สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย - บทที่ 1094 ตอนพิเศษ (1)
บทที่ 1094 ตอนพิเศษ (1)
บทที่ 1094 ตอนพิเศษ (1)
“เจ้าตื่นแล้ว!”
เสียงใสกระจ่างดังขึ้นมา
“หิวหรือยัง?”
ลู่ฉาวจิ่งลืมตาขึ้น เห็นเพียงตัวหน้าลาย*[1] ในงิ้ว อีกทั้งเจ้าของตัวหน้าลายยังเป็นหญิงสาว นอกจากดวงตาใสแจ๋วคู่นั้นแล้ว หน้าตาเป็นอย่างไรล้วนมองไม่ถนัด
ที่นี่คือที่ใด?
เหตุใดเขามาอยู่ที่นี่?
ลู่ฉาวจิ่งพยายามนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติไป
ก่อนหมดสติ…
เขาได้อันดับหนึ่งในการสอบประจำเดือนอีกครั้งจึงเฉลิมฉลองด้วยการดื่มสุรากับสหายร่วมศึกษาสองสามคนที่สนิทด้วย เขาดื่มมากเกินไปเล็กน้อยจึงเวียนหัว ภายหลังก็ไม่รู้ตัวแล้ว
“ที่นี่ที่ใด?” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ยถาม
“หมู่บ้านสกุลหลิ่ว”
“หมู่บ้านสกุลหลิ่ว…” ลู่ฉาวจิ่งไม่รู้ว่าเป็นที่ใด
เขาถามอีกครั้ง “เหตุใดข้ามาอยู่ที่นี่ได้? เจ้าเป็นผู้ใด?”
“เจ้าจำไม่ได้แล้วหรือ?” หลิวจิ่วจู๋นั่งลงบนเตียง มองเขาแล้วกล่าว “จริงสิ ตอนที่ข้าซื้อเจ้ามา เจ้ายังหมดสติอยู่ ไม่รู้ก็เป็นเรื่องธรรมดา”
“ซื้อ?” ลู่ฉาวจิ่งจับคำสำคัญได้จึงมองนางอย่างหวาดระแวง “ซื้ออะไร?”
“ข้าใช้เงินเก็บทั้งหมดไปกับเจ้า…” หลิวจิ่วจู๋ชูสามนิ้วขึ้นมา “ใช้เงินสามตำลึงซื้อเจ้ากลับมา”
ลู่ฉาวจิ่งผลุนผลันลุกขึ้นนั่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาลุกขึ้นนั่ง เขาจึงพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ขาของเขาเจ็บปวด ราวกับถูกของที่หนักมากทุบลงไป
“แม่นาง เจ้าช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังได้หรือไม่ ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้ากำลังพูดแม้แต่น้อย”
“เอาเถอะ เช่นนั้นข้าจะเล่าให้ละเอียดหน่อยก็แล้วกัน” หลิวจิ่วจู๋มองเขาด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะพึมพำเสียงเบา “ดูเหมือนไม่เพียงขาได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่สมองยังได้รับบาดเจ็บด้วย ข้าคงไม่ได้ซื้อเจ้างั่งกลับมากระมัง?”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
หลิวจิ่วจู๋เริ่มเล่าตอนที่พบกับลู่ฉาวจิ่งให้ฟัง
หลิวจิ่วจู๋เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านสกุลหลิ่ว เมื่อเดือนก่อน ท่านย่าที่นางพึ่งพาอาศัยจากไป หลังจากนั้น ผู้นำของหมู่บ้านสกุลหลิ่วก็พยายามรบเร้าให้นางแต่งงาน เขาแนะนำบุรุษมากมายหลายคนให้นางรู้จัก อย่างไรก็ตาม บุรุษเหล่านั้นไม่ได้ดีอะไร แน่นอนว่าหลิวจิ่วจู๋ไม่ยินดีแต่งจึงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา นั่นคือซื้อบุรุษสักคนแต่งเข้าบ้าน
“ตอนที่ข้าพบเจ้า เจ้าถูกขังอยู่ในกรง ได้ยินนายหน้าค้าทาสที่นั่นบอกว่าต้องการขายเจ้าออกทะเลทรายไปเป็นทาส ข้าคิดว่าเจ้าน่าสงสาร บังเอิญว่า นายหน้าค้าทาสผู้นั้นเคยได้รับความช่วยเหลือจากท่านย่าข้า ข้าจึงขอร้องให้ขายเจ้าให้ข้า ตอนที่ข้าซื้อเจ้ามา ขาของเจ้าก็บาดเจ็บแล้ว แต่วางใจเถิด ข้าจะช่วยรักษาเจ้าให้ทันเวลา อีกเพียงไม่กี่เดือนเจ้าก็จะกลับมาเป็นปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ”
“เจ้าซื้อข้าแต่งเข้าบ้านหรือ?” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ยอย่างจนปัญญา “เจ้าไม่กลัวข้าเป็นคนชั่วช้ารึ?”
