เควินนั่งมองแหวนทองคำขาวที่ด้านบนประดับด้วย เพชรเม็ดงามด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะรีบปิดกล่องกำมะหยี่และหย่อนมันลงไปในกระเป๋ากางเกงทันทีเมื่อวรันธาราปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
“วันนี้คุณสวยจังครับ” เควินดึงร่างอรชรเข้ามากอดแนบอก พลางก้มลงจูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงให้ผมรอนานถึงครึ่งชั่วโมงเลย”
วรันธาราเจ็บร้าวรุนแรงภายในอก เบื้องหน้าต้องฝืนยิ้มเอาไว้ ทั้งๆ ที่ภายในแสนจะทุกข์ทรมาน
‘ฉัน… ไม่อยากจากคุณไปไหนเลยเควิน…’
“ฉัน… ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากแผงอก ใบหน้านวลแสร้งยิ้มกว้าง
“ฉัน… อยากสวยที่สุดสำหรับคุณ… เควิน…”
เควินอมยิ้มกว้างมากกว่าวรันธารามากนัก เขาก่อนที่จะโน้มตัวลงจูบที่หน้าผากมนเบาๆ อย่างทะนุถนอม
“ถ้าคนที่ผมรอคือคุณ… ผมยินดีรอเสมอ”
วรันธาราเสหลบตา มันไม่ใช่เพราะเอียงอายขัดเขิน แต่เป็นเพราะรู้สึกปวดร้าวจนทนมองหน้าเควินต่อไปไม่ได้อีกแล้วต่างหาก
เจ็บ… เจ็บในอกเหลือเกิน…
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณ… เหลือเกิน…”
เควินหรี่ตามองวรันธาราอย่างแปลกใจ
“ทำไมวันนี้ทำหน้าเศร้านักล่ะครับ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ ข้องใจ คุณต้องถามผมนะ ห้ามเก็บเอาไว้เด็ดขาด รับปากกับผมสิ”
วรันธาราแทบปล่อยโฮออกมา แต่ก็สะกดกลั้นเอาไว้ได้ทันเวลา “ค่ะ ฉัน… จะถามคุณ…”
“ดีมาก สาวน้อย”
เควินก้มหน้าลงไปหาช้าๆ จนปลายจมูกโด่งเป็นสันชนกับปลายจมูกเล็ก จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ
“ไปกันเถอะ วันนี้ผมมีเรื่องจะเซอร์ไพรส์คุณเยอะเลย”
“ฉันเองก็… มีเรื่องจะเซอร์ไพรส์คุณ… เหมือนกันค่ะ เควิน…”
เควินอมยิ้ม พลางประคองร่างอรชรที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษให้เดินตรงไปยังรถที่จอดรออยู่
“เชิญครับ เจ้าหญิงของผม”
วรันธาราฝืนยิ้มและก้าวขึ้นไปนั่งเงียบ ในขณะที่เควินก้าวขึ้นไปนั่งข้างๆ ก่อนที่จะขับรถออกไป
คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม แสงจากพระจันทร์จึงพ่ายแพ้ให้กับความมืดมิดของพื้นโลก มันก็คงเหมือนกับหัวใจของหล่อนในยามนี้ ที่กำลังหมดเรี่ยวแรง และกำลังจะหยุดเต้นในไม่ช้า
“คุณร้องไห้หรือวรันธารา” เพราะแสงเทียนบนโต๊ะสะท้อนกับหยาดน้ำในดวงตากลมโตทำให้เควินมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังเป่าปี่ร่ำไห้
“คุณมีเรื่องไม่สบายใจหรือ บอกผมได้ไหม”
วรันธาราส่ายหน้าน้อยๆ พลางยื่นมือมากุมมือใหญ่เอาไว้ แต่ในไม่ช้าก็ถูกเขาเป็นฝ่ายกุมมือเอาไว้แทน
“ฉัน… ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“แต่ผมเห็นน้ำตาของคุณ…”
