สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 55
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยางจื่อถงก็ฉายรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา ไม่ใช่เพราะได้รับการเลื่อนยศ แต่เป็นเพราะเจ้าสาวของเขาในวันนี้คือเหม่ยหวานั่นเอง ไม่นึกว่าการได้เปิดใจกับองค์ฮ่องเต้ในวังหลวงวันนั้น จะทำให้พระองค์ทรงเห็นพระทัยและจัดการเรื่องนี้ให้โดยไม่ได้บอกกล่าวมาก่อน
“ยินดีด้วยนะท่านแม่ทัพหยาง บัดนี้ท่านคงยิ้มได้แล้วสินะ ฝ่าบาททรงเห็นพระทัยท่านแม่ทัพและได้จัดการเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงเจ้าสาวฝั่งบ้านสกุลจาง เพราะฝ่าบาทให้คนไปส่งสาห์นแจ้งเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถขัดพระบัญชาได้”
“ขอบพระคุณท่านเหวินกงกงที่มาได้ทันเวลาพอดี ข้าซาบซึ้งในน้ำพระทัยฝ่าบาทยิ่งนัก เหมือนชีวิตข้าได้เกิดใหม่อีกครั้ง”
“คนทำดีย่อมได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน ท่านไม่ต้องเสียเวลาไปรับตัวนางถึงที่บ้าน เพราะข้าได้ส่งเกี้ยวไปรับนางมาแล้ว เชิญรออยู่ที่จวนเถิด”
“ขอบพระคุณขอรับท่านเหวินกงกง”
ในระหว่างนั้นซินอวี่ก็รีบพุ่งตัวเข้ามาสวมกอดพี่ชายด้วยความดีใจอย่างออกนอกหน้า
“ช่างเป็นข่าวดีจริง ๆ ข้าดีใจกับท่านพี่ด้วยนะเจ้าคะ”
“ขอบใจเจ้ามาก คงสมใจอยากเจ้าแล้วล่ะสิ”
“แน่นอนเจ้าค่ะ”
“ท่านพ่อไม่ต้องแต่งงานกับคนอื่นแล้วใช่ไหมขอรับ”
“ใช่แล้ว วันนี้เจ้าสาวของพ่อก็คือแม่เจ้าอย่างใดเล่าเสี่ยวซู เจ้าดีใจหรือไม่” ว่าแล้วก็อุ้มลูกชายขึ้นด้วยความดีใจ
“เย้! ข้าดีใจที่สุดเลยขอรับท่านพ่อ ท่านแม่เองคงจะดีใจมากเช่นกัน”
ภาพแห่งความสุขสะท้อนเข้าในหน่วยตาหยางฮูหยิน นางรู้สึกโล่งใจยิ่งนักเมื่อทุกอย่างคลี่คลายด้วยพระเมตตาองค์ฮ่องเต้ จนทำให้บุตรชายที่เอาแต่ทำหน้าเศร้าในวันวิวาห์เช่นนี้มีรอยยิ้มขึ้นแล้ว เรื่องบาดหมางระหว่างทั้งสองตระกูลยังคงมีต่อไป แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจแล้วเพราะนี่คือพระราชโองการจากฟ้า ที่ใครก็มิอาจขัดได้
เหวินกงกงสั่งให้ช่างแปลงโฉมเหม่ยหวาเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในวันนี้ นางถูกส่งขึ้นเกี้ยวพระราชทานที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ขบวนแห่เคลื่อนผ่านถนนสายหลักใจกลางเมือง เสียงมโหรีดึงกึกก้องประกาศให้ชาวเมืองรับรู้ว่าวันนี้มีงานมงคลอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เหม่ยหวานั่งยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ภายในเกี้ยวเจ้าสาว ทั้งที่ยังมีผ้าผืนบางคลุมศีรษะปกปิดใบหน้าสวยเอาไว้ ไม่นึกว่าตนเองจะได้รับพระเมตตาจากองค์ฮ่องเต้ถึงเพียงนี้
“มาแล้วเจ้าค่ะท่านพี่ มาแล้วว!!!”
ซินอวี่ชี้นิ้วไปยังขบวนเกี้ยวเจ้าสาวที่กำลังเคลื่อนมาอย่างช้า ๆ หยางจื่องถงเอาแต่ยืนชะเง้อมองด้วยความตื่นเต้นเป็นที่สุด ไม่เคยดีใจอย่างนี้มาก่อน อยากจะเห็นหน้าเจ้าสาวของตนเต็มทีแล้ว อยากรู้ว่าเหวินกงกงจะเนรมิตให้นางงดงามเพียงใด เมื่อคนแบกวางเกี้ยวลงแล้วก็เปิดผ้าให้คนที่อยู่ด้านในออกมา เหม่ยหวายืนยิ้มมองหน้าเจ้าบ่าวผ่านผ้าผืนบางที่คลุมศีรษะอยู่ ไม่นึกเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสสวม่ใส่ชุดเจ้าสาวต่อหน้าท่านแม่ทัพหยาง มันช่างเหมือนฝันเหลือเกิน
หยางจื่อถงเดินไปรับเจ้าสาวถึงหน้าเกี้ยว พยายามจ้องมองผ่านผ้าผืนบางนั้นจนเห็นรอยยิ้มของนาง เขายิ้มตอบด้วยสีหน้าชื่นมื่น จากนั้นทั้งสองก็เดินเคียงคู่เข้าไปทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินภายในจวน
งานสมรสพระราชทานผ่านไปอย่างราบรื่น ทุกชีวิตภายในจวนต่างแสดงความยินดีกับงานวิวาห์ครั้งนี้ ยิ่งเมื่อรู้ว่าเจ้าสาวคือเหม่ยหวาทุกคนก็ดีใจเข้าไปใหญ่
ตอนนี้คู่บ่าวสาวถูกส่งเข้ามาในเรือนหอเรียบร้อยแล้ว เหม่ยหวานั่งอยู่บนเตียงทั้งที่ยังมีผ้าผืนบางปกปิดใบหน้า ข้างกันนั้นก็เป็นเจ้าบ่าวที่เอียงหน้ามายิ้มให้ เขายิ้มอยู่นานจนเหม่ยหวารู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงไม่ยอมกล่าวอะไรบ้างเลย
“ท่านยิ้มอะไร”
“ข้ายิ้มเพราะมีความสุข ข้านึกว่าวันนี้จะเป็นวันที่ต้องเจ็บปวดที่สุด เพราะไม่ได้แต่งงานกับคนที่ข้ารัก แต่ในที่สุดฟ้าดินก็เป็นใจให้เจ้าสาวของข้าคือเจ้า ข้ามีความสุขที่สุดเลยเหม่ยเหมย” หยางจื่อถงกล่าวเสียงสั่น คว้ามือเรียวมาถือไว้ ส่งสายตามองใบหน้านางผ่านผ้าผืนบาง
“ข้าก็มีความสุขเช่นกันเจ้าค่ะ ไม่นึกเลยว่า…ฮึก…ฝ่าบาทจะทรงมีพระเมตตาต่อสตรีต่ำต้อยเช่นข้าเยี่ยงนี้ ข้าดีใจจนไม่รู้จะหาคำไหนมาเปรียบ” นางร้องไห้ออกมาเมื่อมีโอกาสได้กล่าวความในใจ หากไม่เปิดผ้าคลุมออกคงไม่มีโอกาสได้ยลโฉมและช่วยปาดน้ำตาให้ หยางจื่งถงใช้ช่วงเวลานี้เปิดผ้าคลุมศีรษะนางออก ยื่นมือเรียวไปเชยคางขึ้นมาให้สบตากัน
“ข้าไม่อยากให้น้ำตามาบดบังความงดงามของเจ้าเลย หยุดร้องเสียเถอะข้าอยู่ตรงนี้แล้ว เมียรักของข้า” ท่านแม่ทัพหยางใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากพวงแก้มขาว แม้กำลังร้องไห้แต่นางก็ยังคงงดงาม งดงามกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น แต่หยางจื่อถงเห็นมากกว่านั้น เขาเห็นความงดงามภายในใจของนางผู้นี้มาโดยตลอด
“เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ” นางยิ้มแล้วโผเข้ากอดเขาอย่างแนบแน่น แม้เปลือกตาจะปิดลงสนิททว่าหยาดน้ำตายังคงไม่หยุดไหล นางปล่อยโฮออกมาราวกับได้ปลดปล่อยความอึดอัดในใจออกมาจนหมดสิ้น หยางจื่อถงได้แต่ยิ้มพลางยกมือขึ้นลูบที่แผ่นหลังบางเพื่อปลอบประโลมใจ
“ต่อไปนี้เจ้าคือฮูหยินของข้าแล้วนะ เรียกข้าว่าท่านพี่สิถึงจะถูก ข้าสัญญาว่าจะไม่มีอนุคนไหนอีก จะมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น”