สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 33
วันนี้หยางจื่อถงอยู่ที่จวนทั้งวัน ประจวบเหมาะที่สหายรักอย่างซุนไห่มาเยี่ยมเยียน ทั้งสองจึงได้มีโอกาสมานั่งจิบชาเล่นหมากล้อมกันที่ศาลาริมสระบัวตามประสาเพื่อนรัก เหม่ยหวาถูกนายท่านสั่งให้อยู่รับใช้หยางฮูหยินเพราะไม่ต้องการให้นางได้เจอหน้ากับซุนไห่ แม้จะเป็นสหายแต่ก็ไม่วางใจ
“ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีสาวใช้ที่น่ารักเช่นนางในจวนด้วย”
“เจ้าหมายถึงใคร” หยางจื่อถงเงยหน้าขึ้นไปมองสหายรัก คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเพราะกลัวว่าสาวใช้ที่อีกฝ่ายกล่าวคือเหม่ยหวา
“ก็เหม่ยเหมยเช่นใดเล่า วันก่อนข้าช่วยนางจากการถูกโจรวิ่งราวในตลาด นางน่ารักมากจนข้ารู้สึกถูกชะตา อยากจะได้มาเป็นคนรัก” คนพูดฉายรอยยิ้มออกมาด้วย สีหน้าที่ชวนฝันนั้นทำให้หยางจื่อถงรู้สึกไม่พอใจ
“อย่าแม้แต่จะคิด เพราะข้าไม่ยอมให้คนในจวนตกเป็นของเล่นเจ้าเป็นแน่”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะให้นางเป็นเพียงแค่ของเล่น บางทีข้าอาจจะให้นางเป็นฮูหยินของข้าก็เป็นได้”
“หากข้าไม่ยอม เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในตัวนาง” หยางจื่อถงตอบกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง ทำเอาสหายที่นั่งฝั่งตรงข้ามนึกประหลาดใจ ว่าเหตุใดจึงรีบพูดดักทางเอาไว้เช่นนี้
“เจ้าจริงจังไปหรือเปล่าจื่อถง นางเป็นเพียงสาวใช้มิใช่ฮูหยินเจ้าสักหน่อย ฮูหยินในอนาคตอันใกล้ของเจ้าก็คือแม่นางหมิงซวน เจ้าลืมแล้วหรือ”
“ข้า…ไม่เคยลืม เพียงแต่นางยังเด็กนัก”
“เจ้าพูดเหมือนหวงไว้เองเสียอย่างนั้น หรือว่า…”
“เจ้าอย่าคิดอะไรอย่างนั้น ข้ากับนางเป็นเพียงแค่บ่าวกับเจ้านายเท่านั้น”
“ได้ยินอย่างนี้ข้าก็โล่งใจ ถือว่าข้ายังมีโอกาสจีบนางอยู่” ซุนไห่ยิ้มอย่างพอใจเมื่อสหายยืนยันหนักแน่น ว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่นางผู้นั้นที่ตนหมายปอง
“นายท่านเจ้าคะ มีแขกมาขอพบเจ้าค่ะ” เป็นเหม่ยหวานั่นเองที่เพิ่งเดินมาถึง สีหน้านางไม่ค่อยสู้ดีนักเมื่อได้ยินประโยคที่นายท่านกล่าวก่อนหน้า เขาไม่กล้าแม้แต่จะบอกสหายรักว่านางคือคนรัก ทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์น้อยใจแต่ก็ทำไม่ได้
“เหม่ยเหมยเจ้านั่นเอง ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่พอดีเลย”
“คารวะคุณชายเจ้าค่ะ”
“อะแฮ่ม ใครมาพบข้างั้นหรือ” เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นหยางจื่อถงยังคงสวมบทบาทท่านแม่ทัพผู้เย็นชาเช่นเดิม
“คุณหนูหมิงซวนเจ้าค่ะ” นี่คืออีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้สีหน้าของเหม่ยหวาไม่สู้ดีนัก ตัวจริงของนายท่านปรากฏตัวแล้ว คุณหนูหมิงซวนเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามและกิริยาท่าทางอ่อนหวาน สมกับเป็นบุตรีท่านเสนาบดี ซึ่งแตกต่างจากนางอย่างลิบลับ
เมื่อได้ยินชื่อนี้หยางจื่อถงก็ทำหน้ารู้สึกผิดทันที เขาส่งสายตามองสาวใช้ตรงหน้า นางเอาแต่หลบตาแค่นั้นก็รู้แล้วว่านางรู้สึกเช่นไร
“พูดยังไม่ทันขาดคำ คู่หมั้นเจ้าก็มาหาถึงที่แล้ว รีบไปหานางสิจื่อถง ส่วนข้าจะนั่งสนทนากับเหม่ยเหมยที่นี่”
“ไม่ได้ เหม่ยเหมยต้องไปกับข้า”
“บ่าวจะนั่งเป็นเพื่อนคุณชายที่นี่เจ้าค่ะ นายท่านรีบไปหาคุณหนูเถิด อย่าให้นางต้องรอนานเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะน้อยใจเอา”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้ากลับไปรอข้าที่ห้องหนังสือ ให้ซุนไห่นั่งอยู่ที่นี่รอข้าเพียงคนเดียวก็พอ”
“ข้าไม่ทำอะไรสาวใช้คนโปรดเจ้าหรอกน่าจื่อถง นี่มันในจวนเจ้านะ”
“ข้าไม่ไว้ใจเจ้า กลัวว่าจะทำอะไรคนของข้า”
“คุณชายไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อยเจ้าค่ะ คุณชายเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เช่นนั้นคงไม่ช่วยเหลือบ่าวหรอกเจ้าค่ะ”
“สรุปว่าเจ้าอยากจะอยู่ที่นี่” หยางจื่อถงโกรธนางที่ดื้อดึงที่จะอยู่ที่นี่ จึงพูดประชดออกไป
“เจ้าค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้นก็สุดแล้วแต่เจ้า ข้าไปล่ะ”
ท่านแม่ทัพหยางเร่งฝีเท้าออกไปจากศาลาด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น หงุดหงิดไปตลอดทาง เป็นกังวลว่าสหายรักจะป้อนคำหวานลวงล่อให้เหม่ยหวาหลงใหล เพราะเขารู้ดีว่าคนอย่างซุนไห่นั้นมีคารมคมคายเป็นอาวุธ หากหญิงใดได้อยู่ใกล้มักจะเผลอใจให้เกือบทุกราย
“มานั่งเป็นเพื่อนข้ามิใช่หรือ แล้วจะยืนอยู่ทำไมเล่า”
“เจ้าค่ะคุณชาย”
เหม่ยหวานั่งลงข้างโต๊ะหมากล้อม จากนั้นก็รินน้ำชาใส่จอกให้คุณชายซุนไห่อย่างรู้งาน เขายิ้มรับมิตรไมตรีที่นางยื่นให้
“บ่าวไม่รู้ว่าคุณชายมาที่จวน เลยไม่ได้มาต้อนรับตั้งแต่แรก ต้องขออภัยด้วยนะเจ้าคะ”
“ไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีใช่ไหม”
“บ่าวสบายดีเจ้าค่ะ”