สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า "เธอไม่มีพรสวรรค์" กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 110 ลิตตี้นั่งเรือผีสิง
“ห้องเธออยู่ทางนี้…”
หน้าชายหนุ่มซีดเผือกตอนนำเอ็กซ์พีชไปห้องโดยสารและจากนั้นเดินช้าๆและพยายามไปตามทางเดิน
โรม่าไม่ชอบท่าทาง ที่ไม่เหมือนบารอคเลย
“ฉันไม่อยากฟังดูใจร้ายนะ แต่ไม่ใช่พวกเขาไม่กระฉันกระเฉงไปหน่อยเหรอ? ห้องนี้กลิ่นอับราด้วย ฉันสงสัยว่าทำความสะอาดบ้างมั้ย…” (โรม่า)
“มันเป็นห้องสะอาด ใช่เปล่าเมียน?” (ลิตตี้)
“เมียน…”
มันต้องจนถึงเมื่ออยู่ในเรือแล้วที่ลิตตี้เห็นว่าเมียนซึม
หัวเธอหันไปข้างและเธอไม่ได้ร้องเหมือนเดิม เธอสงสัยว่าเมียนป่วยไหม ลิตตี้ลุกขึ้นจากเตียงที่เธอนั่ง
“ฉันอยากให้มีคนดูเมียนหน่อยอ่ะ” (ลิตตี้)
โรม่าตอบ “ปรกติควรมีหมอบนเรือ แต่เรือนี้ไม่ได้มีคนนำทางด้วยซ้ำ เราต้องขอคนอื่นแล้วแหละ”
“เธอสั่นมากไปนะมิไร… เป็นอะไรเหรอ?” (ลิตตี้)
“หนูกลัว กลัว กลัว…”
มิไรที่หยุดสั่นไม่ได้และตามคูฟาใกล้ชิด คูฟาดูเหมือนเหนื่อยด้วย ถามมิไรว่ามีอะไรแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ลิตตี้เริ่มรู้สึกแปลกกับสภาพมิไรและภายในเรือแล้ว
ส่วนใหญ่ไม่มีเสียงจากคนพวกนั้นเลย นี่รวมถึงบารอค, หนุ่มที่นำพวกเธอมาห้องพักก่อนหน้า, และจากนั้นการตอบสนองจากเมียน, แล้วมามิไรอีก
แม้ว่ามันพูดยาก บางอย่างไม่ถูกต้องแต่ ณ เวลาเดียวกัน ลิตตี้ซ่อนความสับสนไว้ไม่ได้ ขณะเธอไม่เข้าใจว่าทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่รู้เลย
“โรม่าซัง ไม่ใช่เรือนี้มันแปลกๆเหรอ?” (ลิตตี้)
“แปลก…?” (โรม่า)
“คนที่มาก็แปลกด้วย ฉันไม่รู้หรอกว่าอะไร แต่…” (ลิตตี้)
“ใช่ เขาเป็นคนมืดมน แต่ไม่ใช่มันหยาบที่ไปเรียกเขาว่าแปลกเหรอ?” (โรม่า)
ลิตตี้กอดอกและยืนท่าเหมือนลิตตี้ตอนเธอคิด ทันใดนั้น เธอเปิดประตูห้องพักและมองลงทางเดินซ้ายขวา
หลังเดินสั้นๆและเสียงพื้นลั่น เธอพยักหน้าเข้าใจ
“คนที่เพิ่งเดินที่ทางเดิน เขาเดินไม่มีเสียงไม่ใช่เหรอ?”
“…พูดถึง…”
“บางทีมันท่าเหรอ? ถ้าใช่ มันเอาไว้ทำอะไร?”
–กกกกี๋ กกกกี๋…
เสียงลั่นได้ยินมาจากทางเดิน ลิตตี้คิดไปว่าบางคนเดินอยู่ ออกจากห้องอีกครั้ง แต่มีแค่ทางเดินไร้คน
ลิตตี้ตั้งใจฟัง ไม่ใช่แค่เธอไม่เห็นกะลาสีหรือแขกคนอื่น แต่ไม่มีสัญญาณคนเลย
“โรม่าซัง ค้นเรือ…”
ลิตตี้หันไปเพื่อหันหาห้องพักและเห็นว่ามีแค่สัมภาระอยู่ ลิตตี้นึกอะไรไม่ออกนอกจากกลืนน้ำลาย”
“คุณ…”
จู่ๆลิตตี้ถูกเรียกจากข้างหลัง ทำให้เธอเคลื่อนที่หนีอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธออยู่นั่น ผู้หญิงแก่หลังคร่อม ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ลิตตี้ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าตอนเธอเข้าหา
“ห้องพยาบาลไปทางไหนเหรอ…?” (ผู้หญิงแก่)
“หนูไม่รู้ค่ะ หนูเพิ่งขึ้นเรือ ย่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” (ลิตตี้)
“อืม…”
ไม่ตอบคำถามลิตตี้ ผู้หญิงแก่เซไปที่มุมทางเดินใหญ่ ลิตตี้วิ่งตามเธอ แต่ผู้หญิงหายไปแล้ว
ทางเดินเดียวที่ยืดยาวไปข้าวหน้ามันมืดมิด แสงตะเกียงที่ติดอยู่บนกำแพงกระพริบไม่เป็นจังหวะ
“อะไรกัน…?”
ความมืดมิดล่องลอยอยู่หลังห้อง ก่อนลิตตี้หนีได้ เธอถูกความมืดกลืนเข้าไป
***
“ลิตตี้?”
ลิตตี้ออกจากทางเดินใหญ่และหายไป ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้เกิดต่อหน้าต่อตาโรม่าและคนอื่นๆ
“โร, โรม่าซัง ลิตตี้ซัง…?”
“เธอไม่อยู่แล้ว คูฟาจัง, มิไรจัง, เหมือนที่ลิตตี้พูด เรือลำนี้ไม่ปรกติ”
–ด่อน!
กำแพงห้องพักถูกทุบอย่างแรง คูฟากำลังจะบอกโรม่าว่าเธอพูดดังเกินไป แต่จากนั้นเธอจำได้ เธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงทะเลทั้งสองข้างจากกำแพงห้องพักเลย
“นี่อะไรกันเนี่ย!”
หลังโรม่าระเบิดความโกรธออกมา มีเสียงได้ยินมาได้ มันเป็นคำกระซิบจากทางเดินใหญ่ ไม่มีเวลายืนนิ่งๆและคุยตอนพวกเธอเห็นคนหลายคนมาอย่างไร้เสียงในทางเดินเรือ
คูฟาที่ยังจับมิไรอยู่พูดในเสียงเบาที่สุด
“อืม มันเป็นไปได้ว่าเรือนี้…คือเรือผีสิง…?”
“เรือผีสิงเหรอ?”
ฉันเคยอ่านในหนังสือ… ว่ามีบางครั้งที่เรือที่สมควรจะจมไปแล้วกลายเป็นผีตระเวนไปทั่วทะเล และเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นที่นั่น”
“ใช่ ฉันได้ยินเรื่องนั้นมาด้วยเหมือนกัน นั่นหมายถึงเราถูกชวนลงเรือแบบนั้น”
“พวกเขามอง… ดู… หัวเราะ… โกรธ…”
คูฟาไม่เคยปล่อยมิไรไปเลย
พูดตรงๆ ตัวคูฟาเองก็กลัวมากจนเธออยากสั่นแล้วกรี๊ดเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม มันแค่เพราะเธอมุ่งมั่นจะปกป้องมิไรจนเธอควบคุมไว้แบบเกือบไม่ได้
เสียงเคาะบนประตูใกล้ๆส่งความเครียดขึ้นมาหาโรม่าและคนอื่นๆ
“เฮ้! เดินทางบนเรือเป็นยังไงบ้าง?”
