สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 104 ความตื่นกลัวของหลินชวนฮวา
ตอนที่ 104 ความตื่นกลัวของหลินชวนฮวา
ระหว่างทางที่เฉินผิงอันเดินกลับจากบ่นเขาเห็นแววตาสมเพชปนสงสารจากผู้คนที่เดินผ่านไปมา
แม้เขาจะเป็นคนหยาบโลน แต่ก็สัมผัสได้ว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีความสามารถจะสืบเสาะว่ามันคือเรื่องอะไร
หลี่เสี่ยวเหอบอกกล่าวกับคนในหมู่บ้านว่าได้พบเจอหลินชวนฮวาออกไปเสพสุขชั่วคราวกับฆาตกรอย่างทั่วถึง แต่ก่อนที่นางจะแยกตัวไป นางกล่าวกับทุกคนอย่างย้ําเตือนว่า…. อย่าบอกผู้อื่นเด็ดขาด!
เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น เรื่องทั้งหมดจึงกระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
ความโกลาหลครั้งใหญ่จึงก่อกําเกิดขึ้น หยุนเถียนเถียนคาดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะยอดเยี่ยมเช่นนี้ สิ่งที่หลี่ชื่อกล่าวในคราวแรกถูกกลบด้วยคลื่นลูกใหม่จนหายวับไปกับตา!
เฉินผิงอันเป็นคนหยาบกระด้าง แม้เขาต้องการมีเพื่อนฝูงแต่ก็ไม่อาจอยู่ร่วมกับใครได้นาน เช่นนี้ชาวบ้านจึงไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก
แต่หลินชวนฮวาแตกต่างออกไป นางเป็นคนพูดเก่งและกลมกลืนกับทุกคนเช่นนี้จึงทําให้นางพอจะมีเพื่อนอยู่บ้าง
เพื่อนของนางคนหนึ่งชื่อคู่ชิว อีกฝ่ายมาจากหมู่บ้านเดียวกับหลินชวนฮวาและถูกตบแต่งเข้ามาในหมู่บ้านเทพธิดา
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนไม่ได้ดีนัก อีกทั้งเมื่อเทียบกันแล้ว คู่ชิวน่าสงสารยิ่งกว่ามาก แม้จะเข้ามาในหมู่บ้านนี้ด้วยการแต่งงานแต่ชีวิตของนางก็ไม่สุขสบาย เป็นเพราะสา มีนางพลัดตกจากภูเขาจนขาหักและนอนติดเตียงเป็นอัมพาต
คู่ชิวจึงกลายเป็นหญิงที่น่าสงสารทันที ส่วนหลินชวนฮวาแสร้งทําเป็นสงสารอีกฝ่ายและทําตัวสนิทสนมกับคู่ชิวราวกับเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน
หลายวันมานี้หลินชวนฮวาไม่ค่อยอยู่ในหมู่บ้านจึงไม่รู้ข่าวลือที่หนาหู แต่คู่ชิวรับรู้ทุกสิ่งทําให้นางยิ่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องราวของเพื่อนรัก
เช่นนี้คู่ชิวยืนรออยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านตั้งแต่บ่าย
เกือบพลบค่ํา หลินชวนฮวากลับมาถึงหมู่บ้าน นางไม่ได้แสดงความกังวลใดสักนิด เพราะอย่างไรแล้วที่บ้านก็ยังมีเด็กชายตัวน้อยคอยทํางานบ้านทุกสิ่งอยู่ อีกทั้ง ไม่ต้องพูดถึงว่านางอิ่มเอมจากชิวไฉมากขนาดไหน เพราะเขาปรนนิบัตินางตลอดทั้งวันจนแทบไม่อยากจะผละออกจากกัน
คู่ชิวเห็นชวนฮวาเดินมาก็พุ่งปรี่เข้าหาทันที “พี่สาวชวนฮวาเหตุใดจึงกลับมามืดค่ําเช่นนี้?”
“แล้วเจ้ามายืนทําอะไรอยู่ตรงนี้? มีเรื่องอะไรกัน… หรือว่าถูกทุบตีอีกแล้ว?”
ภู่ชิวซาบซึ้งใจยิ่ง อีกฝ่ายเป็นเพื่อนรักของนางอย่างแท้จริง ขนาดในช่วงเวลาเช่นนี้ยังห่วงใยความรู้สึกตนเช่นนี้ข่าว ลือที่แพร่สะพัดในหมู่บ้านจะต้องบอกกล่าวให้นางรู้
“พี่สาวชวนฮวา ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ในหมู่บ้านลือกันว่าท่านแต่งตัวงามงดเพื่อไปหาสามีเก่าในเมือง”
หลินฮวาได้ฟังเช่นนั้นถึงกับตื่นตระหนก นางมั่นใจว่าระมัดระวังตัวอย่างดีแต่ทําไมจึงมีข่าวลือเช่นนี้ได้?
นางคว้ามือของคู่ชิวแน่นพร้อมถามย้ํา “เจ้าได้ยินมาจากผู้ใด?”
คู่ชิวอธิบายต่อ “ข้ารู้ว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่ทุกคนพูดถึงมันอย่างหนาหู ข้าเกรงว่าสามีของท่านจะได้รับข่าวสารที่ผิดและทําให้ท่านถูกทุบตี…”
ทั้งหมดที่คู่ชิวกล่าวออกแทบจะไม่เข้าหูหลินชวนฮวา นางกล่าวแทรกด้วยความกังวล “มันไม่ใช่ความจริงบอกข้ามาว่าใครเป็นต้นเรื่อง!”
คู่ชิวตื่นตระหนกกับท่าทางของอีกฝ่าย นางถอยออกไปหลายก้าวก่อนจะกล่าวตอบ “พี่สาวชวนฮวา ข้าไม่ทราบว่าใครเป็นคนแรกที่พูด แต่ตอนนี้ทุกคนรู้เรื่องหมดแล้ว”
สีหน้ากังวลเผยออกอย่างปิดไม่มิด หลินชวนฮวาไม่รู้เลยว่าจะรับมือเรื่องตรงหน้าอย่างไรดี หากหนีไปตอนนี้ ข้าวของของเฉินเยี่ยก็อยู่ในบ้าน หากนางไม่รีบหาเงินก้อนใหญ่ก็คงไม่มีเงินส่งลูกชายเรียนจนจบ แล้วจะทําอย่างไรดี?
คู่ชิวเห็นว่าหลินชวนฮวาเงียบไปจึงกล่าวกระซิบ “ข้าออกจากบ้านมานานแล้ว หากกลับช้ากว่านี้คงโดนทุบตีแน่”
คู่ชิวจากไป ทิ้งให้หลินชวนฮวายืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
หลังจากไตร่ตรองเรื่องราวอยู่หลายตลบ หลินชวนฮวาตัดสินใจที่จะกลับบ้าน ยังไงซะเฉินผิงอันก็โง่เขลายิ่ง การหลอกลวงเขามันไม่ยากเย็นนักหรอก..
สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือเงิน! เย่วชิวไฉไม่สามารถเตร็ดเตร่บนถนนได้หากนางไม่มีเงินก็คงไม่อาจดูแลครอบครัวได้ไม่ต้องพูดถึงการส่งเฉินเยี่ยเรียนหนังสือด้วยซ้ํา!
