ในตอนเช้า หนานซ่งได้ตรวจสอบงานแต่ละส่วนของบริษัทเรียบร้อยแล้ว
บริษัทตระกูลหนานเริ่มต้นมั่งคั่งในอุตสาหกรรมเครื่องประดับโดยเน้นที่แบรนด์หรูระดับไฮเอนด์ หนานหนิงซงพ่อของหนานซ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวกับโรงแรม สนามแข่งม้า วัตถุโบราณ ร้านอาหาร ภาพยนตร์แและอสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ เป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ในเมืองหนาน บริษัทหนานจิวเวลรี่เป็นร้านขายเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผ่านการรับรองตามมาตราฐาน
ในเวลาเดียวกัน นอกจากบริษัทตระกูลหนานในเมืองหนานแล้ว ยังมีบริษัทยวี่กรุ๊ปในเมืองเป่ย ทั้งสองบริษัทใหญ่ต้องเผชิญกัน แต่ทั้งสองบริษัทต่างมีหนทางของตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
พนักงานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานแสร้งทำเป็นว่ากำลังทำงาน แอบชำเลืองมองเป็นระยะ ทันใดนั้นสายตาก็สบกับประธานคนใหม่ “ว้าว ประธานหนานหายดีแล้ว~”
เมื่อวานหนานซ่งสวมชุดสีขาว แตกต่างจากวันนี้เธอสวมชุดสูทสีน้ำเงิน เน้นรูปร่างที่เพรียวบางของเธอ การออกแบบประณีตและมีสไตล์ ทำให้ดูดีสง่างาม
พนักงานคนหนึ่งอดไม่ได้ หยิบโทรศัพท์ออกมา และแอบถ่ายรูปหนานซ่งลงบนโซเซียล “เห็นเงาบอสใหม่ของพวกเราแล้ว สวยจนใครเห็นก็ต้องกราบ!”
เธอเป็นคนดังในโซเซียล มีแฟนคลับมากกว่าสองแสนคน ปกติเธอชอบโพสต์อยู่แล้ว แต่โพสต์นี้ดึงดูดไลค์ คอมเมนต์ และรีโพสต์นับไม่ถ้วน
พื้นที่แสดงความคิดเห็นมีแต่คำชมอย่างท่วมท้น “ว้าว นี่เป็นประธานหญิงจริงๆเหรอ! รูปร่างและออร่านี้เอาชนะดาราสาวได้ง่ายๆเลย!”
“พี่สาวได้เจอประธานหญิงตัวจริงเสียงจริง อิจฉาจัง~”
“ก้มกราบ~”
“เพราะเงาของประธานหญิงสุดสวย พรุ่งนี้ฉันจะไปสมัครงานที่บริษัทตระกูลหนาน!”
ทันทีที่หนานซ่งเข้าไปในห้องทำงานก็รีบถอดรองเท้าส้นสูงและสวมรองเท้าแตะ รองประธานเจี่ยงฟานตามเธอเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เดินมาทั้งวัน เจ็บเท้าล่ะสิ"
“ไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูงมานานแล้ว รู้สึกไม่ชินเล็กน้อย”
หนานซ่งถอนหายใจเบาๆ "ฉันแค่จากไปสามปี บริษัทตระกูลหนานกลับวุ่นวายขนาดนี้ แผนกต่างๆละเลยงาน พนักงานที่ดูเคร่งขรึมในการทำงาน มีกี่คนกันแน่ที่ตั้งใจทำงานจริงๆ?”
เจี่ยงฟานนำขี้ผึ้งออกจากกล่องยา บีบยาออกมาแล้วทายาลงบนเท้าของหนานซ่งอย่างอ่อนโยน
“แบบนี้เรียกว่าไม่มีระเบียบมาตั้งแต่เบื้องบน หนานหนิงไป่บริหารแต่ละแผนกโดยไม่วัดดัชนีความสำเร็จของพนักงาน ได้รับเงินเดือนเท่าเดิมไม่ว่าจะทำงานน้อยหรือทำงานหนัก แบบนี้ใครจะยังออกแรงตั้งใจทำงานล่ะ?”
