สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 222 คำเตือน
ตอนที่ 222 คำเตือน
หลี่ชุนเกี่ยวเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพลางมองหยุนเถียนเถียนด้วยแววตาชั่วร้าย
ส่วนหยุนเถียนเถียนยักไหลโดยไม่ได้เกรงกลัวต่อแววตาคู่นั้นเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้ไม่มีใครเลยที่จะกล้าเข้ามาช่วยเหลือหลี่ชุนเกียวทุกคนเพียงแต่รอคอยการมาของหมอเท่านั้น
ในที่สุดเฉินซูเกิดก็เกิดความสงสารต่อภรรยาของเขาจึงใช้เงินที่มีจ้างเกวียนวัวเพื่อไปรับตัวหมอมาจากในเมือง
แม้หมอจะไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นแต่หน้าที่ของเขาคือทำการรักษาดังนั้นหมอจึงพุ่งเข้าไปตรวจสอบอาการของนางทันทีโดยไม่สนใจว่ามีผู้คนมากมายจับตามองอยู่
” กระดูกซี่โครงและขาหักข้าจะทำการต่อให้แต่เจ้าต้องทำการพักฟื้นเป็นเวลาหนึ่งร้อยวัน”
เนื่องจากหมอเป็นชายและหลีชุนเกียวเป็นหญิงทั้งยังได้รับบาดเจ็บบริเวณซี่โครงจึงทำให้หมอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นรักษาตรงไหนและอย่างไรดี
หยุนเถียนเถียนเกลียดชังการดำเนินชีวิตแบบอนุรักษ์นิยมเช่นนี้มากและรู้สึกไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปจึงลุกขึ้นและกล่าว” เอาล่ะการรักษาผู้ป่วยหรือการช่วยเหลือผู้คนนั้นไม่ควรเลือกปฏิบัติเพียงเพราะว่าเป็นชายหรือหญิงไม่ว่าท่านจะทำการรักษาแบบไหนข้ารับรองว่าจะไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวหาท่าน”
เมื่อได้ยินคำรับรองนั้นหมอก็เริ่มลงมือทันทีด้วยความเจ็บปวดทำให้หลี่ชุนเกียนยอมรับการรักษาโดยไม่ได้สนใจว่าหมอจะเป็นชายหรือหญิง
หมอทำการรักษาและดูแลทุกส่วนจนเสร็จสรรพแม้จะยังรู้สึกเจ็บอยู่แต่ก็น้อยลงมากเมื่อเทียบกับความรู้สึกก่อนได้รับการรักษา
ทันใดนั้นหลี่ซุนเกียวก็พบว่าหมอกำลังแตะหน้าอกของนางอยู่โดยใช้ผ้าพันแผลและไม้กระดานดามไว้
หลี่ชุนเกี่ยวอดทนรับความอัปยศอดสูที่กำลังเกิดขึ้นก่อนจะมองไปยังหยุนเสียนเถียนด้วยแววตาขุ่นเคือง
แต่ครานี้หลี่ชุนเกี่ยวไม่กล้าขัดขึ้นเพราะหากทำให้หมอขุ่นเคืองนางอาจต้องอดทนต่อความเจ็บปวดด้วยตนเองและอาการซี่โครงหักก็จำเป็นที่ต้องให้หมอช่วยรักษา
หยุนเวียนเถียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นท่าทีของหลี่ชุนเกียวหยุนเคอยืนนิ่งโดยไม่ได้พูดอะไรเพื่อหลบเลี่ยงการตำหนิจากชาวบ้านเพราะรู้แก่ใจว่าตนเป็นผู้ทำให้นางได้รับบาดเจ็บขณะที่หยุนเถียนเถียนดีใจที่ต่อจากนี้จะไม่มีใครกล้าระรานนางอีก
หยุนเถียนเถียนรู้สึกไม่ดีนักที่ชาวบ้านมองนางในมุมที่ต่างออกไปจากเดิม
แน่นอนว่าชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสัตย์ซื่อนอกจากนางมารร้ายหลินชวนฮวาแล้วทุกคนต่างให้ความสำคัญกับชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมากจากเหตุการณ์ที่หยุนเคอทำร้ายหลี่ชุนเถียนทำให้ชาวบ้านมองเขาในมุมที่เปลี่ยนไปซึ่งก่อให้เกิดความหวาดกลัวและมโนธรรมที่ว่าหากทำให้หยุนเคอขุ่นเคืองใจก็อาจโดนทำร้ายเช่นหญิงผู้นี้ได้ในสักวัน
สาเหตุที่หยุนเคอทำเช่นนี้เพราะหลี่ชุนเกียวจะทำร้ายเขาและหยุนเวียนเถียนก่อนแต่ไม่ว่าอย่างไรข้อแก้ตัวพวกนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของชาวบ้านได้ช่างเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากเสียจริง
หยุนเถียนเถียนรู้ดีว่าหยุนเคอจะไม่มีทางอธิบายสิ่งต่างๆให้ทุกคนฟังอย่างแน่นอนเพราะเขาเป็นคนไม่แยแสใคร
” เอาล่ะหากทำการรักษาเสร็จสิ้นก็จงออกไปเสียอย่าเข้าย่างกรายเข้ามาในบ้านข้าอีกแต่หากผู้ใดริจะมีปัญหากับข้าก็เชิญเข้ามา…ข้าต้อนรับเสมอและหากพี่หยุนไม่เข้ามาห้ามไว้ในวันนี้ก็อาจมีคนต้องเสียเลือดยิ่งกว่าที่เป็นข้าชอบพูดทั้งเรื่องดีและไม่ดีต่อหน้าทุกคนโดยไม่สนว่าคำพูดเหล่านั้นจะส่งผลถึงชีวิตหรือไม่”
