สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 152 คนขี้อิจฉา
สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 152 คนขี้อิจฉา
หากนิสัยเดิมของหยุนเคอเปลี่ยนไป ไม่แน่ว่าอาจจะถูกทิ้งให้อยู่ตามลําพังแต่ถึงอย่างไรความอิจฉาของเด็กน้อยก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลย!
อย่างไรก็ตาม เด็กน้อยคนนี้เป็นน้องชายของหยุนเถียนเถียนเช่นนี้เขาจึงต้องอดทนมากกว่าคนอื่นสักเล็กน้อยตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูด หยุนเคอคิดอย่างรอบคอบ และตัดสินใจรออย่างอดทน
ชีวิตช่างแสนธรรมดา คนในหมู่บ้านกลัวว่าซูเกินฮูหยินจะบุกมาที่ประตูบ้านของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องซุบซิบของเฉินเจียวเจียวแน่นอนว่าเพียงแค่ต่อหน้า แต่ลับหลังไม่รู้ว่าเฉินเจียวเจียวถูกพูดถึงอย่างไรบ้าง
เฉินเจียวเจียวเงียบไปสองสามวันแล้ว อย่างไรเสียหญิงสาวก็ยังต้องรักษาหน้าเอาไว้บ้าง! แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่พอใจเพียงใดแต่นางก็เก็บตัวอยู่เงียบ ๆ ที่บ้าน ตั้งตารอไปอีกสักพักชาวบ้านถึงจะลืมเลือน และนางก็จะไม่ตกเป็นขี้ปากคน
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดคนจากร้านอาหารเซียนหยุนก็มารับสินค้า!
–
ผู้คนในหมู่บ้านเฝ้าดูเนื้อตากแห้งหอม ๆ กว่าสองพันจินถูกนําออกมาจากโรงงาน
จากนั้นก็มองดูเถ้าแก่ส่งตั๋วเงินให้หยุนเสียนเถียน! แม้แต่นายน้อยหลี่ก็ตั้งใจรีบออกมาจากในเมือง!เมื่อเผชิญหน้ากับหยุนเถียนเถียนนายน้อยคนนี้รู้ดีว่าความสุภาพคืออะไร!
คนในหมู่บ้านต่างอิจฉาริษยา! แต่ก็ไม่มีใครกล้าก่อกวนหยุนเถียนเถียน!
นางหลัวแม่สามีของหลี่เสี่ยวเหอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่กําลังเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น ราวกับลืมความแค้นเคืองระ หว่างนางกับหยุนเถียนเถียนไปแล้ว!
ทันใดนั้นนางก็กล่าวขึ้นมาเสียงดัง “แม่หนูหยุน ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้เงินมากมายจากงานนี้! เหตุใดผู้คนที่ทํางานต่าง ๆ ให้เจ้ากลับได้ค่าจ้างเพียงเล็กน้อย? อย่างน้อยก็มา จากชาวบ้านเจ้าไม่ควรเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น”
รอยยิ้มที่มีความสุขของหัวหน้าหมู่บ้านเลือนหายในทันใด”แม่นางกล่าววาจาเหลวไหลอันใด?อายผู้คนในหมู่บ้านบ้าง ”
นางหลัวไม่เกรงกลัวหัวหน้าหมู่บ้าน แม้ว่าน้ําเสียงของนางจะลดลงบ้างแต่ก็ยังหยิ่งผยอง
“ผู้ใหญ่บ้านพูดว่าอย่างไร? ไม่มีใครในครอบครัวข้าทํางานในบ้านของนาง! เห็นบอกว่านางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเสี่ยวเหอของข้าแต่ไม่เห็นได้ส่วนร่วมในความร่ํารวยนี้! ข้ารู้สึกไม่ยุติธรรมต่อคนในหมู่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านอย่าเอาแต่รับ ผลประโยชน์จากหญิงผู้นี้และคอยพูดจาดีเพื่อปกป้องนาง เลย”
หัวหน้าหมู่บ้านโกรธจนหน้าเขียว เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านมาหลายปี แต่ไม่เคยทําอะไรลับหลัง! ผู้หญิงคนนี้ดูถูกเหยียดหยามและทําลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของเขา หัวหน้าหมู่บ้านจะทนได้อย่างไร!
–
“หากจะมาโวยวายที่นี่ เหตุใดไม่ให้คนในครอบครัวของเจ้าออกมาทํางาน? เจ้ารู้คําตอบดีแก่ใจอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
หยุนเถียนเถียนหวั่นใจไปชั่วขณะ หากผู้คนในหมู่บ้านถูกนางยั่วยุ คงจะรับมือได้ยาก!
“ทุกคนเห็นแต่ตัวเงินที่ข้าได้รับ แต่ไม่ได้คิดถึงตอนที่ข้าจ่ายเงินสดซื้อเนื้อและใช้ฟืนวันละตั้งเท่าไร! พูดตามตรงว่าเป็นเงินที่หามาได้ยาก!แม้แต่เกลือและเครื่องปรุงก็ทําเองทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?เชื่อว่าในใจทุกคนรู้ดี!”
“คงเป็นเรื่องไร้เหตุผลสิ้นดี หากข้าหาเงินได้มากมายแต่ไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่ชาวบ้าน ตอนนี้ข้าหาเงินมาได้อย่างยากลําบากทุกคนก็แค่ได้รับค่าจ้างสองเท่าอีกสักพักเมื่อข้ามีหนทางอื่นข้าย่อมฉุดดึงทุกคนให้มีชีวิตที่ดีด้วยกัน! แต่ถ้ามีคนสร้างปัญหาก็จะต้องจัดการให้เร็วที่สุด! ข้า…. หยุนเถียนเถียน ไม่เคยติดค้างผู้ใด เหตุใดถึงต้องถูกต่อว่าเมื่อข้าทําสิ่งที่ดี?”
