ห้อง SUITE ภายในโรงแรมหรูคือสถานที่ลงทัณฑ์ของเควิน วรันธาราลนลานคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยของตัวเองมือไม้สั่น หลังจากพายุสวาทเหี้ยมเกรียมจบสิ้นลงไป
หยาดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม มองคนตัวโตที่นอนหงายทับท่อนแขนของตัวเองนิ่งด้วยความน้อยใจ นี่เขาเห็นหล่อนเป็นอะไร เห็นหล่อนเป็นตัวอะไรกัน พอเจอหน้า ก็ลากถูลู่ถูกังมาโรงแรมด้วย จากนั้นก็ทำให้หล่อนกลายเป็นโสเภณีราคาต่ำอย่างเผด็จการ
“พอใจแล้วใช่ไหมคะ”
เควินที่จ้องมองบนฝ้าเพดานอยู่นาน ตวัดสายตามองมาที่หล่อนด้วยสายตามืดลึก
“ผู้หญิงเลือดเย็น”
“คุณ… คุณว่าอะไรนะคะ”
แล้วเขาก็ขยับตัวลุกขึ้น และก็ไม่สนใจที่จะปกปิดร่างกายองอาจของตัวเองเลยสักนิด เขาไม่อับอาย แต่หล่อนสิหน้าแดงซ่านและรีบละสายตาจากตรงนั้นแทบไม่ทัน
“ผมว่าคุณเลือดเย็นยังไงล่ะ”
“ฉันเนี่ยนะคะเลือดเย็น?” หญิงสาวหัวเราะเยาะทั้งน้ำตา “แต่ถึงยังไงก็คงเลือดเย็นเท่าคุณไม่ได้หรอกค่ะ หมดธุระกับฉันแล้วใช่ไหมคะ ฉันได้กลับสักที” หล่อนงอนและน้อยใจนัก ถลาจะหนีลงจากเตียง แต่ถูกมือใหญ่คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน
“ผมจะไม่มีวันยอมให้เราห่างกันอีกแล้ว”
“ปล่อยนะคะ”
เขาไม่ปล่อย แถมยังรั้งร่างของหล่อนให้ล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นร่างกำยำเปลือยเปล่าก็ทาบทับเอาไว้ แข้งขาที่มีเส้นขนหยิกๆ เสียดสีกับต้นขาเนียนนุ่มของหล่อนแบบใกล้ชิด วรันธาราร้อนวาบไปทั้งตัว อุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ
“ปละ ปล่อย… ก่อนค่ะ”
“ถ้าผมปล่อยคุณ… คุณก็จะหนีผมไปอีก”
“คุณสนใจด้วยเหรอคะว่าฉันจะอยู่หรือไป” หญิงสาวประชดทั้งน้ำตา ยังจดจำความอำมหิตหลังพุ่มไม้ของเขาได้เป็นอย่างดี “คุณเกลียดฉันมาก อย่าลืมสิคะ”
คนตัวโตเงียบไปสักพัก ก็เชยคางมนของหล่อนให้สบประสานสายตา “ถ้าผมเกลียดคุณจริงๆ ผมจะตามมาหาคุณทำไมกัน วรันธารา”
นี่แหละคือคำถามที่หล่อนยังไม่รู้คำตอบ…
“คุณอาจจะแค่ผ่านมาที่นี่…”
“ผมตั้งใจมาที่นี่ต่างหาก”
วรันธารามองตาคนพูดอย่างสับสน “คุณกำลัง… จะทำอะไรกันแน่คะ เควิน ยังต้องการทำร้ายอะไรฉันอีกคะ”
เควินลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาของเขาเศร้าหมองลง “ผมรู้ว่าผมทำร้ายคุณจนไม่น่าให้อภัย…” และเขาก็หันมามองหล่อน ในดวงตาคมกล้าเต็มไปด้วยความละอาย “ที่หลังพุ่มไม้นั่น”
วรันธาราหน้าแดงซ่าน ขณะผุดลุกขึ้นนั่งเช่นกัน “อย่า… อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ”
“แต่ผมต้องพูด… ผมต้องบอกคุณให้เข้าใจว่าเพราะอะไรผมถึงทำอย่างนั้น… ทำป่าเถื่อนแบบนั้นกับคุณ…”
คนฟังเมินหน้าหนี น้ำตาริน
“เพราะคุณเกลียดฉันยังไงล่ะคะ”
“เพราะผม… เกลียดคุณไม่ลงต่างหาก”
วรันธาราแทบไม่เชื่อกับสิ่งหูได้ยิน หล่อนผินหน้ากลับมามองผู้ชายที่หล่อเหลาเหลือเกินอย่างไม่เข้าใจ “คุณ… คุณไม่ได้เกลียดฉันหรอกหรือ หลังจากที่ฉัน… ไปกับปีเตอร์”
“ผมพยายามเกลียดคุณ พยายามสุดความสามารถเลยนะ แต่ผมทำไม่ได้ ผมคิดถึงแต่คุณ หลายครั้งที่ผมจองตั๋วเครื่องบินเพื่อจะไปวอชิงตัน เพื่อชิงตัวคุณกลับมา แต่ทุกครั้ง… ผมก็ห้ามตัวเองเอาไว้ได้ทันเสมอ คุณทำให้ผมทรมาน แค่คิดว่าค่ำคืนที่ผมต้องนอนเหน็บหนาวอยู่บนเตียงเพียงลำพัง แต่คุณอบอุ่นอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผม…”เขาหันหน้าหนีหล่อนเพื่อซ่อนความเจ็บปวด
