สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 22
“เอ่อ…ก็เรื่องที่เจ้าบังอาจไปอ่อยผู้ชายคนอื่นอย่างใดเล่า เป็นสาวใช้ข้าไม่ควรทำพฤติกรรมอย่างนั้นต่อหน้าบุรุษคนอื่น เข้าใจหรือไม่” หยางจื่อถงรีบสบถออกมาโดยเร็วแทบไม่หายใจหายคอ
“บ่าวไปอ่อยผู้ชาย ใครเล่าให้นายท่านฟัง อาไห่ใช่หรือไม่”
“อาไห่บอกว่ามีคุณชายบ้านไหนก็ไม่รู้มาสนใจเจ้า มันจริงหรือไม่”
“จริงเจ้าค่ะ แต่บ่าวไม่ได้อ่อยและไม่ได้สนใจคุณชายท่านนั้นเลย และอีกอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัวของบ่าวนะเจ้าคะ นายท่านจะมาห้ามอย่างนี้ไม่ได้”
“ข้ามีสิทธิ์ห้าม ตราบใดที่เจ้ายังเป็นบ่าวรับใช้ในจวนข้า” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ สีหน้าจริงจังจนเหม่ยหวาต้องยอม ไม่เช่นนั้นเรื่องคงไม่จบเป็นแน่
“บ่าวรับทราบและจะนำไปปฏิบัติเจ้าค่ะ นายท่านดื่มชาร้อน ๆ ก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
“เอามาสิ”
เมื่อนางยอมตกปากรับคำ หยางจื่อถงก็แอบยิ้มอย่างพอใจ ชำเลืองตามองดูสาวใช้กำลังรินน้ำชาใส่จอกให้อย่างตั้งใจ ทุกท่วงท่าของนางช่างทำให้เขารู้สึกหลงใหลยิ่งนัก มองเท่าไรก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อ
“ชาร้อน ๆ เจ้าค่ะ”
นางยื่นจอกชาให้นายท่านแล้วจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทว่าท่านแม่ทัพหยางรีบเอ่ยปากท้วงติงเสียก่อน
“นั่งเป็นเพื่อนข้าก่อนสิ”
“เอ่อ…”
“ห้ามมีข้อแม้ ถึงจะอยู่ที่บ้านเจ้าแต่ข้าก็มีสิทธิ์ออกคำสั่ง”
“เจ้าค่ะ”
นั่งยอมนั่งลงบนเตียงในอาการสำรวม เมื่อความเงียบเข้าครอบงำก็ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนก่อนจะมา นายท่านลวนลามนางหลายครั้งหลายคราอย่างหน้าไม่อาย แล้วเหตุใดจึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนี้
“ข้าชอบบรรยากาศที่นี่ น่าอยู่ยิ่งนัก”
“แน่นอนเจ้าค่ะ แม้บ้านเราจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็มีความสุขมาก ๆ แต่ถึงอย่างไรเงินก็สำคัญอยู่ดี หากบ่าวตั้งหลักได้จะกลับมาช่วยท่านพ่อท่านแม่ทำไร่ทำสวนเช่นเดิมเจ้าค่ะ”
“เจ้าคิดหรือว่าข้าจะปล่อยเจ้ากลับมาง่าย ๆ”
“ถึงไม่ง่ายแต่ก็ต้องมีสักวันอยู่ดีเจ้าค่ะ”
“ข้าอยากได้เจ้ามาเป็นอนุ หลังจากแต่งงานมีฮูหยินแล้ว”
คำพูดที่ออกมาจากปากเขา ทำให้เหม่ยหวาหันขวับไปมองคนที่ยืนเอามือขัดหลังอยู่ เหตุใดจึงรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ที่กลางใจเช่นนี้กันนะ ที่เขาทำมาทั้งหมดเพียงเพราะอยากให้นางเป็นอนุงั้นหรือ ใช่สินะ หญิงที่ต่ำศักดิ์เช่นนางคงเป็นได้เพียงอนุของท่านแม่ทัพเท่านั้น หากคนที่จะมาเป็นฮูหยินของเขาคงจะต้องเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของบ้านหลังไหนสักหลัง จึงจะเหมาะสมกัน
