สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 310 โง่เง่า
ตอนที่ 310 โง่เง่า
ใบหน้าของนายอ่าเภอปรากฎรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะกล่าว “ข้าคิดว่าปัญญาของเจ้าไม่น่าหลัก แหลมถึงเพียงนั้นกล้าดีอย่างไรถึงมาอ้างตนราวกับว่ารู้เรื่องทุกอย่าง หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่คิดสงสัยเช่นนั้นแน่!”
“เอาล่ะ ข้าจะสั่งสอนเจ้าว่าควรพูดอะไรไม่ควรพูด! จินฮ่าวใช่ไหม? เจ้าน่ะ เทียบได้กับพวกชั้นต่ําเพียงเท่านั้น เมื่อเทียบกับแม่นางหยุน นางช่างสูงส่งยิ่งนัก! พวกเจ้าควรจะเคารพนางกล้าดีอย่างไรจึงล่วงเกินนางเช่นนั้น?”
“เฉียนไหลเป่า เห็นแก่อาของเจ้าที่อาศัยในเรือนของข้า แต่เจ้ากลับกล้าทําร้ายนางเช่นนี้ ข้าย่อมไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่! โบยมันที่ปากสี่สิบทีและโยนมันออกไป!”
“พวกที่ก่อปัญหาเช่นนี้ คงให้อาศัยเรือนของข้าต่อไม่ได้แล้ว! แต่ถ้าเจ้าอยากกลับไปบ้านตระกูลเฉียน มันคงจะมีปัญหาสักเล็กน้อย! ทําไมเจ้าไม่พาอาของเจ้ากลับไปด้วยล่ะ? หลังจากนี้ครอบครัวของเจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เหยียบเรือนของข้าได้อีกข้าไม่ต้อนรับพวกเจ้าอีกต่อไป!”
แม้จินฮ่าวจะถูกโบยจนใบหน้าบิดเบี้ยว แต่ตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ “ท่านนายอําเภอคิดเช่นนี้หรือ? แค่เห็นว่าแม่นางหยุนนั้นงดงามก็คอยช่วยเหลือนางตลอดเวลา!”
นายอําเภอชะงักไปครู่หนึ่ง “ดูท่าจะไม่มีทางเลือกโบยอีก ยี่สิบที! ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่สามารถล่วงเกินแม่นางหยุนได้ต่อให้รู้ว่านางใส่ร้ายเจ้าข้าทําได้เพียงแต่ทําตามนางเท่านั้น! แม้ว่าเหล่าขุนนางที่อยู่เบื้องหลังนางจะอยู่ที่เมืองหลวงแต่การสั่งประหารนายอําเภอก็ยังเป็นเรื่องง่ายดาย!”
“หากทางการได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับแม่นางหยุนในเขตนี้ล่ะก็… ข้าเองก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้เหล่าขุนนางคงจะสั่งประหารข้าหลังจากนี้ตระกูลเฉียนและตระกูลจินจะไม่สามารถแก้ต่างอะไรได้อีก!”
“จินฮ่าวไม่กล้าพูดอะไรเขาซ่อนสายตาที่เกลียดชังไว้อย่างมิดชิดจากนั้นปล่อยให้ทหารผลักเขาลงกับพื้นจากนั้นไม้พลองก็ฟาดลงมา!”
เฉียนไหลเป๋าส่ายศรีษะช้าๆ เขาตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่าจินฮาว และยังรู้ว่าคนๆ นั้นอยู่สูงเกินกว่าที่พ่อค้าตัวเล็กๆ อย่างเขาจะสามารถล่วงเกินได้! แต่จินฮาวที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น…
“จินฮาว! หากไม่ใช่เพราะเจ้าสาบานต่อหน้าข้าว่าหากเรื่องในวันนี้สําเร็จ จางชิงเฟิงจะไม่มีโอกาสได้กลับมา! ข้าคงไม่นุ่มบ่ามเช่นนี้ไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน! ข้าจะรับผิดแทนเจ้าเองถ้าจะแค้นก็ขอให้แค้นข้าแทนเถอะ!”
จินฮาวกังวลใจนายอําเภอโบยเขาด้วยไม้พลอง จนกระทั่งแน่นิ่งไป! เฉียนไหลเป๋าเป็นคนที่รับมือได้ยากจางชิงเฟิงถูกเขาในหัวมาหลายครั้ง แต่ตอนนี้ถึงตาเขาที่จะได้เอาคืนแล้ว…
ไม่มีใครคาดคิดว่าจางซึ่งเพิ่งจะกลับมาเขาติดตามหยุนเถียนเถียนเข้าศาลไป หลังจากนั้นเหล่าทหารก็หน้าถอดสี!
ทันทีที่เขาโบกมือทหารก็ปล่อยตัวเฉียนไหลเป๋าอย่างรวดเร็ว! เฉียนไหลเป๋าหมดแรงไปนาน แล้วเขาล้มลงกับพื้นและส่งเสียงครวญคราง!
“จางชิงเฟิง เจ้าต้องการอะไรอีก? ท่านอาจารย์ถูกลงโทษไปแล้ว หรือว่าเจ้ายังข้องใจอดกลั้นหรือ?”
จางชิงเฟิงไม่ได้ตอบคําถามของเขา เขาหันไปและหยิบเงินออกมาหนึ่งแท่งและส่งมันให้กับทหารที่เฝ้าอยู่ทั้งสองคน!
“พี่ใหญ่ทั้งสอง แม่นางหยุนส่งข้ามาได้โปรดปล่อยคุณชายเฉียนท่านนี้ไป!”
เหล่าทหารไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเงยหน้ามองนายอําเภอที่ยืนอยู่ที่มุมห้อง! นายอําเภอพยักหน้า จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องโถงใหญ่ไปแบบไม่สนใจ!
แม้จะได้รับอนุญาติจากท่านนายอําเภอ แต่ทหารเหล่านี้ก็ไม่ได้พอใจนัก พวกเขารับเงินและออกจากห้องไปเหลือไว้เพียงทหารอีกด้านที่ลงมือกับจินฮ่าวก็โบยกันอย่างไม่เกรงใจ!
หรือเป็นเพราะเห็นจางชิงเฟิง ทหารพวกนั้นจึงโบยหนักขึ้นกว่าเดิม! ในที่สุดจินฮ่าวก็ทรุดและเริ่มกรีดร้องต่อหน้าคนที่เขาเกลียดที่สุด!
จางชิงเฟิงนั่งลง อยู่ข้าง ๆ เฉียนไหลเป่าและพูดเบา ๆ “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าทําไมคุณชายเฉียนถึงได้มีอคติกับข้านัก? ในความทรงจําของข้า ข้าจําไม่ได้ว่าคุณชายเฉียนเคยบาดหมางอะไรกับข้าไว้ใ”
เฉียนไหลเป่าหันหน้ามาพูดด้วยน้ําเสียงดุดันว่า “หากว่าเจ้าไม่ได้อยากมาที่สํานัก แล้วเหตุใดอาจารย์ถึงให้ความสําคัญกับเจ้า? เมื่อไม่กี่วันก่อน ผู้น้อยผู้นี้ได้รับคําแนะนําจากท่านอาจารย์เป็นการส่วนตัว แต่เจ้ากลับได้รับคําแนะนําจากท่านอาจารย์ ก่อนศิษย์แท้ ๆ ของท่านอาจารย์! แม้แต่การดูถูกคุณชายอย่างข้าถึงเพียงนี้ เจ้ายังกล้าพูดว่าเจ้าไม่ได้กระทําการใด ๆ เลยอีกงั้นหรือ?
จางชิงเฟิงหัวเราะอย่างดูถูก “คุณชายเฉียนยังเคารพท่านอาจารย์ถึงแม้ว่าจะไม่รับเจ้าเป็นศิษย์อย่างนั้นหรือ? แม้ว่าความรู้ของคุณชายจะไม่ได้มากมาย แต่ก็ยังอุส่าห์เพียรพยายามตั้งหลายปี! ถึงคุณชายเฉียนจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ต้องใช้ความพยายามมากเพียงไหนกัน?
“หรือว่าคุณชายเฉียนจะไม่รู้จักประมาณตน? ท่านคิดจริงๆหรือว่าท่านมีความสามารถเพียงพอจะทําให้ท่านเจ้าสํานักต้องชื่นชม? ท่านไม่มีความสามารถพอที่จะเทียบกับคนอื่นๆได้ ถึงแม้จะพยายามเพียงใดท่านไม่อาจเทียบข้าได้เด็ดขาด!”
เฉียนไหลเป๋าพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง กันของเขากระแทกกับพื้น และพลันร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด!
เขานวดกันของเขาด้วยท่าทางน่าเกลียดพร้อมกับตะโกนว่า “จินฮ่าวเป็นคนบอกข้า! เขาบอกว่าท่านอาจารย์อยากรับข้าเป็นศิษย์ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าจะโผล่เข้ามา! หากได้รับคําชี้แนะจากท่านอาจารย์ ข้าคงจะประสบความสําเร็จไปแล้ว! กล้าดียังไงมาบอกว่าเจ้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับข้า?”
จางชิงเฟิงได้ยินดังนั้นก็เข้าใจ เขาหันหน้าไปมองจินฮาวที่กําาลังกรีดร้องอย่างสนุกสนาน!
“เจ้าตัวน้อยนี้มักจะรังเกียจข้าเสมอ วิธีการยุยงให้คนใช้มีดฆ่าคนเช่นนี้ ท่านกลับเชื่อ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาจารย์จะไม่ชอบท่าน ที่แท้ก็โง่งมถึงเพียงนี้! ในอดีตมันแสร้งทําเป็นคบหากับข้า แต่ในความเป็นจริงมันยุยงให้ท่านเป็นศัตรูกับข้า!”
“ทุกครั้งที่ท่านกับข้าบาดหมางกัน มันจะยืนมองอยู่ไกล ๆ รอจนเรื่องจบลงและวิ่งเข้ามาปลอบใจข้า บอกว่าเขาเอาชนะเจ้าไม่ได้ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! หากมิใช่เพราะวันนั้นแม่นางหยุนได้เตือนข้าโดยไม่ได้ตั้งใจข้ารู้สึกว่าชีวิตข้ายากจะได้รู้จักสหายเลยจริง ๆ !”
“แม้แต่คนที่ขยันขันแข็งอย่างข้าก็ยังถูกท่านอาจารย์รังเกียจซ้ําแล้วซ้ําเล่า บอกว่าข้าไม่รู้จักเท่าทันคน ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวง! ท่านโง่เง่าถึงเพียงนี้ แค่พูดยุยงให้ห่างๆ สักสองสามประโยคก็เชื่อแล้วไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาจารย์จะดูแคลนอยู่ไม่น้อย!”
เฉียนไหลเป๋าได้แต่โมโห แต่ก็ไม่ได้โง่ มิฉะนั้นเขาคงไม่คิดที่จะทําลายแผนการชั่วร้ายของจางชิงเฟิงด้วยชื่อเสียงเป็นแน่!
จางชิงเฟิงพูดอย่างชัดเจนเขาหันหลังและเดินออกไปเขาไม่สนใจคนสองคนที่หมอบอยู่บนพื้นอีกต่อไป! มีเพียงจินฮ่าวเท่านั้น ที่ตั้งใจจะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ไม้พลองก็โบยลงมาที่หลังของเขาก่อนที่เขาจะได้พูดเสียอีก!