“ฉันก็แค่… กำลังดีใจค่ะ”
คำตอบของวรันธาราทำให้เควินอมยิ้ม ก่อนจะฉีกยิ้มในเวลาต่อมา “ดีใจที่เรากลับมาเข้าใจกันอีกครั้งใช่ไหมครับ”
หล่อนเสหลบตา และปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลลงกับโต๊ะอาหารตรงหน้า “ค่ะ ฉัน… ฉันดีใจที่เราได้พบกัน และเข้าใจกันอีกครั้ง”
“ผมก็ดีใจ… ดีใจมากด้วย” มือใหญ่บีบมือเล็กหนักๆ บอกให้รับรู้ถึงความรู้สึกแท้จริง “เราจะแต่งงานกันทันที เมื่อกลับถึงเทกซัส”
วรันธาราน้ำตาไหลพราก จ้องมองใบหน้าของเควิน มองราวกับจะจดจำเขาเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ฉัน… รักคุณ”
เควินฉีกยิ้มจนตาหยี ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหา “คุณเคยบอกผมแล้ว จำไม่ได้เลยไงยายบ๊อง”
“เคย…? ฉันเคยพูดหรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ คุณบอกว่ารักผม… ตอนที่คุณเมาไม่ได้สติน่ะ”
วรันธาราก้มหน้ายิ้มเจื่อน “ฉันนี่แย่จริงๆ เลยนะคะ เมาแล้วพูดจาเลอะเทอะไปเลย”
“ใครว่าเลอะเทอะล่ะ ผมชอบฟังมากต่างหาก” แล้วเควินก็ลุกขึ้น เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ วรันธารา ลำแขนกำยำโอบรัดรอบเอวคอดเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ
“พูดบ่อยๆ เถอะ ผมชอบฟัง”
“ค่ะ… ฉันจะบอกรักคุณ… ทุกวันก่อนที่ฉันจะเข้านอน”
เควินอมยิ้ม ประคองดวงหน้างามให้หันมาหา “ต้องบอกทุกครั้งที่เจอหน้าผมต่างหาก เข้าใจไหมทูนหัว”
“ถ้าคุณต้องการ… ฉันจะทำค่ะ” วรันธาราละอายใจกับคำโกหกของตัวเองจนต้องก้มหน้าหลบสายตา
“ขอบคุณครับ”
แม้เควินจะไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป แต่เขาก็มั่นใจว่าวรันธาราคงจะมองออกว่าเขากำลังรู้สึกแบบไหนกับตัวเอง
“อาหารมาแล้ว กินกันเถอะ”
“ขอฉัน… นั่งมองหน้าคุณแบบนี้อีกสักพักไม่ได้เหรอคะ”
“ผมมีเวลาให้คุณ… มองผมตลอดทั้งคืนอยู่แล้ว กินเถอะ ของโปรดคุณทั้งนั้นเลยนะ”เควินตักอาหารใส่จานให้อย่างเอาใจ วรันธาราน้ำตาซึม กระบอกตาร้อนผ่าวปวดร้าว ลำคอก็ตีบตันจนไม่อาจจะกลืนสิ่งใดผ่านลงไปได้แม้แต่น้ำลายของตัวเอง
“ฉันดีใจ… ที่คุณจำได้”
“ความจริง… ผมยังจำอะไรที่เป็นคุณได้อีกหลายอย่าง ก็แบบว่าผมมันหัวดี ความจำเยี่ยมมาตั้งแต่เกิดน่ะ
“ถึงกระนั้น… ฉันก็ยังขอบคุณมากค่ะ”
“ไม่ต้องมาทำดราม่าเลย กินซะ เดี๋ยวผมจะมีเซอร์ไพรส์พิเศษให้คุณ”
แล้วเควินก็ตักอาหารใส่จานให้กับหล่อนอีกครั้งอย่างเอาใจ หล่อนน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด ตักอาหารใส่ปากครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆ ที่ลิ้นไม่รู้รสชาติใดๆ เลย
ช่วงเวลาแห่งความสุข กำลังจะสิ้นสุดลงแล้วสินะ…