นางคงมีโอกาสได้เป็นเพียงเท่านี้…
“บ่าวไม่ต้องการเจ้าค่ะ บ่าวภูมิใจที่จะเป็นสาวใช้อย่างนี้ไปจนวันตาย นายท่านอย่าหวังว่าจะยัดเยียดสถานะนั้นให้กับบ่าวได้ นี่ก็เริ่มดึกแล้วบ่าวขอตัวนะเจ้าคะ” นางลุกขึ้นยืนแล้วจะเดินกลับเข้าไปในเรือน ทว่าหยางจื่อถงรีบคว้ามือเรียวนั้นไว้ ดึงร่างบอบบางเข้ามาปะทะเรือนกายตนเอง
“ข้าพูดจริง ๆ ข้าอยากได้เจ้า” เขาพูดทั้งที่ยังจ้องตากัน มือหนาทั้งสองข้างโอบกอดเรือนกายอรชร เพื่อรั้งตัวไม่ให้หนีไปไหน
“บ่าวก็พูดจริง ๆ ว่าไม่ต้องการเป็นอนุของใคร บ่าวยินดีที่จะแต่งงานออกเรือนกับหนุ่มบ้านนอก เป็นเมียเดียวยังดีกว่าไปเป็นอนุของพวกคนรวยเจ้าค่ะ” เมื่อเขาจริงจังนางก็จริงจังเช่นเดียวกัน ให้รู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งเรื่องหัวใจ นางจะยอมแค่ในหน้าที่เท่านั้น
“ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าให้กับใคร ในเมื่อเจ้าเข้ามาในชีวิตข้าแล้ว”
ท่านแม่ทัพอย่างผู้เอาแต่ใจโน้มใบหน้าเข้าไปประทับรอยจูบบนริมฝีปากบาง กวาดต้อนเอาความหอมหวานอย่างมิรู้เบื่อจนนางยอมอ่อนข้อให้ ยอมยืนนิ่ง ๆ ไม่ได้ตอบโต้
“นายท่านรักบ่าวแล้วหรือเจ้าคะ ถึงได้ทำอย่างนี้” นางเงยหน้าขึ้นไปถามตรง ๆ วัดใจกันไปเลยว่าเขาจะตอบอย่างไร และคิดว่าคำถามนี้ล่ะจะทำให้นางรอดพ้นจากเนื้อมมือของนายท่านได้
“ข้า…ไม่ได้รัก แต่ข้าก็คิดว่า…” สีหน้าที่เคยเย็นชาบัดนี้ดูออกชัดเจนว่ากำลังสับสน ขาดความมั่นใจ ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ถึงแม้ว่าบ่าวจะไม่เคยรักบุรุษใดเลย แต่บ่าวก็เคยคิดไว้ว่าหากในอนาคตต้องออกเรือน ต้องฝากชีวิตไว้กับผู้ใด มันจะต้องเกิดจากความรักเท่านั้น และที่สำคัญบ่าวจะไม่ยอมเป็นอนุของผู้ใดเด็ดขาด บ่าวไม่มีวันยอม” นางจ้องตาเขาอย่างไม่ลดละ ใช้โอกาสในช่วงที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความคิด ผลักแผงอกกำยำให้ออกห่างจากตัว เดินกลับเข้าไปในเรือนโดยเร็ว
คนที่ยืนอยู่ได้แต่มองตามหลังด้วยสายตาที่เจ็บปวด เมื่อได้ยินคำกล่าวนั่นก็ทำให้เจ้าตัวคิดหนัก เพราะไม่สามารถที่จะยกตำแหน่งฮูหยินให้นางได้ เขาพอใจในตัวเหม่ยหวาอย่างไม่รู้ตัว มาถึงตอนนี้แล้วกลับขาดนางไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาที
“แม้ข้าจะยังไม่ได้รัก แต่ข้าก็รู้สึกดีกับเจ้านะเหม่ยเหมย”
คำกล่าวที่แผ่วเบานั้นเจือความสิ้นหวังเอาไว้ด้วย