สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 24
“บ่าวมากับคุณหนูซินอวี่และพี่อาเฟยเจ้าค่ะ แต่ทั้งสองเดินไปซื้อของทางโน้น” นางว่าพลางชี้มือไป
“ซินอวี่ก็นัดให้ข้าออกมาที่นี่ นางไม่ได้บอกว่าเจ้าจะมาด้วย มิน่าล่ะก่อนออกมาข้าเที่ยวเดินหาเจ้าไปทั่วทั้งจวนแต่กลับไม่พบ”
“นายท่านตามหาบ่าวทำไมหรือเจ้าคะ”
ได้ยินคำถามจากสาวใช้ท่านแม่ทัพหยางก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก กำลังใช้ความคิดหาคำพูดให้สวยหรูเป็นคำตอบเอาตัวรอด หากจะบอกว่าตามหาเพราะคิดถึงกลัวว่าจะเสียหน้า
“เอ่อ…ข้าแค่อยากจะเรียกใช้เจ้าเฉย ๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แล้วเจ้าล่ะทำไมไม่ยอมบอกข้าว่าจะมางานนี้ด้วย”
“ก็คุณหนูไม่ให้บอกนี่เจ้าคะ อีกอย่างฮูหยินก็อนุญาตแล้วด้วย”
“ช่างเถอะ ไปกับข้า”
กล่าวจบก็คว้าข้อมือน้อย ๆ ให้เดินตามหลังไป เหม่ยหวาตกใจจนทำให้โคมไฟในมือหล่นลงพื้น นางมองตามหลังไปอย่างรู้สึกเสียดาย พยายามตะโกนขอร้องให้นายท่านปล่อยเพื่อจะไปเก็บมัน แต่เขากลับไม่ยอม
“นายท่านปล่อยบ่าวได้แล้วเจ้าค่ะ คนเยอะแยะขนาดนี้บ่าวอาย”
“เจ้าจะอายทำไม ในเมื่อไม่ได้รู้จักกับคนพวกนี้ อีกอย่างมาเดินกับข้ามันน่าอายขนาดนั้นเชียวหรือ”
“เปล่าเจ้าค่ะ”
“หรือเจ้าเขิน” ชายหนุ่มหันกลับมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้นาง
เหม่ยหวารีบก้มหน้าหลบสายตาคมคู่นั้น
“บ่าวไม่ได้เขิน แต่กลัวว่าคนจะเข้าใจผิดคิดว่าเรา…”
“เป็นคู่รักกันงั้นหรือ”
“…”
“ไม่ตอบไม่เป็นไร เพราะข้าจงใจให้คนเข้าใจเช่นนั้นอยู่แล้ว”
“แล้วนายท่านจะพาบ่าวไปไหนเจ้าคะ ไม่รอคุณหนูกับพี่อาเฟยก่อนหรือ”
“ไม่รอ ไปกันสองคนสะดวกดี อีกอย่างข้าจะได้มีเวลาอยู่กับเจ้าสองต่อสองบ้างเช่นใดเล่า”
เขายิ้มอย่างมีความสุข ปล่อยข้อมือของนางแล้วเปลี่ยนมาประสานนิ้ว เหม่ยหวาเงยขึ้นไปมองหน้าเขาแต่ได้รอยยิ้มกลับคืนมา เป็นอีกครั้งที่เขายิ้มอย่างจริงใจ จนอดไม่ได้ที่จะเขินอาย ทั้งคู่เดินประสานมือท่ามกลางผู้คนมากมายมาจนถึงร้านขายโคมไฟร้านหนึ่ง
“อยากได้แบบไหนเลือกเอาเลย”
“บ่าวไม่เอาเจ้าค่ะ”
“ต้องเอาเพราะข้าจะซื้อให้ทดแทนอันที่เจ้าทำหล่น หรือต้องให้ข้าบังคับ” นายท่านทำสีหน้าเผด็จการอีกแล้ว นางจึงยอมทำตามโดยง่าย หันไปสนใจมองโคมไฟที่แขวนไว้จำนวนมาก มีแต่สวย ๆ ทั้งนั้นจนเลือกไม่ถูก
“เอาอันนี้เจ้าค่ะ” นางชี้ไปยังโคมไฟสีแดงที่มีลักษณะคล้ายกับอันเดิม แต่จะใหญ่กว่าเล็กน้อย
“นี่ขอรับ” พ่อค้ารีบนำมันมายื่นให้เหม่ยหวา นางยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้มันมาอยู่ในมือแล้ว เป็นของชิ้นแรกที่นายท่านซื้อให้ จะเก็บรักษามันไว้อย่างดี
