สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า "เธอไม่มีพรสวรรค์" กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 95 ลิตตี้ดวลกับอันดับสูงสุดของโรงเรียน
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า "เธอไม่มีพรสวรรค์" กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 95 ลิตตี้ดวลกับอันดับสูงสุดของโรงเรียน
95 ลิตตี้ดวลกับอันดับสูงสุดของโรงเรียน
ลิตตี้เฝ้าสังเกตเจสเตอร์ขณะเผชิญหน้ากับเขา ท่าทางของเขา, อาวุธของเขา, สายตาของเขา ลิตตี้พยายามเข้าใจความแข็งแกร่งและแนววิชาของเขา แต่ไม่สามารถเดินหน้าไปไหนได้เลย
แม้แต่ก่อนการต่อสู้ เขาสงบสุดขีด กระนั้นดวงตาเขาดุดันและไม่เป็นมิตร อาวุธเดียวของเขาคือดาบในฝัก ณ เอวเขา แต่ไม่มีข้อมูลมากกว่านั้น
“วัดฉันอยู่เหรอ? นั่นน่ากลัวนะ”
“เจสเตอร์ซัง บอกฉันอย่างนึง ทำไมเธอเรียนอยู่ในแผนกนักผจญภัยเมื่อเธอเป็นลูกชายของคนนั้น?”
“ฉันจะบอกเธอเมื่อฉันอยากบอกมัน”
“เธอกลัวพ่อเธอเหรอ?”
“ฉันไม่คาดว่าเธอเป็นบางคนที่วิเคราะห์คนอื่นเก่ง…”
ลิตตี้เพียงแค่รู้สึกว่านั่นมันไม่เหมือนเขาเอาเสียเลยที่ทำอย่างนั้น ดังนั้นเธอถามเขาเกี่ยวกับมันด้วยความสงสัย
ในความคิดเห็นของเธอ เขานั้นแข็งแกร่งกว่าโจซูเยอะ แม้ว่าเขาแค่เทียบเท่ากับนักสู้ระดับสองเท่านั้นจากการตั้งอันดับของเรดเนอร์
“ฉันเพียงแค่จะทำให้มั่นใจว่าเธอจะแพ้ศึกนี้ แต่ฉันจะไม่ฆ่าเธอ”
“ฉันจะชนะ”
“เธอดูมั่นใจ”
แม้แต่คนดูยังเงียบ
ราชาและเจ้าชายกำลังมองพวกเขาอย่างตั้งใจ แต่มีแค่เรดเนอร์เท่านั้นเองผู้ที่ยิ้มอย่างเบี้ยวๆ
ขณะที่พวกเธอมองดูกันและกัน มันคือลิตตี้ผู้เคลื่อนไหวคนแรก เธอไม่อยากให้เขาเป็นผู้เปิดศึก อย่างน้อย ดีที่สุดนั่นนั้นก็เป็นที่ลิตตี้คิด
แต่จากนั้นเอง การโจมตีที่โดดเด่นทั้งความเร็วและแม้แต่เร็วกว่าลิตตี้ถูกปลดปล่อยออกมา
แทนที่จะถูกปล่อยเหมือนเวทมนตร์ปรกติ มันดูเหมือนเขาปล่อยเส้นแสงจากมือเขาแทน
“คุ…!”
มันไหม้ไหล่ซ้ายของลิตตี้
แม้ด้วยความสามารถทางกายภาพอย่างเดียวของลิตตี้ หลังจากทำเต็มที่ของเธอเพื่อหลบการโจมตีเธอยังได้รับความเสียหายเยอะ
“นั่นคือเวทมนตร์ธาตุแสงระดับสูง เลเซอร์ ฉันไม่เชื่อเลยว่าเธอหลบมันได้มากขนาดนนั้น”
“ลิตตี้?!”