“ไม่กลัว ข้าปกป้องตนเองได้ นอกจากนี้ ขาของเจ้าได้รับบาดเจ็บ หากเจ้าตื่นขึ้นมาแล้วข้าพบว่าเจ้าเป็นคนไม่ดี ข้าก็จะขายเจ้าออกไปอีกครั้ง อย่างนี้ก็ไม่ขาดทุน” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “เพียงแต่ ดูจากคำพูดคำจาของเจ้า เจ้าไม่ใช่คนชั่วช้า ท่านย่าบอกว่าดวงตาของคนผู้หนึ่งโกหกไม่ได้ ดวงตาของเจ้างดงาม แต่ไหนแต่ไรข้าไม่เคยเห็นดวงตาที่งดงามเช่นนี้มาก่อน เจ้าไม่มีทางเป็นคนชั่วช้าไปได้”
ลู่ฉาวจิ่งก็เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีเช่นกัน เมื่อเห็นความไร้เดียงสาของหลิวจิ่วจู๋ เขาก็ไม่คิดจะขู่นางให้กลัวอีกต่อไป
เสียงด่าสาดเสียเทเสียดังมาจากข้างนอก
“นังเด็กแสบ ไสหัวออกมา!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของหลิวจิ่วจู๋พลันแปรเปลี่ยน
“แย่ละ เป็นแม่เลี้ยงข้า”
นางเม้มริมฝีปากแล้วเดินออกไป
เพียงแต่เห็นได้ว่านางดูกังวล แววตานางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าสตรีข้างนอกนั่นเป็นเหมือนหายนะสำหรับนาง
“ท่านแม่…”
“เจ้ายังรู้ว่าข้าเป็นแม่เจ้าหรือ?”
“โอ๊ย เจ็บ…”
ลู่ฉาวจิ่งมองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างที่ผุพัง
เห็นเพียงสตรีแต่งกายธรรมดาผู้หนึ่งกำลังบิดหูของแม่นางน้อยผู้นั้น ขณะที่มืออีกข้างของนางทั้งหยิกทึ้งทั้งทุบตีเนื้อตัวแม่นางน้อย
เขาขมวดคิ้ว เหลียวมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นเทียนเล่มหนึ่งอยู่ไม่ไกลจึงหยิบเทียนเล่มนั้นขึ้นมาขว้างออกไป
“โอ๊ย!” สตรีผู้นั้นถูกเทียนขว้างไปโดน “ไอ้คนสมควรตายคนใดกล้าลอบสังหารข้า?!”
หลิวจิ่วจู๋ฉวยโอกาสจากช่องโหว่นี้ ผลักสตรีผู้นั้นออก แล้ววิ่งเข้าไปข้างใน
สตรีผู้นั้นวิ่งตามหลิวจิ่วจู๋เข้ามา
เมื่อเห็นลู่ฉาวจิ่งนั่งอยู่ตรงนั้น สายตาจึงเต็มไปด้วยความสงสัย “เขาเป็นผู้ใด?”
“เขาเป็นสามีข้า” หลิวจิ่วจู๋นั่งลงบนเตียง แล้วกอดแขนของลู่ฉาวจิ่ง “ท่านแม่ ข้าไม่แต่งกับคหบดีจาง นี่คือสามีข้า พวกเราแต่งงานกันแล้ว”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
ขณะที่เขาไม่รู้สึกตัว เขามีภรรยาเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วหรือ?
การจดทะเบียนสมรสเป็นนโยบายที่เพิ่งบังคับใช้ในสองปีที่ผ่านมา เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว หากฝ่ายชายต้องการหย่าภรรยาแต่งงานใหม่ก็ต้องไปฟ้องหย่าที่ศาลาว่าการ หากฝ่ายหญิงไม่ยินดี เช่นนั้นก็ต้องยื่นฟ้อง
เพียงแต่ ตามที่นางกล่าวไป เขาถูกนางซื้อกลับมาแต่งเข้าบ้าน มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะแต่งงานแล้วจริง ๆ
ลู่ฉาวจิ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้สมองของเขายังคงมึนงง ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขารู้คือแม่นางน้อยผู้นี้ช่วยชีวิตเขาไว้
ถึงแม้แม่นางน้อยผู้นี้จะไม่ได้ช่วยเขา แต่เมื่อเห็นนางถูกสตรีใจร้ายผู้หนึ่งรังแก เขาก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้
“ท่านป้าท่านนี้ ที่นี่ไม่ต้อนรับท่าน หากท่านยังไม่จากไป เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
“ข้าว่านะนังเด็กเหม็นโฉ่ ถึงแม้จะอยากเลือกบุรุษสักคนมาส่ง ๆ เจ้าก็ควรเลือกผู้ที่ดูเป็นผู้เป็นคนไม่ใช่หรือ บุรุษผู้นี้หน้าตาอัปลักษณ์ เจ้ายังชอบเขาลงอีกรึ?”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
เขาอัปลักษณ์หรือ?
