สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 67 คนโง่ที่หวาดกลัว
ตอนที่ 67 คนโง่ที่หวาดกลัว
หยุนเคอลอบขึ้นไปบนหลังคาบ้านตระกูลเฉิน เปิดแผ่น กระเบื้องแล้วสอดส่ายสายตาลงมายังโรงเก็บไม้
สื่อโถวยังคงลูบไล้แก้มของเฉินเถียนเถียนอย่างหลงไหล แม้ว่าเขาจะมีความคิดเหมือนเด็กเจ็ดแปดขวบ แต่สัญชาตญาณของร่างกายก็กระตุ้นให้มือของเขาเลือนไปที่คอปกเสื้อ ของเฉินเดียนเถียน!
หยุนเคอโกรธจัดทันที หญิงงามขนาดนี้เจ้าโง่นั่นจะไปหา จากไหนได้?
เขากระโดดลงจากหลังคา และรีบพังประตูเข้าไป จากนั้น ก็พุ่งเข้าไปทุบตีเจ้าคนโง่ ก่อนจะใช้ มืออีกข้างโอบรอบเอวของเฉินเถียนเถียนและจะพาหญิงสาวไปที่ข้างลําธาร
เฉินเฉินรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่นั่น เมื่อเห็นลุงหยุนพาตัว พี่สาวของตนออกมาก็รีบร้องเรียก
“พี่สาวข้าเป็นอะไร?”
ใบหน้าของหยุนเคอมืดมนจนเกือบจะหลั่งน้ําตาออกมา ด้วยความที่เขาไม่อยากเอ่ยถึงจึงเพิกเฉยต่อเฉินเฉินและกวักน้ําจากลําธารขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างแล้วลูบลงบนใบหน้าของเฉินเถียนเถียนอย่างเบามือ
ลําธารบนภูเขานั้นเย็นเฉียบ ซึ่งทําให้เฉินเถียนเถียนรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เมื่อพลิกตัวลุกขึ้นนั่งและเห็นคอเสื้อตัวเองหลุดรุ่ย จึงรู้สึกโกรธอย่างมาก!
“ข้าจะไปหาหลินชวนฮวา คอยดูเถอะข้าจะถลกหนังนาง จิ้งจอกนั่น!”
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าตนอยู่ข้างลําธาร หยุนเคอและ เฉินเฉินตัวน้อย มองเฉินเถียนเถียนที่มีท่าที่ดุร้ายด้วยความตกตะลึง
เฉินเฉินพูดด้วยเสียงสะอื้น “ท่านแม่ที่พี่สาวจนสลบและ ปล่อยให้เจ้าคนโง่เข้าไปในห้องของท่านโชคดีที่ข้าวิ่งออกไป หาลุงหยุนทัน ลุงหยุนช่วยพี่สาวเอาไว้”
เฉินเถียนเถียนเข้าใจเรื่องราวทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ จากนั้นจึงหันมาถาม ” หยุนเคอ เจ้าคนโง่นั่นอยู่ที่ไหน?”
“ข้าตีมันจนสลบ คิดว่าน่าจะยังอยู่ในโรงเก็บไม้ของเจ้า!”
เฉินเถียนเถียนเผยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า “หยุนเคอเจ้าช่วยพาไอ้คนโง่นั่นออกมาจากโรงเก็บไม้หน่อย! ข้าจะทําให้มันไม่อยากเจอหน้าข้าอีก!”
เมื่อมองดูรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของนาง หยุนเคอก็อดไม่ได้ที่จะต่อต้าน แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่าคนชั่ว ต้องได้รับผลกรรม ดังนั้นจึงหันกลับไปที่ตระกูลเฉิน
เฉินเถียนเถียนกัดฟันนั่งลงข้างลําธารและเริ่มคิดออก ได้ ยินมาว่าพ่อแม่ของเจ้าคนโง่เง่านั้นรักเขามาก แม่ของเขา และหลินชวนฮวามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
นี่คือลูกชายสุดที่รักของพวกเขาซึ่งหลินชวนฮวาเป็นคน พามาที่ตระกูลเฉิน แต่ตระกูลเฉินกลับทําให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก คิดว่าทั้งสองคนจะยังมองหน้ากันติดอีกหรือ?
ในใจเฉินเดียนเถียนคิดอย่างชั่วร้าย แต่ก็ยังคงปลอบโยน เด็กน้อยเฉินเฉินที่อยู่ข้าง ๆ !
“ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าแม่ของเจ้าเป็นคนอย่างไร นางขัดขวางไม่ให้ท่านพ่อส่งเจ้าไปเรียนหนังสือในหัวใจของนางเจ้า ไม่ใช่ลูกชายที่นางห่วงใย หากวันใดที่นางไม่สนว่าเจ้าจะอยู่ หรือตาย ก็ไม่จําเป็นต้องปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นแม่”
เฉินเฉินเงยหน้าขึ้นมองทั้งน้ําตา “แต่อย่างไรนางก็เป็นผู้ ให้กําเนิดข้า!”
เฉินเทียนเถียนเย้ยหยันและทําลายภาพลวงตาในใจของ เด็กชาย ” ข้าเกรงว่านางจะไม่ได้อยากให้เจ้ากําเนิดมาแม้ว่า ข้าจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กําลังคิดอะไรอยู่ แต่ข้าแน่ใจว่าตัว เจ้าไม่ได้มีค่าในใจนางแม้แต่น้อย!”
“เมื่อรู้ว่าตอนสุดท้ายจะต้องผิดหวังก็ไม่ต้องคาดหวังเสีย ตั้งแต่แรก เฉินเฉิน… วันหนึ่งเจ้าจะต้องเติบโตขึ้น หากมีแม่ เช่นนี้ ไม่มีเสียยังจะดีกว่า”
เฉินเฉินพยักหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก “ข้ารู้พี่สาว นางไม่ ควรที่จะเป็นแม่ของข้าด้วยซ้ํา”
แม้ว่าเฉินเดียนเถียนจะเสียใจที่เด็กน้อยได้ถูกทิ้งเงาดําไว้ ในหัวใจ แต่นางก็ไม่เสียดายเลย เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมจะน่าเสียดายก็เพราะมีแม่ที่ต่ําตม
หยุนเคอรีบเดินกลับมา พร้อมกับร่างของฉือโถวงเง่า ที่หมดสติไป!
เอาเถอะ! อย่างไรเจ้าคนโง่ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เป็นเพราะมีแม่และอาเลว ๆ จึงส่งเสริมให้เขาทําเรื่องนี้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาจะถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ซะทีเดียวหรือ? ไม่ใช่แค่ต้องแต่งงานกับคนโง่เท่านั้น แต่มันคือการทําลายชีวิตอีกครั้งที่เหลืออยู่ของนางด้วย
เมื่อคิดได้ดังนี้เฉินเถียนเถียนก็ไม่ลังเลใจ สาดน้ําในลําธาร เย็นยะเยือกใส่ใบหน้าของสื่อโถว ทําให้เขาตื่นขึ้นมาทันที!
ทันทีที่เห็นสถานที่เปลี่ยวร้างในยามกลางคืน สื่อโถวก็ ถอยร่นออกไปด้วยความตกใจ ก่อนจะตะโกนร้องเรียกหาแม่ ให้มาช่วย แต่ก็หวาดกลัวจนพูดออกมาไม่เป็นภาษา
แต่เมื่อเขาหันไปเห็นใบหน้าของเฉินเถียนเถียน นั่นไม่ใช่ ภรรยาที่ท่านอาบอกเขาหรอกหรือ? ดังนั้นเขาจึงไม่ห วาดกลัวอีกต่อไป ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาอย่างตื่นเต้น
” ภรรยา… ภรรยาของข้า…”
ความโกรธของหยุนเคอปะทุขึ้นมาในใจอย่างไม่ทราบสา เหตุก่อนจะถีบท้องของฉือโถวอย่างแรง เขาโกรธจนควบคุม อารมณ์ไว้ไม่ได้ จึงเตะเข้าที่หัวของฉือโถวอีกหลายที และในที่สุดเจ้าคนโง่ก็ล้มลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้
โชคดีที่อยู่ไกลจากหมู่บ้านและมีลมกรรโชกแรงในตอนก ลางคืน ดังนั้นเสียงร้องเหล่านี้จึงถูกกลบไว้และไม่มีใครถูกรบกวน
เฉินเถียนเถียนแอบถามเสี่ยวเถาในใจ “มีลิปสติกขายไหม?”
เสี่ยวเถากลอกตา “นี่คือเถาเป่า! เหตุใดจะไม่มีขาย? จะเอาแบบแพงหรือแบบถูกล่ะ?”
“เอาแบบถูก ๆ ก็พอ ฉันต้องการสีแดงเลือด!”
เสี่ยวเถาถอนหายใจเบาๆ “เจ้านาย! ท่านเองก็อายุยังน้อ ย เหตุใดถึงใช้สีแดงเลือดแบบนี้? สิ่งใดคือนิยามความงาม ของท่านหรือ?”
เฉินเทียนเถียนกลอกตาอย่างโกรธเคือง “ไม่ได้จะใช้มัน แต่งหน้า! รู้ไว้ด้วยว่าเจ้านายของเจ้านะ ไม่จําเป็นต้องใช้ของ พวกนี้ก็สวยเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว! แค่จะใช้ทําให้คนตกใจ!”
เสียวเถาไม่อยากจะสนใจผู้หญิงหน้าเหม็นคนนี้ จึงโยนลิป สติกราคาถูกออกมาทันที!
เฉินเถียนเถียนรีบหันหลังให้ลื่อโถวและใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ เพื่อละเลงลิปสติกลงบนใบหน้าของตนเอง
ใบหน้าขาวซีดมีเลือดสีแดงไหลจากหางตาและริมฝีปากเป็นสีแดงช้ํา! แถมยังแลบลิ้นยาว!
เมื่อใบหน้าดังกล่าวปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉือโถวเขา พลันกรีดร้องด้วยความตกใจ!
“ผีหลอก! ช่วยด้วย ช่วยด้วย…”
หยุนเคอมองหญิงสาวที่ดูน่าสะพรึงอย่างหวาดกลัว และดู เหมือนว่าเด็กน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ก็หวาดกลัวเช่นกัน จึงถอยมา หลบอยู่ข้างหลังลุงหยุนของเขา!
“ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากแต่งข้าไปเป็นภรรยาหรือ?”
เฉินเถียนเถียนจงใจยืดเสียงและพูดด้วยน้ําเสียงที่ไร้ วิญญาณ แม้แต่หยุนเคอก็ยังรู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นยะเยือกจ นขนลุกและหลังเหงื่อเย็นออกมา
ฉ้อโถวส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก “ไม่ใช่ ภรรยาขอ งข้าไม่ใช่แบบนี้ ภรรยาของข้าสวยมาก!”
เฉินเถียนเลียนแอบยิ้มในใจ แม้จะเป็นคนโง่แต่คําชมนี้ก็ มาจากใจ ยิ่งตอกย้ําความสวยของนาง!