โรม่าตะโกนขึ้นมา มันยากในการจะเชื่อว่าลิตตี้หลบการโจมตีไม่ได้และได้รับบาดเจ็บในพริบตา ณ ช่วงเวลาเปิดการต่อสู้
ในความคิดเห็นของเธอ ลิตตี้ ผู้ใกล้เคียงในความสามารถทางกายภายกับราชินีสคาร์ป ไม่ได้จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขา ในการต่อสู้เล็กๆนี้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงนั้นพิสูจน์เป็นอย่างอื่นไป
“ท่าาาา!”
“มุ…!”
เจสเตอร์หวังว่าความเจ็บปวดจะให้เธอกลัวแล้วหยุดไป ทำให้จับกุมเอาชนะเธอง่ายขึ้น แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เธอพุ่งกลับเข้าไปอีกครั้ง
ลิตตี้ตรวจจับความล่าช้าสำหรับการยิงครั้งที่สองด้วยสัญชาตญาณ เธอเล็งจากระยะกลางด้วยควงแทงจากหอกหนึ่งมือของเธอ
“จึ!”
เจสเตอร์ก็รู้สึกถึงภัยจากความแข็งแกร่งทางกายภายของเธอด้วยสัญชาตญาณด้วย ดังนั้นเขารีบทำการเคลื่อนไหวต่อไปโดยไม่ล่าช้าไป
ควงแทงไม่โดนเจสเตอร์ขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปทางซ้ายด้วยการเคลื่อนที่หลบหลีกขั้นสุดยอดที่แม้แต่ลิตตี้ก็เทียบไม่ได้ อีกครั้ง ความเร็วที่ลิตตี้ไม่เห็น
“เร็ว…!”
“นี่คือ ความเร็วแสง เวทมนตร์ธาตุแสง ด้วยนี่ ฉันสู้กับความสามารถทางกายภาพของเธอได้…”
ธาตุแสงไม่ได้มีอำนาจการสังหารมากที่สุดในหมู่ธาตุทั้งหมด แต่มันมีความแข็งแกร่งของมันเอง เจสเตอร์ปรับแต่งมันสู่ระดับเหนือโลกไปไกลขึ้นด้วยสูตรเวทมนตร์ดั้งเดิมของเขา
เวทมนตร์ธาตุแสงระดับสูง เลเซอร์ ถูกทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยประกอบมันเข้ากับธาตุไฟ
ธาตุแสงถูกทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้โดยใช้เวทมนตร์เสริมความแข็งแกร่ง, เวทมนตร์รักษา, และเวทมนตร์ลม
เวทมนตร์เสริมความแข็งแกร่งนั้นจะเสริมความแข็งแกร่งร่างกายกายภาพ ระหว่างเวทมนตร์รักษาลดภาระที่เกิดขึ้นบนร่างกาย เวทมนตร์ลมปรับแรงต้านอากาศในเส้นทางเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ใช้เคลื่อนไหวได้ระดับไกลเหนือคนปรกติจะสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม มันถูกใช้ได้แค่เป็นเส้นตรงเท่านั้น, ถูกใช้อย่างต่อเนื่องไม่ได้, และมีระยะเวลาสั้นสุดขีด
แม้ว่าระยะเวลานั้นสั้น โดยการใช้ทีละนิดเรื่อยๆ เจสเตอร์สามารถวางเท้าดวลกับผู้เชี่ยวชาญเหมือนลิตตี้ได้
“การโจมตีของลิตตี้ถูกปัดป้อง!”
“สายฟ้าก็ใช้วิธีนี้ได้ด้วย”
ในฐานะการโจมตีตามต่อเนื่อง แขนของลิตตี้ถูกโจมตีเพื่อทำให้เธอปล่อยอาวุธทิ้ง และเธอเกือบถูกทำให้กระเด็นกลับไป
จากนั้นเจสเตอร์ยื่นมือหนึ่งออกมา วางแผนไว้ว่าจะจบงานนี้ด้วย เลเซอร์
อย่างไรก็ตาม แขนของเขาถูกปัดเบี่ยงกระเด็นไปโดยลูกเตะจากลิตตี้ซึ่งเธอส่งออกมาแม้ว่าท่ายืนเธอย่ำแย่ ไม่เหมือนลิตตี้ ผู้ไม่สนความเจ็บปวด เจสเตอร์แสดงช่องว่างเนื่องด้วยความเจ็บในแขนเขาสุดขีด
ถ้าการเตะของลิตตี้ถูกรับอย่างดิบดี ความเสียหายของกระดูกของเขานั้นจะเลี่ยงไม่ได้
ลิตตี้แก้ท่ายืนของตัวเองให้ถูกต้องและกระโจนใส่เจสเตอร์ ใช้รองเท้าปีกของเธอ
เธอพยายามจะจับรัดทุ่มกับเจสเตอร์ แต่เขาหลบเธอด้วยการเคลื่อนไหวกระพิบตาเป็นหายดั่งสายฟ้าอันรวดเร็วสู่ทางซ้าย
“ย่าาา!”
