สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) - ตอนที่ 7
“โฮ่ เอาตัวรอดมาได้เหรอเนี้ย”
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน กองพันซาร์เรียและลิกูเรียที่ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้วันนี้ก็ได้เข้ามาพักแรมในปราการ
ควันจากครัวได้ลอยขึ้นไปบนฟ้า เหล่าเชลยที่ปลดอุปกรณ์ถูกรวมตัวกันทีมุมหนึ่งของกำแพง
ในอดีตเชลยมักถูกขายเป็นทาสเพื่อนแลกเงิน แต่ตอนนี้พวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวถ้าพวกเขารับปากจะทำงานให้จักรวรรดิไฮเซิร์คเป็นเวลหลายปี
ทหารบางคนที่มีความสำพันธ์กับพ่อค้าทางจะต่อต้านมัน แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในอนาคตดินแดนจะถูกรวมเข้าด้วยกันผู้ยอมจำนนจะเพิ่มขึ้นและความเสียหายจะน้อยลง
แม้ว่านัวร์จะได้รับบาดเจ็บแล้วก็ได้รับการช่วยเหลือจาก วอล์ม ในการต่อสู้ครั้งนี้แต่เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ เธอได้อดทนกับการฆ่าศัตรูคนหนึ่งในระหว่างการต่อสู้ที่กลหนได้อย่างดีเยี่ยม บาริโต้ก็ได้รับการดูแลจากโจเซ่แม้ว่าผมหงอนไก่เขาจะร่วง แต่เขาก็สามารถรักษาชีวิตไว้ได้
ตรงหน้าของวอล์มตอนนี้ ทหารใหม่กำลังคุยโอ้อวกเกี่ยวกับผลสำเร็จและสิ่งของที่ปล้นสะดมมาได้
“รุ่นพี่ วอล์ม! ดูนี่สิ นี่มันเหรียญทองขนาดกลางเลยนะ!!? ไม่น่าเชื่อเลยมันคือเหรียญทองจริงๆ”
“เธอได้มาจากศัตรูที่คุณวอล์มจัดการใช่ไหม? นั่นไม่ยุติธรรมเลยสักนิด”
นัวร์มีเหรียญทองขนาดกลางเพียงเหรียญเดียว ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้ชีวิตคนเดียวเป็นเวลาหนึ่งปี มันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนในชนบท เมื่อมองไปที่นัวร์ที่ใบหน้าแปลกๆ วอล์ม ก็หันหนีไป
เมื่อโจเซ่ค้นของอย่างรวดเร็วเขาก็พบถังเบียร์จากค่ายศัตรูและประสบความสำเร็จในการนำเตียงและสุรามาทั้งหมวได้และวอล์ม ได้ชื่นชม โจเซ่ สำหรับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมนี้
นอกจากเหล้าที่จากหัวหน้าหมวดแล้วก็ยังได้รับรางวิอีกด้วย ดังนั้นหัวหน้าหมวดโคซารุที่ดูอ้วนเล็กน้อยก็อารมณ์ดีตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่บรรยากาศก็สดใสเพราะไม่มีใครตายในหน่วย
พระจันทร์ที่เต็มดวงทั้งสองบนท้องฟ้าดูราวกับว่ากำลังเฉลิมฉลองให้กลับชัยชนะ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ วอล์มได้ตระหนักว่าตอนนี้เขาอยู่ต่างโลก ที่มุมหนึ่งของห้องวิลลาร์ทกำลังกระดกเหล้าอย่างเงียบๆ
“วิลลาร์ท ลูกไฟต้อนนั้นเจ๋งมาก ช่วยได้เยอะเลย”
วอล์ม อารมณ์ดีและของคุณ วิลลาร์ท ด้วยด้วยในทือของเขาและวิลลาร์ทก็ตอบกลับอย่างสุภาพด้วยการยกถ้วยขึ้น
“นายก็ด้วย…วอล์ม นายสนใจมันไหม”
มันผิดปกติที่คำถามมาจากวิลลาร์ทดังนั้น วอล์มจึงตอบไปด้วยความสนใจอย่างมาก
“แน่นอน ฉันสนใจเวทมนตร์”
ไม่มีผู้เด็กชายคนไหนจะไม่ชอบเวทมนตร์”
“เข้าใจแล้ว”
วิลลาร์ทละสายตาจาก วอล์มแล้วก็กลับเข้าสู่โลกส่วนตัวอีกครั้ง
วอล์มกลับไปที่เดียวของเขาแล้วกระดกเหล้าอีกครั้งจากนั้นกระเพราะปัสสาวะของเขาก็กรีดร้องเนื่องจากเขาดื่มมากเกินไป
ฉันฮึดเกินไปรึเปล่า?
