เควินก้าวลงมาจากรถหลังจากนั่งนิ่งอยู่ภายในนาน หลายนาที ดวงตาคมกริบหรี่แคบมองช่อดอกไม้สีขาวสะอาดในมืออย่างชั่งใจ ความขัดเขินกำลังทำให้เขาลังเลหลายครั้งอยากจะทำเป็นลืมเจ้าช่อดอกไม้นี้เอาไว้รถ แต่พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปเมื่อเช้า เขาก็จำต้องหยิบมันติดมือมาด้วย
“เป็นไงเป็นกันสิ” เควินพึมพำ ขณะก้าวเดินตรงไปข้างหน้า ป้าเดซี่พร้อมกับสาวใช้ยืนรอรับอยู่ที่เดิมทุกวัน
“สวัสดีค่ะคุณเคน ซื้อดอกไม้มาให้ใครเหรอคะ” ป้าเดซี่อดที่จะยิ้มแซวไม่ได้
โหนกแก้มของเควินเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น “ผมไม่ได้ซื้อหรอกครับ พอดีลูกค้าให้มา ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยถือติดมือมาด้วย ว่าแต่… ทำไมวันนี้บ้านดูเงียบๆ ล่ะครับ”
“ก็ไม่ได้เงียบนะคะ ปกติเหมือนทุกวันเลยค่ะ มาส่งของมาให้ป้าเถอะค่ะ ป้าจะเอาไปเก็บให้”
เควินรู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะเขาคาดหวังว่าวรันธาราจะออกมายืนรอตรงนี้ที่เดียวกับป้าเดซี่ แต่ช่างเถอะ หล่อนคงยังโกรธเขาอยู่ล่ะมั้ง ชายหนุ่มเป่าลมออกจากปากเบาๆ ก่อนจะส่งเสื้อสูทตัวนอกและกระเป๋าโน๊ตบุ้คให้กับป้าเดซี่
“แล้วคุณแม่อยู่ไหนครับ”
รอยวันพันปีเควินไม่เคยเอ่ยถามถึงแคลอรีน่า คนที่ได้ยินอย่างป้าเดซี่จึงแปลกใจเป็นที่สุด
“เอ่อ อยู่บนห้องพักน่ะค่ะ ว่าแต่ทำไมวันนี้คุณเคนถึงได้ถามหาเธอล่ะคะ”
เควินทำหน้าไม่ถูก แต่ก็พยายามกลบเกลื่อน “ผมก็แค่… มีธุระจะคุยกับคุณแม่ครับ ขอตัวนะครับป้าเดซี่”
เควินเดินผ่านไปแล้วพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ยังถือเอาไว้ในมือแน่น ป้าเดซี่มองตามไปด้วยความวิตกกังวล
“ปากแข็งเป็นที่หนึ่งแบบนี้ไงคะ คุณธารเธอถึงถอดใจน่ะ”
“เข้ามาเถอะ”
เสียงอนุญาตของมารดาดังขึ้น หลังจากที่เควินยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องสองครั้ง ชายหนุ่มก้าวเข้าไปภายในช้าๆ ดวงตากวาดมองหาร่างของใครบางคนแต่ไม่เจอ
“เควินนั่นเอง มีอะไรกับแม่หรือเปล่า”
ท่าทางของแคลอรีน่าดูเศร้าหมองผิดหูผิดตา จนคนเป็นลูกอย่างเขาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามแสดงท่าทางหมางเมิน ห่างเหินใส่ท่าน แต่ไม่มีวันไหนเลยที่เขาเกลียดท่านได้จริงๆ แม้ท่านจะเคยทอดทิ้งเขาไปอย่างเลือดเย็นก็ตาม
“เปล่าหรอกครับ ผมก็แค่… เข้ามาหา”
แคลอรีน่าลุกขึ้นจากโซฟาริมห้อง เดินมาหยุดตรงหน้าบุตรชาย และก็อดไม่ได้จะหรี่ตาลงมองช่อดอกไม้ในมือใหญ่
“ดอกไม้…?”
เควินรีบเอาซ่อนไว้ด้านหลัง “ครับ ผมได้มาฟรีๆ ก็เลยถือติดมือมาด้วย ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอกครับ”
แคลอรีน่ายิ้มเศร้าหมอง มองลูกชายอย่างรู้ทัน “ถ้าลูกจะเอามาให้หนูธารล่ะก็… มันสายไปแล้วล่ะ”
หัวใจของเควินกระตุกรุนแรง แต่ก็พยายามกลบเกลื่อน “ผู้หญิงคนนั้นคู่ควรกับดอกไม้ของผมที่ไหนกันล่ะครับ”
“หนูธารไปแล้วนะ”
“คุณแม่พูดอะไรครับ”
“หนูธารไปแล้วเควิน”
ช่อดอกไม้ในมือใหญ่ร่วงหล่นลงกับพื้นห้องโดยที่เจ้าของมือไม่อาจจะทำอะไรได้เลย ดวงตาคมกริบจ้องหน้ามารดาด้วยความตื่นตกใจที่ซ่อนเร้นไม่ได้อีกแล้ว
“ไป… ไปไหนครับ”
แคลอรีน่าระบายยิ้มเศร้าหมอง “หนูธารไม่อยากทำให้ลูกต้องอึดอัดใจน่ะ เธอก็เลยตัดสินใจไปจากบ้านของเรา”
“เธอไปไหนครับคุณแม่!” เควินสติแตก เขาไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว ความรู้สึกแท้จริงของหัวใจระเบิดตูม “หรือว่าวอชิงตัน!”
“ประเทศไทย”
ดวงตาคมกริบที่เอ่อไปด้วยหยาดหยดแห่งความปวดร้าวมองมารดา “เมืองไทย?”
“เห็นหนูธารบอกแม่ว่าจะกลับไปหาญาติของตัวเองที่นั่น แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอลูกจะได้ไม่ต้องรำคาญหูรำคาญตาอีกแล้วยังไงล่ะ”
“ผม… ผมไม่ได้รำคาญ…” ร่างสูงใหญ่เซแทบจะทรงตัวไม่อยู่ “ผมไม่เคยรำคาญเมียของตัวเอง…”
“มันสายเกินไปแล้วล่ะที่จะพูดแบบนี้เควิน หนูธารไปแล้ว”
“ผมต้องเสียคนที่ผมรัก… ไปอีกครั้งจริงๆ หรือครับ” ในที่สุดร่างทั้งร่างก็ทรุดลงกับพื้นอย่างน่าเวทนา ศีรษะที่เคยทระนงโน้มต่ำลงมองพื้นเพื่อซ่อนหยาดน้ำตาเอาไว้
“ผมทนไม่ได้อีกแล้ว…”
“แม่คิดว่าลูก… เกลียดหนูธารจนหมดรักไปแล้ว แม่ก็เลย…”
“ผมไม่เคยหยุดรักวรันธารา… แม้ว่าเธอจะทรยศผมสักกี่ครั้งก็ตาม ผมยังรักเธอ ยังคงรัก…” ดวงตาของเควินแดงก่ำ น้ำตาคลอตลอดเวลา “รักเธอคนเดียว…”
แคลอรีน่าทรุดกายลงนั่งข้างๆ ลูกชาย หล่อนร้องไห้ออกมา “แม่ขอโทษ… เพราะแม่เอง… แม่ทำร้ายหัวใจของลูกชายตัวเองเป็นครั้งที่สองแล้ว”
“ไม่ใช่เพราะคุณแม่หรอกครับ เพราะผมทำไม่ดีกับเธอเอาไว้ ผมสำนึกผิดก็จริง แต่มันสายเกินไปแล้ว”
“เควิน… ลูกฟังแม่นะ ฟังแม่ให้ดีๆ”
เควินยังคงก้มหน้าเช่นเดิม ความทุกข์ทรมานห่อหุ้มรอบกายจนไม่อาจจะดิ้นหนีออกไปได้
“ความจริงแล้ว… หนูธารกับปีเตอร์ไม่ได้มีอะไรกัน”
“แต่ผมเห็น…”
“วันนั้นแม่บินตามลูกไปวอชิงตันด้วย และก็แม่ก็ไปหาหนูธาร ก่อนจะบังคับให้หนูธารทำตามคำสั่ง ซึ่งคำสั่งนั้นก็คือการให้หนูธารแสดงเป็นคนรักของปีเตอร์ ผู้ชายที่แม่จ้างเอาไว้”
“คุณแม่…?”
“แม่รู้ว่าตัวเองเลวมากที่ทำแบบนั้น แต่ตอนนั้นนี้ตาของแม่มืดบอด แม่คิดเพียงอย่างเดียวว่าหนูไครี่ย์คือคนเดียวที่คู่ควรกับลูก หนูไครี่ย์คือผู้หญิงคนเดียวที่จะทำให้แม่กับลูกคืนดีกันได้ แต่แม่คิดผิด… แม่ทำผิดลงไปแล้วถึงได้มาคิดได้ แม่ขอโทษนะเควิน… เรื่องนี้หากจะมีคนผิด แม่เป็นคนผิดเองทั้งหมด อย่าโกรธ อย่าเกลียด และยกโทษให้หนูธารเถอะนะ หนูธารรักลูกมาก จึงยอมทำทุกอย่างถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้ตัวเองถูกเกลียดชังจากคนที่รักก็ตาม…”
เควินหยุดหายใจกับสิ่งที่ได้ยิน “ผม… ไม่ได้ฟังผิดใช่ไหมครับ… วรันธารากับปีเตอร์ไม่ได้มีอะไรกัน”
“ใช่… ปีเตอร์คือผู้ชายที่แม่จ่ายเงินจ้างให้เล่นละครเท่านั้น”
เควินรู้สึกเหมือนยกหินหนาหนักออกจากอก เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งๆ ที่ดวงตายังคงแดงก่ำ
“วรันธาราไม่ได้ทรยศผม… เธอรักผมคนเดียวจริงๆ…”
“ใช่ หนูธารรักลูกมาก แม่ยืนยันได้ เพราะแบบนี้ไงแม่ถึงยอมแพ้”
เควินหันมาจ้องหน้ามารดาด้วยสายตาอ่อนโยนลง และกุมมือของท่านเอาไว้ แคลอรีน่าหัวใจฟูแน่นอก
“ขอบคุณมากนะครับคุณแม่ที่บอกเรื่องนี้กับผม ขอบคุณมากที่ทำให้ผมเลิกบ้าเสียที”
“แต่มันสายไปแล้ว… หนูธารไปแล้ว…”
“ไปแล้ว ผมก็ลากกลับมาได้ ต่อให้เธอขึ้นไปอยู่บนฟ้า ผมก็จะตามขึ้นไปกระชากลงมาครับ เพราะผมรักเธอ รักเธอมาก…”
“เควิน… แม่ขอโทษ…”
“ไม่ต้องขอโทษผมแล้วครับ ผมเข้าใจแล้วว่าคุณแม่ทำแบบนี้ลงไปทำไม แต่ผมอยากจะบอกคุณแม่ว่า… ต่อให้ผมทำท่าทางหมางเมินใส่แค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วในใจของผม… ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ผมยัง… ยังต้องการอ้อมกอดของคุณแม่เสมอ อ้อมกอดที่ผมโหยหามาตลอดหลายสิบปี…”
“เควิน… แม่… แม่มันเลวเหลือเกินที่ทิ้งลูกไป แม่… สมควรตาย…”
“อย่าทิ้งผมไป… อีกคนเลยครับคุณแม่…” แล้วเควินก็โผเข้ากอดมารดาเอาไว้ แนบใบหน้ากับหน้าอกของท่านอย่างโหยหา “ขอบคุณที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ยังอยู่กับผม ทั้งๆ ที่ผมร้ายกาจกับคุณแม่เหลือเกิน”
“แม่รักลูกนะเควิน… รักมากเหลือเกิน”
“ผมก็รักคุณแม่ครับ… รักทุกวินาที”
สองแม่ลูกกอดรักจากความรู้สึกแท้จริงของหัวใจ ท่ามกลางทะเลน้ำตาแห่งความสุขที่ท่วมท้น
MANGA DISCUSSION