แคลอรีน่าลุกขึ้นยืน มองวรันธาราทั้งน้ำตา “ฉันแพ้แล้ว… ฉันพ่ายแพ้ให้กับ… เธอและเควินแล้ว…”
“ไม่จริง… คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่ คุณกำลังจะทำร้ายอะไรฉันอีก คุณแคลอรีน่า!”
“ฉันขอโทษ… ขอโทษที่เคยรังเกียจในความต่ำต้อยและความอวดดีของเธอ ตอนนั้นนี้ฉันตาบอด ฉันมองแค่ความเหมาะสม มองแค่ผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับเพียงอย่างเดียว ก็อย่างที่เธอรู้นั่นแหละ… ความสัมพันธ์ของฉันกับเควินไม่ดีนัก ฉันทำร้ายเควิน ทำร้ายลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองเอาไว้อย่างสาหัส และตอนนี้เขาก็เกลียดฉันเข้าไส้ ดังนั้นสะใภ้ของคาสโตรโตเซ่นจึงต้องเป็นคนของฉัน คนที่จะสามารถโน้มน้าวให้เควินกลับมารักฉันอีกครั้งได้ หนูไครี่ย์คือคนที่ฉันเลือกเพราะฉันกับแม่ของหนูไครี่ย์คือเพื่อนรักกัน ส่วนเธอ… เป็นเพียงต้นหญ้าที่ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลยในสายตาของฉัน” น้ำตาของแคลอรีน่าไหลออกมา ความอ่อนแอที่พยายามซ่อนเอาไว้ถูกเปิดเผยจนหมดสิ้น “ฉันพยายามทำทุกทางเพื่อให้หนูไครี่ย์ได้แต่งงานกับเควิน แต่ก็ติดที่เควินมีเธออยู่ ตอนแรกฉันคิดว่า เควินจะเขี่ยเธอทิ้งในไม่ช้า เหมือนๆ กับที่เควินเคยทำกับผู้หญิงคนอื่นๆ แต่ยิ่งนานวันเข้า… ฉันก็ยิ่งมองเห็นความไม่ธรรมดาในความสัมพันธ์ของเควินกับเธอ ลูกชายของฉันลุ่มหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ในหัวของเควินมีแต่เรื่องของเธอ จนแม่อย่างฉันทั้งอิจฉาและทั้งเกลียดชังเธอเป็นที่สุด”
แคลอรีน่ายังคงปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม
วรันธาราหยิบกระดาษทิชชูส่งให้ด้วยความสะเทือนใจ
“ฉันเข้าใจคุณค่ะ… ไม่ต้องพูดแล้ว…”
“แต่ฉันต้องพูด… เพราะฉันอยากให้เธอรู้ว่า ต่อให้ฉันสามารถจัดการทุกสิ่งในชีวิตของเควินได้แค่ไหน แต่สิ่งเดียวที่ฉันไม่อาจจะแตะต้องและเปลี่ยนแปลงมันได้ ก็คือความรู้สึกของเควินที่มีต่อเธอ… วรันธารา…”
“ฉัน…”
“ได้โปรด… ได้โปรดกลับเข้าไปในชีวิตของเควินอีกครั้งเถอะนะ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แม้แต่ผู้ให้กำเนิดอย่างฉันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้อีก”
วรันธาราน้ำตาไหล หัวใจปวดร้าวไม่แพ้กัน “ฉันเข้าใจที่คุณพูดทุกอย่าง แต่… แต่ฉันคงกลับไปไม่ได้อีกแล้ว…”
หล่อนจะกลับไปได้ยังไงกัน ในเมื่อตอนนี้เควินเกลียดหล่อนไปเสียแล้ว
“ฉัน… คงกลับไปทนเห็นสายตาเกลียดชังของเควินไม่ได้ ฉันทนกับสิ่งนั้นไม่ได้หรอก ได้โปรดเห็นใจฉันเถอะนะคะ”
