สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 140 ร่วมมือกัน
สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 140 ร่วมมือกัน
สิ่งที่หลี่ซื่อฮวาไม่ชอบที่สุดคือรอยยิ้มราวกับจิ้งจอกเจ้าแผนการของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
“เอาล่ะ มีสิ่งใดจะกล่าวก็กล่าวมา อย่าให้ข้าหมดความอดทน!”
เป็นดังที่คาด หยุนเถียนเถียนจึงมีท่าที่จริงจัง ขึ้นและเก็บรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นไป
“ข้ามีสองวิธีที่จะร่วมมือกัน! วิธีแรกข้าจะหาคนในหมู่บ้านของเรามาทําเนื้อหมักนี้ให้ท่านและคิดค่าบริการตามราคา! ข้าจะทําเท่าที่ท่านต้องการท่านคิดว่าอย่างไร?”
หลี่ซื่อฮวาไม่เผยสีหน้าใดก่อนจะกล่าวเสียงค่อย “ไม่ค่อย ดีนัก! แล้วการร่วมมือแบบที่สองคืออะไร? ว่ามาสิ!”
“วิธีที่สอง นายน้อยหลอาจจะต้องลําบากสักเล็กน้อย! ข้าใช้วิธีมอบส่วนแบ่งให้ท่านเป็นอย่างไร? พูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือข้าสอนวิธีทําให้ท่าน หากท่านมีวัตถุดิบไม่เพียงพอก็สามารถซื้อจากข้าได้ แล้วส่วนแบ่งที่ข้าต้องการคือสีในสิบจากกําไร!”
หลี่ซื่อฮวาหัวเราะออกมาทันที แต่นายน้อยผู้นี้คิดว่ามีวิธีที่สาม!”
“หากนายน้อยหลี่มีวิธีก็กล่าวออกมาเถิด ข้าจะรับฟัง”
“เจ้าเพิ่งกล่าวว่าจะให้ข้าเรียนรู้วิธีการของเจ้า จากนั้นข้าก็แค่หาข้ออ้างโยนเจ้าเข้าคุกหลวง! นายน้อยผู้นี้ จะได้มิได้กําไรหรือ หากไม่ต้องลงทุน?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มสงบ นางรู้ดีว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคแห่งหลักนิ ติธรรมอีกต่อไป และนายน้อยหลี่อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!
“นายน้อยหลี่หลักแหลมยิ่งนัก เหตุใดไม่ลองดูเล่าว่าท่านจะสามารถเรียนรู้สูตรการทําเนื้อตากแห้งและส่วนผสมพิเศษจากปากของข้าได้หรือไม่มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้สูตรนี้! หลังจากที่ท่านได้เรียนรู้จากข้าแล้ว ข้า…หยุนเถียนเดียนจะยอมจํานนโดยสมัครใจ”
หลี่ซื่อฮวาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า “นับเป็นเรื่องดีที่เด็กสาวอย่างเจ้ามีความกล้า เกรงว่าเจ้าจะยังไม่รู้ว่ากฎหมายอาญาในคุกหลวงมีกี่ประเภท? ร่างกายเล็กๆ เช่นนี้ จะอดทนได้สักเท่าไหร่กัน? อ้อ แล้วถ้าคนรักตัวน้อยของเจ้าอยู่ในกํามือนายน้อยผู้นี้ เจ้าจะช่วยนางให้รอดจากวิธีการนี้ได้หรือไม่?”
หยุนเคอไอเบา ๆ ก่อนจะกล่าวตอบ “ข้าเองก็ชักในสงสัย สิ่งที่นายน้อยหลี่กล่าว เหตุใดไม่ลองดูเล่า?”
“ตอนนี้หลงเยว่น่าจะอยู่ในเมืองนี้แล้ว หากนายน้อยหลี่คิดการนี้ ก็รีบลงมือเถิด มิฉะนั้น…ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งเกิดหนีไปได้ วันรุ่งขึ้นคงเป็นวันตายของนายน้อยหลี่!”
