปรากฏว่านายท่านไม่อยู่เสียแล้ว จึงรีบเดินหาไปทั่วทั้งเรือนแต่ก็ไม่พบ
“หายไปไหนนะ”
เมื่อหาด้านในไม่พบ ก็รีบวิ่งออกไปดูที่สวนข้างนอก จวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีสวนไม่รู้ต่อกี่ไร่ มีสนามฝึกอาวุธต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นไว้ประลอง เมื่อเวลาที่สหายของหยางจื่อถงเข้ามาเยี่ยมเยียนในจวน เหม่ยหวาวิ่งตามออกมาจนพบว่าตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังอยู่ที่สนามยิงธนู เห็นอย่างนั้นนางก็รีบวิ่งเข้าไปยืนขวางตรงเป้าธนูไม่ให้อีกฝ่ายยิงมา
“วางลงเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ นายท่านเจ็บขนาดนี้ยังจะมายิงธนูอีกงั้นหรือ ไม่กลัวว่าแผลมันจะปริงั้นหรือเจ้าคะ”
“เอ๊ะ! เจ้าอยากตายหรือไง ถึงได้มายืนขวางเป้าอย่างนี้” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นบ่าวรับใช้มายืนกางแขนกั้นเป้าอย่างไม่กลัวตาย เขาเบื่อที่จะนอนอุดอู้อยู่แต่ในห้องไม่ได้ทำอะไร มันเริ่มรู้สึกเบื่อและรำคาญตัวเอง
“บ่าวยอมตาย ดีกว่าให้นายท่านต้องเจ็บหนักกว่านี้”
“ได้! ถ้าเจ้าอยากตายข้าจะจัดให้” หยางจื่อถงยกคันธนูขึ้นอีกครั้ง เขาเล็งปลายลูกศรไปยังสาวใช้จอมจุ้น ที่ตอนนี้กำลังยืนกางแขนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า อยากรู้เหมือนกันว่าจะแน่สักแค่ไหน ในเมื่อไม่ยอมฟังคำสั่งก็ต้องโดนลงโทษด้วยวิธีนี้
เหม่ยหวายืนหลับตาอยู่ที่เดิม แม้จะรู้สึกกลัวมากแค่ไหนแต่นางจะไม่ยอมแพ้เขาแน่นอน ถึงอย่างไรก็ต้องเอาชนะให้ได้ จะต้องทำให้ท่านแม่ทัพผู้เอาแต่ใจ ยอมเห็นใจคนอื่นบ้าง
วืดดดด
นางรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านหูด้านซ้ายไป มันเร็วมากแค่เพียงหายใจเข้าออก รู้สึกเหมือนมีของเหลวค่อย ๆ ซึมลงมาที่ติ่งหู รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ จนต้องขมวดคิ้ว เปลือกตาสวยเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ ก็พบว่าตอนนี้หยางจื่อถงได้ยืนยิ้มมุมปากอยู่ตรงหน้า เขายิ้มแล้ว เป็นยิ้มแรกที่นางได้เห็น แต่มันคือยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนน่าหมั่นไส้ มือเรียวถูกยกขึ้นไปสัมผัสที่ใบหู เพื่อที่จะได้รู้ว่าของเหลวนั้นมันคืออะไรกันแน่
“ละ…เลือด”
“ครั้งนี้ข้าแค่เตือน ครั้งหน้ามันอาจจะไม่ใช่แค่หู อาจจะเป็นตรงหัวใจของเจ้าก็ได้ หึ ๆ”
“ฮือ ๆ บ่าวแค่เป็นห่วง ทำไมนายท่านถึงใจร้ายอย่างนี้ บ่าวทำอะไรผิดเจ้าคะ” เมื่อรู้ว่าตัวเองถึงกับเลือดตกยางออก เหม่ยหวาก็ทิ้งตัวนั่งลงร้องไห้เสียงดังโดยไม่สนใจอะไร
หยางจื่อถงหุบยิ้มแทบไม่ทัน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าสาวใช้ร้องไห้ไม่หยุดราวกับตั้งใจจะเรียกร้องความสนใจ คนอย่างเขาไม่เคยง้อใคร ไม่สิ! ง้อใครไม่เป็นเลยต่างหาก อีกอย่างเขาเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แม่ตัวดีนี่ต่างหากที่เข้ามาหาเรื่องเจ็บตัวเอง
“หยุด! ข้าบอกให้หยุด!”