วรันธาราช้อนตาที่ฉ่ำไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นมองเควิน หลังจากก้มหน้าจมอยู่ความโศกเศร้ามานาน
“เควินคะ… ฉัน… คือฉัน…”
เควินอมยิ้ม เอนกายเข้ามาหา กระซิบเบาๆ ข้างหู
“ถ้าจะขอบคุณผมสำหรับดินเนอร์แสนโรแมนติกล่ะก็…”
นัยน์ตาคมกริบพริบพราวราวกับดวงดาราบนท้องนภา
“เอาไว้ตอนเราอยู่ด้วยกันบนเตียงด้วยกันคืนนี้ดีกว่านะครับ”
“เอ่อ… ฉัน… คือว่า…”
“ผมมีเซอร์ไพรส์จะให้คุณด้วย แต่ต้องหลับตาก่อน”
มือใหญ่ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกล่องกำมะหยี่ติดมือออกมา
“รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจจนคิดหาคำพูดขอบคุณผมไม่ได้เลยทีเดียว”
วรันธาราเห็นกล่องกำมะหยี่ในมือใหญ่ก็พอจะเดาได้ หล่อนร้องไห้จนตัวโยน
“เควิน…”
“ไม่เห็นต้องดีใจจนร้องไห้ขนาดนี้เลยทูนหัว”
ชายหนุ่มยื่นมือมาเกลี่ยหยาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงเข้าไปจูบปากเบาๆ
“น้ำตาของคุณ ทำให้ผมรู้สึกกังวลแปลกๆ แต่ช่างเถอะ…”
เควินปล่อยร่างสั่นสะท้าน และลุกขึ้นยืน กำลังจะคุกเข่าลงกับพื้น แต่เสียงทุ้มของบุรุษคนหนึ่งดังผ่าความเงียบเข้ามาปะทะสองหูเสียก่อน
“ธาร ผมมารับคุณแล้ว”
เควินหันไปยังต้นเสียง ทั้งๆ ที่เข่าข้างหนึ่งยังแตะอยู่กับพื้น สิ่งที่เห็นคือผู้ชายฝรั่งหน้าตาดี ยืนอยู่ห่างจากโต๊ะดินเนอร์ออกไปแค่เพียงไม่กี่ก้าว และวรันธาราก็ถลาลุกขึ้นไปกอดผู้ชายคนนั้น
“หมายความว่ายังไงน่ะวรันธารา” เควินขยับตัวลุกขึ้นยืน กำกล่องใส่แหวนเพชรในมือแน่น และตวาดเสียงดังลั่น
“ผมถามว่าคืออะไร?!”
วรันธาราพยายามยิ้ม พยายามไม่ร้องไห้
“ยัง… ยังไม่เข้าใจอีกเหรอคะ”
“เข้าใจ? เข้าใจบ้าบออะไรกัน”
เควินเดินตรงเข้าไปกระชากร่างของวรันธาราออกมาจากผู้ชายคนนั้น และเขย่าตัวหญิงสาวแรงๆ
“ปล่อยฉันนะ!”
“ผมไม่ปล่อย จนกว่าจะได้รับคำอธิบาย”
คนหนึ่งพยายามจะกอดรัด แต่อีกคนกลับดิ้นรนหาทางหนี
“ก็ได้ ถ้าคุณอยากฟัง…”
วรันธารากัดฟัน เชือดเนื้อหัวใจตัวเองจนขาดวิ่น กับการพูดคำนี้ออกมา
“ฉันกับปีเตอร์… เรากำลังจะแต่งงานกัน”
“ใช่ครับ กรุณาปล่อยว่าที่เจ้าสาวของผมด้วยครับ”
ไอ้ผู้ชายที่วรันธาราบอกว่าชื่อปีเตอร์รีบพูดอ้างสิทธิ์ทันที เควินกัดฟันแน่น ผลักร่างของวรันธาราจนกระเด็น จากนั้นก็เดินเข้าไปสาวหมัดใส่หน้าผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเต็มแรง “อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉัน”
เควินกำลังจะต่อยอีก แต่วรันธารารีบกระโจนเข้าไปขวางเอาไว้ ทำให้กำปั้นที่เงื้ออยู่ในอากาศชะงักค้าง ดวงตาของเควินเต็มไปด้วยความมึนงง สับสน และเจ็บปวด
“คุณกำลังเล่นตลกอะไรน่ะวรันธารา”
“ฉันไม่ได้เล่นตลกหรอกค่ะ แต่ฉัน… ฉันกับพี่ปีเตอร์เรารักกัน”
“แล้วที่คุณนอนกับผมทุกคืนล่ะ มันหมายความว่ายังไง!”
เพราะฉันรักคุณ… แต่คำตอบแท้จริงนี้มันไม่อาจจะดังออกจากปากได้ หล่อนจำต้องเก็บมันเอาไว้ในอกเท่านั้น “ฉันต้องการแก้แค้นคุณยังไงล่ะคะ”
“แก้แค้นผม? แก้แค้นบ้าบออะไรของคุณวรันธารา เอาล่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ตลกเลย และผมก็ไม่ชอบมัน คุณเลิกเล่นละครสักทีเถอะ”
“มันไม่ใช่ละครค่ะเควิน ฉัน… ไม่ได้รักคุณ”
เควินปล่อยมือจากหล่อนในทันที
วรันธาราเจ็บจนหัวใจแหลกเหลว แต่ก็จำต้องพูดวาจาโกหกออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
มันจะได้จบ… เควินจะได้ขึ้นไปอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่เสียที…
“คุณพึ่งบอกว่ารักผมเมื่อกี้นี่เองนะ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน”
“ฉันก็แค่… หลอกปั่นหัวผู้ชายหน้าโง่อย่างคุณให้หลงยังไงล่ะคะ แล้วเห็นไหมล่ะว่าคุณก็ตกบ่วงของฉัน”
“วรันธารา…”
“เก็บแหวนแต่งงานวงนั้นเอาไว้ให้กับคุณไครี่ย์เถอะนะคะ เพราะฉันไม่ได้ต้องการ”
วรันธาราจะเดินเข้าสวมกอดร่างของปีเตอร์ แต่เควินกระชากแขนเอาไว้
“ผมไม่เชื่อเรื่องที่คุณพูดหรอก คุณทำแบบนี้ทำไม ใครสั่งให้คุณทำ วรันธารา”
“ปล่อยค่ะ” วรันธาราสะบัดแขนออก แต่ไม่หลุด “ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหมคะ ฉันเกลียดคุณ!”
“ผมไม่เชื่อ”
แล้วเควินก็ก้มลงจูบปากวรันธาราหนักหน่วง จูบจนหญิงสาวไร้แรงต่อต้านจึงยอมปล่อย
“เห็นไหม… คุณไม่ได้เกลียดผม คุณรักผมต่างหาก”
“ปล่อย!”
วรันธาราสะบัดตัวจนหลุด ก่อนจะตวัดมือลงบนแก้มสากของเควินเต็มแรง จนใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ
“วรันธารา…”
“ฉันรังเกียจคุณ!” วรันธาราเดินผ่านร่างของเควินที่ยืนอึ้งอยู่กับที่ ตรงไปหาปีเตอร์ “ไปกันเถอะค่ะพี่ปีเตอร์ ที่นี่มีแต่ผู้ชายหน้าโง่”
“ถ้าคุณเลือกจะทิ้งผม ชาติก็อย่าได้เจอกันอีก วรันธารา!” เควินมองตามผู้หญิงของตัวเองที่ตอนนี้ตกอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนอื่นไปจนลับตา มองด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
เมื่อเดินออกมาจากร้านอาหารสุดหรูแล้ว คนที่ทำเข้มแข็งตลอดเวลาอย่างวรันธาราก็ทรุดลงกองกับพื้นอย่างน่าเวทนา หญิงสาวร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ
“ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าคุณไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินออกมาจากผู้ชายคนนั้น แต่ผมสงสารทั้งคุณและผู้ชายคนนั้น… เขาเสียใจมากผมมองเห็น…”
“ฉัน… ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ได้โปรดปล่อยฉันเอาไว้ตรงนี้เถอะ”
“ผมคิดว่าคุณควรจะกลับไปที่บ้าน”
“ฉัน…ฉันอยากอยู่ตรงนี้อีกสักพัก ได้โปรด… ได้โปรดเถอะนะคะ ทิ้งฉันไว้ตรงนี้ คนเดียว…”
ปีเตอร์ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากตัดสินใจเดินไปที่รถและขับออกไป
ความจริงเขาไม่อยากรับงานแบบนี้เลย แต่เพราะจำเป็นต้องใช้เงินด่วน เขาจึงยอมทำในสิ่งที่แคลอรีน่าต้องการ
MANGA DISCUSSION