“เควิน… คือฉันกับปีเตอร์…”
“ไม่ต้องอธิบาย คุณแม่บอกผมหมดแล้วล่ะ” ในที่สุดสายตาคมกริบก็จ้องมองกลับมา “ผมเข้าใจผิดคุณมาตลอด ผมขอโทษ… ขอโทษที่ทำป่าเถื่อนราวกับไม่ใช่ลูกผู้ชายแบบนั้นกับคุณ แต่ขอให้รู้ว่าแม้กระทั่งตอนที่ผมยังไม่รู้ความจริง ผมก็รู้สึกผิดจนแทบบ้า”
วรันธาราสะอื้นให้เบาที่สุด “ฉัน… ฉันไม่ติดใจอะไรหรอกค่ะ และถ้าจะทำให้คุณสบายใจขึ้นมาบ้าง ฉัน… ยกโทษให้คุณ”
“ไม่พอ… ผมต้องการมากกว่าการยกโทษให้” สองมือหนาของเควินคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้แน่น และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามที่ตอนนี้ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา “คุณจะต้องไม่ไปจากชีวิตของผมอีก”
“มัน… มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ” สายตาของวรันธาราเต็มไปด้วยเจ็บปวดเหลือเกิน
“ทำไม… ทำไมจะไม่ได้ คุณไม่รักผมแล้วหรือวรันธารา”
“มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อฉันรักคุณฝ่ายเดียว”
เควินพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเขย่าคนตัวเล็ก “คุณแกล้งโง่ใช่ไหมถึงไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณน่ะ”
“ฉันจะไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น จนกว่าฉันจะได้ยินกับหู”
เควินนิ่งเงียบไป ในขณะที่วรันธาราขยับตัวออกห่าง “ฉันคงต้องกลับไปที่ออฟฟิศ ฉันมีงานที่ต้องทำ”
“แต่คุณต้องดูแลผม”
“คนที่รับผิดชอบหน้าที่นี่คงจะหายจากอาการป่วยกะทันหันแล้วล่ะค่ะ ฉันจะให้เธอมาแทน”
“ไม่! ผมต้องการคุณคนเดียว”
คนตัวเล็กที่เช็ดน้ำตาจนแห้งไปแล้ว ปล่อย… ปล่อยฉันไปเถอะ ได้โปรด…”
แล้ววรันธาราก็ก้มลงหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกเควินโยนเอาไว้เกลื่อนห้องหรู จากนั้นก็หายเข้าไปในห้องน้ำ แสนนาน
เควินยกมือขึ้นลูบหน้าแรงๆ อย่างเคร่งเครียด นี่เขาจะทำยังไงดีถึงจะสามารถทำให้วรันธาราหายโกรธได้
วรันธาราเดินเหงาๆ เข้ามาในออฟฟิศ สมอง ยังคงหมกมุ่นอยู่เควินตลอดเวลา
เขาหายออกไปจากห้องหรูในโรงแรมอย่างไร้ร่องรอย หล่อนจำได้ว่าตัวเองก้าวออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นแม้แต่เหงาของเขาเสียแล้ว หล่อนควรจะดีใจที่ไม่ต้องพบต้องเจอกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อีก แต่… แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
เขาคงแค่ผ่านมา… และก็ผ่านไปเท่านั้น…
“น้องธาร… เป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม พี่ขอโทษ เพราะพี่เองทำให้น้องธารต้องเจอกับชะตากรรมเช่นนั้น” เสียงพี่ปริมหัวหน้างานดังขึ้นด้านหลัง หล่อนรีบหันไปเผชิญหน้าด้วยความประหลาดใจ
“พี่ปริม… หมายถึงอะไรคะ”
“โถ… น้องธาร ดูสิสภาพบอบช้ำเหลือเกิน เพราะพี่แท้ๆ เลย”
เอาแล้วไง หล่อนงงมากยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่ปริมพูดอะไรคะ ธารไม่เห็นเข้าใจเลย” หล่อนถามออกไป แต่คู่สนทนากลับคว้ามือของหล่อนไปกุมเอาไว้ พลางมองด้วยความสงสัย
“ก็เรื่องเมื่อคืนยังไงล่ะจ๊ะ”
“ระ เรื่องเมื่อคืน…?” คราวนี้วรันธาราหน้าซีดเผือด ความหวาดระแวงระเบิดในอก “พี่ปริม… พี่ปริมทราบด้วยเหรอคะ”
“อืมมมม์…”
“พี่… พี่ปริมทราบได้ยังไงคะ”
หล่อนกำลังรอคำตอบจากหัวหน้า แต่เสียงคุ้นหูดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก
“ผมบอกหัวหน้าของคุณเองแหละครับ”
“เควิน!”
