สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) - ตอนที่ 36
อัศวินแห่งอาณาจักรไครซิท โจฮานน่า รู้สึกหงุดหงิดกับการเจรจาที่ไร้ประโยชน์ที่เริ่มขึ้นมานานแล้ว
“กองทัพของฉันจะเป็นแนวหน――”
“ไม่ หน้าที่ในการยึดดินแดนคืนมาเป็นหน้าที่ของเรา กองทัพเฟอร์เรียส ได้โปรดให้เราได้เป็นผู้นำการโจมตีในครั้งนี้ด้วย”
“ด้วยพลังทำลายแล้ว ไครซิทที่มี “ผู้กล้าทั้งสาม” เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำในครั้งนี้เอง”
นานแล้วที่พระจันทร์ได้ขึ้นสู่ฟากฟ้า ตะเกียงหินเวทถูกแขวนไว้ในห้อง ก็เพียงพอแล้วที่จะให้เห็นแผนที่ที่อยู่กลางห้อง
ก่อนการโจมตีครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ กองทัพที่จะได้รับหน้าที่ในการโจมตีชั้นสุดท้ายกำลังอยู่ในการตัดสิน แต่มันก็ไม่ง่าย โจฮานน่าเข้าใจดีว่าแต่ละประเทศนั้นหมกมุ่นอยู่กับช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุด ไม่ใช่แค่สำหรับรายบุคคล แต่สำหรับอนาคตของประเทศ ประเทศใด้ที่มีส่วนสนับสนุนมากที่สุดในการเอาชนะจักรวรรดิไฮเซิร์คจะมีผลกระทบอย่างมากต่ออิทธิพลของพวกเขาที่จะมีใน พันธมิตรสี่ดินแดน ดังนั้นจึงไม่มีประเทศใดรู้ว่าเมื่อไรควรที่จะยอม ยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือราชรัฐไมยาร์ดที่สูญเสียดินแดนและอำนาจอันโดนเด่นไป
ในการประชุมสงคราม ผู้บัญชาการและผู้แทนของแต่ละประเทศได้เข้าร่วม มีเพียงไมยาร์ด ริต้า ไมยาร์ด ที่เป็นผู้นำประเทศ และด้วยองค์ประกอบนั้นก็ทำให้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจของแต่ละประเทศสามารถเข้าใจได้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบก็ตาม โจฮานน่าคิดจากการตามกระแสของการประชุม มีแนวโน้มว่าจะจบลงด้วยสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้หรืออาณาจักรเฟอร์เรียสที่จะได้เป็นแนวหน้า
อาณาจักรไครซิทประสบความสำเร็จในการโค่นกองพันลิกูเรียที่ซึ่งเป็นหนึ่งในกองพันชั้นยอดของจักรวรรดิไฮเซิร์ค ด้วยการยึดชั้นที่ 3 ที่ซึ่งได้รับการคุ้มกันโดยกองพันดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ชั้นที่ 6 ที่ซึ่งเป็นแกนกลางของทั้ง 13 ชั้น ก็ถูกยึดด้วยเวทมนตร์ของ “ผู้กล้าทั้งสาม” ก็ยังคงโดนเด่น และในตอนนี้ อาณาจักรไครซิทยังคงเป็นผู้นำอยู่อีกมาก
โจฮานน่าได้รับแจ้งล่วงหน้าว่านักยุทธศาสตร์ของไครซิทกำลังเจรจาอย่างไม่ลดละเพื่อให้เหมือนกับว่าอาณาจักรไครซิทให้ตำแหน่งแนวหน้าในฐานะของความโปรดปราน(Favor) ประชุมสงครามเพื่อติดสินแนวหน้า ตรงเลยๆ โจฮานน่าคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาของเธอเพราะทั้งสามไม่ต้องการที่จะยอมง่ายๆ
โจฮานน่าต้องการจะตีผู้บัญชาการภาคีอัศวินเรฮาเซนที่ไม่เข้าร่วมการประชุมอย่างน้อยสักครั้ง
“ทำไมเราไม่สุ่มเอาล่ะ”
“ล้อเล่นหรือป่าว โจฮานน่า โดโนะ”
“ใช่ โปรดงดสำหรับคำพูดที่ไรความรับผิดชอบเช่นนั่นด้วย”
ตัวแทนของแต่ละประเทศไม่มองข้ามคำพูดที่โจฮานน่ารั่วออกมาเนื่องจากขาดความก้าวหน้า และไล่ตามและโวยวายทีละคน
“ขออภัยะ สำหรับคำพูดที่สะเพร่า”
เมื่อเห็นโจฮานน่าขอโทษ การสนทนาก็กล้บมาเป็นแบบเดิม คนเดียวที่แสดงความเห็นใจโจฮานน่า คือริต้า ไมยาร์ดที่ซึ่งเข้าร่วนในการประชุมสงครามที่่ไร้ประโยชน์
โจฮานน่าคิดว่าแทนที่จะเสียเวลาอยู่ที่นี่ เธออยากจะฝึกยูโตะและมาโคโตะ หรือฝึกฝนวิญญาณและความแกร่งของเธอเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เป็นความเร่งรีบและเสียงดังและเสียงคำรามบรรยากาศที่ทำลายการถกเถียง
“อะไร!?”
“เวทมนตร์เหรอ?”
พลเรือน(civilians)ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้น้อยไม่สามารถตามสถานการณ์ได้ แต่โจฮานน่ากำหนดเสียงของการต่อสู้ว่าเป็นการโจมตีด้วยเวทมนตร์ ในห้องนั้น เจ้าหน้าที่ทหารและผู้คุ้มกันรู้สึกว่ามีการสู้รบเกิดขึ้นที่ข้างนอก เช่นเดียวกับโจฮานน่า
“อาจเป็นการก่อวินาศกรรมของศัตรูหรือเปล่า?”
บางคนพยักหน้าเมื่อผู้บัญชาการกองพลของสหพันธ์การค่้าลิเบอริโต้พูด
“เป็นไปได้ว่าเป็นการลอบสังหารโดยมุ่งไปที่ VIP โดยใช้การโจมตีเป็นการเบนความสนใจ”
“การรักษาความปลอดภัยนั้นแน่นหนา จะเป็นการดีกว่าที่จะรอรับข้อมูลที่นี่”
โจฮานน่า ก็ไม่เห็นด้วยกับการอพยพแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เธอรู้สึกเย็นยะเยือกวิ่งผ่านกระดูกสันหลังของเธอ เธออดคิดไม่ได้ว่าเธอเคยพบกับมานาที่ล่องลอยนี้มาก่อน
ไม่ใกล้เคียงกับความสงบ ความวุ่นวายกำลังแพร่กระจาย โจฮานน่ารู้ว่าระยะห่างกำลังใกล้เข้ามา
“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่การก่อวินาศกรรมแล้ว”
“หมายควา――”
พลเรือนคนหนึ่งของอาณาจักรเฟอร์เรียสต้องการคำอธิบายคำพูดของโจฮานน่า โจฮานน่าพยายามจะตอบกลับ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะทหารกระโจนเข้ามาข้างใน
“ศัตรูโจมตี!! เป็นอันเดดจากชั้นที่ 3!!”
มันคือทหารของลิเบอริโต้ที่คอยเฝ้าชั้นที่ 6
“ใจเย็นๆ อันเดดเหรอ? มากแค่ไหน?”
ถูกถามโดยผู้บัญชากรกองพลของกองทัพลิเบอริโต้ที่ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมสงครามในนามของ ฮิวโก้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้
“ค-แค่ชายคนเดียว ผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ที่ควรจะถูกฆ่า ได้ข้ามค่ายของอาณาจักรไครซิทและตรงไปที่ฐานบัญชาการที่ชั้น 6”
“เป็นไปไม่ได้!!”
โจฮานน่าตะโกน โจฮานน่าอยู่ใกล้ที่สุดที่จะยืนยันว่าเวทมนตร์ได้โหมเข้าใส่ชายคนนั้นด้วยความหนาแน่นที่ไม่สามารถอธบายได้ว่าแค่”แน่น”(thick)พื้นดินถูกกวาดออกไปและฝุ่นก็พุ่งสูงขึ้นราวกับมังกร แม้ว่าชายคนนั้นจะกลายเป็นอันเดด แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ร่างกายจะยังเหลืออยู่เนื่องจากคลื่นแห่งการทำลานยล้าง
“ฉันจะไปบดขยี้มันเอง มันอยู่ไหน!!?”
“ใกล้ๆ――”
ลมพัดและแผนที่ก็ปลิวในห้องที่ลมไม่ควรจะพัด เหงือไหลออกมาทั้งร่าง โจฮานน่าเตะโต๊ะและผลักนักยุทธศาสตร์เข้าไปในมุมมืดและคลุมเขาด้วยเสื้อคลุม เมื่อเปลวไฟเข้ามาในห้องมันก็ปกคลุมห้องในทันที บรรดาผู้ที่ช้าหรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีกรีดร้องออกมาสั้นๆแล้วกลิ้งลงบนพื้น
โจฮานน่าฟันความว่างด้วย《จู่โจม》และปัดเป่าเปลวไฟสีฟ้าที่ใกล้เข้ามา เหลือเพียงแค่ 7 คนเท่านั้นที่ยืนอยู่เมื่อเปลวไฟสีฟ้าสงบลง โจฮานน่า,ริต้า ไมยาร์ด และผู้คุ้มกันของเธอ ผู้บัญชาการกองพลของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้และทหารลิเบอริโต้อีก 2 นาย และก็นักยุทธศาสตร์ภายใด้การคุ้มครองของโจฮานน่า ตัวแทนของอาณาจักรเฟอร์เรียสอยู่ในตำแหน่งที่เลวร้ายและทุกคนถูกเผาจนตาย ส่วนทั้เหลือถูกคลื่่นกลืนกินและถูกปกคลุมด้วยไฟและกลิ้งไปมาบนพื้น
โจฮานน่าพยายามจะช่วยดับไฟ แต่ก็ถูกขัดด้วยฮาลเบิร์ดที่ยื่นออกมาจากทางเข้า ทำให้ทหารคนหนึ่งของลิเบอริโต้ถูกเสียบ
“อ้าาา!!”
เมื่อไฟลุกโชนจากภายในบาดแผล ควันดำและเปลวไฟสีฟ้าก็ปะทุขึ้นจากลำคอ ผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ได้ปล่อยเปลวไฟจากด้านใน
“สารเลวเอ้ยยยย!!!”
ผู้บัญชาการกองพลฟันดาบยาวที่ห้อยอยู่ที่เองของเขา แต่ด้วยฮาลเบิร์ดที่ปกคลุมไปด้วยมานา ดาบของเขาได้ถูกตัดออกพร้อมกับร่างกาย ทหารคนสุดท้ายของลิเบอริโต้ถูกฟันท้องด้วยฮาลเบิร์ดและเผาจากข้างในก่อนที่จะได้ดึงดาบยาวออกมา ทำให้เขาตายหลังจากชักอย่างแรง
โจฮานน่าที่เคยได้ยินว่าผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》เป็นทหารระยะไกล กล่าวได้เลยว่าที่เธอรู้นั้นผิดอย่างมาก
เพื่อให้ชัดเจน ตอนนี้โจฮานน่ามีเพียงยุทโธปกรณ์ขั้นต่ำเท่านั้น เมื่อโจฮานน่าถามตัวเธอเองว่าทนอีกได้นานแค่ไหน ผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ชี้ไปที่โจฮานน่าด้วยมือซ้ายที่บิดเบี้ยวของเขา ผ่านหน้ากากเธอรู้สึกได้ถึงความตาย และรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง นิ้วที่หักของเขาส่งเสียงแหลม แล้วเปลวไฟสีฟ้าก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา และร่างที่ปกคลุมด้วยไฟก็โจมตีโจฮานน่า《จู่โจม》ได้ชนกันและมือของโจฮานน่าก็ชาอย่างมาก