วอล์มเสียใจ เขาไม่สามารถปล่อยมันในอาคารได้ดังนั้นเขาจึงออกไปด้านนอกอย่างเร็วแล้วมองหาสถานที่
ขณะที่เขาปล่อยความอยากปัสสาวะของเขาในที่สุดเขาก็ส่งเสียงออกมาเล็กน้อย
แม้ว่าฉันจะดื่มในตอนนี้ แต่ฉันก็เป็นผู้รุกรานดินแดนนี้
จากนั้น วอล์มก็มองไปที่ดาบยาวที่ห้อยอยู่ที่เอว
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นเขาไปห้องหนึ่งในอาคารเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกมันแขนขาและเสื้อผ้าของเธอก็ถูกถอดออก ข้างๆเธอเป็นทหารจากกองพันซาร์เรีย
“เห้ยกำลังทำอะไรกัน!?”
เมื่อวอล์มถามด้วยความโกรธทหารก็ตอบอย่างไม่สนใจ
“แค่เห็นก็รู้แล้วนิ ว่าจะทำอะไร”
“อยากร่วมด้วยเหรอ? เอาหลังจากเราแล้วกัน”
เป็นเรื่องปกติที่ทหารหญิงจะถูกละเมิด แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่พลเมืองธรรมดา หรืออาจเป็นครอบครัวของทหารที่ประจำการในปราการ มันเป็นเรื่องทั่วไปในสนามรบ แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับวอล์ม มันไม่สามารถยอมรับได้
“ผู้คนในปราการยอมจำนนอย่างสงบตามเงื่อนไข ดังนั้นเราจึกไม่อนุญาตให้ปล้นสะดมหรือคุกคามผู้คน มันเป็นการระเมิดกฏทหาร ถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับผู้บัญชาการพวกแกจะถูกลงโทษแน่”
แม้แต่คนโง่ทั้งสามของหน่วยดูเวยก็ปฏิบัติตามกฏทหาร
“แกเป็นนักบุญรึไง?หรืออัศวิน? ไอเวร!”
“อย่ามาหยามฉัน ฉันฆ่าคนที่แนวหน้าไปเยอะเลยนะเว้ย”
ทหารสองคนเข้าหาวอล์ม ร่างกายถูกแสงจันทร์กระทบร่างกายพวกเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี ทั้งสองเป็นทหารที่ดีในสนามรบ
“…จะฆ่าไปสองสามคนแล้วยังไง”
ถ้าเป็นวอล์มในชีวิตก่อนหน้าอาจกลัว แต่ตอนนีเขาได้พรากชีวิตผูคนไปนับไม่ถ้วนกับแค่นี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าภัยคุกคาม การต่อสู้ที่เชิงเทินก่อนหน้านี้อันตรายกว่าเยอะ
เมื่อวอล์มตอบโดยไม่มีน้ำเสียงใดๆ ทหารก็หยุด ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นร่างกายของวอล์มที่ถอดเกราะออกถูกสลักเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วนซึ่งเป็นหลักฐานการต่อสู้
“…ชิ ฉันหมดอารมณ์แล้ว เราไปดื่มกันอีกรอบดีกว่า”
การจ้องมองยังคงดำเนินต่อไปและชายที่เหมือนเป็นผู้นำก็พูดเช่นนั้นแล้วจากไป เมื่อเห็นทหารออกจากห้อง วอล์มก็เผชิญกับหญิงคนนั้น
จากมุมมองของประชาชนเขานั้นเหมือนกับทหารพวกนั้น จะไม่ตามเรื่องนี้มากเกินความจำเป็นเช่นกัน
“กลับไปบ้านและล็อคทางเข้าให้แน่น หากคุณกำลังจะถูกข่มขืนให้กรีดร้องด้วยแรงทั้งหมด เอาล่ะ..เข้าใจไหม?”
“ค-คะ”
เธอสวมเสื้อผ้าแล้วรีบวิ่งหนีไปหลังจากที่เธอพยักหน้าตอบหลายครั้ง
มันไม่มีประโยชน์ ทุกที่ก็เป็นแบบนี้
ความคิดเช่นนั้นได้เขามาในใจของวอล์ม
มีอะไรเปลี่ยนไปในตัวเขาหรือไม่?――แน่นอนว่าเขาได้ฆ่าคนเป็จำนวนมากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยทิ้งมาตรฐานทางศีลธรรมของเขาไป
เมื่อวอล์มกลับไปที่ห้องสมาชิคหน่วยของเขากำลังร้องเพลงกันอยูา มันเป็นเพลงที่มีเนื้อหาที่ฮีโร่ที่มาจาก
คนธรรมดา มันจะไร้สาระที่จะเปรียบเทียบกับฮีโล่ดังกล่าว แต่แน่นอนมันตากจากวอล์มตอนนี้มาก
แม้ว่าสีจะไม่เปลี่ยนไป แต่ผลจากการฆ่าคนจำนวนมากในสนามรบและเห็นหลายคนถูกข่มขืน ดวงตาของเขาก็ได้กลายเป็นเป็นเหมือนกับโคลนและเขาก็รู้
ในยุคที่ “รุนแรงและบ้าคลั่ง” ทหารที่เมามีความสุขกับชีวิตของพวกเขาราวกับการฆ่ากันเมื่อตอนกลางวันเป็นเรื่องโกหก บางทีพวกเขาอาจเป็นบ้านถ้าไม่มีแอลกอฮอล์และงานเลี้ยง
วอล์ม ที่เคยชินกับมันได้เปลี่ยนความคิดและเข้าร่วมงานเลี้ยง
◆
ถนนที่คดเขี้ยวได้นำไปสู่ป่าที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มขนส่งเสบียงของกองทัพจักรวรรดิไฮเซิร์คยงคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการพัก
การขนส่งของด้วยกระเป๋าเวทย์ได้ปฏิวัติการขนส่ง เมื่อรวมกับกลุ่มทหารม้าติดอาวุธเต็มรูปแบบมันก็เป็นไปได้ที่จะนำเสบียงจำนวนมากไปยังที่แนวหน้าด้วยความเร็วสูง
ถึงอย่างนั้นหน่วยขนส่งเสบียงก็ไม่เคยหายไป เหตุผลก็คือกระเป๋าวิเวทย์นั้นหายากพร้อมกับเครื่องมือเวทย์ที่ใช้สำหรับการขนส่งไปยังพื้นที่กำหนดไวสำหรับการจัดเก็บเสบียงเท่านั้นและเสบียงที่ไม่สามารถใส่กระเป๋าเวทย์ได้
จะถูกขนไปโดยเกวียนหรือมนุษย์ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ขนส่ง โฮดี้ กำลังคุมเกวียนอยู่
ทหารที่ต่อสู้ในแนวหน้าบางคนจะเยาะเย้ยว่าพวกเขาเป็นเหมือนปศุสัตว์ แต่โฮดี้เองก็ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง
และเขาก็มีประสบการณ์ทางทหาร7ปีในฐานะเจ้าหน้าที่ขนส่ง
มีหนึ่งครั้งที่โฮดี้ได้คุยกับผู้บัญชาการเจอราร์ด เทพแห่งสงครามของจักรวรรดิ
มันเกิดขึ้นในวันที่ฝนตกเย็นและเขายังคงขนเสบียงตลอดทั้งคืนในขณะที่คุมเกวียน หลังจากตรวจสอบของแล้ว
