สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 23
เช้าวันต่อมา…
“ข้าต้องไปแล้วนะเจ้าคะท่านพ่อท่านแม่ ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ”
“เจ้าเองก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ๆ”
“เจ้าค่ะ”
“ข้าคงคิดถึงพี่เหม่ยเหมยมากแน่ ๆ” ดูเหมือนว่าเด็กชายตัวน้อยกำลังจะร้องไห้ เมื่อรู้ว่าวันนี้พี่สาวจะต้องกลับไปทำงานในจวนแล้ว
“พี่เองก็จะคิดถึงเจ้าเช่นกัน อย่าดื้ออย่าซน ดูแลท่านพ่อท่านแม่แทนพี่ด้วยนะอาไห่”
“ขอรับ”
เหม่ยหวากอดร่ำลาคนในครอบครัวจนครบทุกคน จากนั้นรถม้าก็วิ่งมาถึงหน้าบ้านพอดี
“ข้าไปล่ะท่านทั้งสอง เอาไว้มีโอกาสข้าจะมาเยี่ยมเยียนใหม่” ท่านแม่ทัพหยางว่า
“เป็นเกียรติของบ้านเรายิ่งนักที่ท่านแม่ทัพให้ความไว้เนื้อเชื่อใจเช่นนี้ บ้านสกุลหานยินดีต้อนรับท่านแม่ทัพเสมอขอรับ” หัวหน้าครอบครัวอย่างหานจางเหว่ยกล่าวพร้อมค้อมตัวคารวะ
“เมื่อไปถึงแล้วข้าจะให้คนมาส่งของให้นะอาไห่ เอาไว้ข้าจะมาใหม่”
“ขอรับท่านแม่ทัพ คราวหน้าท่านต้องมาสอนยิงธนูให้ข้าน้อยด้วยนะขอรับ”
“ได้สิ ข้าสัญญา” หยางจื่อถงวางมือบนกลางกระหม่อมเด็กชายอย่างเอ็นดู แล้วหันไปมองหน้าสาวใช้ที่ยืนข้างกัน นางเอาแต่ทำเป็นเมินเฉยไม่มีสัญญาณตอบกลับใด ๆ
“กลับกันเถิด”
ท่านแม่ทัพหยางกล่าวแล้วเดินนำหน้าขึ้นไปยังรถม้า เหม่ยหวาสนทนากับคนในครอบครัวแค่สองสามคำก็ตามขึ้นมา นางจะนั่งข้างหน้าข้างคนขับแต่นายท่านไม่ยอม เรียกให้เข้าไปนั่งข้างในด้วยกัน เป็นเช่นนั้นมีหรือที่นางจะขัดได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าเขาแม้แต่เสี้ยววินาที หยางจื่อถงนั่งจ้องหน้าสาวใช้ด้วยแววตาที่แข็งกร้าว แม้จะโมโหที่นางไม่ยอมสนทนาด้วยแต่ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ เพราะไม่อยากจะทำให้ความสัมพันธ์ต้องขุ่นมัวไปมากกว่านี้
ระหว่างทางไม่มีคำพูดใดออกจากปากทั้งสองจนมาถึงจวน เหม่ยเหมยลงจากรถม้าก็พบว่าคุณหนูซินอวี่และอาเฟยได้มายืนรออยู่แล้ว นางเข้าไปคารวะคุณหนูและทักทายพี่อาเฟย ส่วนท่านแม่ทัพไม่ยอมพูดจากับผู้ใด รีบเดินตรงไปยังเรือนที่พักด้วยสีหน้าที่เย็นชาเช่นเคย
“ท่านพี่เป็นอะไรหรือเหม่ยเหมย ทำไมถึงได้เดินหน้าบึ้งกลับไปอย่างนั้น”
“บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ”
“จริงหรือว่าไม่รู้ ข้าว่าเจ้าต้องรู้แน่ ๆ แต่ไม่ยอมบอกข้า”
“บ่าวไม่ทราบจริง ๆ เจ้าค่ะ” นางเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตา แค่นั้นก็พอจะเดาออกว่าทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ผิดใจกัน
“แล้วเป็นอย่างไรบ้างได้กลับไปเยี่ยมบ้าน” อาเฟยเป็นฝ่ายถาม
“มีความสุขดีเจ้าค่ะพี่อาเฟย รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้นเลยล่ะ”
“ดีแล้ว ต่อไปนี้ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องรับมือท่านพี่หนักขึ้นพอสมควรเชียวล่ะ” ซินอวี่กล่าวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีเลศนัย
“คุณหนูหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”
“ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นล่ะ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”
“บ่าวไม่ทราบจริง ๆ เจ้าค่ะ” นางรู้อยู่แก่ใจแต่ต้องทำเป็นไม่รู้ เพราะเรื่องระหว่างนางกับท่านแม่ทัพนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว นางประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมเป็นอนุใคร ส่วนนายท่านเองก็ประกาศชัดเจนว่านางไม่มีทางเป็นฮูหยินออกหน้าออกตาได้เช่นกัน นางและเขาเหมือนเป็นเส้นขนานกันแล้วในตอนนี้
