สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 348 เห็นอกเห็นใจผู้อ่อนแอ
ตอนที่ 348 เห็นอกเห็นใจผู้อ่อนแอ
“สุดท้ายเจ้าก็เอาสูตรลับปลอมไปขาย ทว่าในที่สุดหลี่เฟิงก็รู้ว่าสูตรนั้นไม่สามารถใช้ได้จริงจึงมาเอาเรื่องครอบครัวของเจ้าเมื่อเห็นว่าหลี่เพิ่งเป็นคนร่ํารวยและมีอํานาจเจ้าจึงเต็มใจเสนอตัวเป็นนางบําเรอของเขา! อันที่จริงคําพูดของเจ้าเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลมากมาย เจ้าตั้งครรภ์หลังจากที่แต่งงานกับหลี่เฟิงใช่หรือไม่? ข้าเพียงแค่ไปตามหมอมาตรวจดูก็รู้แล้วว่าลูกในท้องของเจ้าอายุเท่าไหร่ เจ้าคิดหรือว่าคําโกหกของเจ้าจะไม่อาจหักล้างได้?”
เฉินเจียวเจียวไม่ทันคาดคิดมาก่อนว่าตนจะถูกเปิดโปงระหว่างเดินทางมาที่นี่นางใช้เวลาครุ่นคิดหาข้อแก้ตัวหากถูกจับได้อยู่นานทว่าถ้อยคําของหยุนเถียนเถียนที่โต้กลับมานั้นกลับทําให้นางเริ่มอับจนปัญญาเสียแล้ว
บัดนี้เจ้าเมืองหลงกําลังยืนอยู่ในโรงน้ําชาใกล้ ๆ เพื่อสังเกตการณ์ความเป็นไปที่หน้าประตูบ้านพักนายน้อยหลี่ เมื่อเห็นว่าเฉินเจียวเจียวไร้ประโยชน์เขาก็อดไม่ได้ที่จะยกกําปั้นขึ้นทุบกรอบหน้าต่างอย่างหัวเสีย
เฉินเจียวเจียวไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้วจึงทําได้เพียงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น
ความอดทนของหยุนเคอขาดสะบั้นลงเขาสั่งให้คนนําเรื่องนี้ไปบอกแก่นายอําเภอพร้อมเรียกรัฐทายาทมาร่วมตัดสินด้วย
สีหน้าของหยุนเถียนเถียนไม่สู้ดีนักหยุนเคอรู้สึกว่าสตรีผู้นี้คือคนที่น่ารําคาญที่สุดในบรรดาคนที่เข้ามาสร้างปัญหา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่เดินหนีไป ทว่าหันมาเผชิญหน้าเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ให้จบลงเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง
หยุนเคอเดินแหวกฝูงชนเข้ามาเพื่อให้หยุนเสียนเถียนได้นั่งลงบนเก้าอี้
“เฉินเจียวเจียว หากเจ้ายอมรับตอนนี้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกแล้วไปจากที่นี่พวกเราจะไม่ติดใจเอาความเจ้าทว่าหากยังดื้อดึงเสแสร้งอยู่อีกก็จงรอให้เจ้าหน้าที่จากอ่าเภอมาจัดการเถิดอย่ามาโทษว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!”
เมื่อเสียงอันเยือกเย็นของหยุนเคอดังขึ้น เฉินเจียวเดี๋ยวก็รู้สึกหนาวสะท้านราวกับถูกแช่แข็งทันที
ทว่าเมื่อนางคิดว่าหากตนกลับไปยังหมู่บ้านแล้วจะต้องเผชิญกับชีวิตเช่นไร อีกทั้งเจ้าเมืองหลงคงไม่มีทางปล่อยนางไปแน่เฉินเจียวเจียวจึงกลั้นใจหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดใต้ตาอีกครั้ง
“หยุนเคอ เจ้าทําแบบนี้ได้อย่างไร? เพียงเพราะแม่นางหยุนมีเงินเจ้าก็ยอมตามนางด้วยการสร้างเรื่องเท็จอันโหดเหี้ยมและไร้ซึ่งความยุติธรรมแก่ข้า… นายอําเภออย่างนั้นหรือ? มีใครบ้างไม่รู้ว่าแม่นางหยุนร่ํารวยดังนั้นเพียงแค่ใช้เงินติดสินบนนายอําเภอก็เป็นเรื่องง่ายดายไม่ใช่หรือ?”
“แล้วนายน้อยหลี่เป็นคนแบบไหนกัน เขาเป็นผู้ชายที่กระทําชําเราผู้หญิงไปทั่ว…ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาฆ่าผู้หญิงเหล่านั้นไปกี่คนแล้ว! ในเมื่อแม่นางหยุนคบค้าสมาคมกับนายน้อยหลี่ดังนั้นนางจึงต้องเป็นคนเช่นเดียวกับเขาแน่นอน”
ทันใดนั้นเองหลี่ซื่อฮวาก็ก้าวออกมาจากประตูพร้อมโบกพัดในมือ
“สตรีผู้นี้กล่าวความเท็จ ผู้หญิงทุกคนที่ถูกฆ่าข้าตายในข่าวลือล้วนยังมีชีวิตอยู่สุขสบายกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? ผู้หญิงเหล่านั้นออกไปจากเมืองนี้นานมากแล้วผู้คนจึงไม่รู้ข่าวคราวของพวกนางหากเจ้ายังไม่รู้ก็จงรู้เสียว่านี่คือความจริง”
เฉินเจียวเจียวไม่คาดคิดว่าหลี่ซื่อฮวาจะมาอยู่ตรงนี้ได้จึงรู้สึกอับอายนัก บัดนี้นางรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีและยังไม่รู้ว่าจะหาทางจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มีผู้หญิงคนไหนออกนอกบ้านเพื่อมาทําธุรกิจบ้าง? นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิงที่ดีเลยสักนิด! พี่หยุนเคอ…อย่าไปหลงเสน่ห์ผู้หญิงเช่นนี้เลย นางแต่งงานกับท่านมานานนักทว่าก็ยังไม่อาจให้กําเนิดลูกแก่ท่านได้ท่านคงไม่คิดจะทิ้งลูกของท่านในท้องข้าเพื่อไปหาผู้หญิงคนนี้หรอกใช่หรือไม่?”
หยุนเคอกล่าวเยาะเย้ย “ข้าไม่มีทางยอมเป็นสามีของสตรีผู้ทําผิดศีลธรรมทางกามารมณ์เช่น เจ้าข้าไม่ต้องการเอาลูกของคนอื่นมาเลี้ยงหรอกโดยเฉพาะลูกของนักโทษที่ถูกประณามเช่นนี้! เจ้าบอกว่าหยุนเถียนเถียนเป็นคนไม่ดีเพราะคบค้าสมาคมกับหลี่ซื่อฮวา”
“แล้วตัวเจ้าเองล่ะ? เจ้าเต็มใจยอมไปเป็นนางบําเรอของคนโฉดอย่างหลี่เฟิง เช่นนี้แล้วคนอย่างเจ้าเรียกว่าคนดีอย่างนั้นหรือ? เฉินเจียวเจียว… เจ้าจงคิดให้ดีนะ หากเจ้ายังไม่เล็กเสแสรงก็อย่ามาโทษข้าแล้วกันว่าเป็นต้นเหตุให้เจ้าต้องสูญเสียทุกสิ่งแม้แต่ชีวิตของเจ้า!”
เฉินเจียวเจียวรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันเย็นเยียบของหยุนเคอ นางอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่นางกําลังสัมผัสอยู่คือรังสีอํามหิต ทว่านางก็อกสั่นขวัญแขวนเสียจนไม่กล้าดําเนินการตามแผนต่อไปได้อีกบัดนี้ใจของนางล่าถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทว่าเจ้าเมืองหลงที่คอยสังเกตการณ์อยู่ที่โรงน้ําชาก็ไม่ยอมปล่อยเฉินเจียวเจียวไป เมื่อเขาโบกมือขึ้นก็มีใครบางคนวิ่งมาข้างหลังหยุนเถียนเถียนก่อนจะตั้งใจผลักนางให้ล้มลง
หยุนเสียนเถียนล้มลงไปทิศเดียวกับที่เฉินเจียวเจียวนั่งคุกเข่าอยู่ ร่างของนางจึงล้มทับเฉินเจียวเจียวเต็มแรง
เฉินเจียวเจียวรู้สึกคล้ายกับว่ามีใครบางคนกระโจนเข้าใส่ร่างของนาง จนรู้สึกเหมือนจะแบกรับน้ําหนักที่ท้องไม่ไหว จากนั้นนางก็รู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงก่อนจะรู้สึกได้ถึงของเหลวอื่น ๆ ที่ทะลักออกมาจากร่างกายส่วนล่างของตน
แม้ว่าท้องจะดูใหญ่ทว่าความจริงแล้วยังมีอายุเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น
หากคลอดตอนนี้เด็กย่อมไม่มีทางรอดชีวิตแน่นอน
เฉินเจียวเจียวที่มีเหงื่อเย็นไหลโซมกายตะโกนเสียงดังด้วยความเจ็บปวด “ลูก…ลูกของข้า!”
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าหยุนเคอจะเห็นเหตุการณ์นี้ทว่าเขาก็รีบหายตัวไปท่ามกลางฝูงชนอย่างไร้ร่องรอยทันที
ทุกคนเงียบไปชั่วครู่ทว่าบัดนี้เหล่าชาวบ้านเริ่มส่งเสียงประณามแล้ว
“ในเมื่อชายผู้นั้นถูกประจานความชั่วร้ายถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดเขายังทําร้ายลูกตัวเองได้ลงคอ? เพียงแค่ยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเลี้ยงดูภรรยาผู้ยากไรอีกคนหนึ่งและลูกที่จะเกิดมาเท่านั้น เหตุใดชายผู้นั้นจึงทนไม่ได้?”
หยุนเถียนเถียนรู้อยู่ในใจว่าไม่จําเป็นต้องโต้เถียงในเวลานี้ คนเหล่านี้เห็นอกเห็นใจผู้อ่อนแอ เท่านั้นจนไม่ลืมตามองความเป็นจริงของเรื่องนี้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าหยุนเถียนเถียนจะเกลียดชังเฉินเจียวเจียวจนถึงขั้นต้องการให้นางมีชีวิตที่ย่าแย่ ทว่าก็ไม่เคยคิดทําร้ายเฉินเจียวให้ถึงแก่ชีวิต
หยุนเสียนเถียนไม่สนใจฟังชาวบ้านที่พากันชี้หน้าด่านาง ทว่าพยายามตะโกนบอกให้ใครก็ได้รีบตามหมอมาให้เร็วที่สุด
ใบหน้าอันเย็นชาของหยุนเคอบ่งบอกชัดว่าใจของเขาไม่ต้องการช่วยเหลือสตรีผู้นี้เลย เป็นการดีที่จะปล่อยให้นางตายไปเสียทว่าเขาเกรงว่าหยุนเถียนเถียนจะต้องทนทุกข์เพราะการตายของนาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นหยุนเถียนเถียนพยายามช่วยเหลือนางอย่างเต็มที่เขาก็ไม่อาจรั้งนางไว้ได้ เขาจึงโบกมือให้จิ๋นเหยียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตามเขาไปทันที
“เฉินเจียวเจียว…ไม่ว่าเจ้าจะทําเรื่องเลวร้ายเพียงใดทว่าข้าก็ทนสังหารเจ้าไม่ลงหรอก เด็กคนนี้ไม่รอดแน่ทว่าชีวิตของเจ้ายังมีโอกาสรอด! บัดนี้เจ้าจงอย่ามาคิดแทนข้าแล้วนอนลงเสียดี
แน่นอนว่าเฉินเจียวเจียวหวาดกลัวความตายนัก เมื่อได้ยินเสียงอันเข้มงวดของหยุนเถียนเถียนเช่นนั้นนางจึงรีบทําตามอย่างว่าง่าย
หยุนเสียนเถียนมองหญิงที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นก่อนจะพูดเยาะเย้ย “ข้ารู้ว่าเจ้าวางแผนทําเรื่อง แบบนี้เองไม่ได้หรอกคงมีคนสั่งให้เจ้าทําเช่นนี้ใช่หรือไม่? เจ้ากําลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ!”
“แล้วข้าก็ขอบอกเจ้าไว้ด้วยว่าหากรักษาเด็กในท้องของเจ้าไว้จะเป็นการดีกว่า เพราะหากเด็กได้เกิดมาข้ามีวิธีพิสูจน์ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของหยุนเคอจริงหรือไม่ ดังนั้นคนที่จงใจสังหารเด็กในท้องเจ้าจึงไม่ใช่ข้าแน่ทว่าคงจะเป็นคนที่สั่งให้เจ้ามาทําเรื่องเช่นนี้ต่างหาก!”
“หากเจ้ายังมีความฉลาดอยู่บ้างก็จงบอกข้ามาว่าใครเป็นคนสั่งให้เจ้ามาที่นี่ บางทีข้าอาจช่วยล้างแค้นให้ลูกของเจ้าได้
ใครจะคาดคิดว่าเฉินเจียวเจียวไม่สนใจข้อเสนอนี้ “ข้ารู้ตัวดีว่าข้าถูกใช้เป็นเครื่องมือ ทว่าข้าไม่ได้ตั้งใจจะมีเจ้ามารหัวขนนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว! จะให้มันตายก็ตายไป ขอแค่เจ้าช่วยชีวิตของข้าไว้ให้ได้ก็เพียงพอแล้ว”