สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 235 งานเลี้ยง
ตอนที่ 235 งานเลี้ยง
นายหัวหลี่พาตัวสาวใช้เข้าไปในห้องนอนต่อ หน้าต่อตาภรรยาของตนโดยไม่สนใจ ซึ่งหยามเกียรตินายหญิงหลี่เป็นอย่างมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเหล่าคนใช้รับรู้ว่านายหัวหลี่ ไม่ชื่นชอบในตัวภรรยาของเขาอีกต่อไป ความเคารพและเลื่อมใสที่พวกนางมีต่อนายหญิงจึงลดลง
สําหรับนายน้อยหลี่ เนื่องจากเขาดูแลนายหัวมาโดยตลอด จึงเป็นที่นับถือของเหล่าคนใช้ในบ้าน!
เสี่ยวซื้อถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าหลีชื่อฮวาเดินทางมาถึงแล้ว
แม้นายหัวหลี่จะรู้สึกผิดต่อลูกชาย แต่เหตุการณ์เช่นนี้คงดําเนินต่อไปได้ไม่นานนัก เพราะวันหนึ่งนายหญิงก็ย่อมมีวิธีจูงใจสามีอีกครั้ง! และเมื่อเวลานั้นมาถึง ทุกกอย่างในครอบครัวหลีกจะตกอยู่ในกํามือของนายหญิงอีกครั้ง
เว้นแต่เขาจะหาวิธีขับไล่ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านของครอบครัวหลี่ได้อย่างสมบูรณ์
จากนั้นไม่นานนายหญิงหลี่ก็สามารถหาทางหลอกล่อให้นายหัวเชื่อใจได้สําเร็จ เมื่อหญิงสาวผู้บอบบางยอมก้มศีรษะต่อหน้าชายผู้เป็นใหญ่ในครอบครัวด้วยท่าทางออดอ้อน แน่นอนว่าย่อมทําให้เขาหวนนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขในอดีต
เมื่อได้รับโอกาส นายหญิงหลี่จึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อไม่ให้หลี่ซื่อฮวามองเห็นจุดอ่อนของตนได้ นางพยายามทุกวิธีจนทําให้หลี่จินผู้เป็นพ่อลุ่มหลงไปกับภาพลวงตาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายหัวหลี่ยังคงรู้สึกผิดต่อหยุนเถียนเถียนที่แสดงกิริยาไม่ดีต่อนาง เขาต้องการจัดงานเลี้ยงเพื่อแทนคําขอโทษ ดังนั้นนายหัวหลี่จึงขอให้หลี่ซื่อฮวาเขียนจดหมายเชิญนางมาที่บ้านของพวกเขา
แท้จริงแล้วหยุนเถียนเถียนต้องการปฏิเสธคําเชิญ แต่เมื่อเห็นแก่หน้าของหลี่ซื่อหัวที่อยากกล่าวขอโทษ นางจึงเดินทางมายังบ้านของครอบครัวหลี่พร้อมหยุนเคอและเฉินเฉินด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก
ทั้งสองเดินทางโดยรถม้าที่ครอบครัวหลี่ได้จัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากหยุนเถียนเถียนไม่เคยสัมผัสกับรถม้าโบราณจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก! พวกเขาใช้เวลาสองวันในการเดินทางไปยังเมืองฟูเฉิง!
ทิวทัศน์สองข้างทางให้ความรู้สึกพิศวงต่อหยุนเถียนเกียนเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นความงดงามของธรรมชาติ นางจึงอยากหยุดและลงจากรถม้าเพื่อชื่นชมมัน
เมื่อเดินทางมาถึง หยุนเถียนเถียนเดินเซลงจากรถมาก่อนจะพยายามตั้งสติและยืนนิ่ง ส่วนหยุนเคอให้การดูแลและประคองนางเป็นอย่างดี
หยุนเคอยิ้มด้วยความเขินอายพลางกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเมารถม้าจึงไม่อยากปล่อยให้เดินทางมาเพียงคนเดียว อีกทั้ง… ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเดือดร้องจากการกลั่นแกล้งของคนน่าซื่อใจคดพวกนั้น!”
หยุนเถียนเถียนส่ายหัวและกล่าวว่า “ก็แค่รถม้าธรรมดา สักวันข้าก็ต้องพิชิตมันได้ หากไม่สามารถปรับตัวให้คุ้นชินกับสิ่งเล็กน้อยเพียงนี้ได้ ข้าก็ถือว่าไร้ความสามารถเกินกว่าจะเป็นมนุษย์! ลืมไปแล้วหรือว่าเป้าหมายสูงสุดของข้าคือการเป็นนักธุรกิจผู้ร่ํารวย ข้าหลับไปพร้อมเงินเป็นกระบุง หากเอาชนะการเมารถม้าไม่ได้ ข้าจะประสบความสําเร็จได้อย่างไร?”
หญิงสาวพูดด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่นซึ่งเปล่งประกายดุจดวงอาทิตย์บนท้องนภา ทําให้หยุนเคอหลงไหลจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
หลี่ซื่อฮวาเดินออกมาพลางกระแอมสองครั้ง ซึ่งทําให้หยุนเคอตื่นจากภวังค์ทันที ทั้งสองเขินอายจนใบหน้าแดงก่ํา
จากนั้นนายน้อยหลี่จึงนําทางพวกเขาเข้าไปในบ้านทันที
ครานี้ เห็นได้ชัดว่าทัศนคติของนายหัวหลี่ที่มีต่อหยุนเถียนเถียนนั้นดีขึ้นมาก
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้น ณ สวนหลังบ้านท่ามกลางแสงตะวันยามอัสดง พร้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่กําลังผลิบานอย่างงดงาม
หยุนเสียนเถียนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเป็นอย่างมาก แม้ที่แห่งนี้จะเป็นบ้านของครอบครัวหลี่ แต่นางกลับรู้สึกอุ่นใจราวกับบ้านของตน ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้ยังช่วยให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นอีกด้วย
“นางหยุน นายหยุน ยินดีต้อนรับ! ข้าไม่เคยถามมาก่อนเลยว่าท่านทั้งสอง…เป็นพี่น้องกันหรือ?”
หยุนเสียนเถียนกําลังจะพยักหน้ารับ ทว่าหยุนเคอกลับตอบอย่างรวดเร็ว “ไม่! เกรงว่าท่านจะเข้าใจผิด อันที่จริงนางเป็นคู่หมั้นของข้า เพียงแต่นางใช้นามสกุลของแม่ เช่นเดียวกับภรรยาของท่าน นางก็ใช้นามสกุลหลี่ตามพ่อของนางไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่าท่านน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี!”
คําพูดเหล่านี้ทําให้นายหัวหลี่แสดงสีหน้าไม่พอใจทันที แต่เนื่องจากเขาเป็นนักธุรกิจจึงควบคุมอารมณ์ได้ดี ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร “ข้าคงคิดน้อยเกินไป โปรดยกโทษให้ข้าด้วย!”
หยุนเถียนเถียนกัดฟันพลางมองไปด้านหลัง นางตั้งใจพาหยุนเคอมาเพื่อปกป้องตนไม่ให้ถูกรุกรานได้ แต่ใครจะคิดว่าเขากลับทําให้ผู้อื่นขุ่นเคืองเสียเอง
“นางหยุน… ข้าขอโทษสําหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น นับจากนี้ไปข้าจะดูแลครอบครัวให้ดี และจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นโปรดกลับมาร่วมมือและเป็นคู่ค้าของเราอีกครั้งเถิด… ข้าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเจ้าเลย ทุกอย่างจะดําเนินไปภายใต้การตัดสินใจของลูกชายข้า!”
หยุนเถียนเถียนรู้สึกตลกเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น นายหัวหลี่มีอายุเพียงสี่สิบปีเท่านั้น แต่กลับตัดพ้อและประชดประชันราวกับชายชรา
หยุนเถียนเถียนไม่กล้าหัวเราะออกมาเสียงดังต่อหน้าผู้อื่น อย่างไรก็ตาม คําพูดเหล่านี้ของนายหัวหลี่ทําให้ช่องว่างระหว่างทั้งสองคนลดลงทันที
“อย่าพูดเช่นนั้นเลย ในเมื่อเรารู้ตัวผู้กระทําผิดแล้ว ข้าจะตัดสัมพันธ์หรือใจร้ายกับพวกท่านได้อย่างไร?”
คําพูดของหยุนเกียนเถียนทําให้ทุกคนต่างคิดไปในสองแง่ ประการแรกคือ นางจะยกฟ้องเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น และประการที่สองที่ทุกคนต่างงุนงง… ท้ายที่สุดแล้วใครกันแน่คือผู้กระทําผิด?
นายหัวหลี่ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ตราบใดที่ หญิงสาวยังคงร่วมมือกับเขา สิ่งอื่นก็ไม่สําคัญอีกต่อไป
“นางหยุน…เจ้าช่างใจกว้างเสียจริง อย่างไรเสียภรรยาของข้าก็รู้สึกผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และนางก็ตั้งใจจะขอโทษเจ้าในภายหลัง”
หยุนเสียนเถียนรู้ดีว่าหญิงผู้นั้นไม่มีทางรู้สึกผิดหรือระอายใจต่อใครง่าย ๆ แต่เมื่อคิดดูแล้ว นางก็อยากรู้ว่าท่าทางของหญิงผู้นั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อต้องขอโทษใครสักคน
งานเลี้ยงดําเนินไปสักพัก… นายหญิงหลีก็เดินเข้ามาร่วมงานทันที
นางสวมชุดที่ดูไม่เรียบร้อยนักและค่อย ๆ เดินเข้ามาพร้อมใบหน้าซีดเซียว เมื่อเห็นนายหัวหลี่ นางก็นึกถึงสิ่งที่เขากระทําเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทําให้เจ็บปวดใจยิ่ง
“ข้าอยากจะขอโทษเจ้าสําหรับเรื่องที่ข้าทําผิดไป!”
นายหัวหลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะที่หลี่ซื่อฮวาถอนหายใจยาวก่อนจะหัวเราะออกมา