หนานซ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “อาสองของฉันมาจากรัฐวิสาหกิจ ย้ายชุดก่อนหน้านี้เข้ามาในบริษัทโดยตรง นี่คือเหตุผลที่พ่อของฉันไม่อยากให้มีส่วนร่วมด้วย”
ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่เป็นเพราะทำให้เป็นส่วนหนึ่งไม่ไหว มันยากเกินไป
เจี่ยงฟานเป่าฝ่าเท้าของเธอ หนานซ่งขดนิ้วเท้า "คัน ปล่อยให้มันแห้งเองเถอะ"
เท้าของเธอบางและเล็ก นิ้วบนเท้าของเธอน่ารักมาก เจี่ยงฟานมีรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของเขา เงยหน้าขึ้นมองเธอ "คุณกลับมาแล้ว ดีจัง”
หนานซ่งนั่งไขว่ห้างบนโซฟาแล้วบ่นว่า: "กลับมาเก็บกวาดความยุ่งเหยิง สำหรับฉันแล้วมันไม่ดีเลย”"
"คุณทำได้"
ดวงตาของเจี่ยงฟานแน่วแน่ เหมือนกับทหารที่กำลังจะเข้าสู่สนามรบ เขาพบแม่ทัพที่จะนำเขาไปสู่การต่อสู้นองเลือด และได้รับชัยชนะ!
หนานซ่งเปลี่ยนสีหน้าจากเด็กงอแงทันที “มีสองเรื่อง คุณช่วยจดไว้หน่อย”
"คุณบอกมาเลย"
“ประการแรก ที่ดินในเขตชานเมืองทางเหนือที่หนานหนิงไป่และหนานหนิงจู๋ยึดไป ไม่สร้างสนามกอล์ฟแล้ว ฉันจะเอามาทำประโยชน์อย่างอื่น”
"ครับ”
"ประการที่สอง กิจกรรมชุดเครื่องประดับใหม่เปิดตัวได้ในธีม 'ดอกกุหลาบ' คุณช่วยไปบอกให้ฝ่ายการตลาดโพสต์แจ้งหัวข้อเรื่องราวความรัก เพื่อให้ชาวเน็ตส่งเข้าคัดเลือก สิบอันดับแรกจะได้รับแหวนเพชรเครื่องประดับของบริษัทหนานจิวเวลรี่ฟรี พนักงานในบริษัทก็สามารถมีส่วนร่วมได้ นอกจากนี้แจ้งให้ฝ่ายออกแบบรวบรวมเรื่องราวความรักของชาวเน็ตเป็นแนวคิดผลิตภัณฑ์ ร่างการออกแบบแล้วโพสต์ออนไลน์เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือก ผู้ที่ได้รับเลือกในสิบอันดับแรกจะได้โบนัสเพิ่ม”
“รับทราบ” เจี่ยงฟานตอบและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “คุณเล่นใหญ่เลยนะครับ”
หนานซ่งยิ้มจางๆ “ต้องมีวิธีการอันเฉียบคม จับปลาใหญ่แต่ไม่มีเหยื่อจะจับได้อย่างไร? หมดยุคจับปลาด้วยมือเปล่าแล้ว”
ทันทีที่เจี่ยงฟานจากไป โทรศัพท์ก็ดังขึ้น พ่อบ้านจ้าวโทรมาบอกว่า หนานหยากำลังสร้างปัญหาในสวนกุหลาบ
“ไม่ต้องสนใจเธอ จับเธอไปขังในห้อง ปล่อยให้เธอตั้งสติในห้อง ถ้าเธอส่งเสียงดังรบกวน หาอะไรปิดปากเธอไว้…กระโดดหน้าต่าง? ถ้าเธอมีความกล้านั้นก็ปล่อยให้โดด จะได้ประหยัดแรงของฉันด้วย”
พ่อบ้านจ้าวเคยเป็นมือขวาของแม่ ทันทีที่หนานซ่งเสียชีวิต หนานหนิงไป่และหนานหยาก็หาข้ออ้างขับไล่พ่อบ้านจ้าว ไป๋ชีรับไปดูแล ตอนนี้หนานซ่งเชิญกลับมาอีกครั้ง
มีเขาอยู่ที่บ้าน หนานซ่งรู้สึกโล่งใจ ต่อให้หนานหยาจะมีแผนอะไร ก็ไม่สามารถทำตามใจได้อีก
ขณะที่เพิ่งวางสาย โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง หนานซ่งเห็นว่าเป็นไป๋ฉีที่โทรมา ไม่ค่อยอยากรับสายมากนัก เพราะเธอรู้ว่าไม่มีเรื่องดีแน่ๆ "มีอะไรหรือเปล่า?”
