สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 32
เขากล่าวขณะคร่อมร่างนางเอาไว้ จากนั้นโน้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอระหง มือหนาสาละวนอยู่กับการปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางอีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้มันมาปกปิดเรือนร่างอันงดงามนี้แม้แต่น้อย
เรือนกายขาวไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิดปรากฏแก่สายตาของท่านแม่ทัพหยาง นางงดงามทุกสัดส่วนไร้ที่ติ เขาใช้มือลูบไล้ผิวกายนางอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความเคอะเขินทำให้ใบหน้าของเหม่ยหวาแดงก่ำ ของเอียงหน้าไม่ยอมสบตานายท่าน
“เจ้างามเหลือเกินเหม่ยเหมย”
นายท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ก่อนจะหยัดตัวขึ้นนั่งเข่า จัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวเองออกทีละชิ้น จนตอนนี้เหลือเพียงเรือนกายกำยำ เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแน่น เหม่ยหวาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองความกำยำล่ำสันของเขา ทุกสัดส่วนสมกับเป็นชายชาตรีอย่างแท้จริง
เมื่อร่างกำยำทับทาบลงบนร่างของสาวใช้ หยางจื่อถงก็เริ่มต้นบทรักด้วยการประกบจูบริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ส่งลิ้นอันซุกซนเข้าไปในโพรงปากน้อย ๆ เพื่อกวาดต้อนลิ้มลองความหอมหวานอย่างมิรู้เบื่อ ประสานนิ้วเรียวตรึงไว้เหนือศีรษะ
เขาเลื่อนจุมพิตลงมาเรื่อย ๆ จนถึงเนินเนื้อทั้งสองก้อนที่เต่งตึงชูชันรอรับสัมผัส หยางจื่อถงละมือมาวางที่ฐานเต้าทั้งสอง บีบเคล้นแรง ๆ ระบายความต้องการอันท่วมท้น พร้อมกันนั้นได้ส่งปลายลิ้นสากตวัดเลียที่ยอดปทุมถันสีงาม ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้เหม่ยหวาต้องส่งเสียงรัญจวนระบายความเสียวซ่าน นางวางมือไว้ที่ศีรษะของนายท่านอย่างถือวิสาสะ แทรกนิ้วเรียวเข้าไปชอนไชใต้เรือนผมนั้นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
นายท่านเลื้อยมือข้างหนึ่งมาลูบไล้ที่หน้าท้องแบนราบอย่างช้า ๆ ราวกับกำลังต้องการกลั่นแกล้งให้นางทรมานเพราะพิษแห่งความหวามไหว จนในที่สุดกลีบบุปผางามก็ถูกรุกล้ำด้วยนิ้วมือใหญ่ เขาบดขยี้ยอดเกสรของนางอย่างชำนิชำนาญ จนร่างอรชรแทบอยู่ไม่สุข มือน้อย ๆ ปัดป่ายไปทั่วเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว ความสุขสมที่ได้รับทำให้นางต้องระบายด้วยการส่งเสียงครวญครางอย่างไร้ความอาย
ของเหลวที่ไหลหลั่งออกมาชโลมนิ้วใหญ่ทำให้หยางจื่อถงรู้ว่าตอนนี้นางพร้อมแล้ว จึงยกขาเรียวขึ้นข้างหนึ่งประทับริมฝีปากจุมพิตซ้ำ ๆ ราวกับมันคือสิ่งของล้ำค่า ก่อนจะส่งเจ้ามังกรตัวเขื่องเข้าไปในถ้ำบุปผาอันคับแคบ ถ้ำแห่งนี้มิเคยมีมังกรตัวใดเข้าไปสำรวจแม้แต่สักครั้ง เส้นทางขรุขระที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง มิอาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของเจ้ามังกรตัวนี้ มันชอนไชเข้าไปลึก ๆ อย่างอาจหาญและรวดเร็ว จนทำให้เส้นทางที่เคยรกชัฏราบเรียบ ข้างในมีบ่อน้ำวิเศษเคลือบตัวของเจ้ามังกรให้เปียกชุ่มและสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี
เมื่อสุขสมกับการสำรวจถ้ำบุปผาทุกซอกทุกมุมแล้ว เจ้ามังกรก็พ่นน้ำอมฤตที่สามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ ได้ จนภายในนั้นตลบอบอวลด้วยกลิ่นอันรัญจวนที่เจ้ามังกรมอบให้เป็นที่ระลึก จากนั้นมันก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้า ๆ น้ำอมฤตที่เนืองแน่นไหลล้นออกไปยังปากถ้ำบุปผาจำนวนหนึ่งด้วย
ตอนนี้ท่านแม่ทัพหยางนอนแผ่หลาใช้มือข้างหนึ่งหนุนแทนหมอน ส่วนอีกข้างเป็นหมอนให้สาวใช้หนุนนอน ความเจ็บปวดที่เหม่ยหวาได้รับในระหว่างนั้น ทำให้ร่างของนางแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เจ็บจนน้ำตาไหล แต่ถึงอย่างนั้นความสุขสมที่ได้รับกลับไม่น้อยเช่นกัน นายท่านถนอมเรือนกายของนางไม่ให้บอบช้ำ เว้นแต่เพียงจุดเดียวเท่านั้นที่ต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้สมานตัวเข้าที่ดังเดิม เพราะเจ้ามังกรประจำกายของนายท่านตัวใหญ่ยิ่งนัก จนปากถ้ำบุปผาของนางแทบจะระเบิดเสียให้ได้
