สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) - ตอนที่ 27
“อดทนไว้ อีกนิดเดียว ถ้านายหลับนายตายแน่ ลืมตาไว้”
บนเปลหามมีทหารที่แขนขาดและกำลังคร่ำครวญและหอบ
เพื่อนทหารเฟอร์เรียสปิดแผลด้วยสายรัดเป็นการปฐมพยาบาลและกดอีกมือไว้ใต้รักแร้ของแขนที่เลือดออกเพื่อห้ามเลือด
บนต้นแขนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นวงที่เกิดจากเวทมนตร์น้ำ หอกน้ำแข็ง พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดกับกองพันทหารม้าจาฟฟ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน และชนะอย่างฉิวเฉียด ปัญหาคือราคาของมัน
มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และมีจำนวนเท่าหรือมากกว่านั้นที่ได้รับบาดจ็บ สหายของทหารเฟอร์เรียสที่ซึ่งอยู่บนเปลหามเป็นอย่างหลัง ยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะรอดซึ่งแตกต่างจากพวกที่ได้เผยอวัยวะภายในของพวกเขาออกมาหรือถูกโจมตีในจุดสำคัญอื่นๆ
“ไม่มีนักเวทย์รักษา!? เลือดเขาออกเยอะมากแล้ว ถ้ามันไม่หยุดตอนนี้เขาจะตาย!!”
ทหารเฟอร์เรียสแผดเสียงออกมา แต่คำตอบที่ได้นั้นไร้ปรานี
“พวกเขาหมดมานาแล้ว นักเวทย์รักษาไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไปแล้ว”
“ขอโทษนะ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว”
เทหารที่รีบไปที่ฐานและมองหานักเวทย์รักษา แต่พวกเขาทั้งหมดใช้มานาหมดแล้วในการรักษาบาดแผลร้ายแรง
“ไม่มีผู้ใช้เวทย์รักษาอยู่เลยเหรอ.”
ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีแรงและเลือดเพียงพอ ถ้าเลือดยังไหลจะต้องทำการจี้ด้วยเวทมนตร์ไฟ แต่มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเสียชีวิตจากอาการช็อก แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว เลือดยังคงไหลออกมาจากแผลที่กดไว้
“บ้าเอ้ย มีเวลาไม่มากแล้ว”
ทหารเริ่มมองหานักเวทย์ไฟ แต่แล้วอัศวินของอาณาจักรไครซิทที่อยู่ใกล้ๆก็หยุดทหารเฟอร์เรียส
“ฉันสามารถให้การรักษาได้นะ ตามฉันมา”
“จะ-จริงเหรอ?”
ทหารตามอัศวินไปอย่างเร่งรีบ เป็นที่ว่างที่มีเต็นท์อยู่ท่ามกลางเกวียนมากมาย มีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ธรรมดา อัศวินติดอาวุธครบมือสิบสองคนกำลังเฝ้าระวังอยู่
อัศวินที่อยู่ในภาคีอัศวินเรฮาเซนเปิดปากกับทหารที่กำลังมองมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เอาดาบไว้ที่นี่”
มอบดาบให้กับอัศวินที่เอื้อมมือออกมาและก้าวเข้าไปในเต็นท์ที่น่าสะพรึง
มันเป็นสถานบำบัดตามที่คุณคาดไว้ในสนามรบ มีคราบเลือดติดเต็มไปหมดและทิ้งกลิ่นคาวไว้ ทหารเฟอร์เรียสที่หายใจสูดอากาศก็รู้สึกอึดอัด
“เอาเขานอนไว้ตรงนั้น”
เป็นร่างหนึ่งที่ปรากฏต่อหน้าทหารเฟอร์เรียสที่ทำตามคำแนะนำโดยไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของความรู้สึกไม่สบาย
สิ่งที่ทหารเฟอร์เรียสเห็นคือเด็กสาวที่มีดวงตาและผมสีดำที่หาได้ยาก ดวงตากลมโตที่อ่อนโยนของเธอหรี่ลงอย่างมากและผมยาวของเธอถูกมัดไว้เพื่อไม่ให้ขวางการรักษา
ทหารเฟอร์เรียสรู้สึกว่าเด็กสาวคนนั้นไม่ได้อยู่ในสนามรบ แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็นผู้ช้วยหรือผู้ฝึกหัด ดังนั้นเขาจึงเรียกอัศวิน
“ข-ขอโทษนะ นักเวทย์รักษาอยู่ไหน?”
“เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรือไง”
แสงอุ่นๆ รั่วไหลข้างในเต็นท์ก่อนที่อัศวินจะพูดจบ ทหารเฟอร์เรียสหมดคำพูด เสียงของเขากลับมาเมื่อเขาได้เห็นบาดแผลของสหายของเขาปิดลงและแม้แต่ส่วนที่ขาดหายไปก็กลับมา
“เป็นไปไม่ได้ มันรักษาส่วนบกพร่องได้!?”
“ด้วยสิ่งนี้อาการบาดเจ็บจะเรียบร้อย นายเห็นไหมว่ายังไม่มีใครตายในหมู่ทหารที่เข้ามาเลย”
อัศวินพูดกับทหารเฟอร์เรียสอย่างภาคภูมิใจ เมื่อทหารเฟอร์เรียสหันมามองรอบๆ พวกเขาทั้งหมดหายใจด้วยใบหน้าที่สงบแม้ว่าจะมีเลือดเปือนอยู่ก็ตาม
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก! อย่างกับนักบุญแน่ะ”
นักเวทย์รักษาสาวหัวเราะทหารเฟอร์เรียสอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับมามีสมาธิกับการรักษาอีกครั้ง
ไม่ใช่ครั้งเดียวหรือสองครั้งที่ทหารที่ควรจะตายได้รับการช่วยเหลือในวันนั้น และเลี่ยงไม่ได้ที่ข่าวลือจะแพร่กระจายไปว่ามีผู้รักษาภาคสนามในอาณาจักรไครซิท (battlefield healer น่ะ)
◆
ซูกิโมโตะ อายาเนะ เป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาที่เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม เพลิดเพลินไปกับวัยเยาว์ของเธอ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอได้เห็นเลือดเพียงระหว่างซ้อมและจังหวะที่โชคร้ายเท่านั้น และเธอไม่เคยเห็นใครต้องตาย
ญาติของเธอหลายคนเป็นหมอและพยาบาล และอายาเนะก็กำลังเรียนเพื่อที่จะเป็นพยาบาลในอนาคต
จนกระทั่งเธอถูกส่งไปต่างโลกกับเพื่อสมัยเด็ก ตอนนั้นชะตาของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างเด็ดขาด
สับสนกับวัฒนธรรม ประเพณีและสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นบางอย่างทีปกติ หลังจากฝ่าฟันมันมา ในที่สุดอายาเนะได้เริ่มปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่นี้และได้รับหน้าที่ของเธอ
ไม่เหมือนเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ยูโตะและมาโคโตะ อายาเนะไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้
อายาเนะที่ทำได้แต่มองทั้งสองปกป้องผู้คนจากมอนสเตอร์และได้รับบาดเจ็บ และเธอได้ตกลงไปในความรู้สึกไร้ประโยชน์และหงุดหงิด แต่เป็นเพื่อสมัยเด็กทั้งสองคนที่ช่วยเธอไว้
มันเป็นความบังเอิญที่พรสวรรค์สำหรับเวทมนตร์รักษาได้เบ่งบานขึ้น เมื่อตอนที่ยูโตะได้รับบาดเจ็บจากการปราบปรามโจร อายาเนะกดที่ไหล่ของอย่างแรงแล้วเวทมนตร์รักษาก็ได้เปิดใช้งานโดยไม่ต้องร่าย
มันไม่ถูกกับคาแรคเตอร์ของเธอ แต่อายาเนะก็หลั่งน้ำตาเมื่อเธอสามารถช่วยเพื่อนๆและคนที่กำลังทุกข์มรมานจากความเจ็บปวดได้ ไม่ต้องถึงกับเพื่อนสมัยเด็กของเธอ อัศวินทั้งหมดที่อยู่ในภาคีอัศวินเรฮาซานก็ยินดี
อายาเนะพบกับความสุขในหน้าที่ของเธอ เธออุทิศตนเพื่อสนับสนุน ด้วยเวทมนตร์รักษาของเธอ พวกเขาสามารถขูดดินแดนปีศาจและปราบมังกรทะเลสาบได้
สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปเมื่อประเทศรอบๆได้เปิดสงครามพร้อมกัน ในการต่อสู้ระหว่างเฟอร์เรียสและจักรวรรดิไฮเซิร์ค
ตามเรื่องราวที่อายาเนะได้ยินมาจากอัศวิน จักรวรรดิไฮเซิร์คมีอำนาจทางทหารที่ยิ่งใหญ่และอาจกล่าวได้ว่าเป็นประเทศที่ทรงอำนาจที่ทำสงครามรุกรานหลายครั้งในนามของ “ศึกป้องกัน”
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการจัดการ ประเทศรอบๆจะถูกกลืนกินในทางกลับกัน พันธมิตรสี่ดินแดนที่มีศูนย์กลางอยู่บนเกาะที่อยู่ในทะเลสาบขนาดใหญ่ จะทำลายจักรวรรดิไฮเซิร์ค
ตามตรง อายาเนะเกลียดสงคราม เธอไม่ต้องการให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือไปทำร้ายผู้อื่น เหนื่อสิ่งอื่นใดเธอไม่ต้องการให้เพื่อนสมัยเด็กทั้งสองและอัศวินต้องตกอยู่ในอันตรายและสึกหรอทั้งกายและใจ
อายาเนะรู้ว่าพวกเขายังคงต้องสู้ เธอยังเข้าใจว่าโลกนี้มีด้านที่ยังไม่บรรลุและรุนแรง
วันแล้ววันเล่าอายาเนะยังคงทำการรักษาในเต็นท์ต่อไป มีหลายครั้งที่หัวใจของเธอต้องเจ็บปวด จากการเห็นอาการบาดเจ็บที่เกินกว่าจะช่วยชีวิตได้และชีวิตก็ได้หายไป มันทำให้เธอต้องการปิดตา หัวใจของเธอแทบแตกสลาย
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่สงบของคนเจ็บ คำพูดขอบคุณของเหล่าทหาร และเพื่อนๆของเธออนุญาตให้อายาเนะทำการรักษาในสนามรบต่อไป
“ก่อนอื่น การรักษาจับลงแล้ว”
ไมอา นักเวทย์รักษาที่เป็นผู้ช่วยในการรักษาที่พูดกับอายาเนะ
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ ฉันมีแค่พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นและขาดประสบการณ์ เหตุผลที่ฉันสามารถรักษาพวกเขาได้เป็นเพราะไมอาซัง”
แม้ว่าอายาเนะจะมีความรู้เรื่องการรักษา แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ามือสมัครเล่นมากนัก อายาเนะรู้ดีว่าเธอแค่ทำตามคำสั่งของไมอาเท่านั้น เช่นการเตรียมพร้อมและรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเหมาะสม
“ท่านอายาเนะอย่าได้ประเมินตัวเองต่ำเกินไป โปรดมั่นใจมากขึ้นเถอะค่ะ”
ไมอาพูดอย่างเจ็บปวด
“อ้อ ใช่ ยูโตะซังและมาโคโตะซังได้ไปที่แนวหน้าค่ะ”
“พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหมคะ”
“ค่ะ พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทหารและอัศวินต่างยกย่องพวกเขาที่ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทหารม้าจาฟฟ์ที่สร้างปัญหาให้พวกเขาตั้งแต่เข้าสู่สงครามได้”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของไมอา อายาเนะก็หัวเราะออกมา
“บางทีฉันควรจะไปพบพวกเขาหลังจากเก็บกวาดเสร็จแล้วล่ะค่ะ”
“มันเป็นความคิดที่ดีค่ะ โปรดให้ฉันไปด้วยนะคะ”
แม้ว่าเวทมนตร์รักษาของอายาเนะจะอยู่นอกเหนือตรรกะ แต่มันก็ไม่ได้มีอำนาจไปซะทุกอย่าง มีหลายๆสิ่งเช่นอุปกรณ์สำหรับปิดปากแผล อ่างที่ใช้สำหรับทำความสะอาดและผ้า อายาเนะคิดว่าการทิ้งการทำความสะอาดให้กับไมอาที่ช่วยเหลือเธอในการรักษาเป็นเรื่องหยาบคาย ดังนั้นเธอจึงช่วยไมอาด้วยสิ่งอื่นๆ เช่นการทำความเข้าใจอุปกรณ์และตรวจสอบสภาพ
