สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 331 ส่งเข้าสอบ
ตอนที่ 331 ส่งเข้าสอบ
ท้ายที่สุดแล้วการแสดงอันสมบทบาทนี้จะจบลงที่ตรงไหน?
หลิวเอ๋อไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง เดิมที่นางเป็นดาวเด่นของซ่องโสเภณี เมื่อนางรู้ตัวว่าตนอายุมากขึ้นก็เกรงว่าจะขายไม่ออกจึงปล่อยให้ตนเองตั้งท้อง สุดท้ายนางก็มาลงเอยกับหลินฮั่นจีน
ทว่าเด็กนั่นเป็นลูกชายของหลินฮั่นจินจริงหรือ? แน่นอนว่าไม่ใช่!
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่มีเด็กหนุ่มในหมู่บ้านคนหนึ่งทํางานในร้านขายเมล็ดพืชที่ฟูเฉิง เขาได้ทํางานรายได้ดีเช่นนี้ก็เพราะมีเส้นสาย
ปรากฏว่าความสัมพันธ์ของเขากับหลินฮั่นจินก็เป็นไปด้วยดีเพราะทํางานที่ฟูเฉิงเช่นเดียวกันทั้งสองร่วมรับประทานอาหารด้วยกันสองสามมื้อพร้อมสนทนากันอย่างออกรส
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาพากันไปซ่องโสเภณี ทั้งคู่ก็ต่างหมายปองหลิวเอ๋อเช่นเดียวกันทว่าหลิวเอ่อเลือกหลินฮั่นจินซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหารแล้วปฏิเสธจางล่ายสือผู้เป็นเพียงลูกจ้างในร้านเท่านั้น
ตอนนี้สถานการณ์ได้พลิกผันไปแล้วจางล่ายสื้อยังคงทําอาชีพเป็นลูกจ้างในร้าน ทว่าหลินฮั่นจินตกงานจนสิ้นเนื้อประดาตัวต้องกลับมาอยู่บ้านเช่นนี้
ปกติแล้วหลิวเอ๋อไม่เคยต้องลําบากนางคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาโดยตลอด เช่นนี้แล้วนางจะสามารถทนใช้ชีวิตอย่างตกต่าถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
คนหนึ่งมาเพื่อแก้แค้นส่วนอีกคนก็หวังผลประโยชน์ สุดท้ายหลิวเอ๋อกับจางล่ายสือจึงแอบคบหากัน
จางล่ายสือกับหลิวเอ่อแอบนัดเจอกันหลายรอบ ขณะที่หลินฮันจีนเดินทางไปหางานทําในเมืองทั้งสองก็ลอบเล่นชู้กันทว่าเหตุการณ์นี้ไม่อาจรอดพ้นสายตาของหวงจือไปได้
เมื่อหวงฉือได้โอกาสดีเช่นนี้แน่นอนว่าไม่อาจปล่อยผ่านได้ นางจึงนําเรื่องนี้ไปฟ้องหลินฮั่นจิน แม้เขาจะไม่เชื่อว่าหลิวเอ๋อสุดที่รักของเขาจะทําเช่นนั้น ทว่าทั้งหวงฉือและเฉินไฉ่อต่างก็ยืนยันว่าชายหญิงคู่นี้ลอบเป็นชู้กันจริง
และแล้วมหรสพใหญ่ก็ถูกจัดขึ้นหน้าบ้านสกุลหลิน ทําให้ข่าวนี้ไม่เพียงแต่แพร่ไปถึงหูคนบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้น ทว่าแม้แต่คนหมู่บ้านถัดไปก็ยังรับรู้เรื่องนี้ด้วย
ที่แรกหลินฮั่นจินหมดตัวกลับมาบ้านพร้อมกับภรรยาน้อยและลูกชายคนเล็ก เพียงแค่เหตุการณ์นี้ก็น่าตกใจพออยู่แล้ว ทว่าภรรยาน้อยกลับลักลอบเล่นชู้กับชายอื่นเมื่อเขาไม่อยู่บ้านอีกนี่ ไม่ใช่แค่น่าตกใจเท่านั้นทว่ายังน่าเหลือเชื่ออีกด้วย
หลินฮั่นจินไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหลินแซ่หูไม่ใช่เลือดเนื้อเชื่อไขของตน หลิวเอ๋อเคยรับแขกมากมายไม่ซ้ําหน้าทว่าในที่สุดก็ออกจากซองแล้วหันมาพึ่งพาเขาแทน
จางล่ายสือรู้สึกว่าตนได้รับชัยชนะเพราะสามารถทําให้หลินฮั่นจินต้องอัปยศอดสูได้ในที่สุด หัวหน้าหมู่บ้านก็มาตัดสินให้หลิวเอ๋อหย่าขาดจากหลินฮั่นจิน
เดิมที่หลิวเอ๋อเป็นผู้หญิงในซ่อง ดังนั้นแม้นางจะคิดล่มหัวจมท้ายกับชายสักคนนางก็เป็นได้ แค่ภรรยาน้อยทว่าหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่คิดอยากจะซ้ําเติมผู้ใด โดยเฉพาะเมื่อมีเด็กน้อยที่ไม่รู้ประสีประสาอย่างหลินแซ่คู่ยืนอยู่ด้วยเช่นนี้
ผลสุดท้ายคือหลิวเอ๋อถูกจางล่ายสื้อพาตัวกลับไป ส่วนเด็กชายผู้นั้นก็กลายเป็นลูกของจางล่ายสือด้วย! ก่อนจะจากไปแม้จางล่ายสือจะไม่เต็มใจก็ตามทว่าเขาก็หยิบเงินหลายสิบตําลึงโยนให้หลินฮั่นจินเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้ซื้อตัวหลิวเอ๋อไปแล้ว
เหตุการณ์คลี่คลายลง ทว่าหลินฮันจินก็ยังไม่เหลียวแลลูกชายของตนที่นอนอยู่บนเตียงเลย แม้เพียงหางตาอย่างไรเสียต่อให้เขาจะตายไปก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญ
ทว่าหลินฮั่นจินกลับหันมาจดจ่อกับเฉินไฉ่อแทน นางเป็นลูกสะใภ้ของเขาฉะนั้นน้ําตาลใกล้มดเช่นนี้นางคงไม่อาจหนีไปที่ใดพ้น หากนางให้กําเนิดลูกชายเขาก็จะได้หวังพึ่งในฐานะปู่ก็ยังดีกว่าต้องมาคาดหวังกับขยะที่นอนอยู่บนเตียงนั่น!
ทว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับหยุนเสียนเถียน เมื่อนางรับชมมหรสพเรื่องเยี่ยมนี้จบแล้วก็ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปฟูเฉิง
เมื่อวันก่อนนายอําเภอมาที่หมู่บ้านพร้อมกับฆ้องและกลอง เพื่อป่าวประกาศว่าเฉินเฉินสอบผ่านการคัดเลือกตั้งแต่อายุยังน้อย บัดนี้เด็กชายชนบทผู้นี้ช่างมีวาสนาดีนักเขายืนอยู่ท่ามกลางชาวบ้านเพื่อทําความเคารพนายอําเภอด้วยกริยาสุภาพนอบน้อมยิ่ง
หลายคนเริ่มถอนหายใจ หลินชวนฮวากินยาผิดขนานหรืออย่างไร? ลูกชายผู้น่ารักและเก่งกาจที่สุดเช่นนี้กลับไม่ต้องการ ดันไปให้ความสนใจกับเฉินเฉิงเยี่ยที่เก็บตัวอ่านหนังสือมาหลายปีแล้ว ทว่าแม้แต่จะฝากตัวเข้าเป็นศิษย์เขายังไม่ได้รับการยอมรับเลย
เด็กผู้นี้ทําได้อย่างไร? คนทั่วไปต้องใช้เวลาราวหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นในการเตรียมตัวสอบถงเชิง ได้ยินมาว่าอันดับของเขาไม่เลวเลย อย่างน้อยก็สูงพอที่นายอําเภอจะให้ความสําคัญเช่นนี้
เสี่ยวฉีโถตามมาดูพี่ชายผู้นี้ด้วยความอิจฉา เขาไม่มีพรสวรรค์เทียบเท่าเฉินเฉินทว่าหากทุ่มเทให้หนักเท่ากันเขาก็มั่นใจว่าตนย่อมประสบความสําเร็จในอนาคตแน่! เพียงเพราะเขายังเด็กเกินไปและไม่ได้ทบทวนมากเท่านั้นจึงไม่ได้สอบครั้งนี้
สองปีต่อมาความรู้ของเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม จนเก่งกาจเหมือนพี่เฉินเฉินให้ได้! แม่ของเสียวฉีโถมักจะพร่าพูดเรื่องความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของแม่นางหยุนกรอกหูเขาทุกวัน แม้เขาจะไม่ได้แสดงออกมากนักทว่าแม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานเพียงใดเขาก็จะไม่มีวันลืมบุญคุณของนางอย่างแน่นอน
ตอนนี้ในหมู่บ้านไม่ค่อยมีชีวิตชีวามากนักหยุนเกียนเถียนต้องการสร้างกําลังใจและให้รางวัลเฉินเฉินในฐานะที่เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ ดังนั้นที่นี่จึงไม่เหมาะแก่การเฉลิมฉลองนัก
ในที่สุดนางก็พาเฉินเฉินนั่งรถม้าไปยังฟูเฉิงเพื่อเข้าสอบ
ขณะที่รถม้าออกจากหมู่บ้าน หยุนเถียนเถียนก็บังเอิญเห็นเฉินผิงอันซึ่งบัดนี้ดูแก่ชราลงมากผ่านทางหน้าต่างรถ
ผมของเฉินผิงอันกลายเป็นสีเทาเกือบทั้งหัวและหลังก็เริ่มโก่ง ในมือของเขายังคงถือขวดสุราดวงตาอันขุ่นมัวของเขาจ้องมองมายังรถม้าซึ่งเผยให้เห็นความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
หยุนเถียนเถียนไม่ได้บอกให้รถม้าหยุด ทว่านางกลับแสร้งทําเป็นไม่เห็นก่อนจะหันไปมองเฉินเฉิน
เมื่อเห็นเด็กน้อยได้แต่นั่งนิ่งไม่แสดงสีหน้า หยุนเกียนเถียนจึงถอนหายใจยาว “แม้ว่าเจ้าจะแค้นเคืองเขาทว่าสายเลือดย่อมตัดกันไม่ขาด หากเจ้ากลับมาอีกครั้งในฐานะบัณฑิตก็จงกลับไปดูแลเขาบ้างด้วยการให้ค่าครองชีพแก่เขาบางส่วนอย่าปล่อยให้ใครมาติฉินนินทาเจ้าได้”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเฉินเฉินพยักหน้า “พี่สาวไม่ต้องห่วง ข้ารู้แล้ว… ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาอดตายทว่าอย่าได้คาดหวังถึงความรักที่ข้าจะมอบให้เขา! ชีวิตไม่อาจย้อนกลับได้ด้วยความเสียใจเพียงเล็กน้อยความเสียใจของเขาในตอนนี้ยังไม่อาจเทียบได้กับความเสียใจของข้าในตอนนั้น เสียด้วยซ้ํา!”
หยุนเถียนเถียนพยักหน้า “ข้ารู้ดีว่าหัวใจของเจ้าเปี่ยมล้นไปด้วยความเจ็บปวดในอดีต ทว่าเจ้าไม่ควรเก็บความแค้นไว้ในจิตใจเพราะชีวิตเจ้าจะหนักหนาสาหัสจนเกินไป…หากเจ้าเห็นเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่งก็จงอย่าให้เขามาเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของเจ้าได้”
เฉินเฉินกัดริมฝีปากล่างแล้วไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เสี่ยวฉีโถที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าพี่น้องคู่นี้กําลังพูดถึงเรื่องใด มีเพียงแม่ม่ายเยว่เท่านั้นที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนางจึงถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ไม่ว่าจะอยู่ในหมู่บ้านหรือในเมืองก็ตาม หยุนเสียนเถียนไม่จําเป็นต้องแต่งกายมิดชิดนักเพราะนางมีทักษะการป้องกันตัวเองอยู่แล้วทว่าในฟูเฉิงนางตัดสินใจสวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้างามอันมีเสน่ห์ของนางเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเดินทางมาส่งเฉินเฉินสอบจอหงวน ตอนนี้เขากําลังจะถูกส่งตัวไปยังห้องสอบแล้ว เมื่อเหล่าเจ้าหน้าที่เห็นเด็กชายตัวน้อยถือตะกร้าใส่อุปกรณ์สอบก็ซักถามอยู่ครู่หนึ่งเมื่อพูดคุยจบเฉินเฉินก็ถูกปล่อยให้เข้าไปอย่างเรียบร้อยเขาหันหลังเดินเข้าห้องสอบโดยไม่ได้หันกลับมามอง
ภาพที่เห็นทําให้หยุนเวียนเถียนรู้สึกตื้นตัน โชคดีนักที่นางไม่ได้ทอดทิ้งเด็กชายผู้นี้ไปเพราะความรู้สึกไม่ดีในอดีต