หนานหยาถูกน้ำสาด เปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ
เมื่อเห็นคนร้ายถือถังน้ำ เธอก็ปากสั่น กัดฟันร้องลั่น “หนานซ่ง!”
“ได้สติหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้สติฉันจะสาดน้ำล้างเท้าใส่แกอีก”
เสียงเพลงยังคงดัง หนานซ่งโยนถังน้ำในมือไปที่ลำโพง ลำโพงตกกระแทกกับพื้นเสียงดัง "ปัง" หนานหยาสั่นสะท้านด้วยความตกใจ
เสียงเพลงที่รบกวนคนอื่นหยุดกะทันหัน
“มีอะไรหรือเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?”
หนานหนิงไป่ที่ถูกเสียงรบกวนจนตื่น สวมชุดนอนรีบเดินออกมาจากห้อง มองดูหนานหยาที่เปียกไปทั้งตัว เข้าใจว่าลูกสาวถูกรังแก “เสี่ยวซ่ง มีปัญหาอะไรกัน?”
“พ่อคะ หนานซ่งเอาน้ำเย็นสาดหนู หนาวมาก…”
หนานหยาตัวสั่นด้วยความหนาว คนรับใช้รีบเอาผ้าขนหนูให้เธอ หนานหยาห่มผ้าขนหนูแล้วมองหนานหนิงไป่ทั้งน้ำตา “หนูนอนไม่หลับ แค่อยากฟังเพลง แต่พี่ไม่อนุญาต…”
การแสดงออกที่น่าสงสาร ดูเหมือนเธอถูกหนานซ่งกระทำรังแก
“พอแล้ว พอแล้ว” หนานหนิงไป่เกลี้ยกล่อมลูกสาว “พี่สาวลูกเพิ่งกลับมา ยอมพี่หน่อย อย่าถือสาพี่เลยนะ”
หนานหยาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ก็ยังดูไม่พอใจ
หนานซ่งมองดูภาพที่พ่อลูกรักกัน รู้สึกอึดอัดในใจ กอดอกและยกเปลือกตาขึ้นอย่างเย็นชา “แสดงพอหรือยัง?”
หนานหนิงไป่และหนานหยาเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสีหน้าที่นิ่งอึ้ง
หนานซ่งยืนอยู่ที่ประตู มองหนานหยาอย่างเบื่อหน่าย “คืนนี้ที่แกคลั่ง ฉันจะถือว่านอนละเมอ แต่ถ้ายังมีคราวหน้าอีก ฉันจะจับแกโยนลงสระน้ำโดยตรง จะได้เรียกสติของแก”
“อีกอย่าง” เธอชำเลืองมองพ่อลูก “เนื่องจากอาศัยอยู่ในบ้านของฉัน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของฉัน ฉันหลับยาก ห้ามเสียงดังในตอนกลางคืน ถ้าทนไม่ได้ รับไม่ได้ก็ย้ายออกไปซะ”
พูดจบ เธอไม่อยากสนใจการแสดงของพวกเขาอีก จึงหันหลังและเดินจากไป
“พ่อ ดูเธอสิ…”
หนานหยางอปากแล้วชี้ไปที่ด้านหลังของหนานซ่ง เธออยากก้าวไปข้างหน้าและคว้าผมของเธอ ตีกันให้รู้แล้วรู้รอด แต่หนานหนิงไป่ห้ามเธอไว้ "พอแล้ว เด็กดี ไม่โมโหนะ… "
ไล่คนใช้ทั้งหมดออกไปและปิดประตู หนานหยาบ่นด่าขณะที่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม และพูดกับหนานหนิงไป่อย่างโกรธเคืองว่า "พ่อ เราจะยอมให้หนานซ่งรังแกเราแบบนี้เหรอ?”
หนานหนิงไป่ทำหน้าเคร่งขรึม สีหน้าไม่ดี เขายังคงรู้สึกทุกข์ใจกับแจกันที่หนานซ่งทำแตก เธอบอกว่าเป็นของปลอมก็เป็นของปลอมงั้นเหรอ?
“พ่อคะ กว่าเราจะมีวันนี้ อยู่ในจุดๆนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหรอ?”