ความจริงแล้วหยุนเถียนเถียนก็ไม่แน่ใจนักว่าหลงเยวผู้นั้น จะยืนเคียงข้างนางจริง ๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องลองดูไม่ใช่หรือ? อย่างน้อยก็พอจะข่มขู่นายน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ได้!
“หลงเยว่?”
หลี่ซื่อฮวาถึงกับตื่นตระหนก…
ผู้คนในใต้หล้าไม่มีใครไม่รู้จัก! แต่หลงเยวให้การคุ้มครองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างนั้นหรือ?
เมื่อครุ่นคิดอย่างรอบคอบถึงเรื่องต่าง ๆ ที่สืบเสาะมา แม่ ของเด็กสาวผู้นี้ดูจะเป็นคนสําคัญ! บางที่หลงเยว่อาจจะอยู่ ข้างนางจริง ๆ แต่ก็ไม่เสมอไป!
แต่มันก็เป็นแค่การคาดเดา!
หลี่ซื่อฮวายิ้มเย็นชา เขาไม่ได้ตั้งใจจะทําอะไรหญิงผู้นี้อยู่ แล้ว เพียงอยากให้นางตกใจเท่านั้น
“เอาล่ะ เลิกกล่าวใช้ผู้อื่นมาข่มขู่ข้าได้แล้ว งั้นข้าตกลงกับวิธีแรกของเจ้า ทุกเดือนข้าจะส่งคนไปรับเนื้อที่หมู่บ้าน เนื้อตามท้องตลาดทั่วไปมีราคายี่สิบเหวินต่อหนึ่งจิน แต่ เนื้อของเจ้าพิเศษกว่าข้าจะให้ราคาแปดสิบเหวินต่อหนึ่ง จินแล้วกัน แต่เจ้าต้องส่งเนื้อให้ข้าเดือนละสองพันจิน เช่นนี้เป็นอย่างไร?”
หยุนเถียนเถียนรู้ว่าราคานี้สมเหตุสมผล แต่ไม่คาดคิดว่านายน้อยผู้ฟุ่มเฟือยคนนี้จะรู้ราคาขายตามท้องตลาดด้วย!
“ตกลงตามนี้! แต่พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน เรามาลงนามทําสัญญากันเถิด!”
หลี่ซื่อฮวาเงยหน้าขึ้นมองอย่างประหลาดใจ “ทําสัญญา? เจ้ารู้หนังสือด้วยหรือ?”
เหตุใดผู้คนถึงคิดว่าหยุนเถียนเถียนอ่านหนังสือไม่ออก? นางดูเหมือนคนไม่มีการศึกษาหรือ?
เอาเถอะ ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะตื่นตระหนก นางเป็นเพียง เด็กสาวชาวนาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งก็ไม่น่าจะรู้หนังสือจริง ๆ !
ดูเหมือนหยุนเคอจะรับรู้ถึงความไม่พอใจของหญิงสาว และมองเห็นความกังวลของนางด้วย
นางไม่เหมาะที่จะเปิดเผยตัวตน ทว่าตัวตนของเขาปลอดภัยกว่าหญิงสาวมาก
“นางไม่รู้หนังสือ แต่ก็ยังมีข้าอยู่มิใช่หรือ? นายน้อยหลี เชิญ!”
หลี่ซื่อฮวาเลิกคิ้ว นับตั้งแต่ที่พบเจอคราวแรก เขารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ตอนนี้จึงไม่แปลกใจที่เขาจะรู้หนังสือ
เนื่องจากตัวตนของบางคนนั้นลึกลับ จึงไม่สามารถยืนหยัดที่จะสืบหาได้ หลี่ซื่อฮวาไม่คิดว่าตนเป็นคนร่ํารวยพอที่จะไปยั่วยุผู้มีตัวตนลึกลับเหล่านั้นได้!
ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรมาก แต่พูดอย่างเฉยเมย “งั้นลง นามเลย”
อย่างไรเรื่องนี้ก็มิได้มีอันตรายต่อนายน้อยหลี่ ตรงกันข้ามกลับทําให้มีความมั่นใจขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
หลี่ซื่อฮวาขอให้ผู้จัดการร้านมอบตั๋วแลกเงินสองร้อยตําลึงให้นางทันที โดยบอกว่าเป็นเงินมัดจําสําหรับเดือนหนา!
หยุนเสียนเถียนเก็บเงินด้วยใบหน้าเรียบเฉย สําหรับผลผลิตสองพันจินต่อเดือนไม่ได้ทําให้นางกังวลนัก เพราะชาวบ้นมีมากมายและส่วนใหญ่ก็ใจดีกับนาง ถ้าเป็นเช่นนั้นจะให้ค่าตอบแทนพวกเขาอย่างไรดี?
“เนื้อตากแห้งนี้สามารถทําจากเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อ อะไรก็ได้ส่วนการกินนั้น ข้าจะบอกวิธีการบางอย่างเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าของตัวข้าด้วย”
จากนั้นหยุนเถียนบอกให้หยุนเคอเขียนสูตรอาหารสามสี่รายการ
หลี่ซื่อฮวาหยิบขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วโยนให้พ่อครัว
“ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้า ในนี้มีทั้งหมดห้าสิบสองรายการ งั้นข้าให้เจ้าอีกสองร้อยตําลึง! แน่นอนว่ายังมีเงื่อนไขอย่างอื่นอีก หากในภายหน้าเจ้ามีความคิดดี ๆ ให้มาหาข้าก่อนเจ้าว่าอย่างไร?”
หยุนเถียนเถียนเลิกคิ้ว “นายน้อยหลี่ช่างเชี่ยวชาญการค้า ยิ่งนัก! เห็นแก่ความร่วมมือในครั้งนี้ที่ค่อนข้างน่าพอใจ หากต่อไปข้ามีความคิดใหม่ ข้าจะมาหานายน้อยหลี่คนแรก!”
“ในเมื่อร่วมมือกันแล้ว ข้าเองก็มีอย่างอื่นที่ต้องทํา รบกวนนายน้อยหลี่เพียงเท่านี้!”
เมื่อหลี่ซื่อฮวาพูดเรื่องจริงจังเสร็จ จากนั้นเขาก็เริ่มทําตัวงี่เง่า “อะไร? เจ้ารีบพาคนรักของเจ้าไปพลอดรักกันหรือ?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มเยาะ “ในความคิดนายน้อยหลี่มีเรื่องอื่นนอกจากนี้อีกหรือไม่? ข้าต้องหาซื้อเสื้อผ้าสักสองสามชุดก่อน มิฉะนั้น ครั้งหน้ามาที่ร้านนายน้อยหลี่อาจจะถูก ใครบางคนไล่ออกจากร้านได้ เช่นนั้นคงเสียหน้าไม่น้อย!”
หลี่ซื่อฮวาขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยุนเถียนเถียน “นี่เป็นเรื่องในบ้านของนายน้อยหลี่ ข้าเพียงจะบอก แน่นอนว่านายน้อยหลี่ย่อมเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะจัดการเช่นไร แต่ถ้าท่านต้องการให้กิจการรุ่งเรือง ไม่ควรมีเสี่ยวเอ้อที่ดูถูกคนต่ําต้อย!”
หลังจากหยุนเถียนเถียนพูดจบ ก็ไม่สนใจสีหน้าของนายน้อยหลีที่อยู่ข้างหลัง นางดึงหยุนเคอและน้องชาย หันหลังเดินออกไปจากร้านทันที
หลี่ซื่อฮวามองตามหลังของคนทั้งสามคนด้วยความรู้สึกที่ขัดใจยิ่ง!