สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 105 การหายตัวไปของเฉินเฉิน
ตอนที่ 105 การหายตัวไปของเฉินเฉิน
กินน้ําบ่ออย่าลืมคนขุดบ่อ… เฉินผิงอันถือเป็นน้ําบ่อใหญ่ของหลินชวนฮวาและเฉิงเยี่ย
สองวันมานี้เฉินผิงอันรู้สึกพอใจมากที่หลินชวนฮวา สนับสนุนให้เขาไปบ่อน ไม่รู้ว่าดวงขึ้นหรือกําลังจะได้รับโชค แต่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเฉินผิงอันไม่เคยกลับมามือเปล่าเลย
แม้จะชนะไม่มากนัก แต่เงินที่ได้มาก็เพียงพอต่อการใช้จ่ายราวหนึ่งถึงสองเดือน ยิ่งไปกว่านั้น หลินชวนฮวายังอ่อนโยนมากขึ้นเมื่อเห็นเม็ดเงินมากโข แม้เงินทั้งหมดจะอยู่ในกระเป๋าของนาง แต่สําหรับเฉินผิงอันมันก็ยังถือว่าเป็นของเขาอยู่ดี!
เฉินผิงอันยังคงรื่นเริงกับการเล่นพนันและมักจะเดินทางไปบ่อนด้วยตัวคนเดียวเป็นประจํา
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือของหลินชวนฮวาแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน แต่เนื่องจากเฉินผิงอันเป็นชายที่ไม่สนใจอะไรจึงไม่รู้เรื่องนี้ หลินชวนฮวาวางแผนไว้ว่าหากข่าวลือถึงหูเฉินผิงอันเมื่อไหร่ นางจะพาเย่วชิวไฉและเฉิงเยี่ยหนีไปจากที่นี่ทันที
ทว่าก่อนจะหนีไป นางจะต้องทําการแก้แค้นนั่งเด็กสา รเลวนั่นเสียก่อน
สองวันมานี้หยุนเถียนเถียนไม่ได้ระวังหลินชวนฮวาแม้แต่น้อย นางอาจต้องเสียใจต่อสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้น แต่ก็สายเกินไปที่จะเตรียมการรับมือ
หยุนเถียนเถียนไม่เคยสังเกตเลยว่าหลินชวนฮวาแอบเข้าไปในบ้านของนางทุกวัน และมักจะเดินตามหลังนางบ่อยๆ
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังแอบเข้าไปในบ้านของหยุนเคอ และเห็นเฉินเฉินถือหนังสือไปหาหยุนเถียนเถียนทุกวัน
หลังจากผ่านไปสามวัน หลินชวนฮวาก็คิดว่าพร้อมแล้ว และตัดสินใจที่จะลงมือ
เช้าวันนั้น หยุนเถียนเถียนทําอาหารเช้าอย่างตั้งใจ รอเฉินเฉินอยู่ที่บ้าน ท้องฟ้ามืดครื้ม ดูราวกับฝนกําลังจะตก ทําไมเด็กน้อยถึงยังไม่มานะ?
ทันใดนั้นลูกสาวคนเล็กของป้าคู่ชิวก็มา สําหรับหยุนเถียนเถียนไม่ได้อารมณ์ดีเลยสักนิด
กู่ชิวกับหลินชวนฮวาเป็นเหมือนภูเขาลูกหนึ่ง บางครั้งตอนที่หลินชวนฮวารังแกเถียนเถียน กู่ชิวก็พูดจาเหน็บแนมด้วย
การสูญเสียเงินคืออะไร? เกิดมาเพื่อมีชีวิตต่ําต้อย คํากล่าวนั้นถูกพ่นออกมาจากปากของคู่ชิว แม้ว่าลูกสาวของนางจะไม่ค่อยได้เจอมากนัก แต่หยุนเถียนเถียนเกลียดคนบ้านนั้นที่สุด
“พี่เถียน แย่แล้ว! เฉินเอ๋อถูกป้าชวนฮวาทุบตี! แล้ววิ่งหนีขึ้นไปบนภูเขาเทพธิดา เราจะทํายังไงกันดี?!”
หยุนเถียนเถียนมองไปยังต้นเสียง สิ่งที่นางพูดออกมาไม่น่าไว้วางใจนัก นางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “เอ๋อหยา เจ้ารู้ได้อย่างไร แล้วทําไมเจ้าถึงมาหาข้า?”
เอ๋อหยาร้องไห้แล้วพูดว่า “ท่านแม่ให้ข้ามา แม่บอกว่าสองสามวันมานี้ป้าชวนฮวามีท่าทางแปลกไป เฉินเฉินโดนตีและวิ่งหนีออกไป แม่ข้าไม่สามารถจับเขาได้ทัน พี่เถียน ข้ารู้ว่าเมื่อก่อนแม่ข้าผิด แต่ตอนนี้ข้าขอร้องให้พี่ช่วยเฉินเฉินด้วย เขาน่าสงสารมาก!”
“ข้าพูดจริงๆ ข้าไม่ได้โกหก ป้าหลี่ก็เห็น!”
เหอะ! แม้หยุนเถียนเถียนจะไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะพูดจริงหรือเท็จ แต่ต่อให้เด็กนี่พูดเรื่องโกหกก็เพราะถูกผู้ใหญ่แกล้งแน่ๆ
หยุนเถียนเถียนต้องแยกแยะระหว่างของจริงกับของปลอม ดังนั้นหลังจากส่งเอ๋อหยากลับบ้าน จนก็ตรงไปที่เรือนตระกูลเฉิน
ทั้งภายในและนอกลานบ้านล้วนค้นหาจนทั่วแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กคนนั้น หยุนเถียนเถียนรู้สึกกระวนกระวายใจ บนภูเขามีแต่สัตว์ปาอยู่เต็มไปหมด ต่อให้ตนเองขึ้นเขาก็เกรงว่าจะกลับมาได้ยาก แล้วนางควรทําเช่นใด?
ไม่รู้เพราะอะไร หยุนเถียนเถียนก็นึกถึงหยุนเคอขึ้นมา หยุนเคอมีฝีมือ ถ้าเขาขึ้นเขาเพื่อตามหาเด็กคนนั้น นางก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใดแล้ว
หยุนเถียนเถียนคิดเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปหาหยุนเคอ
ปกติหยุนเคอมักจะอยู่บ้านเกือบทุกวัน แต่ไม่รู้ทําไมวันนี้กลับไม่พบเขา เรื่องนี้ไม่สามารถเสียเวลาได้ เด็กคนนั้นมีอันตรายทุกวินาทีถ้าหากอยู่บนภูเขานั้น
ดังนั้นหยุนเถียนเถียนจึงไม่สนใจอะไรมาก ทิ้งบันทึกไว้หนึ่งแผ่น แล้วเดินขึ้นเขาเทพธิดาตามลําพัง แม้นางจะเป็นคนขี้ขลาดเมื่ออยู่บนนั้น แต่เห็นแก่เด็กคนนั้น นางจะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้
หลังจากที่หยุนเถียนเถียนขึ้นเขามา นางไม่ได้สนใจสิ่งใด ขณะเดียวกันก็ตะโกนเรียกเฉินเฉินพลางเดินเข้าไปลึกเรื่อย ๆ ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงและฝนกําลังจะตก หากฝนตกลงมา การค้นหาจะเป็นเรื่องยากขึ้น
ไม่นานหลังจากหยุนเถียนเถียนออกไป หยุนเคอก็กลับมา บังเอิญเห็นจดหมายฉบับนั้น เด็กคนหนึ่งอายุเพียงสิบสี่ปี อีกคนก็เป็นเด็กอายุเจ็ดขวบ!
เมื่อคิดถึงสองคนนี้บนภูเขาแล้ว หากเจอสัตว์ป่าตัวใดตัวหนึ่งเข้าอาจจะตายได้ ทําไมนางไม่รอเขากลับแล้วค่อยเริ่มออกตามหา?
หยุนเคอกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ยัยเด็กคนนี้! เขาทําได้เพียงรีบวิ่งขึ้นไปบนภูเขา
หยุนเสียนเถียนมองรอบๆอย่างกังวล นางมองหานานแล้วกลับยังไม่เจอเฉินเฉิน เด็กคนนี้หายไปไหน ถ้าโดนตีขนาดนั้นทําไมถึงไม่มาหานาง?
หยุนเถียนเถียนตะโกนเสียงดังพลางเดินไปข้างหน้า จังหวะนั้นเองนางสะดุดกิ่งไม้ล้มลงไป ความเจ็บปวดจากข้อเท้าเริ่มเกาะกุม
หยุนเถียนเถียนรู้ว่ามันจบแล้ว
นางประมาทเอง ตอนนี้แค่ยืนยังทําไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น นางจะออกไปจากที่นี่ก่อนฝนตกได้อย่างไรกัน
ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวายใจ เด็กสาวนวดเท้าพลางใช้สายตาค้นหาไปทั่ว ไม่รู้เพราะเหตุใด นางที่เชี่ยวชาญการค้นหา แต่กลับไม่พบเงาของเด็กคนหนึ่งในปาลึกนี้ ราวกลับไม่มีใครเดิน แต่ก็มีร่องรอยแปลกๆอยู่บ้าง
เพื่อความปลอดภัยนางตามร่องรอยเหล่านี้ไปลึกขึ้นเรื่อยๆ
นี่เหมือนกับร่องรอยของคนที่ถูกลากไปบนพื้น ถ้าหากฝนตกเกรงว่ารอยพวกนี้จะหายไป หยุนเถียนเถียนมั่นใจแล้วว่าต้องมีคนทําให้สลบแล้วลากขึ้นบนภูเขา
ถึงแม้จะยากที่จะเชื่อ แต่นางก็คาดเดาได้นานแล้วว่าคนที่ทําให้เด็กนี่สลบไปจะเป็นมารดาที่ชั่วช้าของเขา
เมื่อเห็นร่องรอยเริ่มเบาลงเรื่อยๆหยุนเถียนเถียนจึงได้แต่ลากเท้าที่บาดเจ็บเดินกระโผลกกระเผลกบนภูเขา ในที่สุดก็เห็นร่างสีเทานอนอยู่ในกองหญ้า
หยุนเถียนเถียนเดินเข้าไปจึงพบเฉินเฉินนอนนิ่งอยู่ในกองหญ้า โชคดีที่นางเจอก่อนที่ฝนจะตก ไม่อย่างนั้นสัตว์ป่าที่พบเจอต้องมากินเด็กคนนี้จนไม่เหลือซากศพแล้ว
หยุนเถียนเถียนตบหน้าของเฉินเฉินเบาๆ เด็กชายลืมตาขึ้นแล้วกล่าวพึมพําออกมาอย่างอ่อนแรง “พี่สาว…”
พอเห็นเด็กคนนี้ตื่นขึ้น หยุนเถียนเถียนก็วางใจลงครึ่งหนึ่ง “ข้าได้ยินจากเอ๋อหยาว่าเจ้าโดนหลินชวนฮวาทําร้ายแล้ววิ่งขึ้นภูเขาคนเดียว แต่พี่สาวเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นไม่เช่นนั้นเจ้าต้องมาหาข้าแล้ว อย่างไรซะข้าไม่เชื่อคําพูดของคนอื่น เจ้าต้องบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”