“จึ…!”
โดยไม่เสียเวลา ลิตตี้ตามไปด้วยการเตะใส่เจสเตอร์
แม้ว่าสามารถกันได้แบบเกือบๆด้วยแขนของเขา พละกำลังของการเตะทิ้งความเสียหายทางกายภาพที่เยอะกับเจสเตอร์
แม้ว่าเขาโดนแค่สองที่ – ที่ข้อมือของมือซ้ายและส่วนนอกของแขนขวา – เจสเตอร์ก็เริ่มเหงื่อแตกแล้ว
มันไม่ใช่ว่าเจสเตอร์ออมมือให้เธอ มันแค่ความสามารถทางกายภาพของลิตตี้มันเหนือกว่าปรกติ
“รับนี่!”
ลิตตี้โจมตีอีกครั้งอย่างหาญกล้าพยายามจะเลี่ยงเขาจากการส่งการยิง เลเซอร์
เมื่อรู้เจตนาของลิตตี้ เจสเตอร์ตัดสินใจที่จะใช้ดาบท้าทายการเข้าหาของเธอแทน
เข้าหาเจสเตอร์โดยใช้แค่ทักษะต่อสู้อย่างเดียวเพียงเท่านั้น ลิตตี้ปัดป้องการโจมตีของเจสเตอร์ที่เคลื่อนที่ความเร็วสายฟ้าฟาด
ดาบแทงลึกเข้าไปในหมัดของลิตตี้ ทำให้เธอถอยกลับ พร้อมด้วยมือซึ่งหยดเลือดหยาดไม่ขาดสาย ถ้ามันเป็นคนปรกติทั่วๆไปผู้รับการโจมตีนั้น ดาบจะตัดทั้งแขนของคนนั้นไป
“อึ่ก…!”
“โจมตีต่อเนื่องอัสนีฟาด!”
มันเป็นการโจมตีสามจุดสู่หัว, ท้อง ,และขา ณ เวลาเดียวกัน มันคือวิชาเจสเตอร์ที่ฝืนใช้เวทมนตร์และทักษะถึงขีดจำกัด
ภาระบนกายของเขาก็ไปถึงจุดที่เขามองข้ามมันไม่ได้แล้ว แแต่เขาไม่ได้คาดว่าเขาจะใช้การโจมตีตามจากนั้น
หลังจากได้รับการโจมตี ลิตตี้ อย่างที่คาดไว้แล้ว เกือบจะหมดสติ แต่เธอยังสามารถส่งการโจมตีได้
“หมัดระเบิด!”
ลิตตี้ตั้งการจำกัดการโจมตีกับเจสเตอร์ไว้แค่วิชาต่อสู้เท่านั้น เธอตัดสินใจว่านี่จะพอที่จะทำความเสียหายอย่างเดียว
ในการเผชิญหน้ากับเลเซอร์และการโจมตีอัสนีแลบ แม้แต่เวลาจำนวนสั้นที่สุดที่ใช้ในการเคลื่อนไหวอาวุธจะเพียงพอในการจะสร้างช่องเปิดสำหรับให้ศัตรูโจมตีเธอ
เจสเตอร์หยุดการโจมตีและเคลื่อนที่ไปข้างหลังเพื่อหลบเลี่ยงพายุแห่งหมัด ระหว่างทนความเจ็บปวดในแขนของเขา เขาทำให้ใบมีดดาบเขาส่องแสงด้วยแสงจ้า
“เวทมนตร์ธาตุแสงระดับสูง ดาบเลเซอร์
ลิตตี้ผู้เห็นใบมีดของดาบดูเหมือนแท่งตรงๆแล้ว คาดหวังถึงความอันตรายทันที
ถ้าดาบมีคุณสมบัติเดียวกับเลเซอร์ เธอรู้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ที่จะป้องกันอาวุธของเขา ไม่ต้องพูดถึงการกันมันด้วยวิชาต่อสู้ ดังนั้นเธอตัดสินใจหลบมันมากที่สุดเท่าที่ทำได้
“ฉันไม่เชื่อเลยว่าฉันสร้างความต่างในความสามารถโดยรวมได้มากแค่เท่านี้ระหว่างเรา แม้ว่าฉันไม่ได้กำลังสู้กับบางคนผู้ไม่ได้รับบุญเป็นพลังเวทมนตร์”
“ฉันอิจฉามัน รู้ไหม!”
ลิตตี้รับการเสียดสีของเจสเตอร์ในแบบตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม เธอกำจัดความคิดไร้ไหวพริบที่จะหวังขอว่าให้เธอมีพลังเวทมนตร์
หรือ เธอชื่นชมการไล่ตามหากลยุทธ์โดยไม่มีวันหยุดอิ่มตัวของเจสเตอร์ ใช้สิ่งที่เขามีให้ดีที่สุด
“สุภาพบุรุษ! คุณเห็นนี่มั้ย! ฉันหวังว่าคุณเห็นว่าลูกชายของฉันสามารถสู้เหนือกว่านักผจญภัยปัจจุบันได้! เขาเชี่ยวชาญในธาตุแสง! ด้วยความสามารถเขา ลูกชายของฉันจะเป็นเส้นแสงส่องฟ้าให้ชาตินี้!”
การพูดประกาศในสุขสุดขีดของเรดเนอร์นั้นเป็นการพยายามพูดกัดกร่อนรากฐานความน่าเชื่อถือของลิตตี้ โดยการท่วมท้นลิตตี้ด้วยคำพูดในจังหวะนี้ เขาพยายามลดภาพลักษณ์นักพจญภัยทางอ้อม
พูดนั่นไปแล้ว ลิตตี้จะไม่มีวันยอมแพ้กับการสำรวจหาวิธีเอาชนะ ตัวเอกของเรื่องราวที่เธออ่านก็เจอสถานการณ์แบบเดียวกันหลายครั้ง
เธอเชื่อว่าถ้าเธอเอาชนะสถานการณ์นี้ได้ เธอก็เข้าใกล้กับการเป็นใครบางคนที่คล้ายกันได้ทีละนิด
ลิตตี้มุ่งมันไม่ให้ความผิดพลาดของเธอเองทำภาพลักษณ์ชองนักผจญภัยตกลงไป
“ฉันว่าเจสเตอร์ซามะชนะศึกนี้!”
“ไม่เลย ไม่เลย สาวคนนั้นยังไม่ได้แสดงทักษะเลยนะ!”
คนดูก็ตื่นเต้นด้วย พวกเขาทั้งหมดมีความคิดหลากหลายเกี่ยวกับคนวัยหนุ่มสาวสองคน ผู้ใดจะชนะ? การต่อสู้จะคลี่คลายไปอย่างไร??
นักเรียนผู้วิ่งเข้าสู่สนามรบฝึกซ้อมก็มีความคิดเหมือนกันทุกอย่าง
“ลิตตี้จัง ทำไมเธอสู้กับเจสเตอร์?”
“พวกเธอทั้งสองได้รับบาดเจ็บมาก…ยังจะสู้กันเหรอ?”
“ถอย ถอย!”
นักเรียนชั้นไม่สูงตามทางเข้ามา พวกเขาได้ยินเรื่องจากบางที่
นี่ทำให้การต่อสู้เต็มไปด้วยความหมายมากขึ้นสำหรับลิตตี้และเจสเตอร์
“ฉันมีเป้าหมายบนการอยู่ระดับเดียวกับนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ นั่นทำไมฉันเลือกเรียนในแผนกนักผจญภัย”
“ถ้าอย่างนั้น เธอมีแผนเป็นนักผจญภัยเหรอ…?”
