สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 12
“กรี๊ดดดด!!!”
“เจ้าร้องทำไมเล่า มีอะไรน่ากลัวงั้นหรือ” จื่อถงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง เหมือนมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในใจกลับสะใจเป็นบ้า ที่สามารถเอาชนะแม่สาวใช้ตัวดีได้ และได้รู้แล้วว่าอะไรที่จะทำให้นางขยาดกับการเข้ามาดูแลรับใช้ตนเอง
“นะ…นายท่านปล่อยบ่าวเดี๋ยวนี้นะเจ้าคะ บ่าวจะออกไปรอข้างนอกก่อน”
“จะไปไหน ถูหลังให้ข้าก่อนสิ มิเช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้าบกพร่องในหน้าที่”
“นายท่านปล่อยบ่าวก่อนสิเจ้าคะ นะเจ้าคะ”
“ก็ได้ ข้าจะปล่อย แต่เจ้าห้ามหนีไปไหนเด็ดขาด” เขาชี้หน้าคาดโทษ เดินโทงเทงลงไปยังถังไม้ที่บรรจุน้ำอุ่นเอาไว้
เมื่อเรือนกายกำยำอยู่ภายใต้มวลน้ำแล้วเหม่ยหวาก็รู้สึกโล่งใจ นางพยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้ลนลานไปมากกว่านี้ กำลังยืนทำใจก็มีเสียงของนายท่านดังขึ้นอีก
“จะยืนอยู่ทำไมเล่า เข้ามาถูหลังให้ข้าสิ”
“เจ้าค่ะ”
เหม่ยหวาเดินเข้าไปยืนข้างถังไม้ ยื่นมือน้อย ๆ ไปสัมผัสที่แผ่นหลังกว้างอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ นางเองก็เพิ่งจะรู้ตัว ว่าหวาดหวั่นกับเรือนกายของบุรุษมากขนาดนี้ เมื่อได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นความประหม่ายิ่งทวีคูณ จากคนที่เคยเก่งกาจและทันคน บัดนี้กลายเป็นลูกแมวตัวน้อยภายในอุ้งมือนายท่านไปเสียแล้ว
“มีแรงแค่นั้นหรือ ข้าแทบไม่รู้สึกว่าเจ้ากำลังถูหลังให้ข้าเลย”
“บ่าวทำเต็มที่แล้วนะเจ้าคะ หากนายท่านยังไม่พอใจก็ถูเองเลยสิเจ้าคะ”
“หากข้าทำเองได้ข้าทำไปแล้ว เจ้ามีหน้าที่ดูแลข้าไม่ใช่หรือ”
“ใช่เจ้าค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้นหลังจากนี้ก็มาถูหลังให้ข้าทุกวัน ดีหรือไม่”
“ไม่ดีเจ้าค่ะ บ่าวว่าให้คนอื่นมาทำหน้าที่นี้แทนบ่าวดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ดี! ในเมื่อเจ้าเป็นคนอยากจะทำหน้าที่นี้ตั้งแต่แรก ไล่อย่างไรก็ไม่ไป เจ้าจะต้องทำหน้าที่นี้ไปจนกว่าข้าจะพอใจ” กล่าวจบก็ยกยิ้มมุมปาก นั่งแช่ตัวในน้ำอุ่นอย่างสบายใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากจะเอาชนะแม่นางผู้นี้เหลือเกิน ทั้งที่สาวใช้คนก่อน ๆ นั้นเขามักจะเกรี้ยวกราดใส่จนขวัญหนีดีฝ่อ พอนางอยากจะไปก็ปล่อยไปง่าย ๆ แต่สำหรับนางผู้นี้อยากจะแกล้งให้นาน ๆ พอได้แกล้งแล้วรู้สึกสนุก ชีวิตมีสีสันกว่าที่เคย
“บ่าวทำได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ คือบ่าว…เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยังไม่ควรจะต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ทุกวันเจ้าค่ะ นายท่านโปรดเห็นใจบ่าวด้วย”
“แบบนี้ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร แบบข้ามันไม่ดีตรงไหนเล่า”
“ไม่ใช่ไม่ดีเจ้าค่ะ เพียงแต่บ่าวว่ามันไม่ควร เพราะบ่าวยังเด็กเกินไป”
“ข้าว่าเจ้าไม่เด็กแล้วนะ หากเจ้าอยากเรียนรู้อะไรให้มากกว่านี้ ข้ายินดีจะสอนเจ้าให้รู้จักทุกซอกทุกมุมของเรือนกายบุรุษ เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร” จื่อถงเงยหน้าขึ้นไปมองสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
เหม่ยหวารีบหลบตาท่านแม่ทัพหยาง ขมวดคิ้วทำหน้าคิดหนัก คนเย็นชาผู้นั้นหายไปไหนแล้วนะ เหตุใดนายท่านถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ปุบปับจนนางตามแทบไม่ทัน กลับกลายเป็นนายท่านผู้หมกมุ่นในเรื่องกามารมณ์ไปเสียแล้ว อย่างอื่นพอทนไหวแต่นิสัยแบบนี้นางกลัวเหลือเกินว่าจะพลาดท่าให้ในสักวัน เพราะนางเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น หาได้มีสิทธิ์มีเสียงฝ่าฝืนคำสั่ง
“เอ่อ…บ่าวขอตัวไปเอาผ้ามาให้นายท่านก่อนนะเจ้าคะ” นางรีบเปลี่ยนเรื่องไม่ยอมตอบคำถาม กำลังจะก้าวเท้าเดินไป ทว่าข้อมือน้อย ๆ กลับถูกรั้งเอาไว้จนเสียหลักเซล้มลงไปในถังน้ำ “ว้ายยย!!!”
จื่อถงเองก็ตั้งตัวไม่ทันเมื่อเจอสถานการณ์เช่นนั้น รู้แค่ว่าต้องทำให้นางปลอดภัยที่สุด เขาดึงร่างบอบบางให้ลงมาสู่อ้อมอก ก่อนที่ศีรษะจะกระแทกกับขอบอ่างเสียก่อน เหม่ยหวาปิดเปลือกตาแน่นสนิทด้วยความตกใจกลัว เมื่อคิดว่าปลอดภัยแล้วนางจึงเปิดเปลือกตาขึ้น จนพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่มเสียแล้ว เนื้อตัวเปียกปอนจนทำให้อะไรต่อมิอะไรโดดเด่นต่อสายตาของนายท่าน
เหตุใดอ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
ไม่ใช่ความอบอุ่นอย่างที่บิดานางเคยกอด
…มันแปลกกว่านั้น
ริมฝีปากอวบอิ่มขยับเล็กน้อย ส่งผลให้คนที่กำลังจ้องมองรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า อยากจะครอบครอง อยากลิ้มลองว่ารสชาติมันจะเป็นเช่นไร เหตุใดจึงรู้สึกหิวกระหายเรื่องอย่างว่าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ไม่จริง! เขาต้องไม่เกิดอารมณ์กับนางผู้นี้เด็ดขาด มันไม่มีทางเป็นไปได้ ภายในใจส่งเสียงห้าม ทว่าใบหน้ากลับไม่ยอมฟัง มันโน้มเข้าหาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง
นางพยายามขยับกายแต่นายท่านกลับตรึงร่างไว้แน่น โน้มใบหน้าคมคายลงมาประทับรอยจูบบนริมฝีปาก เมื่อได้ลิ้มลองกลับรู้สึกอร่อยเกินห้ามใจ ตักตวงลมหายใจอย่างบ้าคลั่งราวกับหิวโหยสิ่งนี้มานาน ทว่าแม่นางที่อยู่ในอ้อมกอดพยายามหลีกหนีจากวินาทีอันน่าละอายนั่น แต่มีหรือที่ท่านแม่ทัพหยางผู้ห่างจากการสัมผัสเรือนกายของสตรีมานาน จะยอมปล่อยให้นางได้มีโอกาสเป็นอิสระได้