สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 31
“นายท่านมาไม่ทันเห็นหรือเจ้าคะ ก็คุณชายซุนไห่ สหายรักของนายท่านอย่างใดเล่าเจ้าคะ”
“หากเป็นซุนไห่จริง ทำไมไม่เข้ามาในจวนเล่า”
“ก็บ่าวบอกคุณชายว่านายท่านยังไม่กลับเข้าจวน คุณชายเลยขอตัวกลับเจ้าค่ะ วันหลังบอกจะมาเยี่ยมนายท่านใหม่อีกครั้ง”
เหม่ยหวาตอบไปตามความจริงด้วยความบริสุทธิ์ใจ นางไม่ได้เอะใจเลยว่าตอนนี้นายท่านกำลังหึงหวงอย่างหนัก ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นสหายรักก็ไม่วางใจให้อยู่ใกล้ เขาทั้งรักและหวงนางผู้นี้เป็นที่สุด ที่กลับมาเร็วเพราะทนความคิดถึงไม่ไหวนั่นเอง
“แล้วทำไมซุนไห่ถึงได้มาส่งเจ้าที่นี่ รู้จักกันมาก่อนงั้นหรือ”
“บ่าวโดนโจรวิ่งราวชิงถุงเงินไป โชคดีที่คุณชายซุนไห่มาช่วยไว้ได้ทันจึงรอดกลับมาอย่างปลอดภัยเจ้าค่ะ บ่าวกับคุณชายไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจริง ๆ เจ้าค่ะ” หากนางบอกว่าบุรุษที่มาขายขนมจีบในป่าวันนั้นคือคุณชายท่านนี้ มีหวังนายท่านได้ระแวงมากกว่านี้แน่
“ไอ้โจรพวกนี้เดี๋ยวได้เห็นดีกับข้าแน่ บังอาจมาปล้นคนของข้า แล้วเจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ บ่าวไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย”
“ดีแล้วล่ะ ตามข้ามา”
“บ่าวขอเอายาสมุนไพรไปให้ฮูหยินก่อนนะเจ้าคะ แล้วบ่าวจะตามไป”
“เสร็จแล้วรีบ ๆ ตามมา”
สีหน้าของนายท่านเย็นชาอีกแล้ว เหม่ยหวาทำหน้าสงสัย ครุ่นคิดว่าเขากำลังโกรธนางเรื่องอะไรกันแน่
นำยาสมุนไพรไปให้หยางฮูหยินแล้วก็เดินตรงไปยังเรือนของนายท่าน นางไม่ได้บอกว่าโดนอะไรมาบ้างเพราะกลัวจะทำให้ฮูหยินไม่สบายใจ เมื่อมาถึงแล้วก็เดินตรงไปหานายท่านที่ห้องหนังสือ มั่นใจว่าเขาคงจะอยู่ที่นั่นเหมือนเช่นเคย
“มาแล้วเจ้าค่ะนายท่าน”
“นั่งลงสิ”
“เจ้าค่ะ”
เหม่ยหวานั่งฝั่งตรงข้ามนายท่าน แต่เขาตบปุลงที่ว่างข้างตัว ส่งสายตาดุให้ขยับมานั่งข้างกัน เมื่อนั่งลงแล้วเหม่ยหวาก็เงยขึ้นมองสีหน้าที่เรียบเฉยของเขา เขากำลังโกรธนางอยู่แน่ ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำสีหน้าเช่นนี้
“นายท่านโกรธอะไรบ่าวหรือเจ้าคะ ทำไมดูหมางเมินเช่นนี้”
“เปล่า”
“เปล่าแล้วทำไมไม่มองหน้าบ่าว นายท่านมีพิรุธ อย่าคิดว่าบ่าวไม่รู้”
“แล้วเจ้าคิดว่าข้าโกรธเจ้าเรื่องอะไร”
“ถ้าบ่าวรู้จะถามหรือเจ้าคะ”
“ข้าโกรธตัวเองต่างหากเล่า ที่ไม่สามารถทำให้เจ้าเป็นฮูหยินเอกของข้าได้ ทั้งที่หัวใจของข้ามีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น เจ้ารู้เรื่องจากท่านแม่แล้วใช่หรือไม่” หยางจื่อถงหันไปจ้องหน้านางด้วยแววตาที่เศร้าหมอง ราวกับคนมีความทุกข์ในใจยิ่งนัก
“บ่าวรู้และเข้าใจนายท่านดีเจ้าค่ะ” นางส่งยิ้มให้นายท่าน เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความกังวลใด ๆ
“เข้าใจ? หมายความว่าอย่างไร เจ้าคงคิดว่าข้ามันขี้ขลาดตาขาวมากสินะ ที่มิกล้าต่อสู้เพื่อคนที่รักได้”
“นายท่านอย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิเจ้าคะ นายท่านคือบุรุษผู้เก่งกาจและอาจหาญที่สุดตั้งแต่บ่าวเคยรู้จักมา นายท่านคือเจ้านายและผู้นำครอบครัวที่ดีที่สุดเจ้าค่ะ”