ผู้ชายที่พกความหล่อมาเต็มพิกัดตั้งแต่เกิดยืนฉีกยิ้มกว้างให้ตรงหน้า วรันธาราอ้าปากค้างเติ่ง มองเควินในชุดเดิมตั้งแต่เมื่อวานด้วยความตื่นตกใจ
“คุณ… มาที่ได้ยังไงกันคะ”
“ผมมารอคุณยังไงล่ะ”
“คุณ… คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” วรันธาราเต็มไปด้วยความอับอายเพราะพนักงานในออฟฟิศเริ่มหันมามองกันเป็นตาเดียวแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจึงต้องรีบปรี่เข้าไปหยุดตรงหน้าเควิน และทำเสียงข่มขู่ “ออกไปจากที่นี่นะคะ และอย่าเข้ามาก่อกวนอีก”
แต่เควินสะทกสะท้านที่ไหน ยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์แพรวพราวเช่นเดิม “คุณได้ผมแล้วจะทอดทิ้งแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณต้องรับผิดชอบที่ทำให้ผมเสียเหงื่อไปทั้งคืน”
“เควิน!”
“ครับ” คนตัวโตยักไหล่ยียวนกวนโทสะ และในที่สุดวรันธาราก็จำต้องลากเขาเข้าไปคุยในห้องรับรองที่ลับรับสายตาคนอื่น
“มานี่เลย คนบ้า”
เควินยอมให้หญิงสาวลากเข้าห้องไปได้อย่างง่ายดาย ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของพนักงานทั้งออฟฟิศ แต่ก็ถูกหัวหน้างานอย่างพี่ปริมดุเอาเสียก่อน
“ทำงานกันไปสิจ๊ะ คนรักเขาจะปรับความเข้าใจกัน”
ภายในห้องรับรอง วรันธารากำลังยืนจ้องหน้าคนเจ้าเล่ห์ตาขุ่นคลั่ก แต่พ่อเจ้าประคุณกลับยืนผิวปากสบายใจ
“คุณทำบ้าอะไรคะเควิน ทำแบบนี้ทำไม”
“ผมทำอะไรที่ไหนกันล่ะ ผมก็แค่…”
“ประจานฉันอีกแล้วนะคะ”
“ผมไม่ได้ประจานอะไรคุณสักหน่อย” เควินยังคงยียวน
“แต่… แต่คุณบอกกับพี่ปริมว่าฉัน…ฉันนอนกับคุณ…”
“ก็ผมพูดความจริงนี่ หรือว่าคุณจะเถียงว่าไม่จริง” เควินก้าวเข้ามาหา ในขณะที่คนตัวเล็กถอยหลังหนี
“แต่คุณไม่จำเป็นต้องพูดนี่คะ”
เควินไล่ต้อนแม่ภรรยาคนสวยจนหล่อนชนเข้ากับผนังห้องหมดทางหนี เขาตามเข้าไปกางแขนคร่อมเอาไว้ และก้มหน้าลงไปหาด้วยท่าทางทางหิวกระหายคุกคาม
“ถ้าผมไม่พูด… ผมก็ต้องเสียคุณไปน่ะสิ”
คนฟังหน้าตาตื่น “คุณ… หมายความว่ายังไงน่ะ”
“ผมก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละครับ ผมไม่มีวันปล่อยให้คุณหนีจากผมไปได้อีกครั้งหรอก”
“แต่… เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“เหรอครับ ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ หรือ” คนตัวโตก้มหน้าต่ำลงมาอีก ปลายจมูกเฉียดแก้มนวลไปมา จนสาวน้อยสะท้านไปทั้งร่าง “ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริงๆ น่ะหรือ จริงอ่ะ…” พ่อเจ้าประคุณถามย้ำไปย้ำมา ปลายจมูกและริมฝีปากร้อนจัดยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ที่ซอกคอและบริเวณแก้มนวลตลอดเวลา หลายครั้งเหมือนกับว่าเขาจะฉกวูบลงมา แต่กลับไม่ได้ทำ
“ตอบมาสิ… เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ หรือ ตอบสิครับ…”
MANGA DISCUSSION