“ไม่ ฉันจะไม่เป็น ถ้าฉันไปถึงระดับของนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ การประเมินนักเรียนปัจจุบันที่อยากจะเป็นนักผจญภัยจะตกลงไป เพราะผู้คนจะคิดดว่า [เจสเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์] แต่ยังไปถึงระดับเดียวกันกับนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่”
“เธอทำอย่างเดียวกันกับที่พ่อเธออยากทำ…”
“ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ฉันแค่อยากเหยียบย่ำชื่อเสียงของบางคนเหมือนผู้โตมาเป็นไพร่อย่างอัลดิสผู้กลายเป็นความหวังของคนที่อยากเป็นนักผจญภัย และเขียนกฎใหม่ที่ทำให้คนเหล่านั้นไปถึงระดับนั้น ได้ฉันอยากเปลี่ยนตัวสมาคมนักผจญภัยเลย”
ลิตตี้ไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของเจสเตอร์ เขาสะบัดวิสัยทัศน์ของพ่อเขาข้างหลังไม่ได้
ถ้าเขาอยากจะทำให้สมาคมนักผจญภัยกลายเป็นศัตรูจริง มันไม่ควรจำเป็นสำหรับเขาที่ต้องช่วยชั้นสูงไปด้วยกันทั้งหมดนั้น ดังนั้น ไม่ว่าเจสเตอร์จะพูดอะไร ลิตตี้ยังไม่เชื่อคำพูดของเขา
“เจสเตอร์ซัง นั่นคืออะไรที่เธอต้องการจริงๆเหรอ?”
“ใช่ นั่นถูกแล้ว ฉันไม่เหมือนแบดริก ฉันไม่อ้าง ถ้าเธอไม่ยอมรับฉัน ฉันจะทำให้เธอยอมรับฉัน”
“มันไม่ใช่เพื่อพ่อเธอจริงๆเหรอ?”
“พ่อฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนี่เลย!”
เจสเตอร์ท้าทายลิตตี้ กวัดแกว่งดาบเลเซอร์
อย่างไรก็ตาม โชคดีสำหรับลิตตี้ ทั้งสองแขนของเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาไม่คมเหมือนที่มันเป็นมาก่อน
มากกว่านั้นการใช้สายฟ้าต่อเนื่องใช้พลังเวทมนตร์เยอะและทำให้ร่างกายของเขาเหนื่อยล้า
ไม่สำคัญว่าพลังเวทมนตร์ของเจสเตอร์สูงเท่าไร มันไม่เป็นอนันต์ ถ้าเขาหมดพลังเวทมนตร์ โอกาสเอาชนะลิตตี้ท่วมท้นจะหายไป
นั่นทำไมเจสเตอร์อยากเคลื่อนไหวตัดสิน ณ ตรงนี้
ลิตตี้อยากจะลองบางอย่าง ดังนั้นเธอนำดาบสำหรับใช้ทั่วไปของเธอออกมาเพื่อทำมัน… และจากนั้น…
“ดาบฉัน…” (ลิตตี้)
“ฉันไม่ได้กำลังพูดว่ามันดาบไม่ดี แต่ฉันไม่คิดว่ามันแข็งแกร่งพอที่จะทนพลังของดาบเลเซอร์ฉันได้”
มันกลายเป็นเหมือนอย่างที่ลิตตี้คาดไว้ เพราะดาบอันเธอใช้เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีตอนนี้ถูกตัดขาดแผลเรียบพร้อมใบมีดกำลังแยกจากลาด้ามมันหลังจากปะทะกับดาบเลเซอร์ แสดงถึงพลังที่คาดหวังไว้แล้วกับดาบเลเซอร์
อะไรซึ่งทำให้ลิตตี้ยิ่งตกใจมากกว่าคือระยะของดาบเลเซอร์
ใบมีดยืดแห่งดาบเกือบทำให้ลิตตี้บาดเจ็บจริงจัง
“เจสเตอร์ซัง! เกี่ยวกับอาวุธนั้น!”