เมื่อพูดจบหยุนเทียนเถียนก็ไม่สนใจว่าผู้คนในหมู่บ้านนี้มีวิสัยทัศน์เช่นไรนางก้าวไปข้างหน้าและปิดประตูก่อนจะเดินถอยกลับไปยังโถงบ้านของตน
หยุนเคอเห็นว่าชาวบ้านต่างมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัวและขุ่นเคืองแม้จะไม่สนใจแต่ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากกลัวว่าความขุ่นเคืองเหล่านี้จะส่งผลร้ายต่อหยุนเถียนเถียน
นับเป็นโชคดีที่หญิงผู้นี้ลุกขึ้นปกป้องเขาหัวใจที่เกือบจะจมลงสู่ก้นหุบเขาของหยุนเคอก็บินขึ้นสู่นภาอีกครั้ง
การแสดงออกถึงความโล่งใจของหยุนเคอทำให้หยุนเถียนเถียนยิ้มออกมา” อะไรนะ? คิดว่าข้าเป็นคนที่ไม่รู้จักว่าสิ่งใดดีหรือชั่วอย่างนั้นหรือ? ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อข้า”
” ข้าเพียงเกรงว่าเจ้าจะกลัวแต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ทำร้ายนางจริงๆหากจะกลัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
หยุนเวียนเถียนยิ้มกว้างอีกครั้ง” ทำร้าย? ในเมื่อข้าเคยเห็นฆ่ามาแล้วจะกลัวเจ้าทำร้ายได้อย่างไร? อนึ่งเจ้าก็ไม่เคยทำร้ายใครโดยไร้ซึ่งเหตุผลไม่ใช่เพราะอยากทำแต่หญิงนั้นน่ารังเกียจจนทนไม่ได้ใช่ไหม? ”
เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของหยุนเถียนเถียนหยุนเคอก็อดไม่ได้ที่จะดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนเนื่องจากกลัวว่าหยุนเกียนเถียนจะซ่อนตัวอยู่ในห้องอย่างเขินอายเช่นเดียวกับเมื่อวานเขาจึงไม่กล้าทำอะไรที่ดูเป็นการฉวยโอกาสทั้งสองปิดประตูและซ่อนตัวอยู่ในบ้านขณะที่ฝูงชนต่างช่วยกันเคลื่อย้ายหลี่ชุนเกียวที่กำลังนอนราบอยู่บนพื้นกลับไปยังบ้านของนาง
แม้เฉินไปจะรู้สึกกลัวที่หยุนเคอทำร้ายหลี่ชุนเดียวแต่ก็รับรู้ได้ว่าเขามีเหตุผลดังนั้นนางจึงมองไปยังเฉินซูเกินพลางกล่าว” ภรรยาของท่านทำมากเกินไปแม้ข้าจะไม่ได้เห็นหรือรู้ทุกอย่างอย่างชัดเจนแต่ก็บอกนางว่านางกำลังขโมยคนดังนั้นต้องยอมรับกฎหมายครอบครัวให้ได้โชคดีที่หยุนเสียนเถียนมีเหตุผลมากพอและยอมรอจนกว่านางจะหายจากอาการบาดเจ็บสำหรับค่าหมอก็จงจ่ายเองและอย่าไปเรียกร้องจากใครหยุนเคอไม่ใช่คนธรรมดาไม่เช่นนั้นเขาคงไม่กล้าทำแบบนี้เจ้าเองก็เช่นกันอย่ายั่วยเขายิ่งไปกว่านั้นภรรยาของเจ้ายังทำผิดร้ายแรงจากการหมายจะใช้ไม้กระดานทำร้ายหญิงผู้นั้นโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของนางเลย” เฉินซูเกินหยักหน้ารับขณะที่หลีชุนเกียวนอนอยู่บนเตียงพลางโวยวายเสียงแข็งเฉินซูเกินเจ้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริงหากเป็นสุภาพบุรุษก็จงไปยังบ้านของครอบครัวหยุนและนำเงินมาให้ข้าเพราะนังสารเลวนั่นลูกสาวเราจึงเป็นเช่นนี้ทั้งพวกมันยังทำร้ายข้าอีกด้วย” เฉินไปรู้ดีว่าการให้เหตุผลกับหญิงผู้นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการสีซอให้ควายฟังดังนั้นนางจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันที” ต่อให้สามีของเจ้ายืนอยู่ต่อหน้าหยุนเคอและเรียกร้องเพียงใดก็ไม่สามารถขออะไรจากเขาได้หยุนเคอเป็นนักล่าแน่นอนว่าต้องเคยเห็นการหลั่งโลหิตมามากมายและด้วยเหตุนั้นการฆ่าคนสำหรับเขาก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าหมูป่า” เฉินซูเกินท่านเองก็ควรไตร่ตรองให้ดีและพิจารณาให้ถี่ถ้วนเถิดว่าภรรยาของท่านเป็นเช่นไร? ”
เมื่อพูดจบเฉินไปก็เดินจากไปโดยไม่สนใจหลี่ชุนเกียวที่กำลังแช่งด่าอยู่ในบ้านอันที่จริงเฉินไปรู้สึกละอายใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเหตุใดเด็กหญิงอายุสิบห้าจึงถูกคนในหมู่บ้านจับผิดสารพัดทั้งยังกลั่นแกล้งว่านางเป็นลูกกำพร้าไร้พ่อแม่?
เฉินไปรู้สึกเวทนาหยุนเถียนเถียนเป็นอย่างมากเพราะรับรู้ได้ว่านางต้องไม่มีความสุขเป็นแน่แม้ในใจจะยังคงรู้สึกเกลียดชังอยู่ก็ตาม