โรม่าพูดในน้ำเสียงลังเล “หนูคิดว่าคุณถูกทิ้งไว้ที่ท่าเรือแล้ว…”
ได้ยินเสียงบารอคผ่านประตูมา
“ถ้ามีคำถาม ก็แค่ถามเลย!” (บารอค)
“บารอคซัง เรือปลอดภัยมั้ย?” (โรม่า)
“ถ้ารู้สึกไม่ดี ไปที่ห้องพยาบาลได้!” (บารอค)
“ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น!” (โรม่า)
“ถามอะไรที่ไม่เข้าใจกับฉันก็ได้!” (บารอค)
โรม่ารู้ว่าถามเขาอีกก็ไม่มีประโยชน์เพราะบารอคพูดคำเดิมๆตลอด
“การเดินทางบนเรือเป็นยังไงบ้าง? ถ้ามีคำถามอะไร แค่ถาม! การเดินทางบนเรือเป็นยังไงบ้าง? ถามอะไรที่เธอไม่เข้าใจกับฉันก็ได้! การเดินทางบนเรือเป็นยังไงบ้าง?”
โรม่าเตะประตูเปิดออก ประตูเปราะๆพังและไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย
“ไปหาลิตตี้กันเถอะ”
ด้วยเสียงไม่หวั่นไหวของโรม่า คูฟารู้สึกว่าพึ่งได้; แม้ความปลอดภัยลิตตี้จะทำให้โรม่ายิ่งคุมไม่อยู่
“โรม่าซัง…ไม่กลัวเหรอ?”
“อย่ากลัว เธอต้องมีสมาธิกับสิ่งที่อยากปกป้องและปล่อยความคิดอื่นให้หายไป”
คูฟาต้องหาคิดแนวคิดแบบนั้น
“…อควาเรีย”
“ว่า?”
มีแค่อควาเรียที่ยังเหมือนเดิมอยู่เสมอ โรม่าเชื่อว่าเธอเห็นมาก่อนแล้วว่านี่จะเกิดขึ้น
อควาเรีย ไม่ใช่ทั้งคนที่พึ่งได้หรือผู้ปกปักรักษา ไม่ใช่บางคนที่เธอพึ่งพาได้ และตามสัญญาเธอ ทุกอย่างที่เธอทำจะขึ้นอยู่กับคูฟา
อย่างไรก็ตาม คูฟา เอามือไปในตัวอควาเรีย
“ฉันจะให้เห็นว่าฉันแกร่ง จงดู…”
น้ำกระจายออกจากอควาเรียตอนคูฟารับพลังภูติน้ำ ดึงสิ่งที่อควาเรียมีออกมา และอะไรที่มันทำได้
“เวทมนตร์น้ำระดับสูง – สตรีที่แท้จริง”
เมื่ออควาเรียได้ยินคำเหล่านั้น เธอค่อนข้างตกใจ เพราะคูฟาไม่ได้ร่ายด้วยซ้ำ เธอแค่พูดชื่อท่าเหมือนเธอเพียงแค่หวังให้มันเกิด
ไม่สำคัญว่ามันซ่อนเร้นมาอย่างไร ความเป็นจริงหน้าพวกเธอจะถูกเปิดโดยเวทมนตร์คูฟา และเวทตร์มนตร์นี้หลอกไม่ได้
“เฮ้…! เรือนี้…!”
เมื่อน้ำสาดเพื่อทาสีทิวทัศน์ใหม่ ความจริงของเรือผีสิงมาให้เห็น กำแพงไม้เน่าและอ้าออก
สาหร่ายที่ไม่รู้ว่าอะไรและสัตว์ปรสิตเกาะโคมไฟขึ้นสนิม ไม้ทะลุหลายจุด และความมืดออกมาจากรูกว้างนั้น
ณ เวลาเดียวกัน กลิ่นแรงๆเข้าเต็มจมูก ทำโรม่าและคนอื่นๆกลั้นหายใจเองชั่วครู่
“อควาเรีย… บางทีเธอรู้ก่อนเราแล้ว เกี่ยวกับเรือนี้และตัวตนบางอย่างที่อยู่ข้างใต้… นั่นทำไมฉันขอยืมพลังด้วย…”
“…เลือกท่าได้ชาญฉลาด”
ไม่นานตัวตนเรือก็ปรากฏออกมาด้วยเหมือนกัน เงาดำส่องเงาเข้ามาหาพวกเธอ ก็ถูกระบุแล้วด้วย
อย่างเดียวกันก็เกิดขึ้นกับตัวที่คลานออกมาจากความมืดเน่าๆของห้องพัก
“มันเป็นงานหมอผีที่จะได้ยินเสียงอันเดดและจากนั้นไล่ผีพวกเขา… เราไม่มีวิธีทำ เราเลยควรขอบคุณอิลิเซียซังที่สอนเวทมนตร์นั้นกับเรา…”
“จริงจังเลยนะ คนนั้นเป็นเทพเจ้าที่รู้อนาคตล่วงหน้าเหรอ?”
โรม่าเอาดาบออกมาและร่ายเร็วๆ ไม่นาน ดาบเธอก็หุ้มในแสงสีขาวที่ไม่แรงจ้าตา เธอใช้เสริมพลังเวทมนตร์นักบุญอาวุธเพื่อใส่ธาตุศักดิ์สิทธิ์กับดาบเธอ
“อาวุธที่มีธาตุศักดิ์สิทธิ์์…… ใช้เสริมพลังเวทมนตร์นักบุญอาวุธไม่ใช่ทางออกมีประสิทธิภาพหรือมีผลนานด้วยพลังเวทมนตร์ของฉัน แต่มันดีกว่าไม่มีอะไร”
โรม่ากลับไปค้นหาคำอิลิเซียในหัวใจเธอ
–ทะเลเป็นสถานที่ที่น่ากลัวได้
“จริงๆเล้ย… ถ้ามันน่ากลัวขนาดนี้คนเดินทางผ่านมันได้ยังไงกัน?”
จากนั้นโรม่าเริ่มเต้นเป็นจังหวะ ในเวลาเดียวกัน เธอก็พยายามอ่านจังหวะศัตรูด้วย เมื่อเธอฟันเงาตัวหนึ่ง มันกระจายออกและหายไปในเสียงร้องพ่ายแพ้
มันเหมือนเสียงกรี๊ด และโรม่าเกือบรู้สึกผิด
“ธาตุศักดิ์สิทธิ์มีประสิทธิภาพดีจริงๆ ฉัตนขอโทษที่ทำอย่างนี้ แต่แกจะขวางทาง ฉันจะต้องลบแกออกไปแบบนี้”
โรม่าแทงมนุษย์ที่กำลังเน่าผู้คลานออกมาจากความมืดห้องพักแค่ท่อนบนของร่างที่เหลืออย่างเดียว ขณะตัวมันละลาย มนุษย์เน่าหายไปลงทะลุพื้นไป
“คูฟาจัง วิ่ง! ลิตตี้ต้องอยู่แถวนี้ที่ไหนสักที่แหละ!”
“อา…”
ตอนที่กลุ่มกำลังจะวิ่ง บารอคยืนอยู่หน้าพวกเธอ เขายิ้มอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อตอนที่พวกเธอเจอครั้งแรก
โรม่ากำลังจะพูดบางอย่างแต่เธอกลืนมันเข้าไป สงสัยว่าคำพูดเธอมีค่าอะไรไหม
มีรอยช้ำที่คอบารอค ซึ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ คอเขาหัก และเขาคลานอยู่
“ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ…”
“บารอคซัง! คุณตายแล้ว!”
คอที่หักยืดออกเหมือนงูที่ทำจากเนื้อเน่าและตีพื้น หัวเขาดิ้นรุนแรง จากนั้นสายน้ำของเลือดเหมือนโคลนเทออกมาจากปาก
หลังถูหัวเขากับเลือด เขากระโดดใส่พวกเธอด้วยลูกตาที่เกือบถลน
“ทำไมเธอ… อ๊าาา…”
ทันใดนั้น โรม่ารู้เจตนาคนนั้น เธอเข้าใจว่าคนนั้นรู้สึกอะไรและจะทำอะไร
แน่นอนว่ามันแสดงออกถึงความไม่เป็นมิตร นั่นทำไมผีของบารอคชวนเอ็กซ์พีชขึ้นเรือ
และบารอคไม่ใช่ศัตรูคนเดียวเท่านั้น; เอ็กซ์พีชต้้องพิชิตเรือผีสิงใหญ่นี้ถ้าพวกเธออยากรอดชีวิต
“ท่านหญิง…”
“มิไร อย่ากลัว ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอ!”
ร่างกายมิไรหุ้มในเวทมนตร์น้ำระดับสูง – มารดาเย็นยะเยือก
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu