Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 727 วิถีสวรรค์เป็นพยาน (2)
TQF:บทที่ 727 วิถีสวรรค์เป็นพยาน (2)
“วิทยายุทธของพวกเจ้าอยู่ใต้จักพรรดิเทพเซียน ไม่รู้รึไงว่าบ่วงกรรมในชีวิตของผู้ฝึกฝนวิทยายุทธเป็นที่กำหนดไว้แล้ว หากอยากจะขัดสวรรค์ก็ต้องไม่มีเรื่องที่ละอาย พวกเจ้ารู้มั้ยว่าสิ่งใดคืออานุภาพแห่งบุญ สิ่งใดคือไฟบาป ทุกอย่างล้วนควบคุมโดยวิถีสวรรค์ วันหน้าอยากจะบรรลุเป็นเซียนสวรรค์ก็ต้องถูกมารในใจตามหลอกหลอน สุดท้ายแล้วก็ต้องตายด้วยเคราะห์ฟ้าผ่า วิญญาณสลายอยู่ในปฐพีนี้”
“…..”
เงียบ ทั่วทั้งลานกว้างเงียบฉี่ ราวกับเหลือเพียงเสียงหัวใจเต้นและเสียงลมหายใจ
คำพูดของโม่ซวนซุนคลับคล้ายคลับคลาจะเปิดโปงว่าทำไมผู้ฝึกฝนวิทยายุทธของผืนดินฉางไห่ถึงไม่สามารถก้าวสู่ขั้นสุดท้ายได้ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่มีพรสวรรค์เหนือผู้อื่นล้วนติดอยู่ที่ระดับเทพเซียนและจักพรรดิเซียน บางคนไม่สามารถบรรลุเป็นเทพเซียนได้เลย เมื่อมีชีวิตไปหลายแสนปีก็สิ้นชีวิตลงหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเคราะห์ฟ้าผ่าเลย เรียกได้ว่าหลายล้านปีที่ผ่านมานี้ไม่มีใครทำให้เคราะห์ฟ้าผ่าปรากฏออกมาได้เลย
ที่แท้ความจริงเป็นแบบนี้นี่เอง
เหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธรู้หมดแล้ว
เพราะตั้งแต่ที่ผู้ก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังสร้างตำนานขึ้น ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธนับไม่ถ้วนตั้งเขาเป็นเป้าหมาย เพื่อวิทยายุทธของตัวเองแล้วพวกเขาไม่สนว่าถูกหรือผิด ขอแค่เป็นประโยชน์ต่อตัวพวกเอง พวกเขาสามารถฆ่าใครก็ได้ ไม่เคยใส่ใจปัญหาเล็กน้อยอย่างบ่วงกรรมเลย รู้แค่เมื่อมีทรัพยากรที่มากพอก็จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้ คนเหล่านี้ลืมหมดแล้วว่าดีชั่วคืออะไร การกระทำเลวร้ายน่ารังเกียจ ตอนแรกที่ได้ทุกอย่างมาบรรลุได้เร็วขึ้นจริงๆ แค่เมื่อระดับวิทยายุทธสูงขึ้นเรื่อยๆก็จะบรรลุยากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเจอกับวิทยายุทธของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนแล้วเกินความคาดหมายของคนเหล่านี้จริงๆ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าที่ 2 คนนี้มีวิทยายุทธสูงขนาดนี้เพราะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับบ่วงกรรมเลย ที่สำคัญคือเฉิงเสี่ยวเสี่ยวครอบครองมิติซึ่งแยกตัวออกจากการควบคุมของฟ้าดิน บรรลุได้ง่ายยิ่งกว่ากินข้าว
“เวรกรรมตามทันแล้ว จะดีหรือชั่วฟ้าดินย่อมรู้ดี ทุกอย่างล้วนมีราคา มอบไอแก่หนังเหนียวที่ฆ่าเผ่าอสูรของเราไปร้อยกว่าคนมาซะ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษที่พวกเราจะไล่ฆ่าพวกเจ้าทุกคนแล้วกัน”
สีหน้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวขรึมลง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอันตราย กลิ่นไออาฆาตแผ่พุ่งออกจากตัวและกล่าวต่อ “พวกเจ้าเป็นคนก่อเหตุย่อมต้องแบกรับผลที่ตามมา ส่วนพวกเราต่อให้ต้องฆ่าลูกศิษย์พวกเจ้าอีกนับหมื่นคนสาเหตุก็มาจากพวกเจ้าเองทั้งนั้น ข้าไม่กลัวไฟบาปอะไรทั้งนั้น”
จิตใจทุกคนสะเทือนอย่างแรง รู้สึกได้ถึงความกดดันด้วยใจที่สั่นไหว กลิ่นไอสยองขวัญปกคลุมไปทั่ว