“หากข้าเปลี่ยนใจ ไม่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้อีกต่อไป ข้าเชื่อว่าย่อมมีคนจากหมู่บ้านอื่นยินดีต้อนรับข้า! ท้ายที่สุดผลประโยชน์เหล่านี้ไม่ได้หายากแต่บางคนก็หาไม่ได้”
คําพูดของหยุนเถียนเถียนหยุดความโกลาหลในหมู่บ้านทันที!
หัวหน้าหมู่บ้านยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก ไม่ใช่แค่ทําให้คนสูงศักดิ์ศักดิ์ผู้นั้นขุ่นเคืองไม่ได้! การสูญเสียผลประโยชน์เหล่านี้ถือเป็นการสูญเสียในหมู่บ้านเช่นกัน!
“เอาล่ะ! หากมีเรื่องไร้สาระเช่นนี้อีกก็อย่าได้มายุ่งกับของพวกนี้เข้าไม่เชื่อว่าจะมีใครไม่อยากได้เงิน”
หลังจากฟังคําพูดยั่วยุสองสามคํานั้น ผู้คนในหมู่บ้านต่างหวั่นไหวในใจ แต่เมื่อคิดให้รอบคอบ ในเดือนที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้รับเงินจํานวนมากจากเด็กสาวยิ่งไปกว่านั้น ยังได้เรียนรู้วิธีการทําเนื้อตากแห้งจากหญิงผู้นี้อีกด้วย
โดยเฉพาะน้ํามันสีเข้มนั้น ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรหากไม่ทําตามผู้หญิงคนนี้เกรงว่าจะไม่ได้รับผลประโยชน์เช่นนี้ด้วย
นายน้อยหลี่มีใบหน้ายิ้มแย้ม มองดูผู้หญิงคนนี้จัดการเรื่องในหมู่บ้านด้วยตัวเองนางใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งอย่างเหมาะสม!
“สาวน้อย เจ้ากับข้าเป็นหุ้นส่วนกัน ข้ามาถึงหน้าประตูเจ้าแล้วจะไม่เชิญดื่มชาสักถ้วยหรือ?”
หยุนเคอรู้สึกหน่วงในอก แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ข้างหลี่ซื่อฮวาก็ไม่เคยรู้สึกว่าเขาด้อยกว่าคนอื่น!
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาถูกหนวดเคราขนาดใหญ่ปิดบังไว้และสวมเสื้อผ้าฝ้ายธรรมดา ๆ อีกด้วย!หากไม่มองนิสัยใจคอของเขาอย่างละเอียดก็คงไม่สามารถเป รียบเทียบกับนายน้อยหลี่ที่แต่งตัวหรูหราตรงหน้าเขาได้จริงๆ!
จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเกิดหน้ามืดตาบอดจะทําอย่างไรหากนางตกหลุมรักพี่ชายผู้เย่อหยิ่งคนนี้ขึ้นมา?
ใครจะรู้ว่าท่าทีของหยุนเถียนเถียนจะทําให้เขาโล่งใจในทันที
หญิงสาวกลอกตา “ต้องขออภัยนายน้อยหลี ที่บ้านของพวกข้าไม่มีชาสักถ้วยท่านคงต้องไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน!หัวหน้าหมู่บ้านนายน้อยหลี่กล่าวว่าเขาจะอยากไปนั่งที่บ้านของท่าน”
สาวน้อยผู้นี้ไม่เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธเลย นายน้อยหลี่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และทําได้เพียงเดินไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน!
สิ่งที่ทําให้เขาไม่พอใจมากที่สุด ก็คือเด็กสาวรับเงินก้อนนั้นแล้วเดินเข้าไปในลานบ้านราวกับเด็ก ๆ ไม่แม้แต่จะสนใจเขาเลยด้วยซ้ํา!
หัวหน้าหมู่บ้านค่อนข้างแก่แล้ว และก็กลัวที่จะเชิญนายน้อยมาที่บ้านของเขาในขณะเดียวกัน ก็หวังว่าลูกสาวของเขาจะมีไหวพริบ!หลบซ่อนตัวไว้อย่าให้ชายหนุ่มเจ้าสําราญผู้นี้พบเห็น!
ผู้ใดจะรู้ ยิ่งกลัวบางสิ่งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะเกิดขึ้น!
เมื่อเฉินซ่งพานายน้อยหลี่เข้าไปในบ้านของเขา ลูกสาวของเขาบังเอิญยืนอยู่ในสนามมองไปที่ไม้ผลไม้ข้าง ๆ เขาเหมือนว่าผลไม้บนต้นนั้นสุกแล้ว!
เฉินซ่งลอบถอนหายใจในใจ ลูกสาวคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของเขา! อยู่ดี ๆ ก็เจ็บในใจ!
เขารีบก้าวไปข้างหน้าและตะโกนบอก “สาวน้อยรีบไปขอให้แม่ของเจ้าต้มน้ํา มีแขกมาที่บ้านให้นางเตรียมชาดี ๆสักกา!”
ทันทีที่เฉินไม่อีหันมา นางก็เห็นชายหนุ่มรูปงามและรํารวยส่งยิ้มให้