สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่340สอบถาม
ตอนที่ 340 สอบถาม
ในที่สุดก็ถึงวันจัดงานประมูล หยุนเวียนเถียนไปที่ร้านอาหารของหลี่ซื่อฮวาด้วยตนเอง เพื่อตรวจดูงานว่าจะใหญ่โตอลังการสมกับที่เขาเล่าให้ฟังหรือไม่
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของนางคือองค์รัฐทายาทแห่งอวหยาง
หลี่ซื่อฮวาต้อนรับหยุนเวียนเถียนเป็นอย่างดี เขาจัดห้องรับรองพิเศษไว้ให้นางบนชั้นสามตรงบริเวณที่สามารถมองเห็นบริเวณจัดงานได้โดยรอบ ผู้ประมูลจะนั่งในห้องส่วนตัวพร้อมมีม่านกั้นอยู่ ทําให้ไม่อาจรู้ได้ว่าใครเป็นผู้ชนะการประมูล
ห้องถัดจากห้องของนางมีนายอ่าเภออยู่ในนั้นด้วย แน่นอนว่าที่ใดมีนายอ่าเภอที่นั่นย่อมมีองค์รัฐทายาทแห่งอวหยาง
แม้จะเรียกว่าเป็นห้องส่วนตัวทว่าความจริงแล้วก็มีเพียงแค่ฉากไม้บาง ๆ คั่นเป็นห้องเท่านั้น ถึงฉากไม้เหล่านี้จะค่อนข้างแข็งแรงทว่าก็เป็นผนังที่ไม่เก็บเสียง ดังนั้นเมื่อสนทนากันคนที่อยู่ห้องข้างเคียงก็จะได้ยินอย่างชัดเจน
เดิมทีหลี่ซื่อฮวาไม่ได้วางแผนที่จะสร้างห้องฉากไม่เช่นนี้ ทว่าการประมูลครั้งนี้มีความน่าสนใจมากเสียจนดึงดูดผู้คนเยอะเกินไป เขาจึงตัดสินใจใช้ฉากไม้มากั้นแยกห้องชั่วคราวเพื่อป้องกันความวุ่นวาย ซึ่งรูปการณ์เช่นนี้ทําให้หยุนเถียนเถียนทําตามแผนได้สะดวกยิ่งขึ้น
หยุนเถียนเถียนนั่งฟังเสียงพูดประจบสอพลอของนายอําเภอห้องข้าง ๆ อย่างสงบ ทว่านางไม่ได้ยินองค์รัฐทายาทแห่งอวีหยางเอ่ยคําใดออกมาเลย
บัดนี้หยุนเถียนเถียนเริ่มดําเนินการตามแผนด้วยการเดินไปยืนอยู่หน้าห้องนั้นอย่างสุขุม “นายท่าน… นายน้อยหลี่สั่งให้ข้านํารายการของที่จะประมูลในวันนี้มาให้แก่ท่าน”
เสียงอันไพเราะของนางทําให้องครักษ์ที่คอยคุมกันอยู่ด้านข้างปรากฏตัวขึ้นก่อนจะพึมพําบางอย่างในล่าคอ มู่หรงป๋อได้ยินเช่นนั้นจึงเกิดความสงสัยขึ้น
มู่หรงป้อผุดลุกขึ้นทันที ทําให้นายอําเภอผู้กําลังยิ้มอย่างประจบสอพลอชะงักไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้จะกล่าวเช่นไร
“ท่านนายอําเภอเชิญนั่งพักที่นี่ให้สบายเถิด อีกสักครู่ข้าจะกลับมา”
มู่หรงป้อกล่าวจบก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจว่านายอําเภอจะตกลงหรือไม่ ก่อนจะเปิดม่านออกแล้วพบกับหยุนเถียนเถียน
เมื่อมู่หรงป๋อเห็นใบหน้าอันงดงามของหยุนเถียนเถียนก็ตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะให้นางเข้ามาในห้องแล้วเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามนางอย่างสงบ
มู่หรงป้อรู้สึกคุ้นหน้าสตรีที่อยู่ตรงหน้าของเขานัก ในที่สุดเขาก็นึกถึงภาพวาดในห้องทํางานของพ่อได้ ซึ่งใบหน้าของสตรีในภาพนั้นช่างเหมือนกับคนตรงหน้าราวกับแกะ บัดนี้เขาจึงมั่นใจได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ต้องเป็นลูกสาวของหยุนจึงเอ่ออย่างแน่นอน
หากตัวตนของหยุนเถียนเถียนได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นไปตามที่เขาคิดจริง จะต้องไม่ให้ใครล่วง รู้ได้เป็นอันขาด!
จู่ๆ มู่หรงป๋อก็พูดเสียงดังว่า “ท่านนายอําเภอ ข้ามีเรื่องสําคัญจะคุยกับสตรีผู้นี้ ทว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะสําหรับคนนอก โปรดไปหาห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่งแล้วคอยอยู่ในนั้นได้หรือไม่?”
แน่นอนว่านายอําเภอย่อมไม่พลาดโอกาสเอาใจองค์รัฐทายาท เขารีบออกจากห้องอย่างไม่ลังเล พร้อมปิดม่านให้ทั้งสองอย่างมิดชิด
หยนเถียนเถียนไม่ได้เอ่ยสิ่งใดทว่าหันกลับไปมองผ่านผ้าม่านโปร่งแสง นางเอียงคอเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสถานที่นี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
มู่หรงป๋อพล็กพัดในมือเล่นไปมาก่อนจะพูดว่า “แม่นางหยุน… ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้มาพบกันโดยบังเอิญ
หยุนเถียนเถียนกล่าวอย่างใจเย็น “องค์รัฐทายาทมีภารกิจมากมายนักย่อมไม่มีเวลามาสนใจสามัญชนเช่นข้า ฉะนั้นข้าจึงจงใจหาโอกาสมาปรากฏตัวต่อหน้าท่าน เพราะอยากทราบว่าท่านต้องการจะกระทําสิ่งใดแน่”
มู่หรงป๋อไม่ได้ตอบคําถาม “ตราบใดที่เจ้ายอมเปิดเผยแก่ข้าอย่างตรงไปตรงมา ว่าใครเป็นผู้มอบหมายให้องครักษ์หญิงฝีมือดีคอยพิทักษ์อยู่ข้างกายเจ้า แล้วข้าจะไขข้อข้องใจให้เจ้าได้รู้ทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ”
หยุนเถียนเถียนหันไปมองเซ็นสิ่งซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง สตรีผู้นี้ดูมีท่าทีแสดงชัดเจนว่าถูกใครบางคนจ้างวานมาจริง ๆ เมื่อพบกับมู่หรงป๋อเป็นครั้งแรกเขาจึงถามเรื่องของนางทันที โดยไม่แม้แต่จะถามถึงหยุนจึงเอ่อเสียด้วยซ้ํา
“ข้าไม่อาจบอกท่านได้… ทว่าข้าสามารถบอกได้เลยว่านางไม่ใช่คนของแม่ข้า! ท่านพอใจกับค่าตอบนี้หรือไม่?
แน่นอนว่าคําตอบเช่นนี้ไม่มีทางทําให้ผู้ฟังพอใจได้ ทว่าในเมื่อสตรีผู้นี้ไม่ยอมบอกก็ไม่มีประโยชน์ใดที่จะเซ้าซี้ถามต่อ ทว่าอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าองครักษ์ผู้นั้นไม่ใช่คนของหยุนจึงเอ่อ
“ข้าพอใจแล้ว… ว่าแต่แม่นางหยุนมาหาข้าเช่นนี้เพราะมีเรื่องอื่นจะถามข้าใช่หรือไม่? เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวตนของเจ้าหรือเปล่า?”
แม้ว่าหยุนเกียนเถียนจะอยากรู้ทว่าก็ไม่ผลีผลามถามออกไป เพราะไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าจะพูดความจริงกับนางหรือไม่
“ข้าเพียงแต่อยากจะถามท่านเกี่ยวกับเจ้าเมืองหลง! เขาบอกว่าตนเองเป็นคนสนิทอาวุโสของบิดาท่าน เมื่อข้าได้ข่าวว่าท่านจะเข้ามาในเมืองวันนี้ ข้าจึงมาถามท่านว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่?”
มู่หรงป้อขมวดคิ้วทันที “เจ้าเมืองหลงอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้เพราะข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับบุคคลผู้นี้มาก่อนเลย… บางทีตอนนั้นข้าอาจยังเด็กจนเกินไปทําให้ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น”
จู่ ๆ ชายชุดดําที่ยืนอยู่ข้างเขาก็ขัดจังหวะขึ้น “นายท่าน… เจ้าเมืองหลงที่หญิงสาวผู้นี้กล่าวออกมาน่าจะเป็นพี่ชายของเจ้าหญิงองค์แรกขององค์ชาย เมื่อก่อนเขาน่าจะใช้ชื่อว่าฉันหลง… ข้าน้อยเคยเป็นผู้ติดตามองค์ชายมาก่อนจึงพอทราบอยู่บ้าง ไม่นานหลังจากที่พระสนมสิ้นพระชนม์ ข้าน้อยก็ออกจากการเป็นผู้ติดตามขององค์ชายจึงไม่ทราบว่าบัดนี้เขาหายตัวไปอยู่ที่ใด”
หยุนเวียนเถียนขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อ “เจ้าเมืองหลงและฉินหลง… สองชื่อนี้มีความแตกต่างกันนัก เช่นนั้นท่านรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเมืองหลงเป็นคนเดียวกันกับบุคคลนั้น?”
มู่หรงป๋อไม่รอให้องครักษ์ชุดดําตอบจึงพูดขึ้นว่า “แม่นางหยุน… เจ้าต้องรู้ว่านายอําเภอน้ําภาพเหมือนของเจ้าเมืองหลงมาให้ข้าดู ซึ่งคนของข้าก็เห็นแล้วเช่นกันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะจำบุคคลนั้นได้… นายอําเภอบอกข้าว่าที่เขาคอยช่วยเจ้าในเรื่องต่าง ๆ ได้สําเร็จ ก็เป็นเพราะความช่วยเหลืออย่างเมตตากรุณาของชายผู้นั้นนั่นเอง”
“ว่าแต่เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกข้าซึ่งเป็นนายของเจ้าก่อน ทว่ากลับเพิ่งมาพูดเอาเสียบัดนี้!”
ชายชุดดําก้มศีรษะลงอย่างลังเล “พูดตามตรงข้าน้อยก็ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าชายผู้นั้นจะเป็นคนคนเดียวกันกับสหายเก่าของข้าหรือไม่ เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว เมื่อแม่นางหยุนกล่าวถึงขึ้นมาจึงทําให้ข้าน้อยหวนนึกถึงปรมาจารย์ฝีมือล้ําเลิศ ที่เคยร่วมติดตามรับใช้องค์ชายเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้าน้อยในอดีต… ข้าน้อยเพียงแต่คิดถึงฉันหลงเท่านั้น”
คําอธิบายนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผล หยุนเถียนเถียนเคยสอบปากคํานักโทษสมัยที่เป็นตํารวจอย่างน้อยนางก็ไม่สังเกตเห็นร่องรอยของพิรุธใดบนใบหน้าของชายทั้งสองคนนี้
“พวกท่านทั้งสองรู้เรื่องเกี่ยวกับหยุนจึงเอ่อมากเพียงใด?”
มู่หรงป๋อไม่ได้กล่าวเช่นไรทว่าหันหน้าไปมองชายชุดดํา จากคําบอกเล่าเมื่อสักครู่ทําให้เขารู้ว่าองครักษ์ผู้นี้รู้เรื่องต่าง ๆ ในวังเป็นอย่างดี
“นายท่านโปรดอย่ามองมาที่ข้าน้อยเลยเพราะข้าน้อยไม่ได้รู้อะไรมากนักหรอก ข้าน้อยรู้แต่เพียงว่าแม่นางหยุนจึงเอ่อกับองค์ชายของข้าน้อยเคยมีความสัมพันธ์กัน… สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองในตอนนั้นคือความรักอย่างแท้จริง ทว่าขณะนั้นองค์ชายมีองค์หญิงอยู่แล้วและองค์หญิงผู้นั้นก็ป่วย ข้าน้อยไม่รู้จริง ๆ ว่าหลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น”
ชายชุดดําไม่ได้ปิดบังอําพรางเพราะเขาพยายามอธิบายให้มู่หรงป้อฟังอย่างเต็มที่ หัวใจของหยุนเวียนเถียนจึงผิดหวังเล็กน้อย เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสอบถามถึงตัวตนที่แท้จริงของนางจากสองคนนี้ได้
มู่หรงป้อยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนของเจ้าจริง ๆ ทว่าพ่อของข้ากําลังพลิกแผ่นดินตามหาหยุนจึงเอ่อ เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รู้ข่าวเกี่ยวกับการตั้งหลักแหล่งสุดท้ายของหยุนจึงเอ่อ… นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาส่งข้ามาที่นี่”