เหม่ยหวาเอียงหน้าขึ้นมองนายท่านด้วยแววตาที่ออดอ้อน ขณะที่เขากำลังนอนหายใจเหนื่อยหอบ นางรู้สึกมีความสุขที่ได้นอนอยู่ภายใต้วงแขนแกร่งนี้ รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเจ็บตัวอีกแล้ว” ให้ชื่นใจ
“บ่าวเต็มใจเจ้าค่ะ ถึงแม้จะเจ็บแต่บ่าวก็มีความสุข มีความสุขมากที่ได้มอบมันให้กับคนที่บ่าวรัก”
“ข้าก็รักเจ้าเช่นเดียวกัน ข้าสัญญาว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าเด็ดขาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
“บ่าวรักน่ายท่านสุดหัวใจ บ่าวสัญญาเช่นกันว่าจะไม่จากนายท่านไปไหน จะอยู่รับใช้นายท่านไปตลอดจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“อย่างนี้แล้วจะไม่ให้ข้าหลงเจ้าได้อย่างไรกัน ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว เจ้าจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความต้องการของข้า ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความหวังดีจากข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้เป็นฮูหยินเอก แต่ไม่ต้องห่วงเพราะข้าจะรักเพียงเจ้า จะให้ความสำคัญแก่เจ้ามากกว่าผู้ใด”
“บ่าวไม่ต้องการให้ตัวเองสำคัญเหนือกว่าผู้ใด ขอเพียงแค่นายท่านเมตตาไม่ทิ้งขว้างบ่าวก็เป็นพระคุณแล้วเจ้าค่ะ”
“ข้ารักเจ้า ข้ารักเจ้าได้ยินหรือไม่เหม่ยเหมย เจ้าเป็นเมียข้าแล้วต้องย้ายมานอนกับข้าที่นี่รู้หรือไม่”
“จำเป็นด้วยหรือเจ้าคะ”
“จำเป็นสิ เพราะข้าไม่ยอมให้ความสุขของเรามันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวแน่นอน” เขาว่าแล้วก็พลิกร่างทับทาบบนตัวนางอีกครั้ง ตรึงมือทั้งสองข้างไว้บนเหนือศีรษะ พรมจูบตามซอกคอระหงอย่างมิรู้เบื่อ ไฟแห่งราคะได้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขาได้สอนให้นางได้รู้จักกับบทเพลงรักอันร้อนแรงอีกครั้งและอีกครั้งอย่างมิรู้จักความเหน็ดเหนื่อย
บัดนี้เหม่ยหวาได้กลายมาเป็นภรรยาของนายท่านอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว นางได้ควบทั้งตำแหน่งสาวใช้คู่กายและคนรักของนายท่านในคราวเดียวกัน แม้จะมาก่อนแต่ด้วยฐานะทางสังคมและธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ทำให้นางมิอาจปฏิเสธต่อชะตากรรม เรียนรู้และยอมรับที่จะใช้ชีวิตต่อไปเพื่อคนที่นางรัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวและแน่นอนว่าเพื่อนายท่าน ที่เป็นรักแรกและจะเป็นรักครั้งเดียวของนาง
*-*-*-*-*-*-*-*
วันต่อมาเหม่ยหวาได้เข้าไปพบและให้คำตอบฮูหยิน ว่านางเต็มใจที่จะเป็นอนุภรรยาของท่านแม่ทัพ ได้ยินอย่างนั้นหยางฮูหยินพร้อมทั้งซินอวี่ก็ยิ้มด้วยความดีใจ ต่างก็ร่วมแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ แม่ทัพหยางที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจที่จะได้มีภรรยาครั้งแรกในชีวิต แม้ว่าเขาจะเคยผ่านมือสตรีมานักต่อนัก แต่ไม่เคยมีนางใดที่ทำให้หัวใจที่เย็นชาดวงนี้สั่นคลอนได้
หยางฮูหยินได้แนะนำให้บุตรชายไปบอกกล่าวกับบิดามารดาของเหม่ยหวา เพื่อคารวะและมอบตัวเป็นลูกเขยของสกุลหาน แม้ว่าครอบครัวนี้จะยากจนแต่หยางฮูหยินไม่เคยรังเกียจแม้แต่น้อย ยินดีที่จะให้ทั้งสองตระกูลเป็นดองกัน
แม้จะรู้ว่าลูกสาวไม่ได้เป็นฮูหยินเอก แต่หานจางเหว่ยและหานลู่ซวนก็ไม่ติดใจอะไร เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าครอบครัวของตนนั้นยากจนข้นแค้น คงไม่อาจเชิดหน้าชูตาตระกูลหยางได้เท่าเทียมกับบุตรีของท่านเสนาบดีได้ แต่ก็ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจแม้แต่น้อย ขอแค่ท่านแม่ทัพเมตตาและดูแลเหม่ยหวาให้นางมีความสุขท่านทั้งสองก็พอใจแล้ว