หนานหยานั่งลงตรงหน้าหนานหนิงไป่ "พ่อยังจำครั้งที่เราเคยอ้อนวอนต่อหน้าคุณลุงใหญ่กับคุณป้าได้ใช่ไหม? หนูต้องคอยตามใจหนานซ่งตลอด หนูไม่อยากใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว! "
หนานหนิงไป่เหล่ตาของเขา ไขมันบนใบหน้าของเขาสั่นและคำรามออกมา "แกคิดว่าพ่ออยากใช้ชีวิตแบบนั้นเหรอ? แต่ครั้งนี้หนานซ่งกลับมากะทันหันและแปลก กลัวว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล”
“คุณลุงใหญ่กับคุณป้าก็ตายไปแล้ว มันไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว มันจะไปพึ่งใครได้อีก?”
หนานหยายังคงโน้มน้าวพ่อของเธอต่อไปว่า “ถอนหญ้าต้องถอนทั้งราก ไม่งั้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิมันจะงอกใหม่ พ่อดูสิ่งที่มันทำกับเราสิ มันต้องรู้อะไรสักอย่างก็เลยกลับมาแก้แค้น ถ้าเราไม่ฆ่ามัน เราเองนี่แหละที่จะถูกฆ่า! เราต้องฉวยโอกาสที่มันยังไม่รู้ตัวลงมือก่อน! พ่อ เวลานี้พ่อจะใจอ่อนไม่ได้!”
แสงไฟสว่างจ้าในห้องส่องแสงไปที่ใบหน้าของเธอ สีหน้าอันน่าสยดสยอง
หนานหนิงไป่จับแหวนหยกบนนิ้วโป้ง ดวงตาของเขาแสดงเจตนาสังหารเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวล ผู้ที่อ่อนแอย่อมแพ้ผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ถ้ามันรนหาที่ตาย ก็อย่าหาว่าอาใจร้ายกับหลาน”
หนานซ่งนอนลงบนเตียงเงียบๆ ในห้องมีเครื่องดักฟัง ดังนั้นเธอจึงได้ยินการสนทนาของพ่อลูกอย่างชัดเจน
ริมฝีปากของเธอกระตุกขึ้น บางครั้งเธอก็สงสัยว่า: พ่อลูกคู่นี้ธรรมดามาก แต่ทำไมถึงมั่นใจตัวเองขนาดนั้น?
วันรุ่งขึ้น หนานหยานอนไปเกือบครึ่งวันกว่าจะตื่น
พลิกตัวไปมาบนเตียง เธอกดโทรศัพท์และพูดอย่างเกียจคร้าน: “เสี่ยวจวิน ไปที่ห้องของฉัน ช่วยเตรียมน้ำในอ่าง แล้วไปเก็บดอกไม้ที่สวน ฉันจะแช่ตัวในอ่างดอกไม้”
อีกด้านของโทรศัพท์มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “คุณหนูถัง ขอโทษที่ต้องแจ้งให้คุณทราบ เสี่ยวจวินถูกไล่ออกแล้ว ส่วนอ่างแช่น้ำดอกไม้ คุณหนูใหญ่สั่งห้ามไม่ให้ทำลายดอกไม้ในสวน ดังนั้นคำขอของคุณจึงไม่สามารถทำตามได้”
หนานหยาลุกขึ้น ขมวดคิ้วและถามว่า "แกเป็นใคร?"
“ผมคือคนที่คุณเคยไล่ออก และกลับมาที่สวนกุหลาบอีกครั้ง พ่อบ้านจ้าว ยินดีรับใช้”
หนานหยารู้สึกไม่ดี เธอวางสายโทรศัพท์ สวมชุดนอนและรีบวิ่งออกไป
เมื่อเธอลงไปข้างล่าง เธอพบว่ามีคนใช้มากมายกำลังทำความสะอาดทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทั้งหมดไม่ใช่คนรับใช้ของเธอ แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นอดีตคนรับใช้ของคฤหาสน์ตระกูลหนาน!
แล้วคนของเธอล่ะ คนของเธอไปไหนหมด?!
สิ่งที่เธอโกรธที่สุดคือเธอพบว่าดอกโบตั๋นทั้งหมดที่เธอปลูกในสวน ถูกถอนรากถอนโคนและแทนที่ด้วยดอกกุหลาบสีแดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ
หนานหยากำหมัดแน่น และกัดฟันพูดออกมาสองคำ “หนาน ซ่ง!”
MANGA DISCUSSION