หลังจากกลับมาถึงบ้าน นางเห็นว่าเฉินผิงอันกําลังมองเฉินเฉินที่กําลังใช้ไม้กวาดขนาดใหญ่กวาดลานบ้านอยู่
เมื่อเห็นว่าหลินชวนฮวากลับมาแล้ว เฉินผิงอันโอบเอวภรรยาพร้อมเดินเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจลูกชายด้านนอกอีกต่อไป แววตาของเฉินเฉินวูบไหวเพียงครู่ก่อนจะกลับคืนเป็นปกติ
ก่อนหน้านี้เฉินเฉินคิดว่าหากเขาทํางานบ้านเสร็จสิ้นบิดาคงไม่เพิกเฉยต่อตนเช่นนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าทุกสิ่งเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ พี่สาวกล่าวถูกต้องทั้งหมด เขา ไม่สามารถคาดหวังใดกับคนในบ้านนี้ได้อีกแล้ว
หลังจากกวาดพื้นเสร็จ เด็กน้อยกลับไปซ่อนตัวในห้อง เช่นเคยยังดีที่เขากินอาหารเย็นจากบ้านของเถียนเถียนมาแล้วจึงไม่ต้องกังวลว่าที่บ้านจะมีอะไรให้กินหรือไม่
หลินชวนฮวาเริ่มทําอาหารและทั้งสองนั่งกินข้าวกันอย่างสบายใจไม่มีใครคิดจะเรียกหาเฉินเฉินแม้สักคํา ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเด็กชายกําลังทอดทิ้งพ่อและแม่ออกไปจา กหัวใจที่ละน้อย
“สามีข้า… พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ช่างไม่มีอนาคตเอาเสียเลย ที่ดินที่นี่ทําเงินได้น้อยนิดยิ่งนัก วันนี้ข้าเข้าเมืองและพบที่ดินผืนหนึ่งมันน่าจะทําเงินให้เราได้มาก วันพรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปดู!”
“อย่างนั้นหรือ? ข้าเป็นเพียงชาวนาจะมีความสามารถเช่นนั้นได้อย่างไรชวนฮวาเจ้าถูกหลอกแล้ว!”
หลินชวนฮวากล่าวโน้มน้าว “สามีข้าใจเย็น ๆ ก่อนเถิดอย่างน้อยเราก็ลองไปดูก่อนได้ สักวันมะรืนเป็นอย่างไร? คนอื่นอาจจะหลอกลวงข้าได้ แต่เขาหลอกท่าน ไม่ได้หรอก อย่างไรแล้วท่านเก่งกาจที่สุดในสายตาข้า!”
หลินชวนฮวากล่าวออกพร้อมแสร้งทําเขินอาย เฉินผิงอันเห็นท่าทางอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหยิ่งผยองจึงพยักหน้ารับ โดยไม่รู้ตัว
ทั้งสองคนมองตากันอยู่ครู่จึงพากันเดินเข้าห้องนอนไปโดยที่จานอาหารทั้งหมดยังวางอยู่บนโต๊ะเช่นเดิม!
หลินชวนฮวาไตร่ตรองอยู่นานว่าจะไปหาเงินก้อนใหญ่ได้ที่ไหน จนสุดท้ายจึงคิดออกว่าต้องหาทางฉกฉวยเงินก้อนใหญ่จากเฉินผิงอันให้ได้เสียก่อนแล้วค่อยหลบหนีไปกับเย่วชิวไฉผู้เป็นที่รัก
ส่วนเฉินผิงอันไม่เคยรับรู้ถึงแผนการของคนข้างกายเลยท่าทางอ่อนหวานของภรรยาทําให้เขารู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเปรียบเทียบหลินชวนฮวากับหยุนจิงเอ๋อ… นางคนนั้นเปรียบตัวเองราวกับนางสวรรค์
ทั้งหยิ่งผยองและไม่คิดก้มหัวให้ผู้ใด! แต่หญิงที่อยู่ข้างกายเขาในตอนนี้ช่างอ่อนโยน ใจกว้างและเอาใจใส่ช่างเป็นสมบัติล้ําค่าที่คู่ควรกับเขาอย่างแท้จริง!
วันรุ่งขึ้นหลินชวนฮวาเข้าเมืองอีกครั้ง แม้ว่านางจะปวดเอวมากแต่ก็ไม่ท้อถอย คราวนี้นางพุ่งตรงไปหาเย่วชิวไฉทันที่เพื่อคิดแผนการหลอกลวงเฉินผิงอัน!