สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 35
“นั่นมันไม่สำคัญเพราะข้าสามารถเจรจากับฮูหยินขอไถ่ตัวนางได้ หากนางยินยอมที่จะเป็นฮูหยินของข้า แต่สิ่งที่เจ้าแสดงออกมันมากกว่าการเป็นเจ้านายรู้ตัวหรือไม่ โปรดทำให้ข้ากับแม่นางหมิงซวนกระจ่างใจ เราจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”
เมื่อถูกกดดันหนักขึ้นหยางจื่อถงก็ยืนนิ่ง จ้องมองคนทั้งสองด้วยแววตาที่ดุดันน่ากลัว ในเมื่ออยากจะรู้กันนักเขาก็จะยอมบอกความจริง เรื่องมันจะได้จบเสียที
“ใช่! ข้ากับเหม่ยเหมยรักกัน ข้ากับนางรักกันเจ้าได้ยินหรือไม่ เลิกยุ่งกับนางซะเพราะข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าได้สิ่งที่ต้องการเด็ดขาด นางเป็นภรรยาข้าแล้วและจะไม่มีทางเป็นของคนอื่นได้อีก”
ซุนไห่และจางหมิงซวนต่างก็ยืนอึ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“หากท่านแม่ทัพไม่เกรงใจข้าเช่นนี้ ข้าต้องขอตัวกลับก่อนเจ้าคะ” สีหน้าของคนพูดบูดบึ้งแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ กล่าวจบนางก็เดินจากไป
จางหมิงซวนรู้สึกเศร้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน นั่นเพราะนางมีใจให้ท่านแม่ทัพหยาง แม้รู้ว่าถึงอย่างไรนางก็ต้องแต่งงานกับชายผู้นี้ ทว่าก็ยากที่จะทำใจยอมรับว่าเขามีคนที่อยู่ในใจซึ่งไม่ใช่นาง ยิ่งนางผู้นั้นเป็นสาวใช้ในจวน ได้เจอหน้ากันทุกวัน ความรักและความผูกพันก็มากยิ่งขึ้น เป็นเช่นนี้แล้วนางจะมีโอกาสได้เศษเสี้ยวหัวใจท่านแม่ทัพหยางอยู่อีกหรือ
“ข้าเดาไม่ผิดว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้ เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำให้แม่นางหมิงซวนต้องเสียใจทั้งที่นางไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนเหม่ยเหมยข้ายิ่งเห็นใจนาง ที่จะต้องมาเป็นอนุของเจ้า ทั้งที่นางยังมีโอกาสจะได้ออกเรือนกับชายผู้อื่นที่เชิดชูนางได้มากกว่านี้”
“เจ้าหมายถึงตัวเจ้าเองงั้นหรือที่ให้นางได้มากกว่า”
“ใช่! ข้าให้นางได้ทุกอย่าง ข้าสามารถมอบตำแหน่งฮูหยินให้นางได้โดยไม่ต้องคิดอะไร มอบอนาคตที่สดใสให้นางได้มากกว่าการเป็นสาวใช้และภรรยาที่เป็นได้เพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น”
“ถึงอย่างไรข้าก็รักนางเพียงผู้เดียว แม้แต่แม่นางหมิงซวนเองก็ไม่อาจเปลี่ยนใจข้าได้ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไรกับคนของข้า เจ้ามันคนนอกไม่มีสิทธิ์ อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้ดีกว่า เพราะข้าไม่อยากจะตัดความเป็นเพื่อนกับเจ้า”
“ข้ารู้ว่าเจ้ารักนาง ข้าเองก็รักนางเช่นกัน เจ้าลองคิดดูสิว่าหากแม่นางหมิงซวนนำเรื่องนี้ไปบอกบิดาของนางจะเกิดอะไรขึ้น ตำแหน่งแม่ทัพประจำเมืองของเจ้าจะต้องสั่นคลอน สิ่งที่ตระกูลหยางทำมาทั้งหมดจะต้องจบลงเพราะเจ้า”
“ข้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะข้าไม่ได้ทำอะไรผิด แม้แต่ท่านเสนาบดีก็มีอนุหลายคน ท่านย่อมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของบุรุษทุกคน”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เคยหวั่นกลัวต่อสิ่งใด แต่ข้าอยากจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย แม่นางหมิงซวนหาได้เหมือนสตรีคนอื่น แม้ภายนอกนางจะเป็นสตรีที่เรียบร้อยอ่อนหวาน แต่แท้ที่จริงแล้วนางเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ข้าเคยได้ยินมาว่าสาวใช้ที่ไม่เข้าตานางหลายคน ต้องถูกทำร้ายต่าง ๆ นานาจนเกือบตายหลายต่อหลายคน หากเจ้ายังดื้อดึงที่จะให้เหม่ยเหมยเป็นอนุ เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเหม่ยเหมยจะไม่โดนนางรังแก เจ้าไม่สามารถปกป้องนางได้ตลอดหรอกนะ แต่หากเจ้ากล้าปฏิเสธที่จะแต่งงานกับนาง และยกให้เหม่ยเหมยเป็นฮูหยินเอกเข้าจะไม่ว่าเจ้าสักคำ ซึ่งนั่นเป็นไปได้ยากเหลือเกิน หากอยากให้คนที่เจ้ารักมีอนาคตที่ดีกว่านี้ โปรดปล่อยนางไปเถิด”
“เจ้ากลับไปได้แล้ว ข้าไม่มีอารมณ์จะสนทนากับใคร”
“ข้าไปล่ะ เจ้าคิดดูให้ดี ๆ”
ซุนไห่วางมือบนไหล่สหายรักตบเบา ๆ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้หยางจื่อถงยืนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเพียงลำพัง ตอนนี้หัวใจของเขามันถูกบีบรัดจนรู้สึกเจ็บ ทรมานเหลือเกินหากต้องเห็นเหม่ยหวาร้องไห้เพราะตนเอง ที่สหายรักกล่าวมานั้นก็น่าคิด นางยังเด็ก ยังมีอนาคตที่ดีกว่าการต้องมาเป็นอนุของเขาในจวนนี้ เมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้วก็เดินตรงไปหาสาวใช้ที่เรือนทันที
เหม่ยหวานั่งกอดเข่าร้องไห้ที่มุมหนึ่งในห้องหนังสือ หยางจื่อถงเดินตามเสียงสะอื้นไห้มาจนพบตัวนาง เขารู้สึกเจ็บปวดและทรมานเมื่อเห็นนางร้องไห้ รีบนั่งลงโอบกอดนางไว้อย่างแนบแน่น ไม่พูดจาคำใด เมื่อนางเริ่มรู้สึกดีขึ้นทั้งสองจึงผละตัวออกมาจ้องหน้ากันด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องร้องไห้”
“บ่าว ฮึก…ผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่สามารถทำใจได้ เมื่อเห็นนายท่านมีคนอื่นอยู่ข้างกาย บ่าวรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ไม่อยากเห็นภาพนั้น แต่บ่าวจะพยายามทำใจให้ได้เจ้าค่ะ”
“ข้าเสียใจที่ทำให้เจ้าต้องมาเจ็บปวดเช่นนี้ ข้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชายอย่างที่ซุนไห่ว่าจริง ๆ”
“นายท่านอย่าโทษตัวเองเลยนะเจ้าคะ ทุกอย่างมันจะต้องผ่านไปด้วยดี”
หยางจื่อถงเอื้อมมือไปเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากพวงแก้มขาวให้อย่างทะนุถนอม เสียใจตอนนี้ยังดีกว่าต้องเจ็บปวดไปตลอดชีวิต นางจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีอนาคตที่ดีหากได้เป็นฮูหยินของซุนไห่
“เหม่ยเหมย”
“เจ้าคะนายท่าน”
“นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้ากลับไปอยู่ที่บ้านเจ้าเช่นเดิมนะ เจ้าจะไม่ใช่สาวใช้ในจวนข้าอีกต่อไป”
“ทะ…ทำไมนายท่านกล่าวเช่นนี้ บ่าวทำอะไรผิดหรือเจ้าคะ นายท่านถึงได้ขับไสไล่ส่งบ่าวเช่นนี้ ฮึก…” ได้ยินเช่นนี้เขื่อนน้ำตาของนางก็พังลงอีกครั้ง รู้สึกชาไปทั้งตัว มือไม้สั่นเทาด้วยความหวั่นกลัว
“เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่เป็นข้าเองที่ผิดตั้งแต่แรกที่เผลอมอบใจให้เจ้า ทั้งที่รู้ว่าตนเองมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว ข้าไม่อยากให้แม่นางหมิงซวนต้องเสียใจเพราะข้า ข้าไม่อยากให้งานแต่งต้องถูกล้มเลิกเพราะความมักมากของข้า เป็นเช่นนั้นแล้วเจ้าจงไปจากที่นี่เสียเถิด ข้าจะปล่อยให้เจ้าได้เป็นอิสระ” หยางจื่อถงกลั้นใจกล่าวคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดให้ตนเองและนาง น้ำตาของลูกผู้ชายไหลหลั่งลงมาเมื่อกล่าวประโยคนั้นจบแล้ว ทว่าคนที่ร้องไห้จะเป็นจะตายนั่นคือเหม่ยหวา นางตบหน้านายท่านฉาดใหญ่แล้วถอยตัวออกห่างราวกับไม่รู้จักชายผู้นี้เลยสักนิด
“บ่าวเกลียดนายท่าน เกลียดที่สุดในโลก เกลียดที่สุด!!! ฮือ ๆ”
“เหม่ยเหมย!”
นางร้องไห้วิ่งออกไปจากเรือน หยางจื่อถงทำได้เพียงตะโกนร้อง เอื้อมมือตามหลังนางอย่างเจ็บปวดและทรมานไม่ต่างกัน ความเจ็บปวดครานี้รุนแรงยิ่งนัก มันทรมานกว่าการโดนข้าศึกใช้ดาบจ้วงแทงเข้ามาที่กลางหัวใจเสียอีก