สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 381 เด็กหนุ่มผู้ทนทุกข์
ตอนที่ 381 เด็กหนุ่มผู้ทนทุกข์
นายหน้าตกตะลึงกับคําปรามาสอันรุนแรงก่อนผงะถอยห่างออกไป เขามองหยุนเสียนเถียนอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น
แม้ลูกค้าผู้นี้จะสวมผ้าคลุม ทว่าความโปร่งแสงของมันก็ทําให้ไม่อาจปิดบังความงามที่อยู่ใต้ร่มผ้านั้นได้สาวงามผู้นี้ช่างเลิศล้ํากว่าคนทั่วไปยิ่งนัก
เขาหบรอยยิ้มขี้เล่นและเริ่มจริงจัง “คุณหนู… ข้าว่าอย่าทําให้ยุ่งยากเลยไอ้ขี้ข้าเลี้ยงไม่เชื่องเยี่ยงนี้ซื้อไปก็หาประโยชน์ไม่ได้สู้หาคนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีสักสองสามคนจะดีกว่า”
หยุนเสียนเถียนยกยิ้ม “หลังจากนั้นเจ้าก็คงจะพูดขึ้นว่า คนอื่นเป็นคนดีแล้วขายให้ข้าในราคาสูงๆสินะ… แล้วไยเจ้าจึงทํากับหน้าเขาเช่นนั้นกัน?”
นายหน้าพูดด้วยสีหน้าขมขึ้น “มีคนส่งเจ้าหมอนมาแล้วก็ยัดเยียดให้ข้าซื้อมันไว้… คนผู้นั้นเขาให้ยาไว้จัดการมันด้วย แม้มันจะหมดแรงแต่ก็ยังแว้งกัดข้าได้อยู่ดี…ไอ้หมาบ้าเอ๊ย!ดังนั้นข้าเองก็ไม่ได้อยากทํานักหรอกเพียงแต่ข้าต้องการให้มันยอมเชื่อฟังก็เท่านั้น”
“คนที่ขายมันให้ข้าบอกว่ามันสมควรอยู่ที่นี่ ให้อยู่ในสภาพที่บัดซบเสียยิ่งกว่าตายทั้งเป็นก่อนที่มันจะหาจังหวะทําจนหน้าตัวเองกลายเป็นเช่นนั้น!ข้าทนเห็นไม่ได้จึงต้องคอยพยายามหยุดมันไว้อยู่เรื่อยจะอย่างไรหากไม่มีคนมาไถ่ตัวมันมันก็ต้องอยู่กับข้าเช่นนี้แหละ”
หยุนเทียนเถียนกล่าวถากถาง “เจ้าก็กล้าหาญดีนะ… รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นหมาป่าก็ยังจะเข้าไปทําร้ายเขาอีก เกรงว่าหากเจ้าคุมเขาไม่ได้มีหวังคงถูกสับเป็นชิ้น ๆ แน่ทางที่ดีจะให้ข้าพาเขาไปจากที่นี่ดีไหม?”
นายหน้าตอบพลางยิ้ม “บัดนี้ใบหน้ามันอัปลักษณ์เสียแล้วก็คงไม่มีใครต้องการซื้อมันหรอกกลัวเพียงมันอาจตายด้วยน้ำมือข้ามากกว่าสภาพซังกะตายเช่นนี้ข้าต้องกลัวว่ามันจะมาล้างแค้นงั้นหรือ?”
หยุนเสียนเกียนยิ้มมีเลศนัย “ใครบอกว่าเขาอัปลักษณ์แล้วจะขายไม่ได้กัน? ข้าจะไถ่ตัวเขาเอง! ตราบที่เจ้าให้ราคาอย่างเหมาะสม ข้าก็จะจ่ายให้”
ทันใดนั้นแววตาเกรี้ยวกราดของเด็กหนุ่มก็จ้องไปยังหยุนเถียนเถียนทันที จังหวะเดียวกับที่นางสัมผัสได้ถึงลักษณะสูงส่งจากตัวเขา
เด็กหนุ่มผู้นี้คงไม่ธรรมดาแน่ เพียงแต่นางไม่อาจรู้ว่าเขามาจบที่นี่ได้อย่างไร
“ขุ่นเคืองอันใดหรือ? เจ้าอยากตกอยู่ในมือชายผู้นี้แล้วถูกทุบตีจนสิ้นลมหรือไร? ถึงข้าจะไถ่เจ้าด้วยเงินไม่สูงมาก แต่อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีชีวิตต่อไปและเป็นอิสระ…”
นายหน้าเบื้อนหน้าหนี รอยยิ้มประจบประแจงของเขาเมื่อครู่อันตรธานหายไปกลายเป็นใบหน้าของคนใจไม่ใส้ระกํา
นายหน้าใจโฉดฟาดแส์อีกครั้ง เกิดเป็นบาดแผลอีกรอยบนร่างของเด็กหนุ่มทันที
“คุณหนท่านนี้จะไถ่ตัวเจ้าแล้ว… นั่นเป็นเพราะอานิสงส์ที่ข้าคอยสั่งสอนเจ้าอยู่หลายปี! หาก ไอ้เด็กไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอย่างเจ้าขายไม่ออกจริง ๆ เจ้าต้องชดใช้ข้าอย่างสาสมแน่!”
หยุนเกียนเถียนตะเบ็งเสียงออกไปด้วยความเหลืออด “พอได้แล้ว! หรือว่าเจ้าคิดจะฆ่าเด็กคนนี้จริงๆกันแน่… ข้าต้องจ่ายเงินไถ่ตัวเขาเท่าใดกัน? ข้าจะพาเขาออกไป ส่วนเจ้าก็เอาเงินไปเสีย!”
นายหน้าเปลี่ยนท่าที่กลับมายิ้มแย้มแบบประจบประแจงอีกครั้ง ทําเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ลงมือทําร้ายผู้ใดเลย
“ขอรับ! หากเป็นประกาศิตของท่าน ข้าก็คงต้องให้อภัยเขา ขอจงอย่าปรามาสข้าเลย… เพราะอย่างไรข้าก็ทํากับพวกขี้ครอกเช่นนี้เหมือนๆกันทุกคนนั่นแหละ หากคุณหนูจะรังเกียจก็จงนี้กรังเกียจคนที่ขายพวกนี้มาดีกว่าเถิด”
“คุณหนู… ที่แรกข้าจะขายหมอนสองร้อยตําลึง แต่หากคุณหนูต้องการมันข้าคิดเพียงร้อยห้าสิบแต่อย่างไรท่านก็คงต้องแบ่งเงินไว้เป็นค่ารักษามันเสียหน่อยแล้วหากมันออกไปข้าก็หวังว่ามันจะไม่กลับมาล้างแค้น…”
หยุนเถียนเถียนยิ้ม “ข้อเสนอดี ห้าสิบตําลึงเงินแลกกับหนี้แค้นครั้งนี้!หากไม่จ่ายก็เกรงว่าเจ้าจะไม่อาจรักษาทั้งชีวิตและเงินทอง”
“เอาล่ะ… ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ที่ต้องมีสภาพเช่นนี้ก็คงมีใครจงใจกลั่นแกล้งเจ้าอยู่เป็นแน่!ถึงเขาจะทํากับเจ้าไว้มากแต่ก็โชคดีที่เขายอมปล่อยเจ้าแล้วหากยังเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่มีหวังได้ตายคามือเขาจริง ๆ แน่”
“วันนี้ข้าว่าเจ้าละเว้นความแค้นที่มีต่อเขาเสีย แล้วไปแค้นคนที่กล้าขายเจ้าให้เขาจะดีกว่า”
เด็กหนุ่มนิ่งเงียบพลางนั่งหลับตาอยู่เช่นนั้น
นายหน้ากล่าวตัดบท “ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดทําให้เขาเป็นเช่นนี้! เขาได้รับยาใบก่อนที่จะถูกขายให้ ข้าเกรงว่ายามนี้เขาคงพูดอะไรไม่ได้… แต่อย่างไรยาที่ชายผู้นั้นให้เขากินทําให้เด็กคนนี้อ่อนเปลี้ยงนัก หากให้เขาเลิกกินไปสักพักเขาจะกลับเป็นปกติเอง”
หยุนเสียนเตียนโล่งใจ ที่สุดท้ายแล้วนายหน้าก็ยังเป็นคนดีอยู่บ้างเพราะเขาช่วยชีวิตเด็กชายคนนี้ไว้
“เจ้าพาเขาไปที่รถม้าด้านนอกทีแล้วค่อยมาเอาเงินที่ข้า อย่าให้ข้าเห็นว่าเจ้ารังแกเขาอีกเชียว!”
นายหน้ายิ้มแป้นทันที “คุณหนูอย่าได้ห่วงเลย… ในเมื่อท่านซื้อทาสไปแล้ว ทั้งหมดย่อมเป็นสิทธิ์ของท่าน ไม่มีผู้ใดรังแกเขาได้อีกแล้วนอกจากท่าน”
ดังที่คาดไว้ นายหน้าค้อมกายอย่างสุภาพก่อนแบกเด็กหนุ่มขึ้นพาดบ่า
“ดีจังนะไอ้หนุ่มที่มีคนมาช่วยเจ้าเสียที! ข้าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเจ้าหรอก แต่หากข้าขายเจ้าไม่ได้ในคราวนี้ ธุรกิจของข้าคงไปไม่สวย เช่นนั้นแล้วข้าคงไม่มีวันเจริญรุ่งเรืองกับเขาแน่! อย่าได้เกลียดข้าเชียว… พอดีมันช่วยไม่ได้น่ะ!”
เด็กหนุ่มร้องอ๋อี้อยู่ในลําคอก่อนที่นายหน้าจะจับเขายัดเข้าไปในรถม้า ขณะนี้เหงื่อเย็นเยียบได้ผุดขึ้นบนหน้าผากของเด็กชาย บาดแผลก่อนหน้านี้ก็หนักหนาไม่น้อย
หยุนเวียนเถียนมอบตั๋วเงินให้นายหน้า ส่วนนายหน้าก็มอบใบสัญญาซื้อขายทาสให้นางอันหมายความว่าธุรกรรมในครั้งนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
“คุณหน… ท่านจงเก็บใบสําคัญนี้ไว้เสีย หากเด็กคนนี้หนีไป ท่านสามารถใช้ใบนี้อ้างความชอบธรรมในการลงโทษทาสที่หลบหนีไปได้”
หยุนเวียนเถียนเก็บสัญญาซื้อขายนี้ไว้ในแขนเสื้อก่อนเดินต่อเข้าไปข้างใน
ต่อไปคือการตามหาคนที่ตั้งใจจะทํางาน ในบรรดาผู้ที่เพิ่งถูกขายให้นายหน้าและยังไม่ถูกขายต่อยังมีคนที่ฉายประกายแห่งความหวังในแววตาอยู่เสมอหยุนเกียนเถียนเลือกคนเช่นนี้
เพราะเมื่อผู้นั้นไม่ย่อท้อต่อตนเอง จึงควรค่าแก่การมีชีวิตอยู่ต่อ อนึ่งหยุนเถียนเถียนมีเงินอยู่จํากัดนางจึงไม่อาจช่วยเหลือทุกคนได้
หลังจากได้คนครบแล้ว หยุนเสียนเถียนมองเงินที่เหลืออยู่เล็กน้อยในมือพลางถอนใจอยู่สองนานดูเหมือนนางต้องคิดให้มากกว่านี้มิเช่นนั้นเงินที่มีคงไม่พอใช้จ่ายเป็นแน่
เมื่อรอจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วหยุนเกียนเถียนจัดแจงหาเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเขาสวมและหาอาหารให้คนที่เพิ่งซื้อตัวมากินจนอิ่มหนําหลังจากนั้นตั๋วเงินก็หมดไปอีกหนึ่งฉบับ…
บรรดาข้ารับใช้ใหม่สองคนมองนางอย่างซาบซึ้ง นางใช้โอกาสนี้พาคนทั้งสองไปส่งที่หมู่บ้านอีกครั้ง
นางกลับมาถึงบ้านสกุลหยุนพร้อมกับเด็กสองคนในรถม้า