หยางจื่อถงเองก็ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่านางชอบของที่ตนซื้อให้ เขาจ่ายเงินให้พ่อค้าแล้วจูงมือนางออกมา เดินช้า ๆ ไปตามถนนอย่างอารมณ์ดี
“เจ้าว่าบรรยากาศที่นี่สวยหรือไม่”
“สวยเจ้าค่ะ”
“คงชอบมากสินะถึงได้ยิ้มตลอดเช่นนี้”
“ชอบมากเจ้าค่ะ บ่าวไม่เคยได้มาเที่ยวงานประจำปีที่งดงามเช่นนี้มาก่อน”
“ข้าหมายถึงโคมไฟที่ข้าซื้อให้เจ้า คงชอบมันมากสินะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นนางก็หุบยิ้ม ปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งเหมือนไม่ได้รู้สึกยินดีอะไร
“เปล่าสักหน่อย ก็งั้น ๆ ล่ะเจ้าค่ะ เดี๋ยวกลับไปก็คงจะเอาทิ้งข้างทางแล้ว”
“ห้ามทิ้งเด็ดขาด! ไม่งั้นข้าจะถือว่าเจ้ามีความผิด เก็บมันไว้ให้ดี ๆ”
“ก็ได้เจ้าค่ะ บ่าวจะถือว่าเป็นคำสั่ง”
“หิวหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“ง่วงหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“เกลียดข้าหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“แสดงว่าเจ้ารักข้าสินะ” คนพูดแอบอมยิ้มเมื่อนางหลงกลเข้าให้
“นายท่านหลอกให้บ่าวพูด บ่าวไม่ได้รักนายท่านสักหน่อยเจ้าค่ะ” สีหน้าของแม่สาวใช้ตัวดีงองุ้มเมื่อโดนหลอกเข้าให้ นางรีบสลัดมือนายท่านเพื่อจะเดินกลับไปหาคุณหนูซินอวี่
“ข้าไม่ได้หลอก เจ้าพูดเอง”
“ปล่อยมือบ่าวเจ้าค่ะ บ่าวจะกลับไปหาคุณหนูและพี่อาเฟย”
“คิดว่าข้าจะยอมปล่อยเจ้างั้นหรือ ข้ามีความลับบางอย่างจะบอกเจ้า”
“ความลับอะไรเจ้าคะ บ่าวจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือ”
“จำเป็นสิ เพราะความลับของข้ามันเกี่ยวกับเจ้าด้วย”
เหม่ยหวาขมวดคิ้วยืนเผชิญหน้ากับเขา ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่กลางถนนสายหลักของเมือง ด้านบนนั้นมีโคมไฟห้อยระโยงระยางส่องแสงสว่าง กระทบกับใบหน้าคนที่อยู่เบื้องล่าง ที่ต่างก็กำลังจ้องตากันอยู่
“ข้ากลับมาทบทวนความรู้สึกของข้าแล้ว และข้าก็มั่นใจแล้วว่าข้า…รักเจ้า”
กล่าวจบนายท่านก็โน้มใบหน้าลงมาประทับรอยจูบบนริมฝีปากบาง ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงด้วยความตกใจ ทั้งคำพูดและการกระทำมันไม่ควรจะเกิดขึ้นท่ามกลางคนหมู่มากเช่นนี้ นางจะขยับตัวหนีแต่อีกฝ่ายได้ยกมือขึ้นมาจับที่ไหล่บางทั้งสองข้างตรึงไว้ ทำให้นางได้รับสัมผัสอันหวามไหวจากรสจูบนั้นอย่างเต็มที่ ก่อนที่ความอายจะแผ่ซ่านไปมากกว่านี้ เหม่ยหวาจึงปิดเปลือกตาลง แล้วพยายามจินตนาการว่าในตอนนี้มีแค่เขาและนางบนถนนสายนี้เท่านั้น