หนานซ่งขึ้นลิฟต์พร้อมท่ามกลางพนักงานระดับสูง จากนั้นก็หันไปเอ่ยถามรองประธาน "ยังมีท่านอื่นที่ยังไม่มาใช่ไหมคะ?"
"ครับ"
เจี่ยงฟานที่เป็นรองประธานเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางเคารพ น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความชิลล์ "เหล่ากรรมการที่เป็นพวกเดียวกันกับหนานหนิงไป่ ท่าทางเหิมเกริมมาก ยังคิดที่อยากจะให้คุณเกรงกลัว"
"เหรอ?"
สีหน้าหนานซ่งไม่เปลี่ยน ทั้งเนื้อทั้งตัวให้ความรู้สึกเย็นชา "สีสันของโลกนี้เปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว เหล่าคุณอาของฉัน ทำไมถึงมองไปออกล่ะ?"
หนานหนิงไป่กับกรรมการบริษัทอีกห้าคนนั่งอยู่ในห้องประชุม เอนพิงเก้าอี้ นั่งไขว่ห้าง ดื่มชาอย่างรื่นรมย์ แต่ละคนเหมือนเป็นเถ้าแก่ ต่อหน้าดูเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ในใจกลับเจ้าเล่ห์มาก
"ทำไมยังไม่มาอีก?" หนานหนิงไป่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานกรรมการ ใบหน้าที่อ้วนบวมมีความร้อนใจ แล้วสั่งเลขาหญิงข้างหลังว่า "เธอไปดูสิ"
"พี่สอง อย่าใจร้อนสิครับ ยังไงเดี๋ยวก็ต้องมา คนเขาเพิ่งรับตำแหน่งสดๆร้อนๆ ยังไงก็ต้องวางท่าไว้ยศหน่อยแหละครับ"
ในมือหนานหนิงจู๋ถือลูกประคำไว้ บนตัวก็ใส่ชุดไทเก๊ก เหมือนจะเป็นเซียนอย่างนั้น
หนานหนิงไป่ส่ายหน้า "คนรุ่นใหม่ตอนนี้ไม่รักษาเวลาเลยจริงๆ พวกคุณก็อย่าเกร็งกลัว เดี๋ยวควรพูดอะไรก็พูด ยังไงบริษัทตระกูลหนานก็ยังเป็นธุรกิจของตระกูลหนาน ผมมีสิทธิ์พูดอยู่แล้ว"
ขณะที่ตาแก่เจ้าเล่ห์ทั้งหลายกำลังหารือกันว่าเดี๋ยวจะวางท่าใส่หุ้นส่วนคนใหม่ยังไง ฝีเท้าที่เร่งรีบของเลขาหญิงก็รีบเดินกลับมา สีหน้าก็แตกตื่นมากด้วย
"แย่แล้วค่ะท่านประธาน ประธานคนใหม่เรียกให้พนักงานระดับสูงไปประชุมที่ห้องประชุมอีกห้อง การประชุมจะสิ้นสุดแล้วค่ะ……"
"อะไรนะ?!"
ตาแก่เจ้าเล่ห์ที่นั่งรื่นรมย์ต่างพากันยืนขึ้น และโมโหจนตบโต๊ะ "ไม่ว่ายังไงพวกเราก็เป็นหุ้นส่วนที่ประคับประคองบริษัทตระกูลหนานมานาน ไอ้หนุ่มที่มาใหม่กล้ามองข้ามหัวพวกเราแบบนี้เลยเหรอ!"
คนรุ่นใหม่ไม่มีหลักการจริงๆ
สีหน้าเลขาหญิงซีดขาว แล้วพูดอย่างหวาดกลัวว่า "ไม่ใช่ผู้ชายค่ะ แต่เป็น……ผู้หญิง"
เหล่าตาแก่ต่างพากันตื่นตกใจ "ผู้หญิง?!"
หนานซ่งเพิ่งกล่าว"สิ้นสุดการประชุม" หนานหนิงไป่กับหนานหนิงจู๋ก็พาคนบุกรุกเข้ามา สีหน้าโมโหมาก แต่พอเห็นหนานซ่งแล้ว สีหน้าโมโหกลับกลายเป็นตกใจแทน "เสี่ยวซ่ง……"
"ทำไมถึงเป็นเธอ?!"
เถ้าแก่หนานสองกับเถ้าแก่หนานสามเตรียมตัวมาพร้อม แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เศรษฐีที่ทำให้บริษัทตระกูลหนานฟื้นตัว แล้วซื้อหุ้นทีเดียวห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์เลย จะเป็นหลานสาวคนโตของพวกเขา!
เธอตาย ตายแล้วไม่ใช่เหรอ?
สามปีก่อนทายาทบริษัทตระกูลหนานคุณหนูใหญ่หนานซ่งเกิดอุบัติเหตุระหว่างปีนเขาแล้วตกเหว จนตอนนี้ก็หาศพไม่เจอ เถ้าแก่หนานสองกับเถ้าแก่หนานสามเสียใจมาก แล้วจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่ให้หลานสาว จากนั้นก็ได้รับมอบหมายให้รับช่วงดูแลบริษัทตระกูลหนานอย่างกะทันหัน แล้วแบ่งทรัพย์สินกับหุ้นของหนานซ่ง แต่ใครจะคาดถึงว่า คนที่ตายไปแล้ว จะกลับมาอย่างไม่เป็นอะไรแบบนี้!