“บ่าวไม่หยุด บ่าวจะร้องไห้อยู่ตรงนี้ไม่ยอมไปไหน นายท่านใจร้ายกับบ่าวเหลือเกิน ฮือ ๆ”
“เฮ้อ! มันชักจะมากไปแล้วนะ เป็นแค่สาวใช้มีสิทธิ์อะไรมาร้องขอความยุติธรรมจากข้า”
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้านั่งร้องไห้อย่างนั้นล่ะเหม่ยเหมย”
หยางเสี่ยวหลานพร้อมกับลูกสาวและบ่าวรับใช้ เดินตามเสียงมาจนถึงที่นี่ก็เห็นสาวใช้คนใหม่นั่งร้องไห้ โดยมีลูกชายคนโตยืนถือคันธนูจ้องมองโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย สถานการณ์อย่างนี้ก็พอจะเดาออกว่าต้องมีการแกล้งกันแน่ ๆ
“นายท่านจะฆ่าบ่าวเจ้าค่ะ ฮือ ๆ”
“ข้าไม่ได้ทำ!”
“นายท่านยิงธนูใส่บ่าวเจ้าค่ะ”
“เอ๊ะ! ก็บอกว่าข้าไม่ได้ทำ เจ้ารนหาที่เองต่างหาก”
“เอาล่ะ ๆ พอได้แล้ว” หยางฮูหยินรีบตะโกนห้ามปรามไม่ให้เกิดการวิวาท แล้วหันไปบอกกับลูกสาว “ซินอวี่เจ้าพาเหม่ยเหมยไปทำแผลก่อนเถอะ ทางนี้แม่จะจัดการเอง”
“เจ้าค่ะท่านแม่”
ซินอวี่และอาเฟยช่วยกันพยุงตัวเหม่ยหวาเดินออกไป เมื่อเสียงสะอื้นไห้ของสาวใช้ตัวป่วนเริ่มเงียบ คนเป็นแม่จึงกล่าวอะไรกับลูกชายต่อ
“ทำไมต้องทำนางถึงขั้นเลือดตกยางออก แม่ไม่เข้าใจเจ้าจริง ๆ ทำไมถึงเข้ากับคนอื่นยากนัก นิสัยอย่างนี้เจ้าจะมีเมียได้อย่างไรจื่อถง”
“ก็นางมาขวางไม่ให้ข้ายิงธนูเอง แค่สั่งสอนนิด ๆ หน่อย ๆ จะเป็นไร นางเป็นแค่สาวใช้ทำไมท่านแม่จะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนด้วย”
“ก็ที่นางทำเพราะได้รับคำสั่งจากแม่เช่นใดเล่า เจ้าเคยนึกห่วงตัวเองบ้างไหม หากแผลมันฉีกขาดขึ้นมาจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าหากแผลไม่หาย แม่จะไม่มีทางยอมให้เจ้าออกนอกจวนเป็นแน่ รู้เช่นนี้แล้วยังจะต่อต้านนางอีกไหม ที่ทำเพราะนางเป็นห่วงอยากให้เจ้าหายไว ๆ”
“ท่านแม่ห้ามข้าไม่ได้หรอก”
“ก็ลองดูสิ หากเจ้าไม่เชื่อฟังแม่ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าแม่ ไม่ต้องมานับถือกันอีก หากสำนึกผิดแล้วโปรดปฏิบัติกับเหม่ยเหมยให้ดีด้วย ที่แม่บ่นเพราะเป็นห่วงเจ้ารู้ไหม ตอนนี้เจ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นแม่ทัพที่ดูแลควบคุมทหารจำนวนมาก หากเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ อย่าหวังว่าในอนาคตเจ้าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตกว่านี้”
กล่าวจบนางก็เดินหนีจากลูกชายมา ทิ้งให้จื่อถงยืนทำหน้าเซ็ง ๆ อยู่เพียงลำพัง แค่ต้องทนอยู่แต่ในจวนก็ว่าแย่แล้ว ยังมาทนกับสาวใช้นิสัยน่ารำคาญผู้นั้นอีก มันเป็นอะไรที่น่าอึดอัด เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดมารดาจึงเห็นสาวใช้ดีกว่าลูกชายตัวเอง ถึงขนาดออกโรงปกป้องแล้วมาด่าตนเองอย่างนี้
“ยิ่งแม่ข้าปกป้องเจ้า ข้ายิ่งไม่ชอบขี้หน้าเจ้าแม่สาวใช้ตัวดี คอยดูเถอะข้าจะหาจุดอ่อนของเจ้า แล้วกำจัดออกไปจากชีวิตข้าให้ได้”
กล่าวจบแล้วก็ทิ้งคันธนูลงพื้นอย่างไม่ไยดี เดินกลับเข้าไปในเรือนที่พักอย่างอารมณ์บูดบึ้ง ในหัวก็พยายามคิดหาวิธีกำจัดเหม่ยหวาไม่ให้มายุ่งกับชีวิตตนอีก