สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) - ตอนที่ 10
วอล์มกำลังพยายามอย่างมากที่จะสู้กับนักผจญภัยที่สามารถเร่งความเร็วการเคลื่อนไหวและโจมตีได้ชั่วขณะอยู่
แต่เมื่อเพื่อนของเขาเริ่มได้รับบาดเจ็บทีละคน ชายตรงหน้าก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัดและในที่สุดการตัดสินก็จะมาถึงในไม่ช้า จากนั้นฮาลเบิร์ดของวอล์มก็ได้แทงไปที่ไหล่ของนักผจญภัยที่ชื่ออัล แล้ววอล์มก็ผลักเขาไปที่ต้นไม้ใหญ่
“แกที่ไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคน….ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ”
“อ่าาาา อ้าาาา!!”
เขาอาจเป็นคนดีที่มีเพื่อนที่ดีในฐานะมนุษย์เขานั้นน่าชื่นชม และนั่นคือเหตุผลที่วอล์ม รู้สึกเห็นใจเขา เขาไม่เหมาะกับสนามรบ
แล้วเขาก็ได้พยายามดึงฮาลเบิร์ดออกและส่งเสียงร้องไร้ประโยชน์ออกมา
หลังจากเวลาสั้นๆนั้น วอล์มก็ได้ดึงดาบออกมาและกำลังจะตัดคอของเขาในแนวนอนในครั้งเดียว
ถ้าเขาตายที่เหลือจะง่ายแล้ว
ในขณะนั้นผิวหนังที่ติดกับเกราะของวอล์มสัมผัสได้ถึงลม มันไม่ใช่ลมที่เป็นธรรมชาติ สัญชาตญาณที่ช่วยให้เขารอดมาได้ในสนามรบจนถึงตอนนี้กำลังบอกถึงวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน แล้วก็ได้มีลูกพายุมาตกมาข้างๆ วอล์มก็รับกระโดดหลบทันที พลังและความหนาแน่นของมันเทียบไม่ได้กับใบมีดลมที่สร้างจากมานา วอล์มได้ถอยกลับ แต่ความเจ็บปวดก็ได้แล่นไปที่แขนขวาของเขา รอยขีดขวนเล็กๆสามารภมองเห็นได้บนเกราะและรอยขีดข่วนจำนวนมากก็ถูกแกะสลักลงบนนิ้วมือและแขนที่ได้สัมผัสและเลือดก็ไหลออกมา
“เวทมนตร์นี่มันอะไรกัน!”
มีคนเก็บไพ่ตายไว้อย่างงั้นเหรอ แม่งเอ้ย
ในขณะที่สบถออกมาในใจ วอล์มก็มองหาผู้ใช้เวทมนตร์และก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่วอล์มกำลังจะฆ่า ใบหน้าที่แสดงความกลัวของเธอที่เขาเห็นเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้ปรากฏออกมา ราวกับว่ามันเป็นเรื่องโกหกแล้วเธอก็จ้องมาที่วอล์มด้วยสายตาเฉียบคม
“แกเองเหรอ”
วอล์มพยายามจะปิดระยะเข้าหา แต่นัดต่อไปก็เข้ามาโดยไม่มีหยุด
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
วอล์มได้กระโดดไปหลบหลังต้นไม้ แล้วเมื่อต้นไม้โดนการโจมตีมันก็ถูกตัดออก เหล่าทหารที่โดนการโจมตีเลือดของพวกเขาก็ได้กระจายไปทั่วป่า มันเป็นการโจมตีที่มีพลังมหาศารจริงๆ บางทีการยิงจากระยไกลด้วยความเร็วอาจได้ผล ไม่ได้มีแค่ที่วอล์มเท่านั้นแต่ลมยังกระจายไปทั่วป่าแบบสุ่ม
“มันเป็นการโจมตีวงกว้าง กระจายตัว!! อย่ารวมกลุ่ม!!”
ตามคำสั่งของหัวหน้าดูเวย ทหารก็ย้ายไปยังที่ที่เขาสามารถหลบได้ วอล์มก็เหมือนกัน เมื่อลมหยุดลงนักผจญภัยและทหารสองสามคนก็ได้หนีไป นักผจญภัยที่วอล์มแทงติดไว้กับต้นไม้ก็หายไปเช่นกัน
แล้ววอล์มก็หยิบฮาลเบิร์ดที่โชกไปด้วยเลือดขึ้นมาและก็ตระหนักว่าเขาพลาดไปในการฆ่าเขาคนนั้นดูจากปริมาณที่เลือดออกแล้ว
“ด้วยการโจมตีขนาดใหญ่นั่น พวกเขาก็ไม่ถูกฆ่าไปด้วย?”
วิลลาร์ทพูดออกมาเช่นนั้นใขขณะที่ปัดดินและกิ่งไม้ออกจากตัวเขา
“ก็อย่างที่เห็น อีกแค่นิดเดียวฉันก็เกือบฆ่ามันได้แล้วเชียว”
หัวหน้าหน่วยที่กำลังแบกค้อนสงครามไว้บนไหล่ของเขาดูเศร้าใจ
“หัวหน้า แล้วการไล่ล่าล่ะ”
โจเซ่พร้อมกับนัวร์และบาริโต้ก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากช่องว่างของต้นไม้
“อ่าใช่ แต่ไม่จำเป็น กองกำลังหลักของศัตรูถูกทำลาย ที่เหลือก็มีแค่นักผจญภัยที่บาดเจ็บและทหารไมยาร์ดที่ไม่มีผู้บัญชาการ ที่เหลือก็เป็นงานของหน่วยอื่น เราไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้น”
“รับทราบ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรวบรวมศัตรูและผู้รอดชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ โอ้ว และก็พวกแกไม่ค่อยได้ช่วยในการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไปกันเถอะ”
“น นั่นไม่จริงสักหน่อย!”