หนานซ่งชื่นชมความตกใจบนใบหน้าพวกเขา แล้วพิงเก้าอี้อย่างขี้เกียจ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเอ่ย "อาสอง อาสาม หนูกลับมาอย่างปลอดภัยแบบนี้ เซอร์ไพรส์ไหมคะ?"
ประโยคที่เธอพูด เหมือนกำลังเตือนพวกเขา หนานหนิงไป่กับหนานหนิงจู๋รีบปรับสีหน้า จ้องมองหนานซ่งแล้วน้ำตาไหลพรวดพราด แล้วเข้าไปกอดเธออย่างตื้นตันใจ
"เสี่ยวซ่ง หลานยังมีชีวิตอยู่ ดีมากจริงๆ ถ้าพ่อแม่บนฟ้าของหลานรู้ ต้องดีใจมากแน่ๆ……"
หนานซ่งสไลด์เก้าอี้ไปข้างหลัง ขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ มองพวกเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความเย็นชา "หนูเชื่อว่า พวกท่านต้องดีใจแน่นอนค่ะ"
หนานหนิงไป่กับหนานหนิงจู๋โดนตอกกลับอย่างเย็นชา จึงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
หนานซ่งก็ไม่คิดที่จะรื้อฟื้นความทรงจำกับพวกเขา จึงหันไปเอ่ยกับเหล่าหัวหน้าในบริษัทว่า "ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นพนักงานอาวุโสของบริษัทตระกูลหนาน ธุรกิจที่คุณพ่อคุณแม่ของฉันสร้างมา ฉันจะเป็นคนดูแลรักษาเอง ทุกคนตั้งสติ แล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ สิ่งที่ควรได้รับ ฉันหนานซ่งจะไม่เอาเปรียบทุกคนแน่นอนค่ะ"
……
เวลาเดียวกัน เมืองเป่ย
ยวี่จิ้นเหวินรับโจ๋เซวียนออกจากโรงพยาบาล ระหว่างทางที่กลับไป เขาถือโทรศัพท์ไว้ แล้วพูดเสียงเข้มว่า "สืบหาร่องรอยอะไรไม่ได้เลย แกไร้ประโยชน์จริงๆ"
ผู้ช่วยที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์กลัวจนตัวสั่น เขาก็แปลกใจเหมือนกัน เขาเช็กกล้องวงจรในระยะหลายร้อยเมตร ลองมาทุกวิถีทาง แต่กลับสืบหาร่องรอยของคุณหญิงไม่เจอเลย เหมือนเธอหายตัวไปอย่างนั้น
เขากลืนน้ำลาย แล้วพูดอย่างหวาดกลัวว่า "แต่ว่า ฐานะของคุณหญิง เป็นเด็กในชนบทเมืองโม่จริงๆครับ แล้วพ่อแม่ก็เสียเพราะป่วยจริงๆครับ"
นิ้วมือที่เรียวยาวของยวี่จิ้นเหวินเคาะที่เข่าเบาๆ สีหน้าก็เริ่มใจเย็นลง : ถ้าอย่างนี้ เขาคงคิดมากไปเอง
โจ๋เซวียนนั่งอยู่ข้างยวี่จิ้นเหวินอย่างอ่อนแอ แล้วเอ่ยพูดว่า "คุณหนูลู่เป็นผู้หญิงที่มาจากชนบท แต่กลับจากไปโดยที่ไม่เอาอะไรเลย แตกต่างจริงๆ พี่จิ้นว่าไหมคะ?"
ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้ว ในแววตาแฝงไปด้วยความเสียดสี นึกถึงผู้หญิงที่เงียบขรึมคนนั้น–หรือว่าเธออยากให้เขารู้สึกว่าเธอแตกต่างกับคนอื่น
"บอสยวี่ครับ ผมให้คนไปตามหาที่เมืองโม่แล้ว คุณหญิงอาจจะกลับไปที่บ้านเกิดก็ได้ครับ"
"ไม่ต้องตามหาแล้ว" สีหน้ายวี่จิ้นเหวินเรียบนิ่ง แล้วเอ่ยว่า "ในเมื่อหย่ากันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันอีก เขาเลือกที่จะไปอย่างมีศักดิ์ศรี งั้นก็ตามใจเขา"
"ครับ คือ ยังมีอีกเรื่อง เป็นเรื่องงานครับ!"
ผู้ช่วยรู้สึกได้ว่าบอสหงุดหงิดมากแล้ว จึงรีบเอ่ยย้ำว่าเป็นเรื่องงาน
ยวี่จิ้นเหวินจึงเอ่ยว่า "พูด"
"ตระกูลหนานที่เมืองหนานเกิดเรื่องบางอย่างครับ คนที่ลึกลับที่ทำให้บริษัทตระกูลหนานฟื้นตัวเมื่อไม่กี่วันก่อนเปิดเผยตัวตนแล้วครับ ข่าวที่ส่งมาบอกว่า……คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานกลับมาแล้วครับ"
ยวี่จิ้นเหวินเลิกคิ้ว คุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน? ตายไปเมื่อสามปีก่อนไม่ใช่เหรอ?
MANGA DISCUSSION