“เอาเถอะ เจ้ากลับมาเหนื่อย ๆ กลับไปพักผ่อนก่อนแล้วค่อยว่ากัน คืนนี้ข้าจะพาออกไปเที่ยวนอกจวน”
“เที่ยว! เที่ยวที่ไหนเจ้าคะ”
“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าคืนนี้มีงานเทศกาลหยวนเซียว ข้าขออนุญาตท่านแม่เรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง”
“บ่าวตื่นเต้นจังเลยเจ้าค่ะ อยากให้ถึงตอนค่ำเร็ว ๆ จัง” เหม่ยหวายิ้มทันทีเมื่อจะได้ออกไปเที่ยวนอกจวนในยามค่ำคืนเช่นนี้
“ข้าก็ตื่นเต้นอยากให้ถึงเร็ว ๆ เช่นกัน”
“ถ้าเช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อนนะเจ้าคะ จะได้รีบไปเตรียมตัว”
“อื้ม ไปเถอะ”
เหม่ยหวาเดินตรงไปยังเรือนที่พักเช่นกัน ส่วนคนที่เหลือนั้นต่างก็ยืนมองหน้ากันยิ้ม ๆ เหมือนมีความลับอะไรบางอย่างที่รู้กันเพียงสองคน
ค่ำวันนั้น…
คุณหนูซินอวี่ให้คนขับรถม้าออกไปส่งที่กลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลโคมไฟประจำทุกปี เนื่องจากจวนของท่านแม่ทัพตั้งอยู่ในเมือง ทำให้พื้นที่จัดงานและจวนห่างกันไม่มากสักเท่าไหร่ แต่เพื่อความปลอดภัยหยางฮูหยินจึงให้คนขับรถม้ามาส่งนั่นเอง
“ว้าว! งดงามมากเลยเจ้าค่ะคุณหนู โคมไฟมีแต่สวย ๆ ทั้งนั้น” เมื่อลงมาจากรถม้าแล้วเหม่ยหวาก็เอาแต่กวาดสายตามองไปรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“เจ้าไม่เคยมางานแบบนี้เลยหรือ”
“บ้านของบ่าวห่างจากที่นี่มากพอสมควรเจ้าค่ะ จึงไม่ได้มีโอกาสมาเลยสักครั้ง จะมีก็แต่งานเล็ก ๆ แถวหมู่บ้านเท่านั้น”
“ดีเลย ต่อไปนี้เจ้าจะต้องมาเที่ยวกับข้าทุกปีนะ”
“เจ้าค่ะ”
“พี่อาเฟยด้วยนะ”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
“ถ้าเช่นนั้นไปเลือกซื้อโคมไฟสวย ๆ กันเถอะนะ”
“เจ้าค่ะ”
ทั้งสามสาวเดินเข้าไปในงานพร้อมกันด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มมีความสุข ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่กำลังเดินขวักไขว่ ทุกบ้านจะมีโคมไฟแขวนประดับหน้าบ้าน ทางเดินตรงกลางจะมีโคมไฟห้อยเป็นสายไปไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
ทั้งสามสาวได้โคมไฟคนละอันติดมือมา จากนั้นก็เดินเลือกซื้อของที่พ่อค้าแม่ค้านำมาตั้งโต๊ะวางขาย แม้ว่าความสนุกสนานและตื่นตาจะทำให้เหม่ยหวายิ้มได้ตลอด ทว่าในใจนางยังคงนึกถึงแต่หน้านายท่าน ออกมาเที่ยวกับคุณหนูนางไม่ได้บอกกล่าว กลับเข้าไปในจวนจะต้องโดนตำหนิเป็นแน่แท้ แต่ก็ยังพออุ่นใจนั่นเพราะได้รับอนุญาตจากฮูหยินแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีคนให้พึ่งพิงได้หากแม้นโดนดุด่าจริง ๆ
“เหม่ยเหมยเจ้ายืนรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ข้ากับพี่อาเฟยจะแวะไปซื้อของตรงโน้นสักประเดี๋ยว”
“อ้าว! ทำไมไม่ให้บ่าวไปด้วยล่ะเจ้าคะ”
“เอาน่ารอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพวกข้ามา อย่าเดินไปไหนนะรอตรงนี้”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
แม้นางจะรู้สึกฉงนกับท่าทีของนางทั้งสอง แต่เหม่ยหวาก็ไม่ได้เอะใจอะไร นางยังคงยืนถือโคมไฟเล็ก ๆ ที่ซื้อมาเมื่อครู่ กวาดสายตามองผู้คนรอบตัวอย่างรู้สึกเพลินตา ฝั่งโน้นมีการเชิดสิงโตด้วย นางอยากจะไปดูใกล้ ๆ แต่ต้องรอให้คุณหนูกับพี่อาเฟยกลับมาก่อน
“อยู่ไหนกันนะ”
เสียงที่คุ้นหูดังอยู่ใกล้มาก เหม่ยหวาจึงหันไปมองยังต้นเสียง ก็พบว่ามีบุรุษท่านหนึ่งยืนเอียงหน้ามองไปยังอีกฝั่ง แม้จะเห็นเพียงด้านข้างก็รู้สึกคุ้น ๆ ทว่าเมื่อเขาหันมามองเท่านั้นล่ะทุกอย่างก็ถูกเฉลย
“นายท่าน!”
“เหม่ยเหมย!”
“นายท่านมาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ”
“เจ้านั่นล่ะมาได้อย่างไร มากับผู้ใด ทำไมไม่ยอมบอกข้าเลยสักนิด”