“เธอไม่ได้รัก… ลูกชายของฉันแล้วเหรอ ไม่ได้รักเควินแล้วเหรอ วรันธารา”
“ฉันไม่เคยหยุดรักเควินได้… แม้แต่วินาทีเดียว”
“งั้นก็กลับไปกับฉันสิ ไปวอชิงตัน ฉันจองตั๋วเครื่องให้เธอแล้ว เราจะกลับไปด้วยกัน เควินจะต้องดีใจ…”
“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ”
วรันธารายืนยันคำเดิมทั้งน้ำตา
“ในเมื่อมันจบลงแล้ว ก็อย่ารื้อฟื้นมันอีกเลย ให้ฉัน… อยู่ในโลกแห่งความจริงเถอะค่ะ”
“ฉันขอร้องวรันธารา”
“ขอโทษนะคะ ฉันคง… ทำตามความต้องการของคุณไม่ได้อีกแล้ว ขอตัวค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิวรันธารา”
วรันธาราชะงักเท้า ค่อยๆ หมุนกลับมา ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่แคลอรีน่าคุกเข่าลงกับพื้น
“คุณทำอะไรน่ะ คุณแคลอรีน่า?!”
หญิงสาวตกใจเป็นที่สุดรีบดึงร่างของหญิงสูงวัยกว่าให้ลุกขึ้น แต่ แคลอรีน่าไม่ยอม
“ได้โปรดลุกขึ้นเถอะค่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนี้หรอก ลุกขึ้นนะคะ”
“ฉันจะคุกเข่าอยู่อย่างนี้จนกว่าเธอจะยอมกลับไปหาเควิน”
“คุณเควินอยู่ได้… โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีฉัน…”
“อยู่แบบคนตายทั้งเป็น อยู่แบบคนไร้จิตวิญญาณแบบนั้นน่ะเหรอ ฉันทนเห็นลูกชายเป็นแบบนั้นต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียว ได้โปรดเถอะนะวรันธารา ถ้าเธอคิดจะโกรธจะเกลียดใครสักคน ก็ขอให้คนๆ นั้นเป็นฉัน เพราะเควินไม่รู้เรื่องด้วย”
“ฉันไม่โกรธคุณหรอกค่ะ เพราะฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณดี”
“งั้นก็กลับไปกับฉัน กลับเทกซัส เควินต้องดีใจแน่ๆ ที่เห็นเธอกลับมา”
“แต่ฉัน… ฉันกลัว…”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว เพราะฉัน… จะเป็นคนสนับสนุนความรักของเธอเอง”
แคลอรีน่าขยับลุกขึ้นยืน และดึงร่างของวรันธาราเข้าไปกอดแนบอก “เธอคือลูกสะใภ้ของฉัน”
“แล้วคุณไครี่ย์ล่ะคะ”
“ไครี่ย์กำลังจะแต่งงาน… กับคนที่เธอรักน่ะ”
วรันธาราดันตัวออกห่างเล็กน้อย และจ้องมองหน้าแคลอรีน่าอย่างประหลาดใจ
“แต่คุณไครี่ย์รักคุณเควินนี่คะ”
“รักแค่ฝ่ายเดียวมันไม่มีประโยชน์ยังไงล่ะ หนูไครี่ย์คิดได้ก็เลยจากไปค้นหาคนที่ใช่ของสำหรับตัวเอง และก็เจอ… ความจริงเพราะคำพูดของหนูไครี่ย์นี่แหละที่ทำให้ฉันตาสว่าง”
แคลอรีน่าระบายยิ้ม มองวรันธาราอย่างเอ็นดู ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหญิงสาว
“ลืมทุกเรื่องในอดีตให้หมดนะวรันธารา ต่อไปนี้เธอก็เปรียบเสมือนลูกหลานของฉัน เราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”