บาร์เรียเวทย์ถูกคว้านออกเพียงแค่ยืน นิ้วซ้ายทั้งหมดของผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ที่ถือฮาลเบิร์ดถูกบดขยี้ อย่างไรก็ตาม โจฮานน่านั้นถูกกดดัน พวกเขาฟันแลกคมมีดกันในระยะใกล้ แต่เมื่อเธอถอยห่างออกไป เปลวไฟสีฟ้าก็จะตามเธอมา กำแพงน้ำแข็งที่โจฮานน่ากางออกได้ปกคลุมไปด้วยไอน้ำและกระจายเปลวไฟออกชั่วขณะ
โจฮานน่ามองเห็นได้ผ่านหน้ากากว่าผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ไม่ได้สูญเสียสติปัญญาและอยู่ในภาวะคลั่ง เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายกว่าตอนที่เขาอยู่ในกองพัน ราวกับว่าข้อจำกัดได้ถูกปลดปล่อยออกเพราะไม่มีพันธมิตรอยู่ภายในระยะ โจฮานน่ากำลังปลับความคิดของเธอ เธอจำได้ว่ากองพันลิกูเรียถูกทำลายในชั้นที่ 3 กล่าวโดยสรุปคือ ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอไม่มีเพื่อนพ้องคอยควบคุมเขา ดังนั้น บางทีความคลั่งของชายคนนี้มาจากความปรารถนาที่จะล้างแค้น นั่นคือสิ่งที่โจฮานน่าสรุปได้
“ต่อต้านไปก็ไร้ประโยชน์! กองพันลิกูเรียถูกทำลายไปแล้ว!!”
“…”
คำตอบที่ได้รับอยู่ในรูปแบบของเปลวไฟ ในขณะที่《เพลิงปีศาจ》พองตัวอีกครั้ง โจฮานน่าก็พร้อมแล้ว แต่ก็ถูกใบมีดที่หลุดเข้ามาจากด้านข้างหยุดไว้
“อักก”
มันคือการฟันที่เฉียบคมที่ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาหลายปีของอัศวินสูงวัยแห่งราชรัฐไมยาร์ด
◆
ริต้าที่ได้เข้าร่วมในการประชุมสงคราม ไม่สามารถตามการต่อสู้ตรงหน้าของเธอได้ เธอได้รับประสบการณ์มากมายในศึกป้องกันที่ไอเดนเบิร์กและระหว่างการหลบหนีไปยังเมืองลอยน้ำที่ทะเลสาบเซลต้า แต่ทั้งหมดนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยในที่นี่ มีผู้เข้าร่่วมการประชุมสงครามมากกว่า 20 คน แต่ในตอนนี้นั้นเหลือเพียงไม่กี่คน
“ท่านริต้า!! โปรดอยู่ข้างหลังไว้!!”
ดาบยาวที่ทะลุผ่านช่องว่างของชุดเกราะทำให้เลือดไหลออกจากช่องท้องของผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》มันเป็นการเข้าแทรกแซงที่ดีของผู้คุ้มกันของริต้า ลุดวิด
“ฉันรู้ว่ามันเป็นการกระทำที่น่าละอาย ฉันไม่แก้ตัว”
ผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》โจมตีลุดวิดด้วย《จู่โจม》และ《เพลิงปีศาจ》 แต่โจฮานน่าที่อยู่ในภาคีอัศวินเรฮาเซนนั้นอยู่รอบๆจุดบอดของเขาไม่ยอมให้ตัดสินได้ ถึงอย่างนั้นผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ก็ไม่ได้ลังเล ชายคนนั้นจัดการด้านหน้าด้วย《จู่โจม》และเติมด้านข้างและจุดบอดด้วยเปลวไฟสีฟ้า ริต้าทำได้เพียงถอยกลับไปที่กำแพงเพื่อไม่ให้โดน
ริต้าก่นด่าความไร้พลังของเธอเอง แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเกลียดตัวเธอเอง
ทันใดนั้น สายตาของริต้าก็สบกับสายตาของผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》ลมหายใจรุนแรงและความร้อนก็เข้าหาริต้า ผู้ใช้《เพลิงปีศาจ》พยายามจะเปลี่ยนทิศทางของฮาลเบิร์ดชั่วขณะ แต่ลุดวิดก็บังคับให้ชายคนนั้นชี้ใบมีดมาที่ตัวเอง
“ฉันควรจะฆ่าเธอซะ”
“อา…..”
แค่บทสนทนาสั้นๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ริต้านึกออก “บทสนทนานั้น” และรสชาติของอาหารที่เธอได้รับในระหว่างหลบหนี เนื่องจากความทรงจำนั้นสลักไว้อย่างชัดเจนในใจของเธอ รอยยิ้มที่ดูดีได้หายไปและสายตาก็ลุกโชนไปด้วยความโกรธและควาเกลียดชัง
ริต้ากัดฟันของเธอ โดยคิดว่าผู้มีพระคุณนั้นเป็นผู้รุกราน ชายที่แสนใจดีได้กลายเป็นบ้าคลั่งเพราะสงคราม และเธอก็ด้วยในฐานะหนึ่งในผู้นำของพันธมิตรสี่ดินแดน เพื่อประชาชน? เพื่อประเทศ? มันเป็นเพียงความมุ่งมั่นอันอ่อนแอที่ซ่อนตัวตนที่อ่อนแอของเธอ เธอรู้สึกชังตัวเองที่ชั่งน้ำหนักความหวังดีของชายที่ช่วยชีวิตเธอไว้อย่างเดิม การกระทำนั้นส่งผลต่ออนาคตของชายคนนั้น
อัศวินทั้งสองตั้งท่าป้องกันเนื่องจากมานาที่มากมาย《เพลิงปีศาจ》ถูกปล่อยออกมาในห้อง แต่ผู้ใช้มันไม่ได้อยู่ในห้องอีกต่อไปในขณะที่มันดับลง
“ท่านริต้า ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
“ฉันสบายดี ยิ่งไปกว่านั้น เขา…”
“ครับ ที่ไอเดนเบิร์ก…แต่ตอนนี้ท่านควรจะลืมมันไปซะ”
ริต้าเข้าใจว่าเธอต้องไม่อารมณ์เสียต่อหน้าคนจากประเทศอื่น ริต้าหายใจออกและสงบสติอารมณ์อย่างเงียบๆ ริต้าเรียกนักยุทธศาสตร์ของไครซิทที่อยู่ในซากของโต๊ะ
“คุณปลอดภัยไหม?”
นักยุทธศาสตร์ของไครซิทลุกขึ้นจากซากโต๊ะ เหลือบมองในห้องแล้วตอบริต้า
” อื่ม ฉันเคลื่อนไหวเองได้ ชัดเจนว่าตอนนี้เหลือเพียงเรา มันต่างมากจากการฟังอย่างเดียว เราประเมิน “สิ่งนั้น” ต่ำไป อันตรายของ “สิ่งนั้น” เพียงอย่างเดียวนั้นมากกว่า “ผู้กล้าทั้งสาม” อีก”
“ใช่….ไปรวมกับทหารคนอื่นๆกัน ตอนนี้เราควรไปหาท่านแกรน บริเวณรอบๆยังคงอันตราย ไมยาร์ด โดโนะ อพยพออกจากที่นี่กันเถอะ”
“ค่ะ”
ริต้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของอัศวินแห่งภาคีอัศวินเรฮาเซน เธอไม่สามารถที่จะดื้อรั้นและรับความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นได้ ค่ายถูกโจมตี ตามมาด้วยฐานบัญชาการ และต่อไปจะเป็น――สักที่ที่ริต้าไม่สามารถรู้ได้
―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ – หายไปนาน อื่ม ช่วงนี้อาจลงช้าและน้อยหน่อย ไม่ค่อยมีสมาธิและกระจิตกระใจแปลสักเท่าไร ขออภัย
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook