สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 258 ห้องครัวแสนคลุมเครือ
ตอนที่ 258 ห้องครัวแสนคลุมเครือ
หลินหูกลัวจนเหงื่อไหลพลักอาบแก้ม เมื่อหยุนเคอเข้ามาใกล้ เขาก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้อีกต่อไปจึงล้มลงกับพื้นทันที
“หากข้าพบเจ้าปรากฏตัวที่หมู่บ้านเทพธิดาเพื่อตามระรานคู่หมั้นของข้าอีกครา! ข้ากล้ารับประกันเลยว่าเจ้าจะไม่ได้ออกจากหมู่บ้านเทพธิดาได้ง่าย ๆ เช่นนี้แน่! ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูอย่างไรข้าก็ไม่มีสิ่งใดต้องทําฉะนั้นข้าเล่นกับเจ้าได้ทั้งวัน!”
เสียงคมเข้มนั้นราวกับยมบาลที่ต้องการมาพรากชีวิตหลินหูพยักหน้าด้วยความหวาดผวา แม้ไม่มีผู้ใดทราบว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทว่าอย่างน้อยบัดนี้ เขาก็ไม่กล้าคิดเรื่องหยุนเถียนเถียนอีกแน่นอน แม้ว่านางจะสง่างามปานใด แต่อย่างไรเขาก็ต้องรักชีวิตตนเองก่อนอยู่แล้ว
“ดี! ดูแล้วเจ้าคงพูดรู้เรื่องมากกว่าแม่ของเจ้าอยู่นะ”
หยุนเคอไม่พูดพร่ําทําเพลงเขาถือไก่ป่าไว้ในมือ พร้อมเดินจากไปยังลานบ้านที่ปิดประตูยู่อย่างน่าเกรงขาม
หลินหูเกรงกลัวจนต้องวิ่งไปที่หมู่บ้านของเขา โดยไม่สนใจหวงชื่อที่ยังกลิ้งอยู่ในหลุมโคลนแม้แต่น้อย
หวงซ่อนอนอยู่ในหลุมโคลน พร้อมดิ้นรนที่จะลุกขึ้น นางทั้งร้องไห้และด่าทอราวกับหญิงบ้า แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่กล้าที่จะกล่าววาจาหยาบคายต่อหยุนเคมากนัก! นางจึงด่าวนไปวนมาไม่กี่ประโยค เพราะกลัวว่าจะเผลอยั่วโมโห และหยุนเคอจะทุ่มตัวนางอีกครั้ง
แม้ว่าจะมีคนในหมู่บ้านเห็นฉากนี้ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาอยู่ดี เช่นนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความยุติธรรม!
แม้เขาจะด่าไปหลายคํา ก็ยังไม่มีผู้ใดสนใจทําให้หวงซื้อที่โกรธนางมากเพียงใด แต่ก็ต้องกลืนมันลงไปดังเดิม นางมองทั่วทิศทางทั้งบริเวณที่บุตรชายของเขาเดินอยูปรากฏว่าบุตรชายนางกลับไปนานแล้ว หวงซื่อจึงทําได้เพียงเดินตามหลังกลับไปอย่างตกอับ!
หยุนเคอทําให้แม่ลูกสองคนนี้หุบปากได้อย่างไร? หยุนเถียนเถียนไม่เคยทราบ! บัดนี้ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น พร้อมจ้องมองไปยังไก่ป่าที่หยุนเคอนํากลับมาด้วย
เนื่องจากเป็นช่วงปลายของฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ประเภทไก่ป่าจึงกลัวว่าหลังจากเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว จึงต้องกักตุนหาอาหารให้เพียงพอพวกมัน
พยายามกินปุ๋ยเพื่อเก็บพลังงาน ในกรณีที่พวกเขาไม่สามารถหาอาหารในฤดูหนาวได้ สิ่งนี้จะสามารถทําให้อยู่ได้นานขึ้น
แต่ไก่ป่าตัวอ้วนนี้ขนาดใกล้เคียงหยุนเตอแม้ว่าหยุนเสียนเถียนจะไม่เคยปฏิบัติไปในทางชั่วร้ายเช่นนี้เลย ในชีวิตทั้งแต่เดิมนางทานอาหารมังสวิรัติครั้งที่อยู่ในตระกูลหลี่แม้ว่าพ่อครัวจะทําอาหารเก่งมาก แต่การต้องทานเช่นนั้นเป็นเวลานานก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกป่วยเล็กน้อย
ด้วยเหตุนี้ทําให้ตาของหยุนเถียนเถียนเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นไก่ป่าตัวนี้
หยุนเคอมองไปยังเด็กสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง ท่าทางของเขาดูแทบไม่ออกว่าเพิ่งกล่าวข่มขู่ผู้คนมา!
“หยุนเคอ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะกินไก่ตุ้นเกลือคืนนี้! เจ้าคงไม่เคยได้ยินเรื่องไก่ตุ้นเกลือใช่หรือไม่? ฉะนั้นถือว่าเจ้าเป็นผู้มีวาสนา เพราะนี่คือสูตรลับที่ไม่อาจถ่ายทอดให้ผู้ใดได้!”
หยุนเคอเริ่มชินกับมันบ้างแล้วและบางครั้งเขายังเผลอพูดคําแปลกๆ ที่ออกมาจากปากหยุนเถียนเถียนได้ ทั้งยังเห็นสิ่งแปลกประหลาดจากนางจนชินตา!
“ได้! ข้าจะรอเจ้า!”
สายตาของหยุนเคอมองไปยังใบหน้าหยุนเถียนเถียนด้วยความรักและเอ็นดู ทําให้ใบหน้าของสาวน้อยแดงระเรื่อ
จากนั้นหยุนเถียนเถียนก็สั่งหยุนเคอทั้งที่ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อเช่นนั้น และบอกให้เขาไปที่ห้องครัวเพื่อจัดการไก่ให้เรียบร้อย
กล่าวได้ว่าหยุนเคอเป็นสามีที่แสนประเสริฐเขาไม่เคยแม้แต่จะขัดคําสั่ง! หยุนเถียนเถียนมองท่าทีของอีกฝ่ายพร้อมฟังเสียงชวนเสน่หากล่าวขึ้น
“อยากให้ข้าตัดมันเป็นชิ้นใช่หรือไม่?”
หยุนเคอถามประโยคนี้อย่างสบาย ๆ ทว่าเขาก็ไม่ได้รับคําตอบจากเด็กหญิงตัวน้อยนางทําเพียงเงยหน้าขึ้นและจ้องมองด้วยดวงตาได้ วิญญาณราวกับกําลังตกอยู่ในภวังค์
หยุนเคอแอบหัวเราะ สาวน้อยคนนี้ยังคงจ้องมองไปที่เขา!
เขาเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว ๆ และมองไปยังใบหน้างดงามที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมหัวใจของเขาเต้นแรงพร้อมโน้มตัวลงจูบ
บางที่อาจเป็นเพราะนางเพิ่งกินของบางอย่างหรือริมฝีปากของสาวน้อยนางนี้ค่อนข้างหวานอยู่ แล้วความหวานนี้ไหลผ่านริมฝีปากของนางเข้าสู่ หัวใจของเขาทําให้ไม่อยากผละตัวออกไป!
ในขณะที่ใจหยุนเวียนเถียนกําลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้านางรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออ พอได้สติกลับมาก็ลืมตาขึ้นจึงเห็นใบหน้าที่อยู่ใกล้ ๆ นางพึ่งตระหนักว่าหยุนเคอแอบจูบในขณะที่นางกําลังเหม่อลอย
อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แต่หัวใจนางกลับเต้นแรงจนลืมยื่นมือไปผลักเขาออก
จนกระทั่งคนนอกลานตะโกนว่า “ข้าวใหม่ปลามันเชียวนะพวกเจ้า!”
หยุนเถียนเถียนผลักหยุนเคอออกไปราวกับถูกไฟฟ้าช็อต หยุนเคอไม่ทันระวังเมื่อถูกผลักอย่างแรงจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว ไหล่ของเขากระแทกเข้ากับประตูห้องครัว
ความเจ็บปวดอย่างฉับพลัน ทําให้เขาขมวดคิ้วหยุนเถียนเถียนรีบถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไป? เจ้าบาดเจ็บไหม?”
หยุนเคอยิ้มบาง “ไม่เป็นไร!”
หยุนเสียนเถียนถลึงตาใส่ด้วยทั้งอายและโมโหจากนั้นก็ลูบใบหน้าร้อนผ่าวแล้วหันหลังเดินออกไปเปิดประตู
หยุนเคอยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และส่ายหัวเขายังคงยกไก่ป่าขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ได้นั่นไก่ให้แหลกเป็นชิ้น ๆ
เขาจําได้ว่าครั้งก่อนที่เด็กคนนี้จะทําอาหาร ขณะที่มือของเขานั่นไก่อย่างบ้าคลั่งเด็กคนนี้จ้องเขม็งใส่เขาหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เขาจึงไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองรอจนหยุนเถียนเถียนสั่งว่าจะทําเช่นไรกับมันก่อนเสียดีกว่า เขาตระหยักว่ายิ่งคบกันนานเท่าไหร่สาวน้อยคนนี้ก็ยิ่งได้มารยาทมากขึ้นเท่านั้น
หรือไม่จริง เจ้าเคยเห็นเด็ผู้หญิงหรือภรรยาหนใดใช้สามีตนเองให้เข้าครัวหรือไม่? อย่างไรก็ตาม หยุนเคอก็มีความสุขกับสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ไม่ใช่เพราะเขาชอบทําอาหาร แต่เพราะชอบตามดูการทําอาหารของนางในห้องครัวต่างหาก!
หยุนเถียนเถียนเดินไปที่ประตูสูดหายใจเข้าลึกๆในที่สุดก็สงบใจลงได้จึงเปิดประตู
นอกประตูเป็นคุณป้าจี้ชื่อ นางมองหยุนเถียนเถียนด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“เจ้านี่จริง ๆ เลยนะ เจ้าอยากจะไปไหนก็ไปไม่คิดจะบอกข้าสักคําว่าจะไปที่ใด! คราวนี้เจ้ากลับมาก็ไม่คิดจะไปหาข้าสักครา!ไม่คิดว่าข้าจะกังวลเรื่องเจ้าบ้างรึ?”
หัวใจของหยุนเถียนเถียนรู้สึกอบอุ่น และกําลังเอ่ยปากพูดบางอย่าง
ทว่าบ้าจี้รีบเข้าไปลูบหน้าผากเธอเสียก่อน
“เหตุใดเจ้าถึงหน้าแดงเช่นนี้? คงไม่ใช่เพียงเพราะไข้ขึ้นเป็นแน่!เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? มีเรื่องอันใดไม่สบายใจหรือไม่?”
หยุนเกียนเถียนนึกถึงเรื่องที่หยุนเคอจูบนางเมื่อครู่ ทําให้บัดนี้ใบหน้านางแดงระเรื่อยิ่งกว่าเดิม!
นางก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “ข้าไม่เป็นไรหรอกท่านป้าข้าสบายดี! บางที่อาจเป็นเพราะอากาศร้อนก็ได้!”
ทว่าป้าก็ยังคงสงสัย จึงสังเกตเห็นเห็นริมฝีปากที่บวมเป่งของหยุนเถียนพอดี
ป้ายิ้มอย่างมีเลศนัย “ยัยหนู! เอาเถอะงานหมั้นระหว่างเจ้ากับหยุนเคอก็เตรียมพ้อมหมดแล้ว!ทั้งพวกเจ้ายังอยู่ร่วมชายคาด้วยกันมากนานพอสมควร หากยังไม่เตรียมแต่งงานอีกคงมีคนคิดไม่ดีกับเจ้าทั้งสองแน่? แม้ว่าหยุนเคอจะคอยเอาใจใส่และยอมรอคอยที่จะแต่งงานกับเจ้ามานานก็เถอะ แต่หากเจ้ายังเล่นตัวเช่นนี้ เขาก็คงหน่ายแย่เจ้าควรต้องเข้าใจเขาด้วยอย่างไรเขาก็เป็นชายอกสามศอก!