วรันธาราน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ความขวางหนามที่เคยขวางทางรักตอนนี้มันถูกลมพายุพัดหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่กลีบกุหลาบที่ถูกโรยเอาไว้ตลอดเส้นทาง
“คุณแคลอรีน่า… แน่ใจนะคะ… แน่ใจว่า…”
“ฉันไม่เคยแน่ใจอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หนูธาร…”
“คุณแคลอรีน่า”
“เรียกคุณแม่สิ…”
วรันธาราสะอื้นไห้อย่างตื้นตันใจ หล่อนไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่แคลอรีน่ายอมรับในตัวของหล่อน
“คุณ… แม่…”
แคลอรีน่าระบายยิ้มพึงพอใจ
“กลับไปเก็บของและร่ำล่ำลาเพื่อนของหนูซะนะ อีกสองชั่วโมงฉันจะไปรับที่ห้องเช่า”
“ค่ะ คุณแม่”
แคลอรีน่าดึงร่างของวรันธารามากอดอีกครั้งด้วยความเอ็นดูแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ ตอนนี้หล่อนรู้แล้วล่ะว่าความสุขของคนเป็นแม่อย่างหล่อนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเห็นลูกชายมีความสุข
“ว่าไงนะธาร?! นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย” ณดาเบิกตากว้างจนแว่นตาแทบจะกระเด็นร่วงกับสิ่งที่วรันธาราได้เล่าให้ฟัง หล่อนทั้งดีใจและทั้งใจหายในคราวเดียวกัน
“อืมมม์… เรื่องจริงทุกอย่างเลยแหละแหล” วรันธาราตอบขณะง่วนอยู่กับการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง
“ตอนแรกฉันก็นึกว่าฝันไป แต่พอหยิกตัวเองแล้วก็รู้ว่ามันคือความจริง”
ณดาเดินเข้ามาหาเพื่อน มาหยุดใกล้ๆ “ฉันดีใจด้วยนะธาร ดีใจกับความรักที่กำลังเบ่งบานและไร้ขวากขวางหนามของเธอ ขอให้มีความสุขมากๆ นะ แต่งงานเมื่อไหร่ต้องบอกฉันด้วย”
แก้มนวลของวรันธาราแดงปลั่ง แต่ไม่นานก็ซีดเผือดลง “คุณแคล… เอ่อ คุณแม่ท่านยอมรับฉันแล้วก็จริง แต่เธอก็รู้นี่นี้ว่าฉันสร้างเรื่องหลอกคุณเควินเอาไว้ ฉันเกรงว่าเขาจะไม่ยอมรับฟังเหตุผล”
“ไม่หรอกน่า แค่เห็นหน้าเธออีกครั้ง คุณเควินคงจะดีใจจนลืมทุกอย่างนั่นแหละ”
“ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้น” ความเป็นกังวลยังคงอยู่ในกระแสเสียงของ วรันธารา
“ณดา…”
“หื้อ…”
“ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าฉันไม่ได้ตัดสินใจผิด… ที่เลือกเดินกลับไปหาคุณเควินอีกครั้งน่ะ”
ณดาดึงมือนุ่มของเพื่อนรักมากุมเอาไว้ พลางบีบให้กำลังใจ
“การเลิกเดินตามหัวใจของตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรอก มันคือเรื่องที่ถูกต้องมากๆ เลยต่างหาก เธอจะต้องสมหวัง ฉันเชื่อแบบนั้น”
“ขอบใจนะณดา…” วรันธาราดึงเพื่อนรักเข้ามากอดแน่น “และก็ขอโทษที่ต้องทิ้งเธอไปอีกครั้งแล้ว”
“ทิ้งอะไรกัน เดี๋ยวคิดถึงก็บินมาหาได้นี่ คุณเควินรวยจะตายไป แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เมียบินมาวอชิงตัน ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกน่า”
“ฉันต้องคิดถึงเธอมากๆ แน่เลยณดา”
“อย่ามาดราม่า… ฉันจะรับสายเธอทุกวัน ถ้าเธอโทรมา โอเคไหม”
วรันธาราที่ร้องไห้อยู่กับบ่าของณดา ดึงตัวออกห่าง มองหน้าเพื่อนที่ตอนนี้ก็ตาแดงๆ เหมือนกันอย่างอาวรณ์
“ถ้าฉันกับคุณเควินเคลียร์กันได้เมื่อไหร่ เธอจะต้องบินไปอยู่กับฉันที่เทกซัสนะ เราจะได้เจอกันทุกวันยังไงล่ะ”
“ฉันขอคิดดูก่อนนะ”
“ไม่ได้ ห้ามคิดดูก่อน ต้องตอบตกลงเท่านั้น”
“แน่ะแน้ะ ธารนี่ ติดนิสัยจอมเผด็จการจากคุณเควินมาแน่ๆ เลยเนี่ย”
แล้วณดาก็หัวเราะทั้งน้ำตา ก่อนจะดราม่าต่อ
“ขอให้โชคดีนะเพื่อนรัก ฉันสัญญาว่าจะคิดถึงเธอเสมอ”
วรันธาราบ่อน้ำตาแตกอีกครั้ง
“ฉันก็จะคิดถึงเธอเช่นกัน ณดา”
เสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึมก่อนจะหยุดที่หน้าห้องเช่า ณดาชะโงกหน้าออกไปมอง
“รถมารับเธอแล้วธาร”
“ฉันไม่อยากไปเลย ณดา”
“อย่าพูดแบบนี้สิ ร่างกายต้องไปตามหาหัวใจ ฉันอยู่ทางนี้จะคิดถึงเธอนะ โชคดีเพื่อนรัก”
“อืมมม์… เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“ฉันสัญญา” ณดาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดกำลัง “เดินทางปลอดภัย ถึงเทกซัสแล้วโทรหาด้วยล่ะ”
“อืมมม์…”
วรันธารากระชับกระเป๋าเดินทาง และกำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่สุดท้ายก็วิ่งเข้ามากอดณดาอีกครั้ง “ดูแลตัวเองดีๆ นะ และอย่ากลับไปคืนดีกับไอ้พี่ขุนอีก มันไม่คู่ควรกับเธอ อ้อ…” วรันธาราดันตัวออกห่าง น้ำตายังคงคลอเบ้า “ไอ้พี่ขุนมันบอกว่าจะเอาเงินคืนเธอกลางเดือนนี้นะ ถ้ามันไม่คืน โทรไปบอกฉันด้วย ฉันจะบินมาทวงให้เธอเอง”
“พี่ขุนคงไม่ผิดคำพูดหรอก ตอนนี้เขามีเงินมากแล้วนี่ แฟนเขาเป็นถึงนักธุรกิจ” ท้ายประโยคของณดาแปร่งและสั่นเครือจนเห็นได้อย่างชัดเจน วรันธาราแตะต้นแขนของเพื่อนอย่างให้กำลังใจ
“ต่อจากนี้ไปเธอจะโชคดี ณดา”
ณดาพยักหน้ารับน้อยๆ
“หนูธาร… ใกล้เวลาที่จะต้องไปแล้วจ้ะ” เสียงของแคลอรีน่าดังออกมาจากรถ
วรันธารากุมมือเพื่อนแน่น “ฉันคงต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ แล้วฉันจะโทรหา”
“จ้ะ เธอเองก็ขอให้สมหวังทุกอย่างนะธาร ฉันเอาไว้ช่วย” สองสาวร่ำล่ำลากันด้วยน้ำตา ก่อนที่วรันธาราจะก้าวออกไปขึ้นรถ ณดาโบกมือให้เพื่อน รู้สึกใจหายเหลือเกิน
“ขอให้โชคดีนะ เพื่อนรัก” และณดาก็เดินกลับเข้าไปในห้องเช่าด้วยท่าทางหงอยเหงาจนน่าเวทนา
MANGA DISCUSSION