บาริโต้ตอบกลับเสียงดัง แต่โจเซ่ก็โผล่มาแล้วปิดปากของเขาไว้ นัวร์ที่ฉลาดและไม่ได้ต่อต้านโดยไม่จำเป็น
วอล์มมองไปที่ป่าในขณะที่ผูกสายห้ามเลือดให้ตัวเอง ส่วนที่เหลือจะเป็นงานของหน่วยอื่นๆ ถ้านักผจญภัยพวกนั้นโชคดีพวกเขาก็จะสามารถหนีไปได้ แล้ววอล์มก็ได้ตรวจดูสภาพนิ้วมือและแขนของเขา ดาบที่ศัตรูใช้นั้นคมและการฟันแต่ละครั้งก็หนักหน่วง
เหตุผลที่รอดก็คือนักผจญภัยไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคนหรือเห็นเพื่อนของพวกเขาถูกฆ่าเช่นกัน
หากนักผจญนั้นคุ้นเคยกับความตายของมนุษย์ล่ะก็ อาจเป็นวอล์มเองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอัตราย
คำพูดของนักผจญภัยหญิงที่หนีไปได้ก็เข้ามาในความคิดของวอล์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฉันไม่ได้ฆ่าคนอื่นเพราะฉันชอบสักนิด”
โดยไม่ได้พูดให้ใครฟัง วอล์มพึมพำออกมาเช่นนั้น มันอาจฟังดูตลกและน่าขัน ไม่มีใครเชื่อคำพูดนั้นในป่าเต็มไปด้วยศพ ในความเป็นจริงตราบใดที่คุณต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เป็นศัตรูของมนุษยชาติ คุณก็จะไม่ต้องมาลิ้มรสความขัดแย้งของมนุษย์แบบนี้ แต่สำหรับวอล์มที่เป็นทหารของจักรวรรดิ มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
อีก 4 ปี เฮ่อ
――วอล์มจะสามารถเลือกได้ว่าจะปลดประจำการหรือไม่ในอีกสี่ปีข้างหน้า บางคนจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเดือนและที่ได้จากการปล้นสะดมของพวกเขาจากสงคราม และบางอาจกลับไปที่บ้านเกิดของเขาแล้วซื้อที่ดินและปักหลักที่นั่น หรือบางคนจะยังคงสู้ต่อไปในฐานะทหาร หรือจะไปเป็นนักผจญภัย วอล์มที่หมดหวังกับปัจจุบันไม่เคยคิดถึงอนาคตของเขา
มันจะโอเคเหรอที่คนที่เพิ่งจะฆ่าคนอื่นไปคิดเกี่ยวกับตัวเอง?
――นักผจญภัยที่เศร้าโศกกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนรอบข้างและรู้สึกโกรธพวกเขานั้นดูเป็นมนุษย์มากกว่าในสายตาของวอล์มอย่างไม่ต้องคิด วอล์มรู้ดีว่ายิ่งเขาเก่งขึ้นในฐานะทหารเท่าไรเขาก็ยิ่งมีความเป็นมนุษย์น้อยลงเท่านั้น
เมื่อเวลาปลดประจำการมาถึงเขากังวลว่าเขาจะยังเป็นวอล์มคนเดิมอยู่ไหม
เฮ่ออ!!
หลังจากที่วอล์มถอนหายใจ เขาก็เริ่มเช็ดเลือดออกจากดาบและฮาลเบิร์ดของเขา
ป่าจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
◆
“วิ่ง!ลิเธีย หรือเธออยากจตาย!?”
เฟล็คกำลังอุ้มอัลและเอมี่ไว้บนหลังของเขา เขาได้เสียตาขวาไปและมีแผลจำนวนมากทั่วร่างของเขา แต่ก็นับว่าน้อยกว่าในหมู่พวกเขา แม้ปกติเฟล็คจะวิ่งไปรอบๆป่าด้วยโล่ขนาดใหญ่ แต่นักผจญภัยทั้งสองก็มีน้ำหนักที่มาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เฟล็กเอาชนะการมองเห็นที่มืดมนของเขาด้วยแรงใจเท่านั้น
“แต่ แต่ เลฟตี้เขา”
“ฉันรู้!! เลฟตี้จะไม่เป็นอะไร ลองคิดดูว่าเขารอดจากวิกฤตมาได้กี่ครั้งแล้ว”
เฟล็ครู้แม้ว่าเขาจะไม่ชอบ แต่การตามล่าของทหารไฮเซิร์คอาจตามมา ทางรอดเพียงอย่างเดียวของทหารและคนที่บาดเจ็บสองคนคือเฟล็คและอัลต้องไม่ถูกไล่ล่า ดังนั้นเลฟตี้จึงไปเป็นตัวล่อเพื่อให้ปาร์ตี้และทหารไมยาร์ดที่เหลือหลบหนีได้
เลฟตี้ที่มักจะปากเสียและใช้เงินหมดอย่างรวดเร็วจะถูกเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นคนที่เย็นชาไม่สนใจ
แต่เฟล็ครู้ดีว่าเขาจะรอดจากวิกฤตที่เอาชีวิตของเขาเป็นเดิมพันได้
“เขาจะไม่เป็นอะไร”
เฟล็คยังคงวิ่งต่อไปโดยบอกตัวเองแบบนั้น เลือดกำลังไหลออกมาจากสองคนบนหลังเขาและชีวิตพวกเขาก็อยู่ในอันตราย
******
จบไปแล้วกับตอนที่10 วันนี้ไม่ยาวสักเท่าไรแต่หวังว่าจะสนุกกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกcomment
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook