“น้ำค่ะคุณเคน”
ป้าเดซี่รีบส่งแก้วน้ำให้กับเจ้านาย และรีบเสื้อสูทมาถือเอาไว้
“ขอบคุณครับ”
เควินกล่าวสั้นๆ แต่ไม่รับน้ำไปดื่ม ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในตัวตึกแทน ป้าเดซี่รีบส่งแก้วน้ำให้กับเด็กรับใช้ข้างตัว และรีบวิ่งตามเควินไปติดๆ
“เอ่อ วันนี้คุณเคนจะรับประทานมื้อค่ำที่ห้องอาหารไหมคะ”
“ไม่ครับ”
เควินตอบสั้นๆ อีกเช่นเคย ขณะก้าวยาวๆ ผ่านห้องรับแขกมุ่งหน้าขึ้นตรงไปยังบันไดที่ตกแต่งเอาไว้หรูหรา
“แต่ว่า… คุณแคลอรีน่าอยากให้คุณเคนร่วมโต๊ะด้วยนะคะ”
คราวนี้เควินหยุดเดิน และหันกลับมาเผชิญหน้ากับป้าเดซี่กะหันทันเลยทีเดียว
“ผมจะดื่มเหล้าบนห้อง ชัดเจนไหมครับป้าเดซี่”
“ชัด… ชัดเจนค่ะ แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ครับ”
แม้น้ำเสียงของเควินจะแผ่วเบา แต่สายตากลับจริงจังและดุดันจนน่ากลัว
ป้าเดซี่จึงจำต้องก้มหน้ารับคำสั่ง “ค่ะ ได้ค่ะ”
เควินไม่ได้กล่าวอะไรอีกนอกจากหมุนตัวและก้าวหายไป
“เฮ้ออออ…”
ป้าเดซี่ถอนใจยาว ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ อย่างผิดหวัง
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ”
“เควินไม่ยอมลงมากินมื้อค่ำอีกแล้วเหรอเดซี่”
แคลอรีน่าครางอย่างผิดหวัง
“ใช่ค่ะ บอกแค่ว่าให้ยกเหล้าขึ้นไปให้เหมือนเดิม” ป้าเดซี่ตอบด้วยความรู้สึกหนักใจเช่นกัน
“แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดีล่ะ” แคลอรีน่าหันไปมองหน้าวรันธาราที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ
“เควินไม่ยอมลงมาร่วมโต๊ะกับแม่ตั้งแต่ตอนที่ไม่มีหนูนั่นแหละ เก็บตัวเงียบ ดื่มแต่เหล้า”
“หนูคง… เป็นตัวกาลกิณีสำหรับเควิน”
“อย่าคิดแบบนั้นสิ หนูจะเป็นคนช่วยทำให้โลกของเควินสว่างสดใสอีกครั้งหนึ่งต่างหาก หลังจากที่มันมืดมนเพราะน้ำมือแม่อย่างฉันมานานแสนนาน”
แคลอรีน่ายังคงรู้สึกผิดในใจเหลือเกิน
“เดซี่ เดี๋ยวไปเรียกเควินให้อีกรอบนะ บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ได้ค่ะคุณแคลอรีน่า”
“ให้หนู… ขึ้นไปเรียกเองไหมคะ”
“ยังไม่ถึงเวลาที่หนูจะปรากฏตัวต่อหน้าเควิน เราต้องทำให้เควินเซอร์ไพรส์ที่สุด”
แคลอรีน่ารั้งเอาไว้ ซึ่งวรันธาราก็ยอมทำตาม
ป้าเดซี่อมยิ้มเมื่อเห็นผู้หญิงสองคนของเควินปรับความเข้าใจกันได้ “งั้นเดี๋ยวดิฉันมานะคะ”
แคลอรีน่าพยักหน้ารับ มองตามร่างของป้าเดซี่ไปจนลับตาด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
“หวังว่าเควินจะยอมลงมานะ”
วรันธาราก้มหน้ามองมือของตัวเองนิ่ง ความรู้สึกมากมายประดังประเดอยู่ภายในอก
ทั้งยินดี และทั้งกริ่งเกรง…
ร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่ที่ขอบหน้าต่างภายในห้องนอนของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมจนเคยชิน ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่ปุยเมฆสีขาวบนท้องฟ้ายามเย็น เฝ้ามอง เฝ้าหวังว่าคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของขอบฟ้าจะกำลังรู้สึกเช่นเดิมกัน
คิดถึงจนแทบขาดใจ…
ไม่ใช่หรอก ไม่มีทางเป็นไปได้ วรันธารามีคู่รักใหม่ไปแล้ว หล่อนไม่มีทางคิดถึง… คนเก่าๆ อย่างเขาอีกแล้ว มีแต่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละที่ยังโหยหา ยังรอคอยทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีหวังใดเลย
ลมหายใจหนักหน่วงถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากหยักสวย สมองยังคงจดจำช่วงเวลาที่มีกันและกันได้เป็นอย่างดี ผู้หญิงที่เคยเมาหนักและเผลอบอกว่ารักเขา ผู้หญิงที่สารภาพรักตรงหน้าเขา แต่กลับเดินจากไปพร้อมกับผู้ชายคนอื่นหน้าตาเฉย
หล่อนไม่เหลือคุณสมบัติใดเลยที่จะทำให้เขายังคงคิดถึง แต่กระนั้นเขาก็ไม่อาจจะห้ามปรามความรักในหัวใจได้ วรันธาราสร้างรอยแผลลึกแห่งที่สองในหัวใจของเขาอย่างอำมหิต เขาเจ็บปวดกับการจากไปของหล่อน ยิ่งกว่าครั้งที่วรัญญาทรยศเสียอีก
เขารักหล่อน… โดยที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด…
กำปั้นหนาทุบลงกับขอบหน้าต่างแรงๆ ริมฝีปากบิดเบี้ยวเมื่อนึกเยาะความโง่เขลาของตัวเอง
วรันธาราทรยศเขาอย่างร้ายกาจ แต่คนโง่อย่างเควิน คาสโตรโตเซ่นกลับไม่อาจจะตัดใจจากหล่อนได้เลย แม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
“คุณเคนคะ ป้าเดซี่เองค่ะ”
เสียงเรียกจากประตูหน้าห้องช่วยดึงเควินให้ออกมาจากอดีตได้ชั่วขณะ
“ป้ามีอะไรกับผมหรือครับ”
“เอ่อ… คุณแคลอรีน่ามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับคุณเคนค่ะ”
“เอาไว้วันอื่นเถอะครับ วันนี้ผมไม่พร้อม”
“แต่ว่า…”
“ป้าเดซี่ไปบอกคุณแม่ว่าผมเหนื่อย อยากอยู่คนเดียว”
ป้าเดซี่ทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากเดินออกไปเงียบๆ เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับแคลอรีน่าฟัง
“เควินไม่ยอมลงมาเหรอ”
“ใช่ค่ะ น่าจะยังไม่พร้อมจริงๆ”
ป้าเดซี่ถอนใจเบาๆ ก่อนจะหันไปมองวรันธาราที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างกายของแคลอรีน่า
“คุณเคนเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่วันที่คุณเคนไม่มีคุณธาร…”
วรันธาราน้ำตาคลอเต็มไปด้วยความขมขื่น
แคลอรีน่าคว้ามือของวรันธารามากุมเอาไว้ “ฉันผิดเองทั้งหมดเดซี่ เอาเป็นว่าฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เควินกับหนูธารคืนดีกัน”
“คงจะยากล่ะค่ะ คุณเคนเก็บตัวเหลือเกิน ขนาดคนขับรถคนสนิทยังแทบไม่ได้คุยกันเลยค่ะ”
“แต่มันต้องมีวิธีสิ” แคลอรีน่าพยายามคิด แต่ก็ยังคิดไม่ออก ป้าเดซี่เองก็จนปัญญาเหมือนกัน
“เดี๋ยวดิฉันไปสั่งเด็กยกเหล้าขึ้นไปให้คุณเคนก่อนนะคะ ให้รอนานๆ เดี๋ยวอาละวาดอีก”
ป้าเดซี่หมุนตัวจะเดินออกไป แต่ถูกแคลอรีน่าเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนเดซี่…”
“คุณแคลอรีน่ามีอะไรเหรอคะ”
แคลอรีน่าระบายยิ้มมีความหวัง
“ฉันคิดออกแล้วล่ะว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี”
“ทำยังไงเหรอคะ” ป้าเดซี่ถามอย่างสงสัย ในขณะที่วรันธาราเองก็สงสัยด้วยเช่นกัน
“เดี๋ยวก็รู้”
แล้วแคลอรีน่าก็นั่งอมยิ้มพึงพอใจ
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น เควินรู้ดีว่าคงเป็นสาวใช้ที่นำสิ่งที่ตัวเองกำลังรอคอยขึ้นมาให้
“เข้ามา”
เสียงประตูถูกเปิดและปิดลงเบาๆ แต่เควินที่ยืนกอดอกหันหลังให้กับประตูไม่คิดจะเหลียวไปมอง
“วางไว้ที่โต๊ะนั่นแหละ และออกไปได้แล้ว”
เสียงบางอย่างกระทบกับโต๊ะกระจกดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะเงียบงันลง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูออกไปของสาวใช้
“ออกไปได้แล้ว ถ้าฉันต้องการอะไร จะเรียกเอง”
เควินขมวดคิ้วเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากสาวใช้ จังหวะนั้นเองเขาก็หมุนตัวกลับมา และตีหน้ายักษ์ใส่
“หูแตกหรือไง บอกว่า…”
เสมือนพื้นใต้ฝ่าเท้าแยกออกจากกันก่อนจะสูบร่างของเขาให้ดำดิ่งลงไปใต้พื้นปฐพี ดวงตาคมกริบเบิกกว้าง ก่อนที่มันจะกะพริบเร็วๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
“ธาร… วรันธารา…”
ศีรษะทุยสะบัดแรงๆ พร้อมๆ กับการจ้องเขม็งร้ายกาจเมื่อพบว่าภาพตรงหน้าเป็นของจริง
วรันธาราตัวจริง!
“เควิน… ฉัน…” หัวใจของวรันธาราเต้นแรงระรัวกระทบกับหน้าอกจนแทบจะกระดอนออกมา
“ฉัน… กลับมาหาคุณแล้ว…”
รอยยิ้มที่หล่อนหวังว่าจะได้เห็น สายตาสีน้ำเงินอมดำที่คิดว่าต้องเป็นประกายยินดี เมื่อเขาได้เห็นหน้าหล่อน แต่ทุกอย่างที่คาดหวังเอาไว้ กลับมีแต่สิ่งที่ตรงกันข้ามทั้งนั้น
รอยยิ้มไม่มีบนใบหน้าหล่อเหลาของเควิน แถมในดวงตาคมกริบคู่นั้นยังเปลี่ยนสีจากน้ำเงินอมดำเป็นสีของเพลิงจนคนถูกมองอย่างหล่อนตัวสะท้าน
“ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง…” น้ำเสียงของเควินเยือกเย็น แต่ความน่ากลัวมหาศาลยิ่ง “วรันธารา…”
หญิงสาวฝืนยิ้มขยับเท้าเข้า ทั้งๆ ที่ใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เควินเปลี่ยนไป ท่าทางของเขาดูดุดันมากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่านัก แต่กระนั้นหล่อนก็ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว
“ฉัน… คิดถึงคุณมาก”
เสียงหัวเราะที่ไม่น่าจะได้ยินจากผู้ชายตรงหน้าดังกังวานขึ้น พร้อมๆ กับฝ่ามืออบอุ่นที่ตะปบลงมาบนต้นแขนทั้งสองข้าง
“โอ๊ย…”
ศีรษะทุยสวยโน้มต่ำลงมาหา กลิ่นลมหายใจของเควินยังชวนลุ่มหลงได้เช่นเดิม
“กลับมาหาผม… ในฐานะอะไรหรือ”
“ก็… ก็… เอ่อ… คน… รัก…”
เสียงหัวเราะดังออกจากลำคอแกร่งอีกครั้ง
“คนรัก? คนรักบ้าบออะไรกัน มันจบไปตั้งแต่วันที่คุณเลือกเดินไปกับไอ้ชายชู้นั่นแล้ว”
“โอ๊ย… เจ็บค่ะ…”
ร่างเล็กถูกจับกระแทกเข้ากับผนังห้องแรงๆ หล่อนร้องเจ็บปวด แต่คนตัวโตไม่ยั้งมือแม้แต่นิดเดียว
“ผู้หญิงแพศยา! ยังมีหน้ากลับมาให้เห็นอีกอย่างนั้นหรือ”
“เควินคะ… ฉัน… ฉันอธิบายได้นะคะ โอ๊ย… อื้อ…” วรันธาราพยายามดิ้นรนเมื่อมือแข็งแรงข้างหนึ่งเลื่อนจากต้นแขนขึ้นมากุมที่ลำคอระหงเอาไว้
“ผมบอกแล้วไง… ว่าหากไปแล้ว อย่ากลับเข้ามาในชีวิตของผมอีก คุณจำไม่ได้หรือ”
“เควินคะ… เรื่องวันนั้นมัน…”
“ผมจะฆ่าคุณ”
“ไม่นะคะเควิน… ได้โปรดฟังฉันอธิบายก่อน”
“ฟังหรือ?” เควินหัวเราะลั่น แต่ภายในอกนั้นแสนจะทรมาน วรันธารากลับมาทำไมอีก หล่อนต้องการอะไรจากเขาอีก หรือว่ายังฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นไม่พอ
กรามแกร่งที่มีไรหนวดขึ้นปะปรายขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุกเป็นริ้ว ดวงตาคมกริบยังลุกเป็นไฟยามจ้องมาที่หล่อน
“ฉันรักคุณนะคะเควิน ได้โปรด… ฟังฉันอธิบายก่อน”
“ผมไม่ฟัง!”
“ว๊ายยย…!”
ร่างของวรันธาราถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียงแรงๆ จนหล่อนเจ็บระบมไปทั้งตัว โดยมีคนตัวโตถลาตามขึ้นมาคร่อมทับ
“หรือว่าที่กลับมาหาผม เพราะไอ้หมอนั่นมันปรนเปรอไม่ถึงใจใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะ เควิน… ฉัน…” หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา อยากจะอธิบายแต่ชายหนุ่มไม่ฟังเลย
“ก็ดี… ในเมื่อเดินเข้ามาให้ท่าถึงที่ ผมก็จะไม่ขัดความต้องการของคุณหรอก จะบริการให้ถึงใจเลย”
แคว๊ก!
“ว๊าย! อย่านะคะ… เควิน… อย่า…”
เสื้อถูกฉีกออกจนขาดวิ่น ร่างสาวด้านบนจึงเหลือแต่บราเซียร์สีขาวตัวจิ๋วที่แทบจะห่อหุ้มปทุมถันอวบสล้างเอาไว้ไม่หมด วรันธารารีบยกมือขึ้นปกปิดก้อนเนื้อนุ่มด้วยความอับอาย
“ได้โปรด… ฟังฉันอธิบายก่อน”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ฟัง… มานี่…”
แล้วเควินก็ก้มหน้าลงซุกไซ้ร่างกายด้วยกิริยาเถื่อนถ่อยหยาบคาย และเต็มไปด้วยความคลั่งแค้น สองมือของเขาตะโบมบีบเค้นหนักหน่วงไม่สนใจว่ากายสาวจะบอบช้ำมากมายแค่ไหน วรันธาราจึงทำได้แค่นอนนิ่งและร่ำไห้
“หยุดเดี๋ยวนะเควิน!”
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมๆ กับคำสั่งคุ้นหู เควินจำต้องหยุดการกระทำป่าเถื่อนและหันกลับไปเผชิญหน้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
วรันธารารีบคว้าหมอนมากอดปิดบังเนื้อตัวของตนเองเอาไว้ด้วยความอัปยศอดสู
“ผมคงพลาดที่ไม่ได้ล็อกห้อง คุณแม่ถึงเข้ามาได้ง่ายๆ”
แคลอรีน่ามองหน้าลูกชายอย่างอ่อนใจ ก่อนจะรีบเดินไปหยุดที่เตียงที่มีร่างของวรันธารานั่งตัวสั่นอยู่
“หนูเป็นยังไงบ้างลูก”
เควินได้ยินก็ยิ้มเยาะหยัน “ญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะครับ หรือว่าผมตกข่าวอะไรไป”
“เควิน ลูกควรจะฟังคำอธิบายของคนอื่นบ้างนะ ไม่ใช่เอาแต่จะทำป่าเถื่อนแบบนี้”
“คุณแม่ไม่มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนผมทั้งนั้น และก็พากันออกไปจากห้องของผมได้แล้ว ผมจะพักผ่อน” ชายหนุ่มหมุนตัวหันหลังให้กับทุกคน แผ่นหลังกว้างสะท้อนขึ้นลงถี่ระรัว
วรันธารามองคนตัวโตแสนใจร้ายอย่างเจ็บปวด หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจทะลักไม่หยุด
แคลอรีน่าเห็นก็เข้าใจความรู้สึก หล่อนรีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมของลูกชายมาสวมให้กับหญิงสาว
“กลับห้องกับแม่เถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
“ค่ะ” วรันธาราก้าวลงจากเตียงด้วยแข้งขาที่สั่นเทา ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เควินหันมาพอดี
“ผมให้เวลาคุณจนถึงพรุ่งนี้เช้า ออกไปจากบ้านก่อนที่ผมจะตื่น วรันธารา”
“ไม่ได้นะเควิน หนูธารเป็นแขกของแม่”
“ที่นี่คือบ้านของผม… หรือว่าผมเข้าใจผิดไปล่ะครับ”
แคลอรีน่ารู้ดีว่าตอนนี้เควินคงไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้น หล่อนจึงเลือกที่จะพาวรันธาราออกไปก่อน
“หนูไม่เป็นไรนะ ฉันขอโทษ… ไม่คิดเลยว่าเควินจะอารมณ์ร้ายมากขึ้นขนาดนี้”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ” แม้จะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่วรันธาราก็ร้องไห้ไปตลอดทางเลยทีเดียว
เควินกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำด้วยความทรมาน “คุณกลับมาทำไม! กลับมารังควานหัวใจของผมอีกทำไม!”
กำปั้นที่หนาหนักกระแทกเข้ากับผนังห้องหลายครั้ง จนเลือดออกตาข้อนิ้ว
“ผมเกลียดคุณ… ผมเกลียดผู้หญิงอย่างคุณ วรันธารา…”
ร่างกำยำร่วงลงกับพื้น พร้อมๆ กับหัวใจที่ขาดวิ่นไม่เหลือชิ้น เขาพยายามจะลืมหล่อน แต่ไม่เคยลืมได้จริงๆ สักครั้ง แค่ได้เห็นหน้า แค่ได้สบตาอีกครั้ง ทุกอย่างที่เพียรพยายามทำก็พังทลายลงในพริบตา
เขาไม่เคย… ต่อกรกับเสน่หาที่มีต่อวรันธาราได้เลย… และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขา… ใกล้จะพ่ายแพ้อีกครั้งแล้ว
ศีรษะที่เคยทระนงตอนนี้โน้มต่ำลงมาข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมืดหม่นหาทางออกไม่เจอ
เขาควรจะทำยังไงต่อไป ปล่อยให้หล่อนเดินเข้ามาในชีวิต และยอมเป็นเหยื่อโง่ๆ อีกครั้ง หรือจับหล่อนโยนออกไปจากชีวิตดี
เขาควรทำยังไง…? ควรทำยังไงดี…?
ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างถูกยกขึ้นปิดหน้า และความเงียบงันมืดมิดก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอย่างสิ้นเชิง
MANGA DISCUSSION