โฮดี้ก็ถูกกระแทกที่ไหล่ขณะขนส่งเสบียง เมื่อเขามองกลับไประหว่างคิดว่ามียามมาดุเขาหรือหยามเขาหรือเปล่า
มันก็เป็นผู้บัญชาการเบอร์เกอร์ที่อยู่ตรงนั้น
ผู้บัญชาการเบอร์เกอร์ กล่าวด้วยท่าทางจริงจังขณะจับมือกับโฮดี้ซึ่งลืมทักทายเขา
『”ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของนาย….เจ้าหน้าที่ขนสางเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญกับกองทัพของเรา เราสามารถสู้ต่อไปได้ก็เพราะมีครอย่างนาย นายคือความภาคภูมิใจของจักรวรรดิ”』
ตั้งแต่นั้นมา โฮดี้ ก็ได้คิว่างานของเขาจะต้องดีทึ่สุด แม้ว่าหลายคนอาจไม่ได้ยอมรับเขา แต่แค่เทพแห่งสงครามที่จำเขาได้ แค่นี้ก็พอแล้ว
“นายดเหนื่อยนะ”
โฮดี้เรียกเจ้าหน้าที่ขนส่งอีกคนที่เพิ่งถูกย้ายมา ชายคนนั้นมีตาข้างหนึ่งที่บอดจากการต่อสู้จากนั้นเขาจึงย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง
“แน่นอนฉันขนของหนักมาตลอดทาง”
หลังจากพุดแบบนั้นทหารตาเดียวก็ถอนหายใจออกมา
“วางส่วนหนึ่งไว้ที่เกวียนฉัน มันเบามากฉันไม่ได้เหงื่อออกด้วยซ้ำ”
ทหารตาเดียวคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องตลกแล้วหัวเราะ แต่โฮดี้ก็หยุดเกวียนและเริ่มย้ายเสบียงของทหารตาเดียว
“เฮ้ย เอาจริงดิ”
“ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านขนส่งมา7ปี ฉันทำมานานแล้วทั้ง ลิเบอริโต้ อาณาจักรเก่าคาโนอา ไมยาร์ด และทุกที่ของจักรวรรดิ ฉันไปทุกที่ตั้งแต่การปิดล้อม ฉันขนมาทุกอย่า่งแล้ว แค่นี้สบายมาก”
เมื่อโฮดี้ทุบหน้าอกของเขาอดีตทหารก็หัวเราะออกมา
“แปลกดี…แต่ก็ขอบคุณ ฉันจะเลี้ยงเหล้านายเองในครั้งต่อไป พูดตามตรงฉันแก่แล้วตั้งแต่ที่ตาฉันถูกขยี้พวกเขาย้ายฉันไปที่หน่วยขนส่งคงเพียงเพราะฉันอาจพลังทลายแต่ดูเหมือนจะคิดผิด มันเป็นงานที่ยากกว่าทหารทั่วไป”
ทั้งสองยังคงเข็นเกวียนต่ไปเงียบๆ โดยไม่ได้พูดกันอีก
เข้าใกล้ทางลาดชันและความเร็วก็ช้าลงตามธรรมชาติ ขณะที่โฮดี้มองไปข้างหน้าของถนนก็มีลมพัดผ่านช่องว่างของต้นไม้
หัวห้นายามที่เดินอยู่ด้านหน้าโฮดี้ก็กระเด็นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็มีลูกศรและเวทมนตร์โจมตีมาทั้งหมดในครั้งเดียว
“ศัตรูโจมตี!! พวกมันกำลังมา!”
เมื่อทหารคนหนึ่งตะโกนทหารไมยาร์และนักผจญภัยก็โจมตีทางซ้ายและขวาพร้อมกัน นักผจญภัยที่มีโล่ขนาดใหญ่ได้ทุบหัวทหารด้วยโล่
ทหารไฮเซิร์ค ที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ก็ถูกยิงด้วยธนูจากด้านข้างแล้วล้มลงกับพื้น พ่อและพลเรือนที่ถูกจ้างมาก็ถูกโจมตีด้วยโดยไม่แยกความต่าง
โฮดีที่หลบอยู่ในเกวียนดึงดาบสั้นออกมา เขามีประสบการณ์การต่อสู้อยู่บ้าง เขาเคยสู้กับมอนสเตอร์สองสามตัวและพวกโจร
“ฮ่าๆ”
มันเป็นทหารไมยาร์ดที่เข้ามาโจมตี โฮดี้แทงดาบสั้นลงกับพื้นแล้วผลักเกวียน
ทันใดนั้นทหารไม่ยาร์ดก็ไม่สามารถหลับได้แล้วถูกบดขยี้ โฮดี้มีความยากลำบากแต่เหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
นอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้วความแข็งแกร่งของพวกเขายังอันตราย
นักผจญภัยผมสีฟ้ากำลังเข้าใกล้โฮดี้ ก่อนที่เขาจะดึงดาบสั้นจากพื้น ดาบยาวได้ใกล้เข้ามาที่คอของโฮดี้ เขาลืมตากว้างและคิดว่าเขาจะตายอย่างแน่นอน
แต่โฮดี้กลับได้ยินเสียงแหลมของโลหะกระทบกันและก็เสียงของคนรู้จัก
“หนีไปซะโฮดี้!! ไปบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ดาบกำลังตัดกันด้วยความเร็วสูง
โฮดี้ไม่อยากทิ้งเพื่อนแล้วหนีเไป
“แต่”
“ไป! เร็วเข้า!”
อักครั้งที่ดาบตัดกันและร่างกายของทหารตาเดียวก็ย้อมไปด้วยสีแดง โฮดี้มองไปรอบๆ ทหารที่มาคุ้มกันถูกฆ่าตายทีละคนและพ่อค้าและคนขนส่งคนอื่นๆที่พยายามหนีก็ถูกฆ่าทั้งหมด
“ฉันสัญญา ฉันจะไปบอกพวกเขา ในนามของเจ้าหน้าที่ขนส่ง!!”
โฮดี้ ถีบพื้นหนีไปโดยไม่หันหลังกลับ หอกที่แทงออกมาได้บาดไหล่ของเขาและดาบที่แก้ม
สื่งกีดขวางสุดท้ายคือนักผจณภัยสาวคนหนึ่ง
“หลับไปซะ!!”
เสียงที่่ดังทำให้การเคลื้อนไหวของหญิงสาวช้าลง โฮดี้ไม่รู้สึกถึงดาบที่ปักกับแขนอีกต่อไป หญิงสาวล้มลงกับพิ้นแล้วกลิ้งหลายครั้งเนื่องจากความต่างของขนาดและความแข็งแรงของร่างกาย
“ลิเธีย!!”
นักผจญภัยอีกคนเรือกชื่อของเธอเพื่อมห้แน่ใจว่าสหายของพวกเขาปลอดภับ
“ถ้าเธอสำคัญขนาดนั้น ก็เอาไปเก็บไว้ในกล่อง!! เศษซากกองทัพที่พ่ายแพ้และกลุ่มนักผจญภัยอย่างพวกแกมานี่
หากจะตามเขาก็ลองดู ผู้ที่คอยสนับสนุนไฮเซิร์คไม่ได้อ่อนแอ!!”
เสียงร้องของอดีตทหารตาเดียวก็เข้ามาที่หูของโฮดี้ ลูกศรได้ลอยมาที่เขาไม่หยุด แม้น้ำตาจะไหลเขาก็วิ่งต่อไป
*****
จบไปแล้วกับตอนที่7 ขี้เกียจมากตอนนี้แล้วก็มีภาพประดอบหัวหน้าดูเวยมาให้วันนี้
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook