สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 53
“ท่านรู้สึกอย่างไรกับข้า ข้าก็รู้สึกเช่นนั้นกับท่าน หากท่านแม่ทัพรู้คำตอบที่อยู่ในใจแล้ว ก็หาควรต้องถามข้าอีก เพราะมันคือคำตอบเดียวกันเจ้าค่ะ” นางส่งยิ้มให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสแก้มขาวอย่างเบามือ จ้องมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ก่อนที่หยาดน้ำใสจะไหลเป็นทางลงมา
“ข้ารักเจ้า ข้าเฝ้ารอวันที่จะได้เจอหน้าเจ้ากับลูกอีกครั้ง เจ้ากับลูกคือแรงผลักดันที่ทำให้ข้าอยากสู้เพื่อกลับมาที่นี่อีกครั้ง และวันนี้ข้าก็ได้กลับมาอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว”
“หากไม่รักข้าคงไม่มาหาท่านถึงที่นี่ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดข้าก็พร้อมที่จะเคียงข้างท่าน ข้าค้นพบแล้วว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่มาก่อนหรือมาหลัง มันขึ้นอยู่กับว่าได้อยู่กับคนที่เรารักหรือไม่ต่างหากเจ้าค่ะ”
เหม่ยหวารู้สึกโล่งใจยิ่งนักเมื่อได้เผยความในใจจนหมดสิ้น หากได้ตัดสินใจแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายภาคหน้า นางก็จะต้องเข้มแข็งและอดทนให้มาก ๆ เพื่อจะได้อยู่กับคนที่นางรักตลอดไป ทั้งสองต่างก็ส่งยิ้มให้กันด้วยความหวานซึ้ง ก่อนที่เหม่ยหวาจะเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่กลางหน้าผากท่านแม่ทัพหยาง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่านางพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขานับแต่วันนี้เป็นต้นไป
หลังจากได้มีโอกาสสนทนากันจนคลายความคิดถึงลงไปได้บ้าง องค์ฮ่องเต้ก็เสด็จเข้ามาเยี่ยมเยียนถามไถ่อาการ เหม่ยหวาจึงต้องออกมาด้านนอก ยืนรออยู่หน้าห้องพร้อมกับซินอวี่และบุตรชาย จนพระองค์เสด็จกลับไปจึงเข้ามาดูแลตลอดทั้งคืน
*-*-*-*-*-*-*-*
หนึ่งเดือนต่อมา…
อยู่ในโรงหมอสองสัปดาห์หยางจื่อถงก็กลับมาพักฟื้นต่อที่จวน โดยมีเหม่ยหวาช่วยดูแลเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเคยได้รับบาดเจ็บจากการออกศึกครั้งนั้น ทั้งสองได้มีโอกาสรื้อฟื้นความทรงจำ จวนที่เงียบเหงากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แม้ว่าความสุขจะมาเยือนในช่วงแรก ทว่าในตอนนี้กลับมีอุปสรรคครั้งใหญ่ที่หยางจื่อถงเลี่ยงไม่ได้นั่นคือการวิวาห์กับคุณหนูตระกูลจางตามสัญญา ท่านเสนาบดีจางหยวนได้มาทวงคำสัญญาถึงจวนด้วยตัวเอง หลังจากพบว่าหยางจื่อถงนั้นหายเกือบเป็นปกติ เป็นเช่นนั้นมีหรือที่เจ้าตัวจะปฏิเสธได้อีกแล้ว
“อีกไม่กี่วันข้าก็จะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับแม่นางหมิงซวนแล้ว เจ้าจะกลับไปอยู่ที่บ้านสักระยะก่อนดีหรือไม่ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเห็นภาพที่มันเจ็บปวดหัวใจ”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าอยากจะดูแลท่านในวันสำคัญเช่นนี้” แม้ภายนอกจะยิ้มแย้มเป็นปกติดี ทว่าภายในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบ และมันได้แสดงออกมาทางแววตาให้หยางจื่องถงเห็นในตอนนี้
“แต่ข้าไม่อาจทนเห็นน้ำตาของเจ้าได้ ได้โปรดไปเพื่อข้าได้หรือไม่ ข้าไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาเจ้าอีกแล้ว ข้าไม่อยากให้เจ้ามาเห็นช่วงเวลานี้จริง ๆ กลับไปอยู่ที่บ้านก่อนเถอะนะ”
“ก็ได้เจ้าค่ะ หากมันเป็นความจ้องการของท่านข้าจะยอมไป แล้วเสี่ยวซูล่ะเจ้าคะ จะให้กลับด้วยหรือไม่”
“ท่านแม่คงอยากให้อยู่ที่นี่ด้วย”
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปบอกกับลูกให้เข้าใจ ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” นางจะเดินออกไปหาบุตรชายซึ่งอยู่ในเรือนที่พักของหยางฮูหยิน ทว่าในวินาทีนั้นหยางจื่อถงได้รั้งตัวนางเข้ามาสวมกอดไว้อย่างแนบแน่น ราวกับหวงแหนร่างบอบบางนี้เหลือเกิน
“หากเลือกได้ข้าอยากให้เจ้าเป็นฮูหยินเอกของข้า ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย” เขากล่าวในขณะกำลังสวมกอดนางเอาไว้ เสียงที่เคยทรงพลังสั่นคลอน สื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังเสียใจแค่ไหน
“ข้าเข้าใจท่าน ไม่เป็นไร ตำแหน่งมันหาได้สำคัญเทียบเท่าความรักที่เรามีให้กัน ท่านอย่าได้เป็นกังวลไป ทำหน้าที่เจ้าบ่าวให้ดีที่สุด อย่าให้แม่นางหมิงซวนต้องผิดหวัง ข้าขอให้งานวิวาห์ในครั้งนี้ราบรื่นผ่านไปด้วยดีเจ้าค่ะ”
“ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเจ้า…เหม่ยเหมย”
กล่าวจบแล้วก็โน้มใบหน้าเข้าไปประกบจูบริมฝีปากบางอย่างดูดดื่ม บดเบียดอย่างเร่าร้อนราวกับโหยหาสิ่งนี้มาแสนนาน ลิ้นเย็นตวัดพันเกี่ยวอย่างมิรู้เบื่อ ความรู้สึกอันหวามไหวพลุ่งพล่าน เลือดในกายสูบฉีดปลุกความกำหนัดให้ลุกโชนในกาย เป็นเช่นนี้แล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้นางห่างจากกายไปที่ไหนได้