“ลิตตี้จัง! ทำนั่นทีหลัง!”
ล้อมด้วยฝูงคนดูผู้เร่าร้อน นั้นสองกลายเป็นรับรู้ถึงความสนใจของพวกเขา ด้วยลิตตี้ที่กำลังอยากรู้เกี่ยวกับเจสเตอร์ในฐานะคู่แข่งผู้แข็งแกร่งมากขึ้นและเจสเตอร์ผู้สงสัยเกี่ยวกับวิธีคิดทั่วไปของลิตตี้
พวกเธอโชคดีที่ได้พบความเป็นคู่แข่งกับกันและกัน พวกเธอสองคนหัวเราะขณะที่พวกเธอรับรู้ถึงนี่
“ฉันเดาว่าเธอพร้อมเต็มที่แล้วกับการจะหลบการโจมตีของฉัน!”
“ฉันไม่คิดว่าเธอใช้เวทมนตร์เคลื่อนที่น่าทึ่งนั่นได้อย่างต่อเนื่อง ใช่ไหม!”
“แน่นอนฉันใช้มันต่อเนื่องไม่ได้ แล้วทำไมล่ะ?!” “ทำไม่ได้เหรอ? จริงๆอ่ะ! ถ้าเธอใช้เวทมนตร์นั้นต่อไป ร่างกายเธอจะไปถึงขีดจำกัด!”
“มันไม่สำคัญ! เธอแม้แต่ทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่างทั้งนั้นแหละ!”
สู้กันและกันเพราะพวกเธอยากชนะ และพวกเธอแสดงออกถึงเป้าหมายของพวกเธอโดยไม่ลังเล มันจริงที่ว่าพวกเธอน่าจะกำลังจะจบยกในการเสมอหลังจากการปะทะต่อไปของพวกเธอ แต่ลิตตี้ยังมีบางอย่างอยู่ในใจ
“ยังมีบางอย่างที่ฉันทำได้! หอกอาปาเช่!”
สละการโจมตีตรง ลิตตี้เก็บดาบหักพังและเตรียมอาวุธต่อไป อาวุธต่อไปเธอเธอดึงออกมาน่าจะถูกทำลายด้วยเหมือนกัน ณ สุดท้ายของการโจมตีเสร็จ
เจสเตอร์คาดหวังให้เธอใช้การเข้าหาอื่น แต่เขาไม่คาดหวังว่าลิตตี้จะใช้บางอย่างเหนือความคาดหวังของเขา
เธอปลดปล่อยทักษะของโจซู ทักษะซึ่งโดดเด่นในพลังทำลายล้างโดยการใช้การโจมตีเป็นชุดๆ ซึ่งต่างจากควงแทง มันแม้แต่พิจารณาได้เลยว่าเป็นรูปแบบเดียวกันอันเหนือกว่าของมัน
พื้นงานหินแตกกระจายใต้แรงกดดันของการโจมตี ทำเศษหินตกใส่เจสเตอร์เป็นห่าฝน เดชะบุญ เขาสามารถหลบการโจมตีได้ แต่นั่นสร้างช่องว่างใหญ่
“นั่น นั่นแย่แล้ว…”
เพราะการโจมตีทำลายท่ายืนของเขา ไม่มีทางที่เจสเตอร์จะเลี่ยงการโจมตีตามมาต่อของลิตตี้ หนึ่งเตะลงทิ้งตอกส้นขณะเธอค้ำถ่อเพื่อยิงตัวเธอตรงไป ณ เจสเตอร์
เกมถูกตัดสินแล้ว – นั่นอะไรที่ทุกคน รวมไปถึงเจสเตอร์คิด
“นางฟ้า…สถิตลง…”
ทุกคนลืมเกี่ยวกับการอยู่ตรงนี้ของแบดริกในมุมของสนามแข่งดวลของพวกเธอแทรกแซงการดวลโดยการใช้วิชาอัญเชิญของเขา
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu