สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 49
หลังจากหยางฮูหยิน คุณชายซุนไห่และอาเฟยกลับไปแล้ว ภายในห้องก็มีเพียงความเงียบงัน เหม่ยหวาอยากจะเข้าไปนั่งข้างเตียง จ้องหน้าชายหนุ่มผู้เป็นที่รักใกล้ ๆ ทว่าก็รู้สึกเกรงใจจางหมิงซวน ได้แต่ส่งสายตามองอยู่อย่างนั้น เห็นอย่างนั้นซินอวี่ก็รู้สึกสงสารเพื่อนรัก
“พี่ซินอวี่เจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากจะสนทนาด้วย”
“ว่ามาสิ”
“เราไปข้างนอกกันดีกว่าเจ้าค่ะ ในนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
จางหมิงซวนมองดูคนป่วยที่นอนบนเตียงอย่างนึกเป็นห่วง นางรู้สึกหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากให้เหม่ยหวาเข้าใกล้คู่หมั้นตนเอง แต่ก็ยอมเดินออกไปจากห้องพร้อมซินอวี่
เหม่ยหวารู้ว่าซินอวี่จงใจชวนแม่นางหมิงซวนออกไป เพื่อจะให้ตนมีโอกาสเข้าใกล้หยางจื่อถง นางลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียงพร้อมกับบุตรชาย เมื่อได้มีโอกาสจ้องมองหน้าเขาใกล้ ๆ น้ำตาก็ไหลลงอาบสองแก้ม เอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มอันซีดเซียวนั่นอย่างเบามือที่สุด
“นายท่านของบ่าว บ่าวอยู่ตรงนี้แล้วนะเจ้าคะ นายท่านได้โปรดฟื้นขึ้นมาหาบ่าวได้หรือไม่ บ่าวเจ็บปวดใจแทบขาดแล้ว ฮือ ๆ” นางร้องไห้พลางยกหลังมือของเขาขึ้นมาสัมผัสแก้ม
“ท่านแม่อย่าร้องไห้สิขอรับ”
“แม่สัญญาว่าจะร้องแค่วันนี้วันเดียว แม่เป็นห่วงท่านพ่อของเจ้าเหลือเกิน”
“ข้าก็ห่วงท่านพ่อขอรับ หากท่านพ่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ท่านแม่จะย้ายมาอยู่กับท่านพ่อไหมขอรับ เราจะได้อยู่ด้วยกันสักทีไงขอรับ” เด็กชายกล่าวด้วยสีหน้าใสซื่อ นางได้แต่ยิ้มแล้วเอื้อมมือไปลูบที่แก้มจ้ำม่ำนั้นด้วยความเอ็นดู
“เจ้าอยากให้มันเป็นเช่นนั้นหรือ”
“ขอรับ”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อของเจ้าจะต้องแต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ใช่แม่ หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็จะเป็นเพียงบุตรชายของอนุภรรยาอย่างแม่ เจ้าไม่อายคนอื่นหรอกหรือเสี่ยวซู”
“ไม่อายขอรับ ในเมื่อท่านแม่กับข้าไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครนี่นา เราไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นก็ได้นี่ขอรับ”
“ช่างพูดช่างเจรจายิ่งนักลูกชายแม่ เจ้าฉลาดเกินกว่าเด็กวัยเดียวกันมากรู้หรือไม่”
“ข้ารู้ตัวมาตลอดว่าเก่งกว่าคนอื่น ๆ นั่นเพราะท่านแม่สอนข้าให้เก่งอย่างใดเล่าขอรับ”
“ปากหวานจริง ๆ ลูกชายคนนี้ หากเจ้าต้องการเช่นนั้นแม่ก็จะทำเพื่อเจ้า ขอแค่เจ้ามีความสุขแม่ก็พอใจแล้ว”
“ความสุขของท่านแม่ก็คือความสุขของข้าเช่นเดียวกันขอรับ หากท่านแม่ต้องฝืน…”
“แม่ไม่ได้ฝืน แม่รักพ่อของเจ้า ยังคงรักเสมอไม่เคยเปลี่ยน”
“ข้ารักท่านแม่กับท่านพ่อที่สุดเลยขอรับ”
“แม่ก็รักเจ้านะเสี่ยวซู”
ในขณะที่สองแม่ลูกกำลังใช้โอกาสนี้อยู่เฝ้าท่านแม่ทัพหยางอย่างใกล้ชิด ซินอวี่ก็เปิดใจกับจางหมิงซวน นางอยากให้คู่หมั้นพี่ชายเปิดทางให้สองแม่ลูกได้มีโอกาสอยู่กันอย่างพร้อมหน้า จางหมิงซวนเองก็เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ มีบุตรชายของขุนนางหลายท่านอยากจะได้เป็นคู่ครอง นางมีสิทธิ์จะเลือกคนที่ดีกว่าหยางจื่อถงก็ย่อมได้ แต่นางเลือกที่จะรอซึ่งมันก็ไม่ผิด
“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา ข้าไม่อยากให้สองแม่ลูกนั่นอยู่กับท่านแม่ทัพนานนัก”
“พูดตรง ๆ เลยนะเจ้าคะ พี่หมิงซวนเองก็มีสิทธิ์เลือกคู่ครองที่ดีกว่าท่านพี่ด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดจึงเลือกที่จะรอ ในเมื่อก็รู้ดีว่าท่านพี่ไม่เคยมีใจให้ ปล่อยท่านพี่ให้เหม่ยหวากับลูกเถอะนะเจ้าคะ ถือว่าข้าขอร้อง”
“แล้วทำไมข้าจะต้องยอมด้วยเล่า ในเมื่อข้ามาก่อน ข้าไม่มีทางยอมแพ้สตรีต่ำต้อยคนนั้นเป็นแน่ ถึงอย่างไรท่านแม่ทัพก็จะต้องแต่งงานกับข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น รักหรือไม่รักข้าไม่สนใจ”
“หากเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่มีสิทธิ์ขัด แต่ถึงอย่างไรเหม่ยหวากับลูกก็จะต้องเข้ามาอยู่ในจวน ถึงจะเป็นอนุแต่คนในจวนต่างก็รู้ว่าใครคือคนที่ท่านพี่รัก พี่หมิงซวนจะกลายเป็นเพียงฮูหยินที่ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น”
“ข้าไม่สน เพราะข้าเชื่อว่าอำนาจทั้งหมดจะอยู่ในมือข้า แม้แต่ท่านแม่ทัพเองก็หามีสิทธิ์มาคัดค้านข้า ในเมื่อนางเลือกที่จะเป็นอนุก็ต้องยอมรับที่จะอยู่ใต้อำนาจข้าเช่นกัน หากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว”
จางหมิงซวนเดินกลับเข้าไป ทิ้งให้ซินอวี่ยืนทำหน้าเกรี้ยวกราดอยู่ที่เดิม นางไม่ชอบที่หมิงซวนคิดจะวางอำนาจในจวนหากได้แต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ แล้วอย่างนี้นางจะช่วยเหลือเหม่ยหวาได้มากน้อยแค่ไหนกัน เพราะนางเองก็เป็นเพียงคนนอก ไม่อาจก้าวก่ายเรื่องภายในครอบครัวคนอื่นได้มากสักเท่าไหร่
ในขณะที่เหม่ยหวากำลังนำผ้ามาเช็ดที่ใบหน้าให้คนป่วยนั้น จางหมิงซวนก็เดินเข้ามาเห็นพอดี นางทำหน้าไม่พอใจแล้วเดินตรงเข้ามายืนมองดูใกล้ ๆ
“เอ่อ ข้าเห็นว่าท่านแม่ทัพมีเหงื่อออกเยอะเลยเช็ดให้เจ้าค่ะ”
“นี่มันหน้าที่ข้า เจ้าไม่ควรมายุ่งวุ่นวายกับท่านแม่ทัพ”
“เจ้าค่ะ”
เหม่ยหวายอมวางผ้าลงแล้วเดินห่างออกมาอย่างรู้สึกเจ็บใจ นางเดินมากอดบุตรชายเอาไว้ ทั้งสองทำได้เพียงนั่งมองดูจางหมิงซวนปรนนิบัติท่านแม่ทัพหยางอยู่อย่างนั้น
“ท่านแม่ขอรับ”
“ว่าอย่างไรเสี่ยวซูของแม่”
“ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ท่านพ่อจะแต่งงานด้วยหรือขอรับ”