สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 263 กลิ่นเหม็นที่คล้ายคลึง
ตอนที่ 263 กลิ่นเหม็นที่คล้ายคลึง
หยุนเถียนเถียนมองสองแม่ลูกที่แสร้งสนิทสนมกัน แต่ในใจกลับยังคงฟาดฟันกันอยู่ มุมปากยกขึ้นยิ้มอย่างชั่วร้าย จากนั้นป้าก็พานางไปเรือนเฉินไป
ลูกสาวเฉินไปออกเรือนได้ราวสองเดือนแล้ว ห้องว่างเปล่าจึงถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น ทว่าเพื่อทําให้หยุนเถียนเถียนสงบลง เฉินไปจึงให้ท่านแม่และภรรยาจัดการให้เรียบร้อย!
ตั้งแต่ภรรยาเฉินไปได้รับอํานาจในการดูแลจัดการโรงผลิต นางดูจะเคารพนับถือหยุนเถียนเถียนมากขึ้น แม้ว่าทัศนคติที่มีจะยังอคติเช่นเดิมก็ตาม
หยุนเถียนเถียนไม่สนใจว่าคนนอกจะเคารพหรือเกรงกลัวนางหรือไม่ หลังจากกล่าวทักทายทุกคนแล้วนางก็เข้าห้องพักทันที วิสัยทัศน์แรกที่ได้เห็นห้องนั้นนางก็ตระหรักได้ว่าคนที่ทําความสะอาดห้องต้องมีความตั้งใจมาก ถึงทําให้ห้องสะอาดสะอ้านเพียงนี้ แม้กระทั่งผ้าปูที่นอนยังดูเหมือนของใหม่
หยุนเถียนเถียนอาศัยอยู่เรือนนี้อย่างสบายใจ แต่หลินหูนักปราชญ์จากหมู่บ้านข้าง ๆ ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าครั้งที่ปะทะหยุนเค่อจะทําให้เขาตกใจยิ่งนัก แต่ความตกใจนั้นก็เกิดขึ้นเพียงแรกเห็น ทันทีที่เขากลับไปก็นึกถึงใบหน้าอันน่าทึ่งของหยุนเถียนเถียนอีกครา ทําให้จิตใจของหลินหูเต้นแรงอีกครั้ง!
หยุนเค่อเติบโตมาอย่างดี แต่ทว่าจิตใจกลับดุร้ายมาก เช่นนั้นจะเทียบกับตนเองผู้ที่อ่อนโยนได้อย่างไรเล่า? ในใจหลินหูเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเองสูงมาก
หวงซื่อตกใจมาก เมื่อถึงเรือนนางเอาแต่สาปแช่งหยุนเค่อว่าสมควรตายไม่หยุนหย่อน
เสียงนั่นดังไปถึงกูแม่หม้ายที่อยู่ด้านข้าง นางยกมุมปากขึ้นอย่างดูแคลน สองแม่ลูกที่ถูกสวรรค์ลงโทษหาคิดได้ไม่? จึงสมควรแล้วที่จะต้องโดนกระทําเช่นนี้บ้าง
ทว่าบัดนี้แม่หม้ายสาวไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก เพราะหวงชื่อไม่ใช่คนพูดง่าย เมื่อครั้งก่อนที่นางนินทาจนเรื่องถึงหูหวงซื้อ ทันใดนั้นหวงซื้อก็พุ่งปรี่มาที่เรือนและทุบตีนางทันที แม้ว่าจะถูกตบตีเพียงสองสามคราว ทว่าข้าวของบริเวณลานบ้านกลับกระจัดกระจายไปทั่ว
เช่นนั้นนางไม่ควรกล่าวอันใดที่เป็นการยั่วยุใช่หรือไม่?