“ทำไมใจร้อนจัง ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก แต่มันอาจจะทำให้เธอหงุดหงิดได้ ลองไปดูในโซเซียลสิ อดีตสามีของเธอกำลังถูกนางจิ้งจอกล้างสมอง พูดไร้สาระ บอกว่าเธอเป็นเมียน้อย!”
หนานซ่งขมวดคิ้ว เปิดโทรศัพท์ขึ้น พาดหัวข่าวว่า #ประเด็นเรื่องงานแต่งงานของยวี่จิ้นเหวินกับโจ๋เซวียน เธอกดเข้าไปดู มันก็เป็นเพียงบทความเล็กๆ
บทความถูกโพสต์โดยบริษัทยวี่กรุ๊ป มีการประกาศข่าวการแต่งงานและนับประวัติความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ชี้แจงว่าโจ๋เซวียนคือผู้หญิงคนเดียวในใจของยวี่จิ้นเหวิน บุคคลที่คุณยวี่เคยแต่งงานด้วยเป็นเพียงบุคคลธรรมดา และอยู่ในฐานะภรรยาน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่าคุณโจ๋เซวียนเข้าใจในอดีตของคุณยวี่ และปรารถนาอย่างจริงใจต่อคุณหนูลู่ หวังว่าเธอจะได้พบกับคนที่รักเธออย่างแท้จริง อยู่ในฐานะที่ถูกต้อง
“เหอะ” หนานซ่งหัวเราะออกมา นี่มันอะไรกันเนี่ย?
“เป็นไงบ้าง น่าโมโหมากใช่ไหม?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ไป๋ชีฟังดูโกรธมากกว่าหนานซ่ง " ยวี่จิ้นเหวินกล้าดียังไงกล่าวหาว่าเธอคือเมียน้อย ใครเอาปูนไปทาบนหน้าเขาหรือเปล่า ทำไมหน้าด้านขนาดนี้! เดี๋ยวฉันจะไปด่าให้!”
"ไม่จำเป็น"
หนานซ่งพูดเบาๆ: "ยวี่จิ้นเหวินไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก บทความคนไร้การศึกษาแบบนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของโจ๋เซวียน”
“ขนาดนี้แล้ว เธอยังจะปกป้องผู้ชายเลวคนนั้นอีกเหรอ!”
“ฉันไม่ได้ปกป้องเขา แค่พูดความจริง”
หนานซ่งเหลือบมองโลโก้ของบริษัทยวี่กรุ๊ป ยิ้มอย่างเย็นชา "ขึ้นเป็นคำค้นหายอดฮิตต้องจ่ายค่าโปรโมท ตอนนี้คนที่ปวดหัวคงเป็นคนอื่น "
เมื่อวางสาย เธอเหลือบมองบทความอีกครั้ง ราวกับกำลังอ่านเรื่องตลก
เธอแต่งงานกับยวี่จิ้นเหวินในตอนนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบเธอต้องการแค่เขา ไม่เคยต้องการสถานะหรือเป็นคุณนายยวี่
ลู่หนานซ่งตายไปแล้ว ตั้งแต่ที่เธอเซ็นใบหย่า เธอตัดสินใจจะไม่ยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอีก แม้แต่คนเธอก็ไม่เอา สำหรับเธอแล้วสถานะเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ใครอยากได้ก็เอาไป
MANGA DISCUSSION