เขาว่ากันว่าคนที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆจะทำท่าไว้ยศ แต่พอหนานซ่งกลับมาที่บริษัทตระกูลหนาน กลับทำให้คนอื่นจนตรอกแทน
มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในผู้บริหารระดับสูงกว่าสิบคน มีทั้งผู้อาวุโส ทั้งกรรมการบริษัท ในนั้นรวมถึงกรรมการวันนั้นที่เป็นพวกเดียวกันกับหนานหนิงไป่กับหนานหนิงจู๋ที่อยากจะวางท่าใส่หนานซ่งด้วย
ในห้องทำงานหนานหนิงไป่มีคนเต็มแน่นตั้งแต่เช้า ทั้งตบโต๊ะ เตะเก้าอี้ ตะคอกเสียงดัง "กูไม่สน กูทำงานให้บริษัทตระกูลหนานมาตั้งกี่ปี ยังไงก็ถือว่ามีผลงาน มีสิทธิ์อะไรมาไล่กูออก? ตระกูลของพวกมึงต้องให้เหตุผลกับกู ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกมึงอาหลานจะคิดบัญชีกัน ทำไมลากกูมาซวยด้วย ทำไม!"
คนอื่นๆก็โวยวายขอเหตุผล ตะคอกจนหน้าแดงคอแดง จนหน้าหนานหนิงไป่โดนน้ำลายกระเด็นใส่เต็มหน้า ไม่มีความเป็นผู้ดีสุดขรึมใส่สูทเลย ต่างก็แสดงธาตุแท้ออกมาหมด
หนานหนิงไป่โดนโวยวายใส่จนสมองอื้อ "ทุกคนใจเย็นก่อนนะครับ ใจเย็นๆก่อน……"
หนานหนิงจู๋กลับนั่งเล่นลูกประคำใหม่อยู่ที่มุมห้อง รักมากจนไม่ยอมวางลง ทำตัวเป็นเถ้าแก่ที่ไม่สนใจอะไรเลย เพราะตำแหน่งกรรมการของเขายังมั่นคงอยู่
ขอแค่ปลายมีดไม่หันมาทางเขา อยากหันไปทางไหนก็หันไปเถอะ
หนานหนิงไป่พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนร่วมงานเก่าเหล่านี้ แล้วในใจก็เรียบนิ่งมากด้วย ไม่ว่าลูกน้องจะมีการเปลี่ยนแปลงยังไง ขอแค่เขานั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทให้มั่นคง แล้วอย่ากระทบต่อผลประโยชน์ของเขาก็พอ
ความจริงรายชื่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารระดับสูงนี้ หนานซ่งเอามาให้เขาดูแล้ว และเป็นผลลัพธ์จากการหารือของพวกเขาด้วย
"อาสองคะ ตอนนี้ตระกูลหนานเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้ รากฐานของตระกูลเราไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น เลี้ยงคนว่างไม่ไหวหรอกค่ะ เพื่อฟื้นฟูบริษัท หนูใช้เงินเก็บที่มีไปเกือบหมดแล้ว ถ้ายังปล่อยให้มอดข้าวกัดกินบริษัทอีก งั้นเราคงต้องถึงขั้นขายบ้าน จากที่หนูรู้มา อาสองกับอาสามเพิ่งซื้อที่ที่นอกเมืองทางเหนือ อยากจะสร้างสนามกอล์ฟ……"
ถ้ากระทบกับผลประโยชน์ตัวเองเมื่อไหร่ งั้นก็จะเป็นอีกเรื่อง เดิมทีหนานหนิงไป่ที่ขมวดคิ้วแน่นอยู่กลับเปลี่ยนสีหน้าทันที แล้วตบรายชื่อ– ถอดตำแหน่ง! ต้องถอดตำแหน่ง!
จะไม่เลี้ยงมอดข้าวเด็ดขาด!
หนานซ่งขี้เกียจไปคุยกับตาแก่พวกนั้น เพราะทำชั่วได้ชั่ว เธอจึงออกจากบริษัท แล้วกลับบ้านเลย
คฤหาสน์ตระกูลหนาน หรือเรียกว่าสวนกุหลาบ เดิมทีเป็นสวนสาธารณะกุหลาบ เพราะคุณแม่หนานซ่งกับหนานซ่งชอบกุหลาบ หนานหนิงซงจึงซื้อไว้ แล้วสร้างเป็นคฤหาสน์ เป็นบ้านของทั้งสามคนครอบครัว
ไม่ได้กลับมาสามปี อยู่ๆหนานซ่งก็รู้สึกเกร็ง เพราะไม่ได้กลับมานานงั้นเหรอ?
ยอมสละเพื่อความรักมาสามปี ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ที่มองอยู่บนฟ้า จะโทษเธอหรือเปล่า
ตอนนี้เป็นเดือนเมษาตามจันทรคติ เดือนพฤษภาตามสุริยคติ ถึงฤดูที่ดอกกุหลาบในเมืองหนานเบ่งบานแล้ว อากาศที่เมืองเป่ยจะหนาวกว่าเมืองหนาน ตอนที่เธอออกจากคฤหาสน์ตระกูลยวี่ ดอกกุหลาบยังไม่บาน
แววตาของหนานซ่งหม่นลงไป พอนึกถึงผู้ชายคนนั้น ในใจเธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวด ในเมื่อตัดสินใจที่จะไปแล้ว งั้นเธอก็จะพยายามปล่อยวาง
รถแล่นเข้าไปในคฤหาสน์ หนานซ่งอดใจไม่ไหวอยากจะไปดูดอกกุหลาบ แต่ว่าพอเธอลงจากรถ กลับพบว่าดอกกุหลาบที่คุณพ่อปลูกเองกับมือหายไปแล้ว กลับเปลี่ยนมาเป็นดอกโบตั๋น แล้วมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด
ความโมโหปะทุขึ้นสมอง บุกรุกแย่งที่ก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้ามาทำลายสวนดอกกุหลาบของเธออีก!
พวกคนหน้าด้านพวกนั้น คิดว่าเธอตายแล้วจริงๆเหรอ?
ข้างหูมีเสียงหัวเราะทะเล้นลอยดังมา หนานซ่งหันไปดู จึงเห็นผู้หญิงสองคนเดินหัวเราะออกมา แต่งตัวดูดีเด่นตา แล้วต่างก็คล้องแขนผู้ชายไว้ด้วย
ผู้หญิงที่ใส่ชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้ บนศีรษะมีมงกุฎคริสทัลเดินนำหน้าออกมา แถมยังเขย่งเท้าขึ้นไปจุมพิตริมฝีปากของผู้ชาย กลางวันแสกๆแบบนี้ จูบกันอย่างไม่เห็นหัวคนอื่น
ผู้ชายคนนั้นเป็นคนสังเกตเห็นว่ามีคนอยู่ไกลๆ จึงผลักหนานหยาออก แล้วตอนที่เห็นใบหน้าหนานซ่งชัดเจนแล้ว สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที จนเกือบจะล้มลงมาจากบันไดมาที่พื้น
เขาเหมือนเห็นผี ชี้ไปทางนั้น แล้วอุทานอย่างตื่นตกใจว่า "ซ่ง……หนานซ่ง!"
สายตาของอีกสามก็หันมองไปด้วย ตอนที่เห็นหนานซ่ง ต่างก็แสดงสีหน้าตกใจ แล้วเอามือป้อมปาก หนานหยาก็กรี๊ดออกมาว่า "แกเป็นคนหรือผี?"
หนานซ่งสวมชุดสีขาวทั้งตัว ยืนอยู่ท่ามกลางดอกโบตั๋น สายตาหนักแน่น ริมฝีปากก็เลิกขึ้นอย่างเสียดสี น้ำเสียงก็เย็นชาจนขนลุก
"ถ้าไม่ทำเรื่องไม่ดี ก็คงไม่กลัวผีมาหลอก ฉันมาเอาชีวิตพวกแก ฉินเจียงหยวน หนานหยา พวกแกเตรียมตัวพร้อมหรือยัง?"
MANGA DISCUSSION