ไมอาเริ่มล้างอุปกรณ์ด้วยเวทย์น้ำและอายาเนะก็เช็ดสิ่งสกปรกบนอุปกรณ์แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเวทย์
ทำอยู่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ทำเสร็จ เมื่ออายาเนะออกไป ก็พบกับเพื่อนสมัยเด็กทั้งสอง
“ได้จังหวะดีจริงๆ ฉันกำลังว่าจะไปพบเธอพอดีเลย”
“เพราะการประชุมเสร็จแล้ว โจฮานน่าซีงและคนอื่นๆกำลังคุยถึงกลยุทธ์อยู่ เราเลยถูกบอกให้ไปพักก่อนน่ะ”
“วันนี้เหนื่อยมากเลย ทหารม้าจาฟฟ์ทุกๆคนแข็งแกร่นเกินไปแล้ว มันไม่ได้ขนาดระดับอัศวินแต่มันก็คล้ายๆกัน”
มาโคโตะพูดออกมาและดูเหนื่อย
“ใช่ พวกมันลื่นผ่านเวทมนตร์ของพวกเราแล้วฟันใส่คนอื่นมากมาย โจฮานน่าซังและคนอื่นๆทำให้พวกมันหันกลับไปใด้ แต่ก็นั่นแหละ…ฉันเหงื่อตกเลยล่ะ”
“อื่ม…น่าทึ่งดี”
ยูโตะพูดออกมาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ในความจริง เมื่อเขาเห็นทหารม้าใกล้เข้ามาขณะที่โปรยอวัยวะภายในไปทั่ว เขารู้สึกหวาดกลัว
หากไม่มีการฝึกและสหายอัศวินที่อยู่ที่นั่น ยูโตะก็คงจะรู้สึกหกหู่มากขึ้น แตกต่างจากการต่อสู้กับพวกปีศาจ เขาตระหนักว่าเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั้งกายและใจ
เมื่อหัวข้อกำลังจะไหลไปสู่ทิศทางของการต่อสู้ ไมอาที่อยู่ด้านหลังอายาเนะก็เปิกปาก
“ทั้งสองกินอะไรหรือยังคะ”
“ไม่ ยังเลย”
“ใช่เรายังไม่ได้กินอะไรเลย”
“กองทัพเฟอร์เรียสมีอาหารมากมาย เห็นใด้ชัดว่าในบรรดาคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกคุณทั้งสามมีคนที่เป็นชนชั้นสูงและได้ให้อาหารเราเป็นการขอบคุณ มีทั้งขนมปังขาว ชีส และไส้กรอกด้วยนคะ”
” ” ” เอ๊ะ!? ” ” ”
ทั้งสามที่ได้ยินสิ่งนั้นเดินเข้ามาโดยเอนไปข้างหน้า กิจวัตรการกินของพวกนั้นแย่ลงเรื่อยๆตั้งแต่ที่พวกเขามาที่โลกนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าร่วมสงคราม
นอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกเขายังอยู่ในวัยเติบโต ทั้งสามใช้เวทมนตร์ไปหลายครั้งดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอาหารจำนวนมากในท้องของพวกเขา บางทีความต้องการแคลอรี่ของพวกเขาอาจเทียบได้กับนักรบตัวใหญ่ล่ำๆ
“อยากกิน อยากกิน!!”
“น-เนื้อและขนมปังขาว!? ทุกวันมานี้เราได้กินแต่ถั่วกับมันฝรั่งมาตลอดเลย”
“ฉัน..ก็อยากกิน”
ผู้กล้าทั้งสามที่ซึ่งชื่อเริ่มดังก้องในประเทศรอบๆก็สามารถแสดงปฏิกิริยาที่เหมาะสมกับวัยได้เช่นกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นไมอาก็ยิ้มและในขณะเดียวกันก็กังวลว่าพวกเขาจะถูกล่อลวงไปได้อย่างง่ายดาย
―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ –
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook