สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 397 วิธีใหม่
ตอนที่ 397 วิธีใหม่
“ใช่แล้ว เจ้านายนั่งอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุข แน่นอนว่าคงไม่หิว แต่พวกเราทํางานหนักจนหิวมาตั้งนานแล้ว ไหนเลยจะสนใจมารยาทมากมายเหล่านี้”
หยุนเถียนเถียนโบกมือด้วยใบหน้าที่แข็งกระด้างพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาจากนั้นนางคว้าคอเสื้อของทั้งสองคนขึ้นมาโยนออกไปด้านนอก!
ทั้งสองล้มลงพร้อมกรีดร้องและกลิ้งไปบนพื้นหลายครั้งก่อนที่จะหยุดแน่นิ่ง!
“ระวังให้ดี เอาเงินค่าจ้างมาให้คนเหล่านี้ แล้วต่อไปบ้านของข้าจะไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้ามาอีก!”
“พวกเจ้าต้องรักษากฎ! ทุกคนล้วนหิวเหมือนกัน แต่ในเมื่อมีคนแย่งกันกินข้าวก่อน! ผู้ที่หิวโหยย่อมรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโยนผู้ที่แย่งอาหารออกไป! เพื่อหลีกเลี่ยงการทําผิดกฏ!”
“เรื่องงานก็เหมือนกัน ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีญาติพี่น้องที่ซื่อสัตย์มากแต่บางคนชอบทําตัวเกียจคร้าน! เจ้าได้รับเงินค่าแรงงานเท่ากัน! คนซื่อสัตย์ย่อมเสียเปรียบดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเช่น
นี้”
“นับแต่นี้ไปขอบอกให้ทราบทั่วกัน ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะเป็นญาติก็ดี สหายก็ดี สหายที่พวกเจ้าหามาเอง พวกเจ้าย่อมต้องรับผิดชอบเอง! ทุกวันเราจะแบ่งงานให้เจ้าหนึ่งชิ้นที่ต้องทําให้เสร็จ ถ้าทําไม่เสร็จ เงินค่าจ้างก็จะหายไป! ถ้าทําเสร็จแล้วจะให้เงินค่าแรงตามที่ตกลงไว้ ส่วนไหนที่เพิ่มมา ข้าจะคํานวณให้พวกเจ้าเอง!”
“ท่านลุงใหญ่ ต่อไปจงทําตามที่ข้าบอก! เผื่อมีคนบอกว่าข้าเป็นคนไม่ยุติธรรมทุกคนทํางานเดียวกันได้เงินเท่ากันถึงจะเรียกว่ายุติธรรมใช่หรือไม่?
”
บรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหารเงียบสงัด หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเมื่อผู้นําพูดค่าหนึ่งแล้วพวกเขาจึงก้มหน้าลงเริ่มกินข้าว!
เฉินนิ่งเหออดที่จะชมเชยไม่ได้ว่าวิธีของหยุนเกียนเถียนนั้นยอดเยี่ยมเสียจริง หากอยากจะจัดการพวกที่ขี้เกียจย่อมต้องทําให้หนักเช่นนี้!
หากมีความขัดแย้งระหว่างพวกเจ้า พวกเจ้าต้องจัดการเอง อย่างไรเสียทํางานเสร็จถึงจะได้รับเงิน!
หากเป็นเช่นนี้ย่อมไม่มีผู้ใดเลือกจุดผิดพลาดเพื่อโต้แย้ง รอจนถึงวันถัดมา ทุกคนต้องมารวมกลุ่มกันเอง!
หยุนเวียนเถียนเห็นอย่างชัดเจนว่ากลุ่มนี้มากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับญาติพี่น้อง! บางครั้งมีไม่
ที่ไม่ไว้หน้าญาติของตนเอง ดังนั้นพวกเขาควรหาคนที่ทํางานอย่างจริงจังมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม! – สําหรับเรื่องนี้หยุนเถียนเถียนยืนดูโดยไม่ปริปากและรอจนเจิ้นผิงเหอมอบหมายภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ถ้าเกิดความขัดแย้งระหว่างพวกเขาขึ้นมาควรไล่กลับบ้านไปจะดีกว่า! แต่ถ้าเกิดมันขึ้นกับข้าคนกลุ่มนี้ไม่ว่าผู้ใดจะถูกไล่ออกไปทันที!”
“แน่นอน คนที่ทํางานอย่างซื่อสัตย์ควรรู้ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาทั้งวัน หลังจากทํางานเสร็จย่อมรู้สึกว่ามันยังมีเวลาเหลือเฟือ ดังนั้นเรื่องงานต่อจากนี้ข้าจะเป็นคนคิดเงินให้พวกเจ้าเอง!”
หยุนเถียนเถียนพูดจบจึงหันหลังเดินจากไป ผู้ใดจะรู้ว่ายังไม่ทันออกจากแปลงนั้น ร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งได้ปรากฏอยู่ตรงมุมหนึ่งของกําแพงและเมื่อเพ่งมองก็คล้ายจะเป็นเอ้อหยามิใช่หรือ? ลูกสาวของคู่ชิว!
นั่นคือผู้ที่หลอกตนเองขึ้นไปหาเฉินเฉินบนภูเขา!
หยนเถียนเถียนยิ้มพร้อมหันหน้าไปมองเซินสิ่งที่อยู่ด้านข้าง “สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดา ให้คนคอยจับตาดูนางเอาไว้ให้ดี!”
เซิ่นสิงเกาหัวอย่างสงสัย เมื่อเห็นว่าเด็กผู้นี้อายุยังน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่สวมอยู่ยังเต็มไปด้วยรอยปะชุนและดูราวกับว่านางขาดสารอาหาร เด็กน้อยเช่นนี้ทําให้คุณหนูของตนหวาดกลัวได้อย่างไรกัน?
เมื่อหยุนเกียนเถียนรู้ว่ามีคนคอยดูเอ้อหยาแล้ว จึงไม่สนใจนางอีกต่อไป! จากนั้นนางหันกลับไปหาป้าจเพื่อสอบถามว่ามันเทศมีมากน้อยเพียงใด เนื่องจากนางต้องเริ่มทําแป้งจากมันเทศ!
ครั้นนึกถึงชามก๋วยเตี๋ยวที่มีรสชาติจัดจ้านสักชาม แม้จะเป็นเพียงความคิดน้ําลายก็ไหลย้อยออกมาแล้ว!
ห้องใต้ดินเต็มไปด้วยมันเทศที่มีน้ําหนักหลายพันชั่ง!
ป้าจที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเขินอาย “หากมันเทศมากมายถึงเพียงนี้ขายไม่ออก เรากินจนถึงปีหน้าคงยังไม่หมดหรอก! หลายวันมานี้พวกเด็กเวรบ่นว่าไม่อยากกินมันเทศแล้ว แต่ถ้าหิวมันเทศก็เป็นของดีเหมือนกัน!”
หยุนเกียนยิ้มไม่สบายใจแล้วพูดขึ้นว่า “กินของซ้ํา ๆ เพียงอย่างเดียว คนเราย่อมเบื่อเป็นเรื่องธรรมดา! ท่านวางใจเถิด เมื่อข้าทําของใหม่ออกมา ถึงตอนนั้นแม้พวกเจ้าอยากกินมันเทศก็คงไม่กล้า เพราะต้องการเก็บไว้ขายแลกเงิน!”
พอป้าจได้ยินเรื่องหาเงินดวงตาจึงเปล่งประกาย เพราะจํานวนคนในบ้านมีมากมายและต้องกินต้องใช้ โดยเฉพาะหลาน ๆ ที่กินเยอะมากแต่ไม่สามารถทํางานได้!
“ได้! เถียนเถียน บอกมาว่าต้องทําอย่างไรบ้าง ข้าจะเรียนรู้มัน!”
หยุนเกียนเถียนกลับมีสีหน้าจริงจัง “ท่านป้าใหญ่ ของเช่นนี้ดีที่สุดคือเราต้องทําแบบพิเศษจะดีกว่า! ดังนั้นวิธีการทําต้องเป็นความลับและห้ามผู้อื่นล่วงรู้เด็ดขาด! มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นของไร้ค่า!”
ดวงตาของป้าจเคร่งเครียดและรีบพยักหน้า “เรื่องนี้ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าเจ้าไม่วางใจจริง ๆ ก็ให้คนอื่นมารับผิดชอบเถิด! สัญญาขายตัวอยู่ในมือเจ้า สบายใจได้!”
“เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้สึกลําบากใจ แม้ป้าใหญ่ยินดีที่จะรับใช้เจ้า แต่สุดท้ายข้าย่อมไม่มีความรู้อันใดเลย! แม้ข้าจะพยายามช่วยเจ้า แต่บางครั้งก็ทําอันใดไม่ได้”
หยุนเถียนเถียนไม่ได้บอกการตัดสินใจของตัวเอง แต่กลับให้ป้าจหาคนสองคนมาขนมันเทศใบใหญ่ออกมา แล้วให้คนล้างให้สะอาด!
หยุนเสียนเถียนกําลังดื่มชาอยู่ในลานหน้าบ้านอย่างสบายอารมณ์ และมีจิ๋นเหยียนอยู่ด้านข้างตอนนั้นเองคู่ชิวเดินเข้ามา!
รองเท้าของคู่ชิวยังเปื้อนดินอยู่ไม่น้อย คิ้วของหยุนเถียนจึงขมวดเข้าหากัน จากนั้นค่อยคลายออกอย่างรวดเร็ว!
“เถียนเถียน! งานของข้าเสร็จสิ้นแล้วเจ้าช่วยบอกให้คนแบ่งงานให้ข้าทําอีกได้หรือไม่!”
หยุนเถียนเถียนหันหน้าไปหาเฉินผิงเหอ และขอให้หลานชายตัวน้อยที่อยู่ด้านข้างออกไปดูให้ที! จากนั้นหลานชายตัวน้อยวิ่งกลับมาพร้อมกล่าวว่า “พื้นดินถูกพลิกฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย!”
เฉินผิงเหอจ้องมองหยุนเถียนเถียนที่ยังคงมองหน้ากัน “คู่ชิว! ที่ดินที่ข้าจัดสรรให้เจ้าคือส่วนที่ ต้องใช้แรงงานที่แข็งแกร่ง! แต่ค่าแรงของเจ้าได้เท่ากับพวกเขา แต่ถ้าเจ้ายังคงทํามันต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าจะทนได้หรือไม่! และหากมีปัญหาใด ๆ เราไม่สามารถจ่ายได้?”
หยุนเวียนเถียนเบิกตามองคู่ชิว เพื่อดูว่านางคิดจะทําอันใดกันแน่!
คู่ชิวถอนหายใจยาว หลังจากนั้นขอบตาพลันแดงก่ําพูดไปก็สะอึกสะอื้น! “แต่ข้าชินกับมันแล้ว! หากกลับไปเร็วเพียงนี้ ไม่แน่ว่าแม่สามีจะไม่ยอมให้ข้ากินแม้แต่ข้าว!”
หยุนเกียนยิ้มแฝงความหมาย “งานของเจ้าทําเสร็จแล้ว หาเงินได้มากกว่าคนอื่น! แม่สามีของเจ้าควรเอาเจ้าขึ้นหิ้งบูชาถึงจะถูก แต่กลับกล้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมนางป่วยเป็นโรคสมองหรือเปล่า!?
คู่ชิวเหมือนกําลังจมอยู่ในโลกของตัวเอง จากนั้นนางเริ่มร้องไห้ “หลายปีมานี้ชีวิตข้าลําบากมาก เพราะให้กําเนิดได้เพียงลูกสาว!”