“พวกเจ้าอย่ามาทำทีเป็นข่มขวัญพวกเราหน่อยเลย จู่ๆก็นำเอาเผ่าอสูรนับแสนคนมาอยู่ในถิ่นมนุษย์พวกเจ้าต้องมีแผนร้ายแน่ มาหลอกลวงคนที่นี่ก็เพราะกลัวว่าพวกเราจะเปิดโปงแผนของพวกเจ้าล่ะสิ ถึงแต่ใช้อุบายแบบนี้ปั่นหัวผู้อื่น”
ประกายในแววตาหัวหน้ากลุ่มชราริบหรี่ สีหน้าอึมครึมตอบด้วยท่าทีจิกกัด
ขณะนั้นมหาผู้อาวุโสแห่งสำนักตันซือหายตัวมาอยู่ตรงหน้าหัวหน้ากลุ่มชราแห่งกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังและเอ่ยเสียงเย็น “พวกเจ้ามาอยู่ที่งานประลองการสกัดยาของเรา แล้วยังขัดขวางการเริ่มงานอีกด้วย ยังกล้าบอกว่าไม่มีแผนร้ายอีกเหรอ น่าขันเสียจริง”
“ถูกต้อง เผ่าอสูรของเจ้าหายไปหมดในค่ำคืนเดียว ตอนนี้ยังมาผนึกลานกว้างทั้งลานอีก พวกเจ้าคิดจะกำจัดผู้รอคัดเลือกของผืนดินฉางไห่ให้หมดแล้วเอาเผ่าอสูรของเจ้ามาปักหลักแทนที่ใช่มั้ย ทุกคนอย่าโดนพวกเขาหลอกนะ เผ่าอสูรมีแต่พวกโหดเหี้ยมชั่วร้าย ทุกคนต้องระวัง” มหาผู้อาวุโสแห่งสำนักวั่นตันก็มาปรากฏตัวข้างกายทั้งคู่ ตะโกนทำทีผดุงคุณธรรม
เมื่อได้ฟังพวกเขาตอกกลับแบบโจรร้องเรียกให้จับโจร เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ไอแก่หนังเหนียวพวกนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
กลับเป็นโม่ซวนซุนที่อึ้งไปเพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะมาไม้นี้ ก่อนจะบันดาลโทสะ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นยะเยือก นัยน์ตาคมกริบเป็นประกายเสมือนเหยี่ยวที่ล่าเหยื่อจ้องมองไปที่ไอแก่หนังเหนียวทั้ง 3 คน
เหล่าปีศาจเฒ่าและตัวแทนจาก 10 ตระกูลใหญ่แห่งชิงยางที่นั่งอยู่บนเวทีล้วนมีสีหน้าแปลกๆ พวกเขาที่รู้ทุกอย่างดีไม่รู้จะพูดอะไร ไม่คิดเลยว่าจะได้เป็นอาวุโสทั้ง 3 ท่านอันเป็นที่เคารพกลับดำเป็นขาว โจรตะโกนจับโจรขนาดนี้ พวกเขาหมดคำจะพูดและรู้สึกขบขันเหลือเกิน
มีแต่สีหน้าของตาแก่ซอมซ่อไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เขารู้ดีว่าลูกศิษย์ของตัวเองเป็นคนยังไง เรื่องที่เหล่าผู้อาวุโสหารือกันเมื่อกี้เขาได้ยินกับหู ความเป็นมาต่างๆเขารู้แจ้งกระจ่าง
แต่ปีศาจเฒ่าพวกนี้กลับทำตัวต่ำทราบขนาดนี้เพียงเพื่อกอบกู้หน้า ไม่มีความรับผิดชอบเลยสักนิด แล้วยังเป็นเพื่อนเก่าแก่ที่เขาคบมานับหมื่นปีอีก ทำให้เขาโกรธเคืองเหลือเกิน
ถ้าไปรังแกคนอื่นอย่างมากเขาก็แค่ดูถูกเหยียดหยามอีกฝ่ายเท่านั้น แต่ตอนนี้คนที่โดนคือลูกศิษย์ของเขา จะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร ที่ว่าโดนโจรกัดกลับ เข้ากระดูกลึกถึง 3 นิ้ว
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทันทีที่ปีศาจเฒ่า 3 คนนี้กัดกลับทีก็ทำให้ผู้คนล่างเวทีแสดงความเห็นกันคับคั่งอีกครั้ง เริ่มคลางแคลงใจกับความจริงของเรื่อง ถึงอย่างไรปีศาจเฒ่า 3 คนตรงหน้าก็ฝังรากลึกลงในใจของทุกคนแล้ว ไม่ยากที่จะมีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มลังเล
“ไอแก่ พวกเจ้านี่หน้าด้านจริงๆ พูดจาเหลวไหลใส่ร้ายพวกเรา ไอพวกตาแก่หนังเหนียวสมควรตาย”
หยูเฮงน้อยแค้นอยู่ในใจ พลังลมปราณอันยิ่งใหญ่องอาจระเบิดออกจากร่างเล็กๆของนาง ไม่ปิดบังพลังอาฆาตเลยสักนิด