ใช่แล้ว! เขาแปลงโฉมอยู่นี่
อย่างไรก็ตาม หน้ากากหนังมนุษย์ที่ใช้แปลงโฉมกำลังจะหมดอายุขัย ภายในหนึ่งเดือนย่อมสูญเสียประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
หลิวจิ่วจู๋มองลู่ฉาวจิ่งแล้วเอ่ย “เขาไม่อัปลักษณ์”
ดวงตาคู่นั้นงดงามราวกับดวงดาวอย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้ว่างดงามกว่าบุรุษในหมู่บ้านมากเพียงใด
“ข้าไม่สน บุรุษผู้นี้ข้าไม่ยอมรับ เจ้าต้องแต่งกับคหบดีจาง!” อวี๋ซื่อเอ่ยด้วยวาจามาดร้าย “พรุ่งนี้เกี้ยวของคหบดีจางจะมารับเจ้า เจ้ารออยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายเถอะ”
“ข้าไม่แต่ง ข้าแต่งงานแล้ว” หลังจากหลิวจิ่วจู๋กล่าวออกไปเช่นนี้ก็เห็นอวี๋ซื่อกำมือเดินเข้ามา นางจึงหลบไปทางลู่ฉาวจิ่ง
ลู่ฉาวจิ่งคว้าแขนของอวี๋ซื่อเอาไว้
“โอ๊ย… เจ็บ… เจ็บ…” สีหน้าของอวี๋ซื่อแปรเปลี่ยนฉับพลัน “ปล่อย… ปล่อยมือ… มิเช่นนั้นข้าจะเรียกคนแล้ว”
ลู่ฉาวจิ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “เช่นนั้นก็ร้องสิ ดูว่าผู้ใดจะกล้ามาช่วย”
อวี๋ซื่อร้องตะโกน “ปล่อย ปล่อย…”
ลู่ฉาวจิ่งปล่อยมืออย่างแรง
อวี๋ซื่อร่างกายโซเซ ล้มลงไปด้านข้าง
พลั่ก! นางชนเข้ากับกำแพงดินใกล้ ๆ
“ดีนี่ นังเด็กแสบ เจ้าถึงกับหาบุรุษป่าเถื่อนมาทำร้ายข้า” อวี๋ซื่อเอ่ย “คหบดีจางจะส่งคนมาที่นี่พรุ่งนี้ เจ้าไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง คนของคหบดีจางไม่ใช่พวกกินพืช”
อวี๋ซื่อเห็นว่าลู่ฉาวจิ่งกำลังจะเหวี่ยงหมัดลงมาอีกครั้งจึงวิ่งหัวซุกหัวซุนออกไปข้างนอก
“เฮ้อ…” หลิวจิ่วจู๋ขมวดคิ้ว “ข้าคิดว่าหาบุรุษสักคนแต่งเข้าบ้าน ข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับคหบดีจางแล้ว ตอนนี้ดูท่าพวกเขาตั้งใจจะใช้กำลัง ขอโทษนะ ข้าทำเรื่องให้วุ่นวายแล้ว”
“ไม่ต้องกังวล พวกเขาจะไม่ใช้กำลังชิงเจ้าไป” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “อีกอย่าง สตรีนางหนึ่งไม่แต่งสามีสองคน เจ้าไม่ได้บอกว่าแต่งกับข้าแล้วหรือ? พรุ่งนี้หากพวกเขามาก็บอกเช่นนี้ ถ้าพวกเขาคิดจะฉุดคนก็รายงานทางการ”
เพียงแต่ทะเบียนสมรส…
ต่อลู่ฉาวจิ่งแล้วยังน่างงงวยอยู่เล็กน้อย
อันที่จริงเขาพอคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาปลอมแปลงตัวตนเข้าศึกษา ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาเป็นคุณชายรองสกุลลู่ เนื่องด้วยพรสวรรค์ของเขาสูงส่งเกินไปจึงมักจะเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ สร้างความอิจฉาให้คนไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้จึงมีคนคิดจะขายเขาออกทะเลทรายไปเป็นทาสให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง
หากคนผู้นั้นรู้ว่าเขาเป็นคุณชายรองสกุลลู่ ไม่รู้ว่าจะกล้าทำเรื่องอุกอาจเช่นนี้หรือไม่
จักต้องไม่กล้าเป็นแน่
เห็นได้ว่าการถ่อมตนเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี…
[1] ตัวหน้าลาย คือ หนึ่งในประเภทของตัวละครงิ้ว ตัวหน้าลายเป็นตัวแสดงเพศชายที่มีอุปนิสัยโดดเด่น ลักษณะเด่นอยู่ที่การวาดลวดลายบนใบหน้า