สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 299 ประจันหน้า
ตอนที่ 299 ประจันหน้า
จินเฮ่าลอบกลอกตาดูหมิ่นเด็กชาย เขานึกสบประมาทว่าความเรียงฝีมือเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมเช่นนี้จะดีได้อย่างไร กว่าจะสอบเยวี่ยนซื้อครั้งที่แล้วผ่านเขาต้องใช้เวลาร่ําเรียนอยู่หลายปี กระนั้นเขาก็ยังต้องเข้าสอบอีกหนหนึ่งในเร็ววันนี้
จางชิงเฟิงไม่ทันได้สังเกตว่าสหายของเขากําลังจ้องมองเด็กชายอย่างดูถูกเหยียดหยาม จึงส่งความเรียงในมือให้ “สหายจิน เจ้าดูสิว่าเด็กคนนี้เก่งกาจเพียงไหน เขาอายุยังน้อยทว่ากลับ เขียนความเรียงยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้!”
จินเฮ่ารับมาด้วยกิริยาดูถูกพลางนึกหม็นจางชิงเฟิงอยู่ในใจ แม้ภายนอกจะประพฤติตัวเป็นสุ ภาพชน ทว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการจะผูกสัมพันธ์อย่างจริงใจกับครอบครัวสกุลหยุน เพียง แต่ต้องการหาโอกาสใกล้ชิดผู้มีอิทธิพลเพื่อเลียแข้งเลียขาเท่านั้น… หลังจากเห็นหน้าหยุนเถียนเถียนแล้วก็นึกได้ว่าสามีนางคงไม่ธรรมดาแน่
ทว่าเมื่ออ่านความเรียงนั้นแล้วเขาก็ถึงกับตกตะลึง ด้วยคาดไม่ถึงว่าเฉินเฉินจะสามารถเขียน ความเรียงดีถึงเพียงนี้ได้จริง นี่เป็นความเรียงฝีมือเด็กจริงหรือ? เขาไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดเด็กน้อยจึงเข้าสอบเซียนซื้อได้ อีกทั้งยังเกรงว่าเด็กผู้นี้จะสามารถไปสอบระดับเยวี่ยนซื้อประจําปีด้วย!
“ความเรียงนี้เขียนได้ดีมาก เจ้ามีฝีมือดีถึงเพียงนี้แล้วยังจะสอบเซียนซื้อเพียงอย่างเดียวเองหรือ?”
แม้เฉินเฉินจะรู้สึกไม่ชอบหน้าชายหนุ่มผู้นี้เท่าใดนัก กระนั้นเด็กน้อยก็ยังตอบจินเฮ่าอย่างตรงไปตรงมา “หากข้าสอบขั้นเซียนซื้อผ่านได้ เมื่อนั้นจึงค่อยไปสอบเยวี่ยนชื่อต่อ ทว่าถึงจะสอบขั้นนั้นไม่ผ่าน ข้าก็ไม่เสียดาย เพราะถือว่าข้าได้ประสบการณ์”
จินเฮ่ารู้สึกประหวั่นนัก เขาทุ่มเทเล่าเรียนมาหลายปีเพื่อเข้าสอบเยวี่ยนซื้อครั้งนี้…มีผู้สอบผ่านเซียนซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี คู่แข่งเยอะถึงเพียงนี้ก็ชวนหัวเสียมากพอแล้ว
เขาใช้เล่ห์กลกําจัดคู่แข่งคนสําคัญอย่างจางซึ่งเพิ่งออกจากการสอบได้สําเร็จ ทว่าหากเด็กชายผู้นี้กลายเป็นคู่แข่งของเขา… ก็คงจินตนาการได้ว่าโอกาสสอบผ่านเยวี่ยนชื่อในปีนี้ของเขาต้องริบหรี่ลงแน่! ความรู้สึกของจินเฮ่าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการสอบเยวี่ยนชื่อครั้งนี้นัก หากต้องประมือกับคู่แข่งผู้เก่งกาจเช่นนี้… แน่นอนว่าเขาคงถูกเขียตกชั้นได้ไม่ยาก!
หยุนเถียนเถียนออกจากครัวมาพร้อมชา สิ่งแรกที่นางเห็นคือแววตาขุ่นเคืองมุ่งร้ายจากสายตาของจินเฮ่า นางรู้สึกหวั่นใจและเป็นกังวล ด้วยไม่รู้ว่าจะขับไล่ชายใจทรามผู้นี้ออกไปได้เช่นไร
จินเฮ่าเริ่มตีรวน “เจ้ายังเยาว์นัก… ข้าว่าเจ้าควรร่ําเรียนอีกสักสองสามปีน่าจะเหมาะกว่า เจ้าเห็นสนามสอบเยวี่ยนชื่อเป็นสนามเด็กเล่นหรือไรกันเจ้าหน?”
ทันใดนั้นหยุนเถียนเถียนก็กล่าวขึ้นอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าสงบ “คุณชายจนก็เล่าเรียนมาหลายปีแล้วแท้ ๆ ทว่ากลับมองไม่ออกหรือว่าเขาโตพอแล้ว! เฉินเอ๋อน้องข้าเป็นเด็กมีพรสวรรค์เช่นนี้ ไยจะส่งเขาไปสอบไม่ได้เล่า? หรือท่านคิดว่าควรรอให้เขาแก่เฒ่าจนจะเข้าโลงก่อนแล้วจึงค่อยไปสอบกัน?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นจางชิงเฟิงถึงกับสะดุ้งตกใจ… ทั้งที่หยุนเถียนเถียนเป็นผู้สอนเขาเอง ว่าอย่าทําให้คนโฉดดังเช่นชายผู้นี้ขุ่นเคือง ทว่าบัดนี้นางกําลังทําเช่นนั้นเสียเองโดยไม่ไว้หน้าจินเฮ่าเลยแม้แต่น้อย… เหตุใดนางจึงพลาดพลั้งเช่นนี้เล่า?
“แม่นางพูดถูก… ข้าผิดเองที่กล่าววาจาเช่นนั้น!”
จินเฮ่าก้มหน้าแสดงความสํานึกผิด… ทว่าท่าทีเช่นนี้ของเขาช่างดูจอมปลอมเสียเหลือเกิน หยุนเถียนเถียนอดนึกไม่ได้ว่านางน่าจะใช้ถ้อยคํารุนแรงกว่านี้ เพื่อหาโอกาสไล่เขาออกไป
เฉินเฉินมองไปยังจินเฮ่าโดยไม่ได้โกรธเคืองก่อนพูดอย่างสบายใจ “คุณชายจิน… ข้าไม่รู้หรอกนะว่าวันนี้ท่านสบประมาทข้ามากไปหรือไม่ ทว่าท่านมีสิ่งใดจะชี้แนะข้าหรือเปล่า หากไม่มี… เหตุใดท่านกับข้าจึงไม่ลองประชันกันดูสักครั้งเล่า?
ปกติแล้วจินเฮ่าเป็นคนไม่กล้าเอาจริงเอาจังนัก ทว่าหากเขาพ่ายแพ้ให้กับเด็กน้อยอายุไม่ถึงหลักสิบผู้นี้ก็คงเสียหน้าไม่น้อยทีเดียว
“หากว่ากันตามปกติ สําหรับข้าแล้วการประลองกับเจ้าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทว่าคุณชายจางเป็นผู้ช่วยทบทวนบทเรียนให้เจ้า เช่นนั้นเจ้าจะหยามหน้าเขาด้วยการทําประชันกับข้าผู้เป็นสหายของเขาได้เช่นไร? เขาบอกข้าว่ามาที่นี่เพื่อช่วยสอนเด็กที่ยังไม่น่าจะพร้อมต่อการสอบ ข้าจึงเพียงตามมาดูเขาเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อลดตัวลงไปประชันกับเด็กน้อยเช่นเจ้า!”
ประโยคนี้มีเจตนาสร้างความบาดหมางอย่างชัดเจน หากเป็นเด็กหัวอ่อนคงจะติดกับจนบาดหมางกับจางชิงเฟิงอย่างแน่นอน ทั้งจางชิงเฟิงและเฉินเฉินยังไม่ทันมองเห็นเจตนาในถ้อยคํานั้น ทว่าหยุนเถียนเถียนไม่อาจทนเห็นน้องชายของนางถูกยั่วยุได้อีกต่อไป!
“คุณชายจาง… เฉินเฉินน้องขาต้องขอบคุณท่านจากใจจริงที่ช่วยทบทวนบทเรียนให้แก่เขา… แม้เขาจะมีความสามารถอยู่บ้าง ทว่าก็ต้องพึ่งพาท่านให้ช่วยชี้แนะอีกมาก”
เมื่อจินเฮ่าเงยหน้าขึ้น เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสตรีร่างบอบบางตรงหน้า กําลังจ้องเขม็งมาด้วยสายตาที่เป็นดั่งคําเตือน เขารู้สึกราวกับกําลังถูกสายตาของนางฉีกทิ้งร่าง เพื่อเผยความคิดอันสกปรกโสมมในใจเขาออกมา
“พวกเราอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว… ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ที่ใด พวกเราใคร่จะขอบคุณเขาเสียหน่อย”
จินเฮ่าตัดสินใจชิงไต่ถามหาสามีของนางผู้เป็นเจ้าบ้าน ด้วยหวังจะศึกษานิสัยใจคอว่าเป็นคนดีชั่วเช่นไร เผื่อว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตจริง ก็ไม่สายเกินไปที่จะเข้ามาเกาะเกี่ยวหาผลประโยชน์
หยุนเถียนเถียนไม่เคยไว้หน้าคนต่ําทรามจึงกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม “สามีข้าไม่ใช่คนมีอํานาจใหญ่โตหรอก… เขาเป็นเพียงพรานป่าทั่วไปเท่านั้น! ท่านคงจะผิดหวังสินะ!”
จินเฮ่าถึงกับหน้าถอดสีด้วยรู้สึกขายหน้าอย่างรุนแรง แม้สตรีผู้นี้จะรู้เท่าทันความคิดของเขา ทว่าไม่นึกเลยว่านางจะกล้ากล่าวออกมาอย่างไม่ให้เกียรติเช่นนี้!
“แม่นางหยุนเข้าใจผิดแล้ว! ข้าเจตนาถามถึงสารทุกข์สุกดิบของคุณผู้ชายเพียงเท่านั้น เหตุใดแม่นางต้องกล่าวหักหาญน้ําใจข้าเช่นนี้ด้วยเล่า?
“คุณชายจนไม่ควรเสียมารยาทถามเช่นนั้น ทั้งตัวข้ากับน้องชายที่ยืนอยู่ตรงนี้ต่างก็ถือว่าเป็นเจ้าของบ้าน เช่นนั้นแล้วท่านจะต้องการพบสามีข้าเพื่อสิ่งใดกัน? ข้าต้องขอโทษด้วยที่วันนี้สามี ข้าไม่อยู่บ้าน ทว่าสิ่งสุดท้ายที่ข้าจะบอกคือท่านเป็นแขกที่เราไม่ได้รับเชิญ ซ้ํายังดูหมิ่นน้ําใจของพวกเราด้วย ดังนั้นท่านจงออกไปจากบ้านข้าเสียบัดนี้เถิด!”
จินเฮาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นทันที “เจ้าช่างเป็นสตรีที่หยาบคายนัก! ข้าเพียงแต่ถามด้วยความสงสัยเท่านั้น เหตุใดเจ้าต้องกล่าววาจาหยามเกียรติข้าเช่นนี้?”
“คุณชายจนถูกขาหยามเกียรติอย่างนั้นหรือ? ท่านเป็นผู้รบเร้าขอตามคุณชายจางมาที่นี่เอง ทันทีที่ข้าเปิดประตูออกมา ข้าก็เห็นสายตาอันน่ารังเกียจของท่านจ้องมาที่ข้า มาบ้านคนอื่นแต่กลับแสดงพฤติกรรมเช่นนั้นออกมาต่อหน้าสตรี มันหมายความว่าอย่างไรหรือ? อีกทั้งยังกล่าวว่าจาดูหมิ่นน้องชายของข้า สุดท้ายมาถามหาเจ้าของบ้านแบบนี้จะให้ข้าคิดเช่นไร? เราสองคนพี่ น้องดไม่เหมือนเจ้าของบ้านหลังนี้อย่างนั้นหรือ?
จางชิงเฟิงไม่อาจวางตัวถูกจึงได้แต่ยืนนิ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้พาจินเฮ่ามาบ้านตระกูลหยุน ทว่าเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของจินเฮ่ามาตั้งแต่ที่แรก ฝ่ายเจ้าของบ้านก็เป็นมิตรที่ดีของเขา ส่วนฝ่ายแขกก็เป็นผู้ที่เขาพามา ตอนนี้เขาเป็นคนกลางที่ไม่อาจรู้ว่าจะจัดการกับทั้งสองฝ่ายที่กําลังประจันหน้ากันเช่นนี้อย่างไร
“คุณชายจิน… ข้าผู้นี้เป็นคนพูดอย่างตรงไปตรงมา เจ้าของบ้านเช่นข้าไม่เต็มใจต้อนรับแขกอย่างท่าน! อย่าได้คิดว่าผู้อื่นจะรู้ไม่เท่าทันความคิดโสมมในใจของท่านนะ!”