“เหอๆๆ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่โกรธกลับหัวเราะและมองปีศาจเฒ่าทั้ง 3 คนผู้มีกระดูกเซียน “ในเมื่อพวกเจ้าเลือกเดินทางนี้ งั้นข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง พวกเจ้าอยากเห็นเรามีแผนร้าย หวังว่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธของพวกเจ้าผืนดินฉางไห่ถูกพวกเราเข่นฆ่า ข้าว่าไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวังดีกว่า ไม่อย่างนั้นคงจะไม่คุ้มกับสิ่งที่พวกเจ้าทำมาขนาดนี้”
“เจ้าหมายความว่ายังไง” หัวหน้ากลุ่มชรากลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังถามเสียงขรึม รู้สึกลางไม่ดีอยู่ในใจ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองตาแก่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเยือกเย็น “ง่ายมาก ข้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวขอสาบาน ณ ที่นี้ว่าจะล้างบางสมาชิกที่ระดับสูงกว่าก้าวสู่เทพเทวาจากกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชัง สำนักวั่นตัน สำนักตันซือให้หมด ไม่ตายไม่เลิก หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้วเผ่าอสูรจะไม่ปรากฏตัวที่ผืนดินฉางไห่อีก”
“ตู้มมม….”
มีแสงสีทองผ่าลงมาจากฟ้าตามคำสาบานของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและเข้าสู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของนาง ราวกับถ้านางไม่ทำให้คำสาบานเป็นจริง วิถีสวรรค์จะกำจัดนางเอง
“อ๊ากกก…..”
ทุกคนอุทานขึ้นอย่างตกใจ แม้แต่ตาแก่ 3 คนที่ทำท่าทำทางจะทำเพื่อปวงชนยังอึ้งไป พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคำสาบานของยัยเด็กคนหนึ่งจะทำให้วิถีสวรรค์จุติลงมาเป็นพยาน
ใครๆก็รู้ว่าภาพที่วิถีสวรรค์จุติลงมานอกจากผูกมัดให้ผู้กระทำต้องทำภารกิจให้สำเร็จแล้วยังมีอีกความหมายหนึ่ง ก็คือวิถีสวรรค์สนับสนุนวิถีของนาง
หรือเรียกได้ว่าคนๆนี้ถูกล้างบางทั้งโคตรโดยที่ไม่ได้ทำอะไรและสาบานทันทีว่าจะแก้แค้น ปกติแล้วความคับแค้นใจแบบนี้จะได้รับการสนับสนุนจากวิถีสวรรค์ หรือก็คือบังคับให้คนนั้นๆทำตามวิถีสวรรค์
ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทุกคนของผืนดินฉางไห่เข้าใจเรื่องนี้ คำสาบานที่มีวิถีสวรรค์เป็นพยานแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก แต่เมื่อใดที่ปรากฏรับรองว่าเป็นของจริงแท้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องสร้างของปลอมขึ้นมา
ทุกคนอึ้งกันไปหมด ขณะเดียวกันทุกคนก็ได้รู้ว่าสิ่งที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนพูดเป็นความจริงทั้งหมด หรือก็คือเหล่าผู้อาวุโสแห่งทั้ง 3 สำนักโกหกทุกคน ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หน้าไม่อายที่สุด
โม่ซวนซุนกลับหัวเราะออกมาและส่ายหน้าเบาๆ “เพื่ออะไรกันล่ะ รู้อยู่แล้วว่าตัวเองเคยพูดอะไรทำอะไรไว้ พวกเจ้าปิดบังผู้คนได้แต่จะปิดบังวิถีสวรรค์ได้เรอะ โดยเฉพาะในผืนดินนี้ที่มีคำสาบานวิถีสวรรค์อยู่ รนหาที่ตายชัดๆ”
ทุกคนในสำนักทั้ง 3 ที่ถูกเอ่ยชื่อรู้สึกไอเย็นที่พุ่งขึ้นมาจากเท้า เสมือนพวกเขาตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง รู้สึกได้ถึงความหนาวสะท้านไปทั้งใจ
“พวกเรา….” มหาผู้อาวุโสรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าไปทั้งคน อ้าปากกว้างด้วยสติล่องเลย พูดออกมาได้แค่ 2 คำเท่านั้นและพูดอะไรไม่ออกอีก
——————————————–