แสงแดดยามเช้าหรือเปล่านะที่ทำให้หล่อนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หรือเป็นเพราะสายตาที่จ้องเอาจ้องเอาของใครบางคนกันแน่
วรันธาราลืมตาขึ้น หลังจากชูสองแขนบิดขี้เกียจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะต้องตกตะลึงกับสายตาพึงพอใจของเควินที่จ้องมองมา เขานอนตะแคงวางศีรษะทุยบนฝ่ามือใหญ่ ในขณะที่ดวงตาสีน้ำเงินอมดำจ้องมองมาที่หล่อนไม่วางตา
“ตื่นแล้วหรือ…”
แก้มนวลแดงปลั่งขึ้นโดยอัตโนมัติ หล่อนเบิกตากว้าง ก่อนจะกะพริบเร็วๆ เพื่อเรียกสติ
เควินอยู่ตรงหน้าหล่อนแบบนี้ งั้นเรื่องเมื่อคืนก็… ไม่ใช่ความฝันสินะ
“เควิน…”
“อืมมม์… ผมเอง”
เขาอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามากระทบเรือนร่างใหญ่โตของเควินนั้น ยิ่งทำให้ชายหนุ่มหล่อเหลาจนคนมองอย่างลืมแทบหยุดหายใจ
เควินทำให้มดลูกของหล่อนปั่นป่วนอย่างแท้จริง…
“เควิน…”
“ครับ ผมเควิน คาสโตรโตเซ่น ได้โปรดอย่าครางเรียกชื่อผมแบบนี้อีกเลย พูดอย่างอื่นบ้างเถอะทูนหัว”
เหมือนเขาจะรำคาญปนเอ็นดู
“ก็… ก็ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองนี่คะ คุณ… คุณจริงๆ ด้วย”
คราวนี้เควินหัวเราะร่วน หัวเราะจนท้องแข็ง “ถ้าไม่ใช่ผม แล้วเมื่อคืนคุณนอนกับใครกันล่ะ ผู้ชายที่ไหนจะทำให้คุณครางได้อย่างเมื่อคืน ถ้าไม่ใช่เควิน คาสโตรโตเซ่นน่ะ”
คำโอ้อวดสรรพคุณตัวเองของเควินทำให้หล่อนหน้าแดงมากยิ่งขึ้น และรู้สึกปั่นป่วนไปทั้งช่องท้อง หล่อนมองเขาที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วอย่างหมั่นไส้
“คนหลงตัวเอง”
“คุณก็หลงผม”
“ฉันไม่…”
“อย่าบอกนะว่าไม่จริง เพราะผมมีวิธีพิสูจน์” คำเตือนชวนวาบหวามของเควินทำให้วรันธาราไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
“ฉัน… จะต้องกลับแล้ว”
วรันธาราลุกขึ้นนั่ง และก็ไม่ลืมดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเต้างามๆ ของตัวเองด้วย แต่ไม่นานก็ถูกคนเจ้าเล่ห์ทึ้งจนผ้าห่มล่วงลงไปกองกับพื้น ร่างสาวจึงเปลือยเปล่าและยวนใจอยู่กลางเตียง
“เควิน… เอาผ้าคืนมานะคะ”
“ทำไมล่ะ คุณอายผมด้วยหรือ”
สาวน้อยอายหน้าแดงแล้วแดงอีก รีบหยิบหมอนใบใหญ่มาปิดทับร่างเปลือยเอาไว้ แต่เจ้าหมอนใบสวยก็อยู่ได้ไม่นานเช่นกัน
“เควิน!”
“ปิดทำไม ของสวยๆ งามก็ต้องแบ่งให้ผมดูด้วยสิ” ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาเขี่ยยอดถันจนมันเบ่งบาน
“อ๊ะ… อย่าแกล้งสิคะ”
เควินขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ในขณะที่วรันธาราพยายามขยับหนี แต่สายตาเจ้ากรรมดันมองต่ำลงไปที่เป้ากางเกงของเขาเสียนี่ ซึ่งแน่นอนว่าได้เห็นตอนมันกำลังเจริญเติบโตขึ้นพอดี
“คน…คนบ้า…”
หญิงสาวคลานหนี แต่ถูกรวบเอวเอาไว้ และคราวนี้ก็ถูกยกร่างให้ขึ้นไปคร่อมทับอยู่บนหน้าตักแกร่ง
“อย่าดิ้น… ยิ่งดิ้น ผมก็ยิ่งอยาก…” เขาก้มลงกระซิบเตือนที่ข้างหู “เข้าไปในตัวของคุณ”
“ไม่นะ… ฉันจะต้องกลับไปหาเพื่อนของฉัน”
“เพื่อน…? ใช่คนที่คุณบอกว่าคิดถึงทุกลมหายใจหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ ฉันคิดถึงณดาทุกลมหายใจเข้าออก ปล่อยได้แล้ว”
คำตอบของหล่อนเสมือนมีดดาบที่ฟันลงบนสิ่งที่คลางแคลงอยู่ภายในหัวใจมาตลอดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
“คนที่คุณคิดถึงมาก จนต้องรีบบินมาหา เป็นผู้หญิงหรือ”
วรันธาราตวัดตามองคนถามอย่างขุ่นเคือง “ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง คุณคิดว่าฉันจะมาหาผู้ชายหรือไงกันล่ะ”
“ก็ใช่… ผมคิดแบบนั้นแหละ”
วรันธาราอ้าปากเหวอไปพักใหญ่ ก่อนจะรีบดิ้นรนอีกครั้ง “ช่างคุณสิ จะคิดยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ปล่อยฉันได้แล้ว ปล่อยสิคะ”
“บอกว่าอย่าดิ้นไง คุณก็รู้ว่าผมกำลังตื่น”
“เควิน… แต่ฉันต้องกลับไปหาณดาจริงๆ นะคะ ปล่อยก่อนเถอะค่ะ”
หล่อนวิงวอน แต่เขาไม่ได้สนใจคำอ้อนวอนของหล่อนเลย กลับตั้งคำถามแทน
“แล้วไอ้ผู้ชายที่คุณไปทะเลาะกับมันเมื่อคืนนี้เป็นใคร”
“มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องรู้สักหน่อย ปล่อยเถอะค่ะ”
เควินไม่ปล่อย แถมยังกระชับอ้อมแขนแน่นยิ่งขึ้นอีกต่างหาก “ผมต้องรู้ทุกเรื่อง เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผม”
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณสักหน่อย”
เควินหรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ และหล่อนก็ไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเขาเอามือที่ไหนไปรูดซิปกางเกงลง และปลดปล่อยเจ้าตัวยุ่งที่หน้าขาออกมา เพราะสองมือของเขาก่อกวนเนื้อนุ่มของหล่อนอยู่ทุกวินาที แต่ตอนนี้ส่วนนั้นของเควินเป็นอิสระและพร้อมพรักที่จะโจมตีหล่อนแล้ว
“อ๊ะ… เค… เควิน…”
“อืมมมม์… คุณเป็นของผมหรือยัง”
“ไม่คะ…”
หล่อนปฏิเสธทั้งๆ ที่เสียวซ่านไปทั้งตัว เควินหัวเราะข้างหู พลางเด้งสะโพกสูงขึ้น
“อ๊ะ… อ๊า…”
“คุณเป็นของผมแล้วใช่ไหมครับ วรันธารา”
“ไม่… อื้อ…”
เขาหัวเราะอีกแล้ว และคราวนี้ร่างของหล่อนก็ถูกยกให้ลอยขึ้นสูง พร้อมกับกดลงให้สวมทับความแก่นชายเบ่งบานอย่างเผด็จการ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนในที่สุด…
“ฉัน… ฉันเป็นผู้หญิงของคุณค่ะ เคน… อ๊า… ได้โปรด… อ๊า…”
เควินไม่ได้หัวเราะอีกแล้ว แต่เขาเปลี่ยนมาคำรามด้วยความกระสันซ่านแทน และจนแล้วจนรอดเควินก็ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ทะเลาะอยู่กับวรันธาราเมื่อคืนเป็นใคร
เควินขับรถมาส่งวรันธาราที่ห้องเช่าของณดาในช่วง เที่ยงในวันเดียวกัน
“เย็นๆ ผมจะมารับไปกินข้าว ห้ามหนีไปไหนล่ะ”
“ขนาดฉันหนีมาวอชิงตัน คุณยังตามมาเจอเลย แล้วแบบนี้ฉันจะหนีไปไหนพ้นล่ะคะ” วรันธาราอมยิ้ม ตอนนี้หล่อนยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาแล้วล่ะ ในเมื่อพรหมลิขิตขีดมาแล้วว่าหล่อนต้องรักเควิน หล่อนก็จะไม่หนีอีกแล้ว ต่อให้เขามีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ตาม
“ก็เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผมยังไงล่ะ”
หญิงสาวเสหลบสายตาคมกริบที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายของ เควินอย่างขัดเขิน
“คุณน่ะชอบทำให้ฉันอายอยู่เรื่อยเลย ไม่เอาแล้ว… ไม่พูดด้วยแล้ว” หญิงสาวเปิดประตูรถกำลังจะก้าวลงไป แต่แขนถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับริมฝีปากร้อนจัดที่แนบลงบนแก้มนวล
“แล้วเจอกันตอนเย็นครับ”
เควินดึงตัวกลับไปนั่งตรงๆ เหมือนเดิมแล้ว แต่หล่อนก็ยังคงอายม้วนอยู่ที่เดิม สองขาไม่มีเรี่ยวแรงเดินเลย
“เปลี่ยนใจ… จะไปอยู่กับผมทั้งวันก็ได้นะ”
คำแซวนี้ของเควินทำให้วรันธาราได้สติ หล่อนรีบก้าวลงไปจากรถด้วยหัวใจที่พองฟูอย่างรวดเร็ว
เควินอมยิ้มขบขัน เขาลดกระจกรถลง แล้วโบกมือให้กับหญิงสาวก่อนจะขับออกไป
วรันธาราระบายยิ้มอย่างมีความสุข ในที่สุด… หล่อนก็ไม่อาจจะเดินจากเควินได้อีกแล้ว
“ฉันรักคุณ… เควิน…”
“แต่ฉันไม่อนุญาต ให้เธอรักลูกชายของฉัน วรันธารา”
นี่ก็เสียงคุ้นหูอีกเช่นกันที่ดังขึ้นจากข้างหลัง วรันธาราค่อยๆ หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า
“คุณ… แคลอรีน่า”
แคลอรีน่าที่พึ่งก้าวลงมาจากรถสีดำเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน ด้วยท่าทางไร้เมตตาจิตโดยสิ้นเชิง
“เควินกำลังไปได้สวยกับหนูไครี่ย์ เธอคงไม่คิดจะมาฉุดให้ลูกชายของฉันลงไปในตมด้วยหรอกนะ”
วรันธาราดวงตาแดงก่ำกับคำเหยียดหยามของผู้หญิงตรงหน้า แต่หล่อนทำอะไรไม่ได้ เพราะแคลอรีน่าคือแม่แท้ๆ ของผู้ชายที่ตัวเองตกหลุมรัก
“ลูกชายของคุณป้า… ไม่ได้รักคุณไครี่ย์หรอกค่ะ”
“หึ… เธอจะบอกว่าเควินรักเธออย่างนั้นหรือ”
รอยยิ้มหยันจากแคลอรีน่าบั่นทอนความเข้มแข็งของหล่อนได้มากมายเหลือเกิน หล่อนพยายามฝืนยิ้ม แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยหยาดเลือดแห่งความทรมาน
“ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่… คุณเควินยังไม่ได้รักผู้หญิงคนไหน”
“ผิดแล้วล่ะ เควินเคยรักแม่วรัญญาจนหัวปักหัวปำ แต่พอถูกหักหลัง เควินก็เกลียดผู้หญิงเข้าไส้ ลูกชายของฉันจึงใช้เศษเงินหว่านเพื่อให้ผู้หญิงที่ต้องการแก้ผ้าขึ้นมาบนเตียง”
“แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นหรอกค่ะ ฉันไม่เคยรับเงินจากคุณเควินแม้แต่เหรียญเดียว”
แคลอรีน่าหัวเราะเยาะ พลางเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของคู่สนทนาต่างวัย
“เธอจะบอกว่าตัวเองให้เควินเอาฟรีๆ อย่างนั้นหรือ”
วรันธาราเบิกตากว้าง ครางในลำคออย่างอดสู
“ผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับเควิน ฉันจำได้ว่าบอกเธอไปหลายครั้งแล้วนี่ แล้วทำไมไม่รู้จักจำ ไม่รู้จักเจียมตัวล่ะ หรือว่าผู้หญิงอย่างเธอไร้เงินแล้ว ยังไร้ศักดิ์ศรีอีกด้วย”
“พอเถอะค่ะ”
“ทำไม… ทำไมทนฟังไม่ได้ ในเมื่อเธอมันต่ำยิ่งกว่าเม็ดทรายที่อยู่ใต้รองเท้าลูกชายของฉันเสียอีก คิดว่าจะได้ตกถังข้าวสาร สบายไปทั้งชาติ แต่คิดผิดแล้วล่ะ เพราะแม่อย่างฉันไม่มีวันต้อนรับเธอ นังนักข่าวกระจอก!”
“พอสักทีเถอะคะ! หยุดพูดได้แล้ว!” หยาดน้ำตาของวรันธาราล่วงหล่นไหลผ่านแก้มนวลจนตกลงไปที่ลำคอ ความอัปยศอดสูทิ่มแทงเนื้อหัวใจจนพรุนไม่เหลือชิ้นดี
“นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าเธอยังคิดจะมาวุ่นวายกับเควินอีก ฉันจะจัดการเธอให้หนักกว่านี้”
“ทำไม… ถึงได้รังเกียจฉันนักคะ ฉันไปทำอะไรให้คุณเหรอ หรือว่าเพราะความจนของฉัน คุณถึงได้เกลียดฉันมากมายนัก”
แคลอรีน่าเมินหน้าหนี ก่อนจะโต้ตอบ
“เพราะเธอเหมือนกับฉันเกินไป”
“ฉัน… เหมือนกับคุณ?”
“ไปจากชีวิตของเควินซะ แล้วคราวนี้อย่ากลับเข้ามาอีก เพราะถ้าฉันเจอเธออีกครั้ง ฉันจะฆ่าเธอ”
วรันธารามองแคลอรีน่าผ่านม่านน้ำตา พร้อมกับเชิดหน้าสูง “ฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้ว ตราบใดที่เควินยังต้องการฉัน”
“ถึงเควินจะต้องการเธอ แต่อีกไม่เกินสองอาทิตย์ เควินก็จะต้องแต่งงานกับหนูไครี่ย์ แล้วเธอจะมาอยู่กับเควินในฐานะอะไรกัน เมียเก็บ หรือว่านางบำเรอ”
“ฉัน…”
“ถ้าเธอรักลูกชายของฉันจริงๆ ก็อย่ามาฉุดรั้งเควินให้ต่ำลงไปในตมเหมือนกับตัวของเธอเลย ปล่อยเควินไป แล้วฉันจะตอบแทนเธออย่างงาม”
“ค่ะ…”
แคลอรีน่ายิ้มกว้างกับคำตอบที่ได้ยิน
“ฉันยอมตกลงไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากได้สิ่งตอบแทนจากคุณ ฉันทำลงไปเพราะ… ฉันรักเควินมาก” น้ำตาของวรันธาราไหลพรากตลอดเวลา “ฉันรักเขา… ฉันอยากให้เขา… มีความสุขที่สุด”
แคลอรีน่าอึ้งไปเล็กน้อยที่ได้ยินคำพูดของคู่สนทนา ลึกๆ แล้วหล่อนก็รู้สึกสงสารวรันธาราไม่น้อย “ขอบใจเธอมากที่เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่อย่างฉัน เอาล่ะ… ฉันมีเรื่องจะให้เธอทำ”
วรันธารามองคู่สนทนาผ่านม่านน้ำตา หัวใจเจ็บปวดจนแทบจะแหลกสลาย
MANGA DISCUSSION