สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 1007 สารภาพ (ฉบับเจียวเจียว vs อาจารย์พ่อ)
บทที่ 1007 สารภาพ (ฉบับเจียวเจียว vs อาจารย์พ่อ)
……….
สือเหย่กลับไปที่เมืองเอชในคืนนั้นเลย จากนั้นก็ไม่ติดต่อกับกู้เจียวอีก แม้จะบังเอิญเจอกัน เขาก็จะหลบหน้าเสียไกลลิบ ตั้งแต่นั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกู้เจียวอีก
ชีวิตของกู้เจียวยังคงเหมือนเก่า เพียงแค่ไม่ลองมีเพื่อนใหม่ง่ายๆ อีกแล้ว
นอกจากนี้ ด้วยความเข้มงวดในการฝึกที่เข้มข้นขึ้น จำนวนครั้งที่เธอสติหลุดจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอจำเป็นต้องควบคุมการกระตุ้นที่เกิดจากเลือด อาจารย์พ่อตัดสินใจให้เธอเรียนด้านการแพทย์
ตอนอายุสิบหก เธอขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ห้า กลับสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ของจังหวัดได้ด้วยผลคะแนนสายวิทย์สูงสุดของทั้งมณฑล
ตอนสิบเจ็ดปี เธอเริ่มรับภารกิจระดับดีขึ้นไป
พอสิบแปด เธอรับภารกิจระดับเอสเป็นครั้งแรก
นอกจากอาจารย์พ่อแล้ว นี่เป็นสมาชิกคนแรกที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะก็สามารถรับภารกิจระดับเอสได้เลย สมกับเป็นเด็กของอาจารย์พ่อจริงๆ
สถานที่ทำภารกิจอยู่ที่เกาะเอฟต้องลอบสังหารเจ้าพ่อค้ายาคนหนึ่ง กู้เจียวเสร็จสิ้นภารกิจได้โดดเด่นมาก
และในหนึ่งเดือนที่เธออยู่ไกลถึงเกาะเอฟ อาจารย์พ่อก็ปฏิเสธภารกิจทั้งหมดขององค์กร
กู้เจียวไม่รู้ว่าเขาปฏิเสธภารกิจ นึกว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอย่างสุขสบาย
ทางองค์กรกลับสังเกตเห็นบางอย่าง
ในขณะที่กู้เจียวกับอาจารย์พ่อกลับมาถึงองค์กรในเวลาไล่เลี่ยกัน อัลเลน หนึ่งในสามบอสใหญ่ก็เรียกตัวอาจารย์พ่อไปที่ห้องทำงาน
“หมู่นี้คุณสนใจชาโดว์ มากเป็นพิเศษนะ” อัลเลนเอ่ยเข้าประเด็นทันที
“นี่เป็นเรื่องของผม” อาจารย์พ่อเอ่ยเสียงนิ่ง
อัลเลนยกแก้วไวน์ในมือขึ้น แย้มยิ้มเอ่ยผมรู้ว่าเธอเป็นคนที่คุณพากลับมา คุณเลี้ยงดูสั่งสอนเธอมาตลอด แต่คุณก็น่าจะรู้กฎในองค์กรดี หากคุณแค่อยากนอนกับเธอ ได้ แต่อย่าได้รู้สึกขึ้นมาจริงๆ ก็พอ”
อาจารย์พ่อคร้านจะสนใจเขา หันหลังหมายจะเดินออกไป
อัลเลนมองแผ่นหลังเขาอย่างเย็นชา ก่อนแหงนหน้าดื่มไวน์คำหนึ่ง
จากนั้นเขาก็หันไปมองวิดีโอคอลในคอมพิวเตอร์ คนด้านในพูดภารกิจนั้น พวกเรารับแล้วกัน แต่ต้องให้ค่าคอมมิชชันผมสิบเท่า!”
กู้เจียวเพิ่งกลับประเทศได้ไม่นาน ก็ได้รับภารกิจอีก
ภารกิจครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษกว่า มีคนต้องการทำลายการแต่งงานระหว่างสองตระกูลมั่งคั่ง จ้างนักฆ่าให้ดำเนินการลอบฆ่าเจ้าสาวในงานแต่ง
หลังจากเจรจากับเจ้าบ่าวแล้ว ตัดสินใจให้กู้เจียวสวมรอยเป็นเจ้าสาวเข้าไปในโบสถ์แทน ชีตาร์กับอินทรีดำจะซุ่มอยู่ในที่ลับ พออีกฝ่ายลงมือ พวกเขาสองคนก็จะโจมตีจุดตายอย่างรวดเร็วทันที
ฟังดูเหมือนง่าย แต่นักฆ่าคนนั้นมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา อยู่อันดับที่รองแค่คิงเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นภารกิจที่อันตรายมาก
หากผิดพลาดเล็กน้อย กู้เจียวอาจจะถึงชีวิตได้
“ชีตาร์กับอินทรีไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย” อาจารย์พ่อบนเก้าอี้ทำงานขมวดคิ้ว
ผู้ช่วยถอนใจเอ่ยแต่ภารกิจออกมาแล้ว ไม่สามารถเรียกตัวพวกเขากลับมาอีกได้ แล้วก็ระยะนี้คุณปฏิเสธภารกิจบ่อยๆ ก็ทำให้เบื้องบนไม่พอใจมากแล้ว คุณอย่ากวนน้ำให้ขุ่นอีกเลย”
ในวันภารกิจ
อาจารย์พ่อก็ยังคงไปอยู่ดี
เขาไม่ได้ไปแทนชีตาร์หรืออินทรี และไม่ได้หลบซุ่มอยู่ในที่ลับ แต่เลือกที่จะสวมรอยเป็นเจ้าบ่าว
เขาแปลงโฉมได้ดีเกินไป แม้แต่เหยี่ยวกับชีตาร์ยังจำเขาไม่ได้ในปราดเดียว
กู้เจียวกลับไม่มองเจ้าบ่าวเต็มๆ ตาสักนิด
บาทหลวงถามคุณสุภาพบุรุษ คุณยินดีรับสุภาพสตรีข้างกายคุณเป็นภรรยาหรือไม่ ไม่ว่าในอนาคตเธอจะร่ำรวยหรือขัดสน แข็งแรงหรือเจ็บไข้ คุณจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปหรือไม่”
เขาเอ่ย “ครับ ผมยินดี”
ได้ยินเสียงคุ้นหู กู้เจียวพลันใจกระตุก เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ
บาทหลวงเอ่ยอีกคุณสุภาพสตรี คุณยินดีแต่งงานกับเจ้าบ่าวหรือไม่ ไม่ว่าในอนาคตเขาจะร่ำรวยหรือขัดสน แข็งแรงหรือเจ็บไข้ คุณจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปหรือไม่”
อาจารย์พ่อยกมือเรียวยาวดุจหยกขึ้นลูบแก้มเธอเบาๆ มองเธออย่างลุ่มลึก “คุณยินดีหรือไม่”
“ฉัน…” กู้เจียวตกใจจนพูดไม่ออกไปหมดแล้ว
ในขณะนั้นเอง นักฆ่าที่ปลอมตัวหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อก็ยิงใส่กู้เจียว
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วประหนึ่งประกายไฟตอนตีหิน กู้เจียวไม่ทันได้ตั้งตัวสักนิด อาจารย์พ่อมาขวางอยู่ข้างหน้าเธอ กระสุนทะลุหน้าอกสองนัด
เขาก็ยิงสวนใส่อีกฝ่ายเช่นกัน
อีกฝ่ายโดนยิงเต็มๆ สถานกาณ์โกลาหลไปหมด
ชีตาร์กับอินทีนานทีเดียวจึงเล็งเขาได้ นั่นเป็นเพราะเขาบาดเจ็บจึงวิ่งไม่เร็ว
หากไม่ได้อาจารย์พ่อมาอยู่ที่นี่ วันนี้กู้เจียวได้ตายแน่ และฆาตกรก็จะหนีไป
“อาจารย์พ่อ!” กู้เจียวประคองเขาไว้
เลือดตรงหน้าอกเขาอาบย้อมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ของเธอแดงฉาน
เขาฝืนเอ่ยพาฉันกลับไปที่ห้องโดยสารพยาบาล”
ห้องโดยสารพยาบาลมีอีกหนึ่งมิติอยู่ ทางเข้าในตอนนี้อยู่ในวิลล่าภายใต้ชื่อของเขา
กู้เจียวขับรถแล่นฉิว ไม่รู้ว่าฝ่าไฟแดงไปเท่าไหร่ ในที่สุดก็มาส่งเขากลับห้องโดยสารพยาบาลได้ก่อนที่เขาจะหมดสติไป
เขาเอากระสุนออกเอง แล้วเข้าไปนอนในแคปซูลรักษา
ทุกครั้งที่เขาบาดเจ็บ พลังงานในร่างกายจะหดหายไปมาก
ไม่นานเขาก็อ่อนแอจนผล็อยหลับไป
เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบว่ากู้เจียวก็นอนอยู่ในแคปซูลรักษาเช่นกัน อิงแอบอยู่ข้างกายตนไม่ไหวติง
แคปซูลรักษาสัมผัสได้ว่าเขาฟื้นแล้ว ไฟวอร์มไลท์จึงติดขึ้น
อาศัยแสงไฟสาดส่อง เขาเห็นสถานการณ์ภายในแคปซูลชัดเจน เลือดของกู้เจียวกำลังถ่ายเข้ามาในร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง
ไม่รู้ว่าให้เลือดมานานเท่าใดแล้ว ใบหน้ารูปไข่ดวงน้อยเมื่อตอนกลางวันแดงเรื่อกลับกลายเป็นซีดขาว แม้แต่กลีบปากก็ยังไร้สีเลือด
“เธอทำอะไรน่ะ” เขาเอ่ยเสียงแหบแห้ง ขมวดคิ้วถาม
กู้เจียวขยับเปลือกตาเล็กน้อย ไม่ได้ลืมขึ้น ยังคงนอนอยู่ข้างกายเขา เชื่องเหมือนแมวน้อย
“ต้องการเลือดของฉัน…ไม่ใช่เหรอ”
เธอเอ่ยเสียงเบา
ถ้อยคำนี้ไม่มีที่มาที่ไป ได้ยินก็นึกว่าเธอพูดเพ้อเจ้อเพราะอ่อนแอเกินไป
แต่อาจารย์พ่อยังคงเข้าใจมันอยู่ดี
เธอรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
เขาพาเธอกลับมา ตั้งอกตั้งใจปลูกฝังสั่งสอนเธอ ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่สนสิ่งใด เพียงเพื่อให้สักวันหนึ่งสามารถใช้เลือดของเธอมาต่อชีวิตได้
“หนูยินดี” หน้าผากเธอแนบไหล่แกร่งของเขา เอ่ยเสียงแผ่วหนูยินดี ยกชีวิตให้อาจารย์”
…
กู้เจียวล้มป่วย
คุณสมบัติร่างกายเธอแตกต่างจากคนปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอป่วยหนักขนาดนี้ตั้งแต่โตมา
ไข้สูงสี่สิบเอ็ดองศาเซลเซียส กอดแล้วเหมือนกอดเตาใบน้อยลวกมือ
อาจารย์พ่อเข้าครัวอย่างหาได้ยาก ทำซุปผักลูกชิ้นเนื้อใส่ขิงให้เธอ
กู้เจียวซดไปคำหนึ่งพลันสติแจ่มชัด!
สมองก็ไม่อื้อทื่อแล้ว ไม่คัดจมูกแล้วด้วย เหงื่อเย็นซึมออกมามากมาย
ช่าง…ไม่อร่อยที่สุดในโลกเลย!
“เหมือนว่าจะได้ผลไม่เลวนะ” อาจารย์พ่อมองแววตาเธอที่แปรจากเหม่อลอยเป็นแจ่มชัดขึ้น เอ่ยพรุ่งนี้ค่อยทำให้เธออีกรอบ”
เพื่อไม่ถูกพิษจากอาหารของอาจารย์พ่อเป็นครั้งที่สอง ร่างกายเธอจึงฝืนไข้ลดลงในคืนนั้นทันที
อาจารย์พ่อไม่ให้เธอรีบกลับไปที่องค์กร เธอรักษาตัวอยู่ในห้องโดยสารพยาบาลถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ
ในหนึ่งเดือนนี้ เธอปลดล็อกสกิลใหม่ๆ ไม่น้อย อย่างเช่น ฝีมือการทำกับข้าว สุรา หรือบทเพลงของหนึ่งร้อยปีก่อน
เธอคออ่อน คำเดียวก็เมาร่วง
พอเมาแล้วก็ไม่หยุดไม่หย่อน มือหนึ่งคว้าขวดเหล้าไว้ เท้าหนึ่งเหยียบโต๊ะอย่างองอาจ “เสี่ยวเมี่ย! มิวสิค!”
เสียงเอไอน่ารักน่าชังดังขึ้น [กำลังเปิดเพลงให้คุณ]
อาจารย์พ่อสีหน้าไร้อารมณ์นั่งอยู่บนโซฟา มองคนบางคนกำลังเมาเรื้อน
เมื่อปีที่แล้วอาจารย์พ่อบังเอิญพบว่าจิตใต้สำนึกของเดสทรอยเยอร์ยังไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ เพียงแต่โดนการโจมตีจากหลุมดำและการเดินทางในอวกาศ จิตใต้สำนึกของมันจึงอยู่ในสภาวะอ่อนแอ เดี๋ยวใช้ได้เดี๋ยวใช้ไม่ได้
อย่างไรเสียพอเธอเรียกก็ใช้ได้ทันที
ซ้ำยังยอมรับชื่อเล่นที่เธอตั้งให้เงียบๆ ด้วย
ดังนั้นเธอรู้ได้อย่างไรว่าเลือดของเธอมีประโยชน์ต่อเขา…วันนี้ความได้กระจ่างแล้ว
กันขโมยในบ้านนี่มันยากจริงๆ
เธอร้องเสียอินมาก
เห็นเธอยกมือขึ้น ก่อนจะมาหยุดข้างกายเขา จ้องเขาตาไม่กะพริบ พริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปร้องงิ้วขึ้นมา “ใจนางกำลังจดจ่ออยู่บนผ้าปักลายบุปผาอันงดงาม นางขับขานบทเพลงเพื่อให้เขาที่จากไปได้รับรู้ แต่ละท่อนแต่ละบทกวีคือความคำนึงหา ผลการสอบติดจอหงวนอันดับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าบนโต๊ะมีรายชื่อคุ้นตาอยู่ เขาเอ่ยว่าเมื่อถึงวันวิวาห์ของเรา ฝูงชนจะร่วมแสดงความยินดี นางเป็นหญิงงามที่คู่ควรกับชายคงความรู้เยี่ยงเขา ข้าได้แต่ถอนใจกับบทละครเหล่านี้ ที่มีผู้หลงมัวเมาในความรัก”
ปกติฝีมือการแสดงย่ำแย่ติดลบ พอร้องเพลงกลับร้องได้เข้าท่าเข้าที
ที่กล่าวกันว่าสตรีมองจากด้านหลังว่างามแล้ว พอนางหันมามองกลับงามยิ่งกว่า นี่ท่าจะจริง
เขาหลบตาลง ดื่มแชมเปญในแก้ว
เขาคอแข็งมาก แต่ ณ ขณะนี้ เหมือนว่าเขาเริ่มจะเมาขึ้นมาแล้ว
กู้เจียวแววตาเมาเยิ้มมองเขา “หากคุณไปยุคโบราณ จะต้องสอบจอหงวนได้แน่ อืม…อู่จอหงวน! ถ้างั้นฉันก็จะเป็นคุณนายจอหงวนของคุณ ฮิๆๆ ”
เธอยิ้มเหมือนเด็กโง่
อาจารย์พ่อ เฮอะ เมาจนไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมาแล้ว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดกู้เจียวก็หยุด เขานึกว่าเธอเหนื่อยแล้ว จึงลุกขึ้นหมายจะเก็บกวาดที่นี่
ไหนเลยจะรู้เธอกลับขยับมาตรงหน้าเขา สองมือไพล่อยู่ข้างหลัง เงยดวงหน้าแดงเรื่อขึ้น มองเขาตาไม่กะพริบ “ฉันจะบอกความลับให้ฟัง ฉันชอบคุณ”
เธอเอ่ยเสียงเบาหวิว ในน้ำเสียงเจือความเมามายไว้จางๆ
อาจารย์พ่อนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติเธอเมาแล้ว”
เสียงเอไอดังขึ้น [คำเตือน ระบบรักษาตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจคุณเร็วกว่าปกติ ต้องการจัดการโดยด่วนหรือไม่]
อาจารย์พ่อถลึงตาใส่กล้องบนผนัง
กู้เจียวมองเขาอย่างดื้อดึง
สีหน้าของอาจารย์พ่อไร้การเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงเย็นชาดุจหิมะ “เธออย่าลืมกฎขององค์กรสิ”
กู้เจียวเอ่ย “หนูแอบชอบคุณ ไม่ให้พวกเขารู้หรอก”
อาจารย์พ่อเอ่ยอย่างเย็นชาเธอชอบไปก็เปล่าประโยชน์ ฉันไม่มีทางคบกับเธอ ในเมื่อเธอรู้ตั้งนานแล้ว ก็ควรเข้าใจว่าฉันกำลังหลอกใช้เธอมาโดยตลอด ฉันขวางปืนแทนเธอเพราะฉันต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่…เพื่อต่อชีวิตตัวฉันเองในสักวัน”
จู่ๆ เสียงเพลงก็ดังขึ้นภายในห้องรับแขกของห้องโดยสารพยาบาล [คนปากแข็งอย่างฉัน ทำให้เธอเสียใจหรือเปล่า ฉันก็แค่ใช้คำพูดรุนแรงปิดบังความอ่อนแอภายในใจ ไม่ได้ตั้งใจจะเย็นชา~]
อาจารย์พ่อสีหน้าทะมึนขึ้น
กู้เจียวมองเขานิ่ง “หนูไม่เชื่อ”
เขาเดินผ่านเธอไปอย่างเย็นชา น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยเธอไม่เชื่อก็ไม่มีประโยชน์ ฉันไม่มีทางชอบเธอหรอก”
เพลงในห้องโดยสารพยาบาลเปลี่ยนใหม่ [โว ฮู้ โววว เย้ เย รักเธอแต่พูดไม่ได้ ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดเช่นไร โว ฮู้ โววว ฉันรักเธอแต่พูดไม่ได้]
อาจารย์กัดฟันกรอด กำหมัดแน่น
เดสทรอยเยอร์!
เขาออกจากห้องรับแขกโดยไม่เหลียวกลับมามอง ทิ้งกู้เจียวให้อยู่ที่เดิมอย่างเดียวดาย
เดสทรอยเยอร์รนหาที่ตายต่อไป เพลงเปลี่ยนไปอย่างไม่ติดขัด [ยึดติดกับความเจ็บปวดเพราะความรัก ยึดติดกับความเจ็บช้ำเพราะความแค้น ระหว่างรักกับแค้นฉันมันแยกไม่ออก หรือมันเป็นแบบนี้ เลือดและน้ำตาหลั่งรินลงมาเป็นสาย ใจฉันสลายลอยไปกับสายลม มือสั่นๆ กลับหยุดยั้งไม่ไหว อภัยไม่ได้~]
อาจารย์พ่อสุดจะทนแล้ว ปิดโหมดอัจฉริยะทันที!
เดสทรอยเยอร์ ฮือออ
…
อาจารย์พ่อไปอาบน้ำเย็นที่ห้องอาบน้ำ ความร้อนรุ่มในร่างกายเนิ่นนานก็ไม่บรรเทา
ชาวกลุ่มดาวเคเก้าสิบสามมีอายุขัยยืนยาวมาก และภายในยีนไม่มีความปรารถนาที่จะสืบพันธุ์รุนแรงเท่านี้ด้วย สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาตกหลุมรักระหว่างชายหญิงยากขึ้น
อีกทั้งยิ่งคนที่แข็งแกร่งมาก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวยาก
ดังนั้น สุดท้ายเขาอ่อนแอขึ้น หรือว่ามาที่ดาวโลกดวงนี้นานเกินไปจึงเริ่มกลมกลืนไปกับพวกเขาแล้ว
เขายืนอยู่ใต้ฝักบัว น้ำเย็นเฉียบรินรดร่างกายกำยำล่ำสันของเขาอย่างไร้ปรานี
เขาสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าเซนติเมตร การฝึกฝนอยู่ตลอดปีทำให้เขามีร่างกายที่ชวนให้กำเดาไหล กล้ามหน้าอก กล้ามหน้าท้องแปดมัด วีไลน์…ทุกอย่างพอดิบพอดี ทรงพลัง ทว่าไม่เกินจริง
แม้แต่เส้นเลือดบนแขนเขาก็ยังเด่นชัด
เขาปล่อยให้น้ำสาดใส่อยู่หนึ่งชั่วโมง จึงได้ข่มอารมณ์ร้อนรุ่มหวั่นไหวนั่นลงไป
ห้องโดยสารพยาบาลมีระบบหมุนเวียนน้ำสะอาด จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเปลืองน้ำ
เพียงแต่ว่า เวลานี้มันก็นานไปหน่อย
เขาไม่พอใจกับความปรารถนาของตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ
ที่น่าเศร้าก็คือ เขาอุตส่าห์สงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว พอเปิดแคปซูลนอนออกก็พบว่ากู้เจียวนอนหลับอยู่ในนั้น
เด็กคนนี้…เมาจนจำแคปซูลตัวเองไม่ได้แล้วหรือไง
“เดสทรอยเยอร์”
เขาเอ่ยขึ้น เอไอไร้ปฏิกิริยา
เขาจึงเพิ่งนึกได้ว่าเขาปิดระบบอัจฉริยะไปแล้ว
เขาจ้องมองเด็กสาวบางคนที่เมามายจนไม่รู้เรื่องรู้ราวแวบหนึ่ง ก่อนจะนอนลงข้างเธอเงียบๆ
แคปซูลนอนคนเดียวกว้างขวางพอดี สองคนนอนจะเบียดกันมาก
เธอนอนอยู่ข้างๆ ร่างนุ่มนิ่มแนบกับร่างกายเขาที่มันยั่วยวนจนสุดจะทน
เขารู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย หลับตาลงอย่างจนปัญญา น้ำเย็นหนึ่งชั่วโมงนั่นอาบไปโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ
กลิ่นหอมของเธออวลอึงไปทั่ว ราวกับยาพิษมอมเมาสติปัญญา ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งซึมลึกเข้ากระดูก
ลูกกระเดือกอันประณีตของเขาขยับไหว
สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ก่อนหลับตาลง
เธอเป็นคนมานอนผิดที่เองนะ อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ
เขายันร่างลุกพรวดขึ้น ลูบไล้ใบหน้าอ่อนนุ่มของเธอ ก่อนจะก้มลงจูบอย่างเผด็จการ