“หากแม้นข้าจะแต่งงานกับคนอื่น แต่ขอให้รู้ไว้ว่าหัวใจของข้ามันจะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว” หยางจื่อถงเอื้อมมือไปสัมผัสกรอบหน้าเรียวอย่างทะนุถนอม นางเองก็ยกมือขึ้นมากุมมือของนายท่านไว้ ฉายรอยยิ้มหวานส่งให้เช่นเดียวกัน
“หัวใจของบ่าวก็จะเป็นของนายท่านแต่เพียงผู้เดียวเช่นกันเจ้าค่ะ”
สายตาทั้งสองคู่ที่กำลังสอดประสานกัน ลุกโชนไปด้วยไฟแห่งเสน่หาราคะอันเร่าร้อน เลือดลมในกายไหลเวียนกระปรี้กระเปร่ายิ่งนัก มือหนาลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียดอย่างทะนุถนอม หยางจื่อถงเคลื่อนใบหน้าลงไปที่ซอกคอระหง จนใกล้กับก้อนเนื้อนูนที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้อาภรณ์สีหวาน หัวใจของท่านแม่ทัพยิ่งเต้นแรงขึ้น
“เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน งามทั้งตัวและหัวใจ จนข้ามิอาจห้ามใจได้ ข้ารู้ว่าข้าเห็นแก่ได้ แต่ข้าทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เป็นของข้านะเหม่ยเหมย” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า สายตาคมต้องมองดวงหน้าสวยที่กำลังเอียงอายอย่างมิวางตา
“หากบ่าวไม่ยอม นายท่านจะทำอย่างไรเจ้าคะ”
“ข้าจะไม่บังคับฝืนใจเจ้า เพราะข้าไม่อาจเห็นคนที่ข้ารักต้องเสียใจ” แม้เสียดายแต่เขาจะต้องทำตามคำที่กล่าวออกไป เขาจะไม่มีวันบังคับนางเด็ดขาด จะไม่ยอมให้นางมีมลทินเพราะความเอาแต่ได้ของตัวเอง
“บ่าวดีใจที่นายท่านเป็นสุภาพบุรุษ บ่าวพร้อมแล้วที่จะเป็นของนายท่าน และยอมรับทุกตำแหน่งที่นายท่านจะมอบให้เจ้าค่ะ” มันคือคำตอบที่นางใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียวตัดสินใจ นางจะยอมมอบเรือนกายนี้ให้แก่เขาอย่างเต็มใจ และยอมรับตำแหน่งอนุภรรยาของนายท่านไว้อีกด้วย
“ข้าดีใจเหลือเกิน หากมีเจ้าข้างกายชีวิตข้าก็ไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว”
หยางจื่อถงยิ้มกว้างที่สุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาดึงร่างบอบบางเข้ามาสวมกอดไว้อย่างแนบแน่น ผละตัวออกมาแล้วก็จ้องมองใบหน้าสวยด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ
“บ่าวจะอยู่รับใช้นายท่านอย่างนี้ตลอดไปเจ้าค่ะ”
เมื่อนางกล่าวจบหยางจื่อถงก็โน้มใบหน้าไปประกบจูบริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ส่งมือทั้งสองข้างไปปลดเปลื้องอาภรณ์ส่วนบนของนางออกอย่างเร่งรีบ จนเผยให้เห็นไหล่เรียวขาวดุจหิมะ เขาลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียดอย่างเสน่หา ก่อนจะผลักร่างบอบบางให้เอนหลังลงบนพื้นอย่างช้า ๆ
“ข้ารอวันนี้มานานแล้ว วันที่จะได้รู้จักเจ้าทุกซอกทุกมุม เหม่ยเหมยของข้า”
“นายท่านคิดจะทำอย่างนี้กับบ่าวนานแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”
“ข้าเปล่า! เพิ่งจะคิดเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง”
“บ่าวไม่เชื่อ นายท่านลวนลามบ่าวหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เคยสำเร็จ ตอนนี้คงจะดีใจมากสินะเจ้าคะที่บ่าวยอม”
“ข้าสัญญาว่าจะทะนุถนอมและทำให้เจ้ามีความสุขที่สุด”