ถึงกระนั้นไม่กี่วันต่อมา แม่หม้ายก็พบว่าหลินหูที่ไม่ค่อยออกไปไหน บัดนี้เขากําลังออกไปข้างนอกอีกแล้ว เขาเลือกสวมเสื้อผ้าตัวโปรดและดูดีที่สุด เมื่อเห็นทิศทางที่เขาไปนั้น ปรากฏว่าเขากําลังมุ่งตรงไปยังหมู่บ้านเทพธิดา
หากกล่าวว่าเจ้าเด็กกะล่อนมิได้ไปหาแม่นางหยุน แม่หม้ายจะเชื่อได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้แม่นางหยุนและนายพรานไม่อยู่เรือน ทําให้เรือนของนางทรุดโทรมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งสองกลับมา และดูเหมือนว่าชีวิตของทั้งคู่จะดีขึ้นมาก เหตุใดถึงยังแล้งน้ําใจต่อเพื่อนมนุษย์เล่า? แม่หม้ายไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ตนเอง แต่นางเพียงหวังให้ลูกได้ดีกเท่านั้น
ทว่ายิ่งเด็กเรียนหนังสือราวกับหนอนหนังสือยจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ การเรียนก็จะยิ่งล่าช้าและทําให้แม่หม้ยรู้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน หลินหูเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วไป ทุกคนรู้ดีว่าเขาไม่ใช่บัณฑิตแท้จริง ทว่า เขามีแม่ที่สามารถส่งเสียจนเติบโตได้ก็เท่านั้น
ลูกของนางปราดเปรื่องมาก ความรู้การอ่านก็ไม่เลวนัก น่าเสียดายที่นางเป็นแม่หม้ายไร้ความสามารถ นางจึงปรารถนาให้ลูกได้เรียนหนังสือสูง ๆ เพื่อจะได้เดินบนเส้นทางเดียวกับหยุนเถียนเถียนแทนนาง
หลินหูไปยังหมู่บ้านเทพธิดา แต่เมื่อเดินตรงเข้ามาในบ้านก็ได้ยินบทสนทนาที่กําลังกล่าวถึง หยุนเค่อและหยุนเถียนเถียน ทันใดนั้นเขการู้สึกตื่นตระหนกทันที สาวสวยคนนั้นกําลังจะแต่งงานกับคนอื่น แล้วเขาจะปล่อยวางเรื่องนี้ลงได้อย่างไรกัน?
เขารีบวิ่งไปยังประตูฝั่งหยุนเค่อ ทว่ากลับไม่มีผู้ใดอยู่! เนื่องจากหยุนเค่อกําลังเตรียมงานแต่ง จึงต้องออกไปซื้อของในเมือง ซึ่งฝ่ายหยุนเถียนเถียนก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านเนินไปมาสักพักใหญ่แล้ว
ขณะที่เขาหันหลังเตรียมจะกลับก็พบเฉินไฉ่อีที่กําลังกลับเรือนเพื่อเยี่ยมมารดาของนาง
เฉินไฉ่อีแต่งงานกับจางชิงเฟิง แต่จางชิงเพิ่งจําการทรยศของเฉินไฉ่อได้ ไม่เพียงแต่ลดค่าสินสอดทองหมั้นเท่านั้น แม้แต่คืนว่าส่งตัวยังไม่แม้แต่จะอยู่ด้วยกัน เขาเข้าไปนอนอยู่ในห้องหนังสือแทบทั้งคืน
หลังจากแต่งงานได้ไม่นานก็เดินหน้าศึกษาตําราเรียนต่อทันที นับแต่นั้นก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในสถานศึกษาจนไม่ยอมกลับเรือน แม้เฉินไฉ่อจะยินดีที่เป็นเช่นนั้น แต่จางชิวไฉ่กลับให้ความสําคัญกับนางเป็นอย่างยิ่งและคอยจับตาดูนางตลอดเวลา
เขาไม่อนุญาตให้นางไปที่ไหนทั้งสิ้น! ทั้งเรื่องในบ้านก็ยกให้เฉินไฉ่อทําทั้งหมด! แม้แต่การทําตามประเพณีหลังแต่งงานโดยต้องกลับไปเยี่ยมฝั่งครอบครัวเจ้าสาวก็ยังไม่มีผู้ใดพานางไปสักคน จนกระทั่งหลายวันก่อนนี้จางชิงเฟิงกลับเรือน
จางชิวไม่เริ่มแผนการส่งตัวนางกลับบ้านเกิด! เป้าหมายของเขาเพียงต้องการทําให้นางไม่มีโอกาสได้อยู่กับจางชิงเฟิงอีกต่อไป เฉินไฉ่อจะสามารถฝืนทนบิดาเช่นนี้ได้อย่างไร? นางจึงถือโอกาสนี้กลับไปฟ้องมารดาของตน!
ทันทีที่เดินเข้าไปในหมู่บ้าน นางก็ได้ยินข่าวลือว่าหยุนเคอและหยุนเถียนเถียนกําลังจะแต่งงานกัน นางจึงตระหนักว่าเหตุใดงานแต่งของนาง ถึงไม่ราบรื่นเช่นนี้บ้าง ทว่ากับหยุนเถียนเถียนผู้ไม่มีพ่อแม่กลับได้แต่งงานอย่างสมเกียรติ?
ก่อนที่นางจะกลับถึงบ้านก็พบเข้ากับหลินหู เขากําลังมองหยุนเถียนเถียนด้วยสายตาหลงใหล ราวกับไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลาครู่หนึ่ง
เฉินไฉ่อไม่ได้สติฟันเฟือน นางจึงพาเดาออกว่าหลินหูชอบหยุ
นเถียนเถียน ทว่าน่าเสียดาย คนที่เขาสนอกสนใจกําลังจะแต่งงานในเร็ว ๆ นี้ จะว่าไปแล้วก็สงสารเขาเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เฉินไฉ่อีจึงเข้าหาหลินหูด้วยแผนการที่อยากจะแก้แค้นหยุนเถียนเถียน! แม้ว่าท่าทางของนางจะดูโทรมไปบ้าง แต่สินสอดทองหมั้นที่นางนํามาจากบ้านของเฉินซ่งนั้นมากโข การแต่งกายจึงสุภาพราวกับผู้ดี!
“ท่านชายมิได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ใช่หรือไม่? ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”
แม้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าหลินหูจะมีใบหน้างดงาม แต่เมื่อเทียบกับหยุนเถียนเถียนแล้วนางก็ยังด้อยกว่า จึงทําให้เขาผิดหวังเล็กน้อย!
หากสถานการณ์ทั่วไปแล้วเมื่อเขาเห็นหญิงสาวเช่นนี้ นัยน์ตาคงเป็นประกายไปแล้ว แต่ทว่า หลังจากได้พบกับหยุนเถียนเถียนสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป เขาทราบแล้วว่าผู้หญิงหน้าตาเช่นนี้ไม่สามารถทําให้เขาตะลึงงันได้อีกต่อไป
“เสี่ยวเฉิน ข้าหลินฟูจากหมู่บ้านข้าง ๆ ข้ามาหาแม่นางหยุน แต่… นางกําลังจะแต่งงาน! ข้า.. ข้าทราบดีว่าไม่ควรมา!”
ท่าทางผิดหวังของหลินหูทําให้เฉินไฉ่อรู้สึก ยินดีอย่างยิ่ง! ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ยิ่งใช้ประโยชน์ จากเขาได้ง่ายขึ้น!
“ข้าว่าแม่นางหยุนก็ตาบอดเช่นกัน นายพราน ป่าเถื่อนนั้นมีดีอย่างไร? หาเทียบเจ้าชายเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างเจ้าได้หรือไม่? ทั้งนายพรานเป็นผู้ใดมาจากไหนยังไม่มีใครทราบ ไม่แน่เขาอาจจะเคยก่อการร้ายและแอบมาที่นี่ก็เป็นได้? ข้าว่าไม่แน่นายพรานคนนั้นต้องเล่ห์กลลวงอะไรบางอย่างแน่นอน มิฉะนั้นหญิงสาวโฉมงามราวดอกไม้จะยอมแต่งงานกับเขาได้อย่างไร?”
หลินฟูตระหนักตามอย่างรอบคอบและรู้สึกว่าเช่นนั้นก็อาจเป็นไปได้!
เมื่อครั้งก่อนเขาเห็นนายพรานเดินมาพร้อมลําแสงอํามหิต ไม่แน่ว่าเขาอาจเพิ่งฆ่าคนตายและกําลังหลบหนีอยู่ก็เป็นได้! แม่นางหยุนไม่สมควรแต่งงานกับคนเช่นนี้ มิฉะนั้น…
เมื่อนึกได้เช่นนี้ เขาเผยยิ้มเลื่อนขึ้นมาทันที “แต่ต่อให้ข้ามีใจก็ไร้ประโยชน์! อย่างไรงานแต่งงานของแม่นางหยุนก็ใกล้เข้ามาทุกที ทั้งใจของนางก็ไม่เคยมีให้บัณฑิตไร้เรี่ยวแรงอย่างข้า!”