สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 305 ดึงด้ายแดง
ตอนที่ 305 ดึงด้ายแดง
หยุนเกียนเถียนรู้อยู่แก่ใจว่าจางชิงเฟิงเป็นผู้มีเมตตานางจึงรีบกล่าวว่า “ถูกต้องเจ้าค่ะ! มิตรนั้นใช่จะเป็นกันนิรันดรไปก็หาไม่ แม้ตอนนี้หยุนเคอจะเมตตาข้าแต่ใครจะรู้เล่าว่าวันหน้าความคิดของเขายังคงเหมือนเดิมหรือไม่?หากวันหนึ่งเขาละทิ้งข้า ข้าจะทําเช่นไรได้? ดังนั้นต่อให้ไม่ใช่เพราะน้องชายข้าก็จะพยายามฝึกตนให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ!”
ขณะนี้เฉินเฉินกลับถึงบ้านแล้ว เขาเดินเข้าประตูพร้อมตะโกนถามว่า “พี่สาวคุณชายจางอยู่ที่นี่หรือ?”
เมื่อเห็นเฉินเฉินเดินเข้ามา หยางเฉินก็รู้สึกดีใจทันที! แม้ว่าคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้าของเขาจะสวมเสื้อคลุมยาวทว่ากลับดูผอมเพรียวยิ่งนัก! ขณะที่ใบหน้าอวบอิ่มทําให้ใบหน้าของเขาดูเยาว์วัยราวกับเด็กอายุแปดหรือเก้าขวบ!
หากเด็กน้อยคนนี้รู้วิธีต่อสู้เพื่อปกป้องพี่สาว ในฐานะพี่ชาย… เขาควรใช้วิธีการใดในการปกป้องน้องสาว?
บิดาได้เอ่ยปากขอให้สานต่อธุรกิจครอบครัว ทว่าเขาไม่กลิ่นของทองแดงจึงปฏิเสธไป!แต่เมื่อได้ร่ําเรียนก็รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนทุกครั้งที่จับตํารา… เขาทําอะไรได้บ้างเล่า?
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยดังเดิมได้อีกต่อไป! เพื่อน้องสาวผู้น่ารักและไร้เดียงสาเขาจึงต้องกัดฟันทนต่อไป เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นกับนางเขาเกรงว่าจะไม่สามารถปกป้องนางได้!
จางชิงเฟิงโค้งคํานับเล็กน้อยก่อนพาเฉินเฉินไปเรียนตํารา! ดังนั้นภายในห้องโถงจึงเหลือพี่น้องตระกูลหยางเพียงสองคนเท่านั้น!
หยุนเกียนเถียนกล่าวหยอกล้อ “ผู้หรง สมัยก่อนหากเจ้าเห็นคนหล่อเหลาทีไรเป็นต้องเหลียวหลังมอง!แต่เหตุใดเจ้าถึงไม่ดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นคุณชายจางผู้เลอโฉมเล่า!”
หยางยู่หรงเม้มริมฝีปาก “เพียงได้มองใบหน้าขาวนวลราวกับแสงจันทร์อยู่ห่างๆก็เพียงพอแล้ว! เถียนเถียน เทพเจ้าคงรักเจ้าน่าดูถึงปั้นใบหน้าของเจ้าให้สวยงามเช่นนี้!เหตุใดพระเจ้าไม่เมตตาข้าบ้าง?
“แม่สาวคนนี้พูดจาไร้สาระ ข้างามตรงไหนเล่า? ข้าแต่งงานกับเจ้าได้เสียเมื่อไร?ไหน ๆก็พูดถึงเรื่องนี้แล้วข้าว่าคุณชายจางเหมาะสมกับเจ้ายิ่ง!”
“ดูคําพูดเจ้าส์ ช่างไร้เดียงสาเสียจริง! เขาชอบคนที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน… สําหรับข้าแล้วเขาหล่อเหลาเกินไป!คุณชายจางเป็นคนมากพรสวรรค์และที่สําคัญที่สุดคือเขาเป็นคนอ่อนโยน!แม้บางครั้งข้าจะไม่สนใจที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้ทว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว!ข้ารู้ว่าคุณชายจางเป็นคนอ่อนโยนดังนั้นเขาจะต้องทนข้าในฐานะหญิงสาวผู้แอบรักได้แน่นอน!”
“สิ่งสําคัญที่สุดคือกลัวว่าแม่สามีจะไม่ชอบอุปนิสัยของเจ้า! แต่คุณชายจางนั้นแตกต่างออกไปเขากําพร้าแม่และถูกเลี้ยงดูโดยพ่อผู้มากความสามารถ!ข้าเคยพบปะพ่อของเขาโดยบังเอิญแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจางมีภาพลักษณ์เคร่งขรึมทว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนช่างพูด!”
“สิ่งเดียวที่ข้ากังวลในตอนนี้คือเกรงว่าพ่อของคุณชายจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากการหมั้นหมายครั้งก่อนของคุณชายไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ถือเป็นความอัปยศก็ว่าได้อย่างไรก็ตามเรื่องมันผ่านมานานแล้วเขาคงไม่คิดแค้นอะไรแล้วล่ะ… เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนใจกว้างและไม่เคยกล่าวโทษผู้อื่นเลย!”
หยางยู่หรงมองไปที่เถียนเกี่ยนด้วยแววตาเปล่งประกายพลางพยักหน้าพร้อมเผยสีหน้าขึ้นชม! หยางเฉินที่นั่งอยู่ข้างของนางแสดงท่าที่อับอายออกมาและในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าความรับผิดชอบใหญ่หลวงได้ตกลงบนบ่าของตนแล้ว!
หญิงสาวผู้นี้จะแต่งงานกับใคร? หากมีแม่สามีนิสัยป่าเถื่อน ชีวิตแต่งงานของนางคงไม่ราบรื่นนักและคงมีเพียงหยางเฉินเท่านั้นที่สามารถปกป้องน้องสาวได้!
“แต่เท่าที่คิดดูแล้ว หากเจ้าแต่งงานกับคุณชายจางจริง พี่ชายของเจ้าคงไม่สบอารมณ์น่าดู!ภูเขาที่ขวางหูขวางตาต้องกลายมาเป็นน้องเขย! จ๊ ๆ ๆ”
หยางยู่หรงเอียงศีรษะ “ข้าไม่เห็นว่าจะมีปัญหาเลย มันไม่ใช่ปัญหา แต่ข้าจะเก็บไปพิจารณาแล้วกันเพราะเห็นว่าครอบครัวของเจ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับคุณชายจาง!พี่ชายของข้าพูดไปเมื่อครู่มิใช่หรือ? ถ้าพ่อของข้าชอบคุณชายจางลูกชายของเขาจะขัดขวางได้อย่างไร!ไม่เช่นนั้นข้าจะทําให้เขายอมเอง!”
หยางเฉินยื่นมือออกไปยผมของหยางยู่หรงเบา ๆ “เจ้าพูดอะไรน่ะสาวน้อย!หากเจ้าชอบพอคุณชายจางจริงก็คิดถึงแต่เรื่องดี ๆอย่ายกเรื่องนี้มาพูดให้ข้าอารมณ์เสียเลย!มันทําให้ขาดูเหมือนคนใจแคบ!”
“ทําอย่างกับตอนนี้ท่านพี่ไม่ใช่คนในแคบ!”
หยางยู่หรงลูบศีรษะของตนเองด้วยความประหม่า และยังคงไม่ยกโทษให้พี่ชาย! พี่น้องสองคนนี้กําลังทะเลาะกันซึ่งทําให้หยุนเถียนเถียนรู้สึกอิจฉายิ่งนัก!
จางชิงเฟิงสอนตําราให้เฉินเฉินอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อพวกเขาออกมาเสียงหัวเราะร่วนของทั้งสามคนที่อยู่ในห้องโถงก็หยุดลงทันที!
จางชิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่าแม่นางหยุนไม่ควรพูดถึงผู้อื่นลับหลังเช่นนี้!เหตุใดแม่นางหยุนถึงเผยสีหน้าประหม่าราวกับว่ากลัวเขาได้ยินเรื่องบางอย่าง?
หยุนเถียนเถียนมองไปยังหยางยู่หรงและพบว่านางมองจางชิงเฟิงด้วยสายตาชื่นชม!
“คุณชายจาง ทราบหรือไม่ว่าบิดาของท่าคิดเห็นอย่างไรกับการหมั้นหมายหรือเจ้าคะ?”
จางชิงเฟิงเหยียดยิ้มอย่างขมขึ้น “แม่นางหยุนรู้ดีว่าการหมั้นหมายครั้งล่าสุดของข้าเกิดอะไรขึ้น!ดูเหมือนว่าหญิงสาวผู้มีความรู้และมากความสามารถจะมีด้านที่เลวร้าย!ข้าเข็ดหลาบเรื่องหญิงสาวแล้วล่ะ!ใครจะต้องการแต่งงานกับหญิงเห็นแก่ตัวคนนั้นข้าว่าอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันเลยดี กว่า!”
“คุณชายจางคิดมากเกินไปแล้ว… หญิงสาวทุกคนไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายเช่นนางเสียหน่อยบนโลกนี้ยังมีหญิงสาวผู้ไร้เดียงสาและน่ารักรอคุณชายอยู่นะเจ้าคะเหตุใดท่านถึงปิดใจเช่นนี้?”
“ข้าไม่คิดว่าผู้หญิงบนโลกจะเป็นเช่นนาง เพียงแต่ข้าไม่มั่นใจเลย! อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดเถิด!เร็ว ๆ นี้เฉินเอ๋อเพิ่งเลิกเรียน เราควรปล่อยให้เขาไปพักผ่อนได้แล้ว!”
จางชิงเฟิงหันมองเฉินเฉินด้วยสายตาอ่อนโยน จากนั้นทั้งสองต่างประสานมือเพื่อบอกลาก่อนเดินออกจากบ้านไป!
หยางยู่หรงห้ามความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้จึงกระซิบถาม“เถียนเถียน บอกข้าหน่อยสิว่าเขาเกลียดชังอะไรหนักหนา?หรือว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงแล้ว!”
หยุนเถียนเถียนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม“อันที่จริงคุณชายจางไร้เดียงสาจนตกเป็นเหยื่อของคนเจ้าเล่ห์น่ะ!หญิงสาวที่เขาเคยหมั้นหมายด้วยเป็นคนในหมู่บ้านของข้าเอง!พวกเขาถูกคลุมถุงชนโดยพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย!หญิงสาวผู้นั้นเป็นคนมากความสามารถเช่นเดียวกันและแม้ว่าทั้งสองจะไม่รู้จักกันมาก่อนทว่าสามีคนปัจจุบันของนางนั้นคุ้นเคยกับคุณชายจางมาก่อน!”